💦🌊💦 จากเรื่องสั้นในเกมถุงมือ นำมาต่อยอด "ราตรีสีเขียวตะไคร่ ภาค 3" 💦🌊💦

กระทู้คำถาม
หมายเหตุ ใครไม่เคยอ่านภาคแรก หรือต้องการทบทวน อ่านซ้ำ เชิญกระทู้ตามลิ้งค์ข้างล่างนี้ครับ

ภาคแรก https://ppantip.com/topic/37440975
ภาคสอง https://ppantip.com/topic/37536010


คืนเดือนเกือบมืด มีแต่พระจันทร์เสี้ยวนิดเดียว บนทางสายเปลี่ยว ซึ่งตัดผ่านคฤหาสน์ร้างหลังใหญ่...

วัยรุ่นสามคน ชายสอง หญิงหนึ่ง เดินแหกปากร้องเพลงฝรั่งแบบดำน้ำมั่วไปแทบทุกคำด้วยอาการเมามายจากการไปดื่มด้วยกันมาจากในเมือง ไปตามทางสายนั้น แล้วพากันหยุดตรงทางเข้าหน้าคฤหาสน์

"เฮ้ย! เข้าไปในนั้นกันไม๊วะ ?" ผู้ชายคนหน้าสุด ท่าทางเหมือนขี้ยาเอ่ยชวนเพื่อน

"เฮ้ย น่ากัว ไม่เอา อย่าเข้าไปเลย" ผู้หญิงร้องปฏิเสธ "กลับไปที่บ้านแกเหอะไอ้คม ไปสนุกกันที่นั่นดีกว่า ไม่มีใครอยู่บ้านด้วยไม่ใช่เหรอ สะดวกดีออก"

"ทำไม อีนก ? กัวผีหรือไง ?" ชายผู้ถูกเรียก "ไอ้คม" ถามและยิ้มแยกเขี้ยวขาว

"ไอ้บ้า! บรยากาศยิ่งน่ากัวอยู่...มาถามบ้าๆไรแบบนี้!" หญิงชื่อนกตวาดแว้ด

"ไม่น่ากัวหรอกน่า นก เรามีกันตั้งสามคน เคยได้ยินไม๊ คนเดียวหัวหาย สองคนเพื่อนตาย สามคนกลับบ้านได้" เพื่อนชายอีกคนสนับสนุน "เข้าไปกันเถอะน่า...นะๆๆ"

"เมิงก็อยากเข้าไปด้วยเหรอ ไอ้กิต ?" สาวนกจ้องหน้าเพื่อนชายร่างท้วม

"น่า...เผื่อมีอะไรดีๆข้างใน"

"ใช่ๆๆ อาจจะมีเหล้าหรือไวน์อะไรดีๆในบ้านก็ได้นา ไปๆ" ชายชื่อคมได้ทีที่เพื่อนเห็นด้วย รีบขะยั้นขะยอเพื่อนสาว

"เอา ก็ได้วะ!" นกกัดฟันตอบตกลง

"อย่างนี้สิวะเพื่อนกัน ต้องถึงไหนถึงกัน ใช่มะ" นายกิตกล่าวเหมือนปลุกปลอบใจ "ไม่มีหรอก ผีเผออะไรอะ ไปกันๆ"

ทั้งสามก้าวเดินเข้าสู่บริเวณคฤหาสน์ และพบว่า ประตูรั้วเหล็กด้านหน้าปิดล็อกแน่น เปิดไม่ได้

"ประตูล็อกว่ะ เปิดไม่ได้ สงสัยใช้ระบบรีโมท" นายกิตว่า

"ได้ยินว่ามันร้างมาหลายเดือนแล้วนะ เจ้าของบ้านไปไหนก็ไม่รู้" นกกล่าว

"งั้นก็ปีนเข้าไปละกัน" นายคมออกความคิด

"จะปีนได้เหรอเนี่ยชั้น! โคตะระสูงเลย"

"เมิงขี่คอกูละกันอีนก จะได้ปีนง่าย เข้าไปก่อนเดี๋ยวกูกับไอ้กิตจะปีนตามเข้าไป กูสองคนสบายอยู่แล้ว" นายคมบอกแล้วย่อตัวลงนั่งยองๆ พอสาวนกขึ้นคร่อมด้วยสองเท้าขี่คอ เขาก็ลุกขึ้นเดินไปเกาะริมประตูรั้วเหล็ก

สาวนกเอื้อมมือไปเกาะขอบประตูข้างบน โชคดีที่ไม่เป็นเหล็กแหลมๆ อย่างที่บ้านหลายๆที่มี จึงสามารถยึดเกาะได้ง่าย แล้วหล่อนก็กระโดดตุ้บลงไป

นายคมกับนายกิตปีนป่ายขึ้นประตูรั้วเหล็กแล้วโดดตามลงมาโดยไม่ชักช้า

คฤหาสน์หลังใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่ต่อหน้าทั้งสามคน บรรยากาศเงียบสงัดและวังเวง เสียงสุนัขหอนมาจากที่ไกล ทำให้สาวนกรู้สึกขนลุก แต่นายคมกับนายกิตไม่มีวี่แววพรั่นพรึงอะไรเลย

"หมาหอนอะ น่ากัวชิบเป๋ง" หล่อนบ่น "เศือกหอนทำไมวะ"

"เฮ่ยย...เรื่องของหมา อย่าไปสนใจ! ไม่มีอะไรหรอก ไปกันต่อๆ" นายคมปลอบหล่อนแล้วออกเดินนำหน้า ผ่านลานบ้านซึ่งตกแต่งด้วยศิลาแลง มีกระถางปูนใส่ไม้ประดับเป็นพุ่มเรียงรายเป็นรูปครึ่งวงกลม แล้วตรงไปที่ประตูของตัวคฤหาสน์ซึ่งมีสองบานขนาดใหญ่ ลองผลักบานประตูเปิดดู

"แอ่ดดด...."

""เฮ้ย! เปิดได้เว้ยเฮ้ย! ไม่ได้ล๊อกว่ะ!!" เขาหันมาบอกเพื่อนทั้งสองซึ่งเดินตามมาติดๆ "เหลือเชื่อ โชคดีแล้วเรา!" แล้วเอามือผลักบานประตูเปิดกว้างออก

"แอ่....ด...ด.....ด...ดดดด"

เสียงบานประตูไม้ดังบาดหูน่าเสียวไส้สำหรับสาวนกจนหล่อนทำท่าห่อไหล่ทำหน้าเบ้และแยกเขี้ยว

นายคมเข้าไปข้างในแล้วมองหาสวิทช์ไฟ ครู่หนึ่งก็เจอเป็นแผง เขาไล่กดสวิทช์ทุกตัว

"แป๊ะๆๆๆๆๆ"

ภายในคฤหาสน์สว่างพรึบ แต่หลอดไฟต่างๆเป็นแสงสีส้มบ้างเหลืองบ้าง

"แสงสีขาวไม่มีเลยหรือไงวะ" นายคมบ่น

"ไม่เป็นไรน่า ยังไงก็สว่างเห็นอะไรๆได้ทุกอย่างนิ" นายกิตว่าแล้วมองซ้ายมองขวา แล้วสะดุดตากับตู้ไม้ขนาดใหญ่มีบานกระจก ข้างในเก็บเครื่องดื่มของนอกไว้เพียบ

"ว้าววว.......วะฮู๊ว์!! โชคดีละเว้ยพวกเรา! เหล้านอกดีๆ เพียบเลยในตู้นั่น!" เขาร้องออกมาด้วยความยินดี เดินปรี่เข้าไปหาตู้ใบนั้น เปิดบานกระจก มองดูเครื่องดื่มเพื่อจะเลือก เพื่อนสองคนก็เดินตามมาดู

"ไวน์ก็มี....คอนยัคก็มี...บรั่นดีก็มี  แล้วก็ วิสกี้....แจ๊ค แดเนี่ยลส์, แกร๊นท์,ชีวาส,แบล็ค โอ้! สวรรค์โปรด!! ฮะฮะฮะฮะฮ่าาา" แล้วคว้าแจ๊คแดเนี่ยลส์ออกมาขวดหนึ่ง หันมาถามเพื่อนสองคน "เอาอะไรดี ไอ้คม อีนก ?" ถามแล้วก็ยิ้มร่า

"เอาไวน์แดงมาขวดดิ" สาวนกเลือกก่อน

"งั้นกูล่อแบล๊คละกันว่ะ!" นายคมว่าแล้วก็เข้าไปคว้า แบล๊คเลเบิ้ลขวดหนึ่งสำหรับตนเอง และไวน์แดงขวดหนึ่งให้เพื่อนสาว

สาวนกรับขวดไวน์แดงจากเพื่อนมาดูฉลาก "ยี่ห้อไรวะเนี่ย ชาโต อะไรซักอย่าง แหล่มเลยว่ะ! ของดีแน่ๆ"

"กินไปเดินสำรวจบ้านไปดีกว่านะ" นายคมชักชวน แล้วทั้งสามคนก็เปิดขวดเหล้าดื่มไปเดินสำรวจไปทั่ว

"เฮ้ย! บ้านหลังนี้สร้างแปลกๆว่ะ" นายกิตหันมาตะโกนบอกเพื่อนเมื่อไปหยุดอยู่หน้าห้องๆหนึ่ง "มันไม่มีทางออกไปหลังบ้านหรือไงนี่ มีแต่หน้าบ้าน"

"ทางนี้ก็เหมือนกัน" นายคมตะโกนตอบมาจากอีกมุมหนึ่ง ข้างหน้าเขาเป็นห้องรับประทานอาหาร ซึ่งเมื่อเข้าไปแล้วก็ไม่มีทางออกไปไหนได้

"ทางนี้ก็ด้วย" สาวนกตะโกนบอกมาอีกคน หล่อนยืนอยู่ในห้องนั่งเล่นครู่หนึ่งแล้วเดินออกมา "ห้องนั้นห้องไรอะ ?" หล่อนถามนายกิต

"ห้องนอนมั้ง ประตูปิดอยู่" นายกิตตะโกนตอบ เพื่อนสองคนจึงเดินไปหา

"เปิดซิ" สาวนกสั่งเพื่อนชาย เขาลองหมุนลูกบิดดู

"แกร๊ก!" "แอ่ดดดด........"

"เฮ่ยยย......ทำไมมันผ่านฉลุยง่ายดายขนาดนี้เนี่ย ?" นายคมตั้งข้อสงสัย "มันจะง่ายเกินไปหน่อยละม้าง ผิดปกตินะ ว่าไม๊เพื่อน ห๊ะ ?"

"ไม่ดีหรือไงวะไอ้คม ? สบายเราแล้ว! อย่างน้อยก็คืนนี้คืนนึงละวะ! เข้าไปดูๆ"

นายกิตก้าวเข้าไปในห้องก่อน ตามมาด้วยเพื่อนทั้งสอง แล้วทั้งสามก็พบว่ามันเป็นห้องนอนอันกว้างขวาง เตียงนอนขนาดใหญ่มาตรฐานนอนได้สองคน มีหมอนคู่ ทั้งที่นอนและผ้าห่มกองยับยู่ยี่อยู่โดยไม่ได้ถูกพับให้เรียบร้อย

"เจ้าของบ้านต้องเป็นผัวเมียกันแน่ๆ ดูเตียงสิวะ ยับอย่างกะอะไรดี! สงสัยปี้กันแล้วออกไปไหนกันก็ไม่รู้!" นายคมคาดเดาเหตุการณ์

"มีทางเดินไปทางโน้นแน่ะ" สาวเล็กชี้ไปด้านปลายเตียง

"มืดชิบ...เปิดไฟหน่อยดิ๊" นายคมบอกเพื่อน นายเอกเพ่งมองหาสวิทช์ไฟครู่หนึ่งก็เจอแล้วกดสวิทช์

"แป๊ก!" ไฟฟ้าสว่างขึ้น แต่ก็ยังเป็นสีส้มๆเหมือนข้างนอก

"ยังกะห้องกะหรี่เลยว่ะ! แสงไฟแบบนี้" เขาวิจารณ์

"อะไรดำๆอยู่บนพื้นทางโน้น...ประตูทางออกก็อยู่โน่น ต้องออกทางหลังบ้านแน่เลย" สาวนกว่าแล้วก้าวเดินไป เพื่อนชายสองคนก็เดินตาม

สิ่งที่ปรากฏ คือ หินสีดำ แกะสลักเป็นรูปจระเข้ขนาดเขื่อง...

"ไอ้เจ้าของบ้านนี่ รสนิยมแปลกๆเว้ยเฮ้ย!" สาวนกกล่าวกับเพื่อนชายทั้งสอง "อย่างอื่นตั้งเยอะแยะไม่เอามาประดับโชว์ ดันเอาจระเข้มาวางโชว์ แกะสลักโคตรเหมือนเลย ตัวดำมะเมื่อมเชียว น่ากัว ship หาย!"

"ลองเปิดประตูออกไปดูหลังบ้านกันเถอะ" นายคมกล่าวชวน เพื่อนชายหญิงทั้งสองพยักหน้า

"ดีเหมือนกัน กูว่าบรรยากาศในบ้านมันน่ากัวแปลกๆชอบกล" สาวนกว่าพลางทำหน้าหวาดหวั่น แล้วเดินไปที่ประตู หมุนลูกบิดเปิดประตูออก

ทั้งสามคนเดินออกจากประตูไปตามทางเดินของห้องโถง มีเปลือกหอยเล็กๆหลายชิ้นร้อยต่อกันเป็นม่านยาวเกือบถึงพื้นหลายสิบเส้น แสงสะท้อนจากโคมไฟซึ่งสาดกระทบเปลือกหอยมองดูระยิบระยับขวางหน้า

เมื่อพวกเขาแหวกม่านเปลือกหอยเดินทะลุผ่านไป ก็ได้ยินเสียงเปลือกหอยเหล่านั้นกระทบกันกราว ฟังดูทะแm่งหูอย่างแปลกๆ

ทุกคนมองไปที่ราวระเบียงซึ่งเป็นที่ยืนชมวิวข้างล่าง มองต่อไปก็เห็นผืนน้ำนิ่งในสระปูนรูปทรงกลมกว้างพอๆ กับลานบ้าน

"เฮ้ย! ไปตรงนั้นกันดีกว่า หาที่นั่งกินเหล้ารับลมเย็นๆ บรรยากาศมันดูเข้าท่าว่ะ!" นายคมกล่าวและชี้ไปที่สระปูนตรงนั้น

ทั้งสามพากันเดินถือเครื่องดื่มของตนลงมาหน้าสระปูนดังกล่าว มีราวระเบียงให้เดินต่อไปอีก

ทุกคนเดินทอดน่องไปพลาง ดื่มไปพลาง จนมาถึงหน้าผนังประตูไม้บานใหญ่ ดูลักษณะคล้ายประตูเรือนคลาสสิกโบราณ หน้าประตูใส่สลักไว้อย่างแน่นหนา...สร้างความแปลกใจให้แก่คนทั้งสาม

"ประหลาดว่ะ!" นายคมเอ่ยขึ่นมาก่อน "ทีบ้านหลังใหญ่ทั้งหลัง ไม่เห็นใส่กุญแจล๊อกกลอนอะไรเลย ไอ้ประตูเก่าๆตรงนี้ดันใส่สลักไว้"

"จริงด้วย เป็นที่เดียวที่ปิดอย่างแน่น อะไรอยู่ข้างในวะ ?" นายกิตกล่าวต่อมาด้วยความฉงนพอๆกัน

"หรือว่าจะเป็น....ที่เก็บสมบัติ ?" สาวนกคาดเดา "แต่มันดูน่ากลัวแปลกๆนะ"

"เมิงกล้าเปิดดูไม๊ ไอ้คม ?" นายกิตถามเพื่อนเพื่อหยั่งเชิง

นายคมมองดูประตูปริศนาอย่างสงสัยและไม่แน่ใจ ก่อนจะตอบเพื่อน "กูว่า เจ้าของบ้าน อาจจะขังอะไรไว้ข้างใน หรือเก็บซ่อนความลับบางอย่างไว้ รู้สึกเสียวๆยังไงชอบกลว่ะ ไม่เสี่ยงดีกว่า!"

"อืม...โอเค งั้น หาที่นั่งกินเหล้าดูดยากันเหมาะๆเถอะ" นายกิตกล่าวแล้วมองดูรอบๆบริเวณ แล้วชี้ไปยังโคนต้นไม้ต้นหนึ่ง ห่างจากหน้าประตูโบราณนั้นไปประมาณสามสิบเมตร "ไปก่อกองไฟแล้วนั่งกันตรงนั้นดีกว่า"

"ดีๆ ชักหนาวแล้ว ก่อไฟผิง กินเหล้าสูบยากันต่อ กัญชายังเหลือเยอะไม๊วะ ?" นายคมถาม

"มีอยู่...ถุงใหญ่เลย ไปๆกัน" นายกิตตอบพร้อมตบที่หน้าอกเสื้อแจ็คเก็ตของตัวเอง

วัยรุ่นทั้งสามไปที่โคนต้นไม้นั้น ช่วยกันก่อกองไฟ แล้วนั่งดื่มเครื่องดื่มของตนๆ พลางสูบกัญชาซึ่งนายกิตนำติดตัวมาด้วย โดยบีบเอาบุหรี่ออกจากมวนทิ้งแล้วอัดกัญชาใส่เข้าไปแทน ดื่มไป สูบไป พูดคุยกันไป

สาวนกดื่มไวน์แดงราคาแพงหมดอย่างรวดเร็ว เพื่อนชายอีกสองคนจึงคะยั้นคะยอให้ดื่มวิสกี้ต่อ

"ไปเอาไวน์มาอีกดีกว่าอะ" หล่อนส่ายหน้าปฏิเสธ "เดี๋ยวเมาตายพอดี กินเหล้าต่อจากไวน์เนี่ยนะ"

"เออน่า....ขี้เกียจเดินกลับไปเอา น่ากลัวด้วยในบ้านน่ะ" นายคมกล่าว

"อ้าว ไหนว่าไม่กลัวผีไง!"

"เฮ่ย...แต่คนเดียวไปก็ไม่ไหวว่ะ! หรือจะให้กูกับไอ้กิตไปกันสองคน เมิงรออยู่ตรงนี้คนเดียวเอาไม๊ล่ะ ?"

"ไม่เอา! น่ากลัวจะตาย อยู่คนเดียว มืดด้วย"

"งั้นเมิงไปกะกู ไอ้กิตรออยู่นี่"

"เฮ้ย! ไม่เอาโว้ย!! กูก็กลัวเหมือนกันอยู่คนเดียวอะ"

"เออ! งั้นก็ไม่ต้องไป อยู่ด้วยกันต่อ ทั้งสามคน กินเหล้าเถอะน่า ไอ้นก! มันทำให้ร่างกายร้อนแก้หนาว เลือกเอา จะล่อแจ๊คของไอ้กิต หรือจะกินแบล๊คของกู ยังเหลือมากกว่าครึ่ง!"

"เพียวๆเนี่ยนะ"

"เออ! ทีไวน์เมิงยังกินเพียวๆได้"

"มันเหมือนกันที่ไหนเล่า!"

"ก็คิดเสียว่ากำลังกินไวน์ชาโตสิวะ! เอ้าว่ามา จะเลือกยี่ห้อไหน ?" นายกิตถามยิ้มๆ

"อ่า...ขอลุงแจ๊คกะกันงั้น" สาวนกตัดสินใจ นายกิตจึงยื่นขวดแจ๊ค แดเนี่ยลส์ให้

หล่อนยกขวดเหล้ายี่ห้อลุงแจ๊คขึ้นมาจ่อปาก ดื่มไปอึกหนึ่งก็ร้อนวาบในท้อง สะบัดหน้าหนึ่งที ท่ามกลางเสียงหัวเราะชอบใจของเพื่อนชายทั้งสอง

"เดี๋ยวก็ชินไปเองแหละ เชื่อดิ" นายกิตว่า แล้วรับขวดเหล้าลุงแจ๊คมากระดกดื่มต่อ

สาวนกทั้งดื่มทั้งสูบกัญชาจนมึนเมา หน้าแดงก่ำ กล่าวกับเพื่อนชายทั้งสอง "กูม่ายหวายแล้ว พอแระ"

สองชายมองหน้าหล่อนแล้วยิ้มอย่างมีเลศนัย หันไปสบตากัน แล้วนายคมก็เอ่ยขึ้น

"เฮ้ย....ไอ้นก เรา...มารีแลกซ์ด้วยกันเถอะ!"

"รีแลกซ์ อะรายของเมิงว้า...?"

นายคมลุกขึ้นแล้วเดินมาข้างหลัง สองมือโอบกอดหล่อนไว้แล้วก้มหอมซอกคอหล่อนฟอดใหญ่ พูดข้างหู "ก็มีความสุขด้วยกันไงเล่า..."

จากนั้น เขาจึงผลักหล่อนนอนราบลงไปบนพื้นหญ้าแล้วโถมตัวลงไปกอดจูบลูบไล้หล่อนไปทั่วร่าง มือไม้พยายามถอดเสื้อผ้า

"เฮ้ย! ไอ้บ้า ไม่เอานะเว้ย!! ปล่อยกู!!!" สาวนกร้องโวยวาย พยายามผลักไส จิกข่วน เตะถีบพัลวัน

"ไอ้กิต มาช่วยหน่อยสิวะ!!" นายคมร้องให้เพื่อนช่วย นายกิตทำตาวาว รีบลุกขึ้นมาช่วยเพื่อนถอดกางเกงสาวนก ขณะที่นายคมก็ฉีกเสื้อของหล่อนอย่างสุดแรงเกิด แล้วสอดมือไปข้างหลังปลดบราเซีย ในขณะที่สาวนกร้องตะโกนทั้งห้ามทั้งด่า

"อย่าดิ้นมากนักเลยน่า...เพื่อนกันให้ความสุขกันหน่อยจะเป็นไรไปวะ!" นายคมว่าแล้วซบหน้าลงไปที่หน้าอก สองมือเริ่มถอดกางเกงของตัวเองในขณะที่นายกิตถอดกางเกงของหล่อนออกไปเรียบร้อยแล้ว

"เฮ้ย กูสะดวกกว่าว่ะ! ขอเอาก่อนละกันนะไอ้คม!!" นายกิตว่าแล้วรีบถอดกางเกงของตัวเองอย่างรวดเร็ว

"ไอ้บ้า!! ไอ้ ship หาย!!! ไอ้เ*ี้ย..!!!" สาวนกร้องด่าเสียงดังลั่น

(ต่อครับ)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่