สวัสดีค่ะ ห่างหายจากการตั้งกระทู้ไปนานเหมือนเดิม 55555555
กระทู้นี้ไม่ได้ตั้งใจมาใส่สาระหรือวิเคราะห์สถิติอะไรนะคะ ต้องขออภัยไว้ก่อนเลย
แค่สืบเนื่องมาจาก VNL สามวีคแรก โดยเฉพาะสนามล่าสุดนี้ เราดูเกมแล้วเกิดความรู้สึกบางอย่าง และก็ได้เดินทางไปสนามในวันสุดท้าย เพื่อทำอะไรที่ไม่เคยทำมาก่อน จึงอยากจะแบ่งปันและบันทึกไว้เท่านั้น
ก่อนอื่นคงต้องยอมรับความจริงกันก่อน
เราเชื่อว่าแฟนวอลเลย์บอลที่ติดตามทีมมาตลอดหลาย ๆ คน รวมทั้งนักกีฬา หรือแม้แต่ทีมงานสตาฟโค้ชเอง ก็คงไ่มสามารถพูดได้เต็มปากนัก ว่า “พอใจ” กับผลงานใน 3 สนามแรก
สำหรับเรา ไม่ใช่เพราะ “ความพ่ายแพ้” นะคะ ไม่ใช่เลย เราเป็นกองเชียร์ประเภทที่มีภูมิคุ้มกันต่อสิ่งนี้สูงมาก ความกังวลของเรา อยู่ที่สถานการณ์ซึ่งทีมเผชิญอยู่มากกว่า หลัก ๆ คงเป็น 3 เรื่องนี้
บอลแรก ... ความยากอย่างหนึ่งที่ทีมไทยมีมากกว่าทีมอื่น คือเรามีไลน์รับบอลแรกหลายหน้า อย่างที่คงรู้ ๆ กัน ว่าทีมส่วนใหญ่นั้นจะมีไลน์บอลแรก 3 ตัวที่แน่นอน แบบพิมพ์นิยมก็คือ 2OH+L โดยปิด OP ไว้รอบุก ส่วน recieving OP นั้น มีน้อยโดยเฉพาะในยุโรป การมีไลน์บอลแรกแบบนี้ ทำให้ผู้เล่น 3 คนหลักค่อนข้างคุ้นชินกับโซนยืนอยู่แล้ว เพราะเป็นแผงรับร่วมกันตลอด ในขณะทีมไทยของเรายังอยู่ระหว่างการฝึกให้รับผิดชอบตัวเอง ลองผิดลองถูกกันอยู่ ในกลุ่มบอลหลักทั้งบิ๋ม บีม เพียว อร กิ๊ฟ ล้วนมีหน้าที่ต้องรับเสิร์ฟ แต่รับในไลน์ที่ต่างกัน โซนที่ต่างกัน เดี๋ยวปิดเดี๋ยวเปิดแล้วแต่สถานการณ์ ถ้าดูจากท้ายคอร์ทในสนามจะเห็นชัดมาก ซึ่งจุดนี้ทำให้โจทย์บอลแรกของเราค่อนข้างซับซ้อนกว่าปกติ และเป็นจุดที่ยังไม่ลงตัว (ซึ่งต้องเข้าใจด้วยว่าเรื่องนี้แก้ยากมาก แม้แต่จีนภายในการทำทีมของหลางผิง กว่าจะก้าวจากปี 2012 มาถึงทองริโอ 2016 ก็เจ็บมาเยอะ)
บอลเร็ว ... หนึ่งในอาวุธลับของทีมชาติไทยที่เรากล้าพูดได้ว่ารวดเร็วงดงามไม่แพ้ทีมไหนทั้งสิ้น แม้แต่ญี่ปุ่นซึ่งมีสไตล์คล้ายคลึงกับเราที่สุด ทั้งแผ่นดินก็ยังหา MB ที่มีทักษะเทียบเท่าไทยไม่ได้ แต่ VNL นี้ สิ่งที่หายไปคือ “ความเด็ดขาด” ไม่ถึงกับว่าหาจังหวะลงดาบเหมือนเดิมไม่ได้เลย แต่เหมือนการเข้าทำเด็ดขาดแบบนั้นเป็นเพียงข้อยกเว้นมากกว่าหลัก และเราเชื่อว่าหน่องนุศเตยเองก็คงรับรู้ได้
รูปเกม ... เราเคยบอกว่าทีมชาติไทยมีรูปเกมที่สวยงามที่สุดในโลก และเราหมายความอย่างนั้นจริง ๆ ส่วนประกอบระหว่างบอลหลักกับบอลเร็วที่ถูกนำมาผสมผสานกันอย่างลงตัวจนเกิดสูตรมากมายที่รับประกันคุณภาพมาแล้วหลายต่อหลายครั้งในสนามแข่งขัน มาถึงตอนนี้ ต่อให้ไม่สังเกตุยังไงก็คงต้องเห็นได้ว่ามันเบาบางไปมาก ส่วนนึงสืบเนื่องมาจากบอลแรก แต่มันไม่น่าจะใช่ทั้งหมด เรื่องที่โค้ชจะกั๊กหรือไม่กั๊กนั้น เกินไปจากที่เราเองจะคาดเดาได้
พลาดทั้งที่ไม่อยากพลาด เสียทั้งที่ไม่ควรเสีย แพ้ทั้งที่ชนะได้
สิ่งเหล่านี้ที่ทำให้เรารับรู้ได้ว่ามันเป็น “คืนเดือนมืด” แห่งยุคผลัดใบ
หลังเกมพ่ายแพ้ต่อเยอรมัน เราได้ยินตัวเองบอกว่าอยากจะทำอะไรบางอย่าง แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องเล็กน้อยแค่ไหน หรืออาจจะไม่มีผลอะไรเลยด้วยซ้ำ แต่เราก็จะทำ
ออกตัวก่อนนะคะ ว่าตลอดระยะเวลาระดับนึงที่ติดตามวอลเลย์บอลมา
เราไม่เคยเข้าไปขอลายเซ็นต์นักกีฬาทีมชาติไทยเลยแม้แต่ครั้งเดียว ไม่ว่าใคร
ทั้ง ๆ ที่กับนักกีฬาต่างชาติ ไม่ว่าดูสนามที่ไทยหรือต่างประเทศ เราก็จะเข้าไปขอเสมอพอหอมปากหอมคอ
แต่สำหรับทีมชาติไทย เรามักพอใจกับการได้ไปยืนมองใกล้ ๆ ซึบซับบรรยากาศมากกว่า ไม่ยากจะไปรบกวนมากกว่านั้น เพราะรู้ว่าแฟนคลับเยอะขนาดไหน คือมันก็เป็นความรู้สึกที่แปลกนิดนึง 5555
อย่างไรก็ตาม ในที่สุดหลังเกมพ่ายแพ้ USA เมื่อวานนี้ เราก็ได้ไปต่อคิวรอเจอนักกีฬาตรงทางออกสนามกับกองเชียร์มากมายมหาศาลด้วย แน่นอนว่าเราดีใจกับลายเซ็นต์ของนักกีฬาทุกคนที่ได้มา ทั้งอร พู่ เพียว บิ๋ม ยุ้ย บีม เหมี่ยว และปู แต่เหนือสิ่งอื่นใด คือเราอยากส่งข้อความสั้น ๆ นี้ด้วยมือตัวเองไปให้นักกีฬาได้อ่าน เผื่อว่ามันจะทำให้พวกเธอได้รับรู้บ้างถึงกำลังใจที่แฟนวอลเลย์บอลอยากจะมอบให้ในสถานการณ์แบบนี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เราไปต่อคิวสำหรับกองเชียร์ที่ซื้อสินค้า official จากสมาคมวอลเลย์บอลนะคะ โดยเราสอยหมวกมา แต่ได้สอบถามเจ้าหน้าที่ก่อนแล้ว ว่าเราให้นักกีฬาเซ็นชื่อในกระดาษใบนี้แทนที่จะเซ็นบนหมวกได้หรือไม่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ใจดีอนุญาตให้
การบ้านที่จะต้องแก้ไขปรับปรุง ล้วนไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ในระยะเวลาอันสั้น
ในทางตรงกันข้าม เราอาจจะต้องผ่านช่วงเวลาแบบนี้อีกหลายต่อหลายครั้ง เลยอยากจะขอยกข้อความในกระทู้เดิมของตัวเองมาแปะไว้อีกสักรอบ
“นี่ไม่ใช่ยุค #ตกต่ำ แต่เป็นยุค #ผลัดใบ
ที่จริงประเด็นนี้ เรามองว่าคนที่มีโอกาสติดตามวงการวอลเลย์บอลอยู่บ้าง น่าจะเข้าใจตรงกันในระดับนึงนะคะ ทีมอื่นเนี่ย เค้าอาจจะมีรอบวง 4 ปี หลังโอลิมปิก แต่สำหรับทีมชาติไทย เราใช้รอบวงเดียวมาไม่ต่ำกว่า 10 ปีแล้ว เรารู้ว่านักกีฬารุ่นพี่กำลังพยายามอย่างหนักหน่วงแค่ไหนที่จะส่งไม้ต่อให้กับรุ่นน้อง เค้าไม่ได้ส่งมอบแค่ภาระงานนะคะ เค้าส่งมอบ “ความฝัน” มือของรุ่นพี่หลายคนอาจจะไม่ได้สัมผัสกับความสำเร็จนั้นด้วยตนเอง จะมีก็แต่มือของน้องที่มาช่วยกันพาฝันของรุ่นพี่เดินทางไกลต่อไป เราไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งที่จะใช้สายตาซึ่งคุณมองรุ่นพี่ผู้กรำศึกมาเป็นสิบๆปี ไปมองรุ่นน้องที่เพิ่งประกอบร่างขึ้นมาเป็นชิ้นเป็นอันได้ไม่มีขวบปีเท่านั้น พวกเราในฐานะกองเชียร์ต้องเตรียมใจกันได้แล้ว ว่าในฤดูผลัดใบนี้ มันจะสามารถเกิดอะไรขึ้นได้บ้าง “ความพ่ายแพ้คือราคาที่ต้องจ่าย” สนามสองที่รออยู่ทีมโหดกว่านี้หลายเท่าตัว และมันจะไม่หยุดอยู่แค่นี้ สนามต่อไป รายการต่อไป เราก็อาจจะแพ้อีก แต่เมื่อเรามองไปที่เด็กกลุ่มนี้ซึ่งทีมธงชาติอยู่บนเสื้อ คิดย้อนกลับไปถึงวันที่เราเห็นแต่ละคนแข่งขันครั้งแรก เรายิ้มเสมอเลยนะ ไม่มีทีมไหนที่เราจะเทหมดหน้าตักเท่านี้อีกแล้ว ลองถามตัวเองดู ว่าจิตใจเข้มแข็งพอจะเผชิญหน้ากับยุค #ผลัดใบ ไปด้วยกันรึเปล่า"
ด้วยรัก.
SUDFAH
ป.ล. ขออนุญาตขอบคุณช่อง 3 ผ่านทางกระทู้นี้ด้วยนะคะ ช่วงนี้และหลายเดือนต่อจากนี้ เราเองมีความจำเป็นบางอย่างที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ในโรงพยาบาล ซึ่งมันก็ย่อมต้องมีช่วงเวลาที่ยากลำบากบ้างโดยสภาพ และด้วยความที่ชอบดูวอลเลย์บอล ตั้งแต่ VNL เริ่มแข่ง เราติดตามการถ่ายทอดสดของช่อง 3 แทบจะครบทุกนัด บันเทิงใจโดยแท้ ขอบคุณค่ะ 55555
กระทู้บันทึกความทรงจำ VNL : ในคืนเดือนมืดแห่งยุคผลัดใบ
กระทู้นี้ไม่ได้ตั้งใจมาใส่สาระหรือวิเคราะห์สถิติอะไรนะคะ ต้องขออภัยไว้ก่อนเลย
แค่สืบเนื่องมาจาก VNL สามวีคแรก โดยเฉพาะสนามล่าสุดนี้ เราดูเกมแล้วเกิดความรู้สึกบางอย่าง และก็ได้เดินทางไปสนามในวันสุดท้าย เพื่อทำอะไรที่ไม่เคยทำมาก่อน จึงอยากจะแบ่งปันและบันทึกไว้เท่านั้น
ก่อนอื่นคงต้องยอมรับความจริงกันก่อน
เราเชื่อว่าแฟนวอลเลย์บอลที่ติดตามทีมมาตลอดหลาย ๆ คน รวมทั้งนักกีฬา หรือแม้แต่ทีมงานสตาฟโค้ชเอง ก็คงไ่มสามารถพูดได้เต็มปากนัก ว่า “พอใจ” กับผลงานใน 3 สนามแรก
สำหรับเรา ไม่ใช่เพราะ “ความพ่ายแพ้” นะคะ ไม่ใช่เลย เราเป็นกองเชียร์ประเภทที่มีภูมิคุ้มกันต่อสิ่งนี้สูงมาก ความกังวลของเรา อยู่ที่สถานการณ์ซึ่งทีมเผชิญอยู่มากกว่า หลัก ๆ คงเป็น 3 เรื่องนี้
บอลแรก ... ความยากอย่างหนึ่งที่ทีมไทยมีมากกว่าทีมอื่น คือเรามีไลน์รับบอลแรกหลายหน้า อย่างที่คงรู้ ๆ กัน ว่าทีมส่วนใหญ่นั้นจะมีไลน์บอลแรก 3 ตัวที่แน่นอน แบบพิมพ์นิยมก็คือ 2OH+L โดยปิด OP ไว้รอบุก ส่วน recieving OP นั้น มีน้อยโดยเฉพาะในยุโรป การมีไลน์บอลแรกแบบนี้ ทำให้ผู้เล่น 3 คนหลักค่อนข้างคุ้นชินกับโซนยืนอยู่แล้ว เพราะเป็นแผงรับร่วมกันตลอด ในขณะทีมไทยของเรายังอยู่ระหว่างการฝึกให้รับผิดชอบตัวเอง ลองผิดลองถูกกันอยู่ ในกลุ่มบอลหลักทั้งบิ๋ม บีม เพียว อร กิ๊ฟ ล้วนมีหน้าที่ต้องรับเสิร์ฟ แต่รับในไลน์ที่ต่างกัน โซนที่ต่างกัน เดี๋ยวปิดเดี๋ยวเปิดแล้วแต่สถานการณ์ ถ้าดูจากท้ายคอร์ทในสนามจะเห็นชัดมาก ซึ่งจุดนี้ทำให้โจทย์บอลแรกของเราค่อนข้างซับซ้อนกว่าปกติ และเป็นจุดที่ยังไม่ลงตัว (ซึ่งต้องเข้าใจด้วยว่าเรื่องนี้แก้ยากมาก แม้แต่จีนภายในการทำทีมของหลางผิง กว่าจะก้าวจากปี 2012 มาถึงทองริโอ 2016 ก็เจ็บมาเยอะ)
บอลเร็ว ... หนึ่งในอาวุธลับของทีมชาติไทยที่เรากล้าพูดได้ว่ารวดเร็วงดงามไม่แพ้ทีมไหนทั้งสิ้น แม้แต่ญี่ปุ่นซึ่งมีสไตล์คล้ายคลึงกับเราที่สุด ทั้งแผ่นดินก็ยังหา MB ที่มีทักษะเทียบเท่าไทยไม่ได้ แต่ VNL นี้ สิ่งที่หายไปคือ “ความเด็ดขาด” ไม่ถึงกับว่าหาจังหวะลงดาบเหมือนเดิมไม่ได้เลย แต่เหมือนการเข้าทำเด็ดขาดแบบนั้นเป็นเพียงข้อยกเว้นมากกว่าหลัก และเราเชื่อว่าหน่องนุศเตยเองก็คงรับรู้ได้
รูปเกม ... เราเคยบอกว่าทีมชาติไทยมีรูปเกมที่สวยงามที่สุดในโลก และเราหมายความอย่างนั้นจริง ๆ ส่วนประกอบระหว่างบอลหลักกับบอลเร็วที่ถูกนำมาผสมผสานกันอย่างลงตัวจนเกิดสูตรมากมายที่รับประกันคุณภาพมาแล้วหลายต่อหลายครั้งในสนามแข่งขัน มาถึงตอนนี้ ต่อให้ไม่สังเกตุยังไงก็คงต้องเห็นได้ว่ามันเบาบางไปมาก ส่วนนึงสืบเนื่องมาจากบอลแรก แต่มันไม่น่าจะใช่ทั้งหมด เรื่องที่โค้ชจะกั๊กหรือไม่กั๊กนั้น เกินไปจากที่เราเองจะคาดเดาได้
พลาดทั้งที่ไม่อยากพลาด เสียทั้งที่ไม่ควรเสีย แพ้ทั้งที่ชนะได้
สิ่งเหล่านี้ที่ทำให้เรารับรู้ได้ว่ามันเป็น “คืนเดือนมืด” แห่งยุคผลัดใบ
หลังเกมพ่ายแพ้ต่อเยอรมัน เราได้ยินตัวเองบอกว่าอยากจะทำอะไรบางอย่าง แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องเล็กน้อยแค่ไหน หรืออาจจะไม่มีผลอะไรเลยด้วยซ้ำ แต่เราก็จะทำ
ออกตัวก่อนนะคะ ว่าตลอดระยะเวลาระดับนึงที่ติดตามวอลเลย์บอลมา
เราไม่เคยเข้าไปขอลายเซ็นต์นักกีฬาทีมชาติไทยเลยแม้แต่ครั้งเดียว ไม่ว่าใคร
ทั้ง ๆ ที่กับนักกีฬาต่างชาติ ไม่ว่าดูสนามที่ไทยหรือต่างประเทศ เราก็จะเข้าไปขอเสมอพอหอมปากหอมคอ
แต่สำหรับทีมชาติไทย เรามักพอใจกับการได้ไปยืนมองใกล้ ๆ ซึบซับบรรยากาศมากกว่า ไม่ยากจะไปรบกวนมากกว่านั้น เพราะรู้ว่าแฟนคลับเยอะขนาดไหน คือมันก็เป็นความรู้สึกที่แปลกนิดนึง 5555
อย่างไรก็ตาม ในที่สุดหลังเกมพ่ายแพ้ USA เมื่อวานนี้ เราก็ได้ไปต่อคิวรอเจอนักกีฬาตรงทางออกสนามกับกองเชียร์มากมายมหาศาลด้วย แน่นอนว่าเราดีใจกับลายเซ็นต์ของนักกีฬาทุกคนที่ได้มา ทั้งอร พู่ เพียว บิ๋ม ยุ้ย บีม เหมี่ยว และปู แต่เหนือสิ่งอื่นใด คือเราอยากส่งข้อความสั้น ๆ นี้ด้วยมือตัวเองไปให้นักกีฬาได้อ่าน เผื่อว่ามันจะทำให้พวกเธอได้รับรู้บ้างถึงกำลังใจที่แฟนวอลเลย์บอลอยากจะมอบให้ในสถานการณ์แบบนี้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
การบ้านที่จะต้องแก้ไขปรับปรุง ล้วนไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ในระยะเวลาอันสั้น
ในทางตรงกันข้าม เราอาจจะต้องผ่านช่วงเวลาแบบนี้อีกหลายต่อหลายครั้ง เลยอยากจะขอยกข้อความในกระทู้เดิมของตัวเองมาแปะไว้อีกสักรอบ
“นี่ไม่ใช่ยุค #ตกต่ำ แต่เป็นยุค #ผลัดใบ
ที่จริงประเด็นนี้ เรามองว่าคนที่มีโอกาสติดตามวงการวอลเลย์บอลอยู่บ้าง น่าจะเข้าใจตรงกันในระดับนึงนะคะ ทีมอื่นเนี่ย เค้าอาจจะมีรอบวง 4 ปี หลังโอลิมปิก แต่สำหรับทีมชาติไทย เราใช้รอบวงเดียวมาไม่ต่ำกว่า 10 ปีแล้ว เรารู้ว่านักกีฬารุ่นพี่กำลังพยายามอย่างหนักหน่วงแค่ไหนที่จะส่งไม้ต่อให้กับรุ่นน้อง เค้าไม่ได้ส่งมอบแค่ภาระงานนะคะ เค้าส่งมอบ “ความฝัน” มือของรุ่นพี่หลายคนอาจจะไม่ได้สัมผัสกับความสำเร็จนั้นด้วยตนเอง จะมีก็แต่มือของน้องที่มาช่วยกันพาฝันของรุ่นพี่เดินทางไกลต่อไป เราไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งที่จะใช้สายตาซึ่งคุณมองรุ่นพี่ผู้กรำศึกมาเป็นสิบๆปี ไปมองรุ่นน้องที่เพิ่งประกอบร่างขึ้นมาเป็นชิ้นเป็นอันได้ไม่มีขวบปีเท่านั้น พวกเราในฐานะกองเชียร์ต้องเตรียมใจกันได้แล้ว ว่าในฤดูผลัดใบนี้ มันจะสามารถเกิดอะไรขึ้นได้บ้าง “ความพ่ายแพ้คือราคาที่ต้องจ่าย” สนามสองที่รออยู่ทีมโหดกว่านี้หลายเท่าตัว และมันจะไม่หยุดอยู่แค่นี้ สนามต่อไป รายการต่อไป เราก็อาจจะแพ้อีก แต่เมื่อเรามองไปที่เด็กกลุ่มนี้ซึ่งทีมธงชาติอยู่บนเสื้อ คิดย้อนกลับไปถึงวันที่เราเห็นแต่ละคนแข่งขันครั้งแรก เรายิ้มเสมอเลยนะ ไม่มีทีมไหนที่เราจะเทหมดหน้าตักเท่านี้อีกแล้ว ลองถามตัวเองดู ว่าจิตใจเข้มแข็งพอจะเผชิญหน้ากับยุค #ผลัดใบ ไปด้วยกันรึเปล่า"
ด้วยรัก.
SUDFAH
ป.ล. ขออนุญาตขอบคุณช่อง 3 ผ่านทางกระทู้นี้ด้วยนะคะ ช่วงนี้และหลายเดือนต่อจากนี้ เราเองมีความจำเป็นบางอย่างที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ในโรงพยาบาล ซึ่งมันก็ย่อมต้องมีช่วงเวลาที่ยากลำบากบ้างโดยสภาพ และด้วยความที่ชอบดูวอลเลย์บอล ตั้งแต่ VNL เริ่มแข่ง เราติดตามการถ่ายทอดสดของช่อง 3 แทบจะครบทุกนัด บันเทิงใจโดยแท้ ขอบคุณค่ะ 55555