ผมมีข้อสงสัยเกี่ยวกับทฤษฎีที่ว่า เมื่อเราเดินทางด้วยความเร็วเข้าใกล้แสง
เวลาของเราก็จะเดินช้าลงเรื่อยๆ จนกระทั่งความเร็วเท่ากับแสงเวลาของเราจะหยุด
ขอยกตัวอย่างตามกระทู้นี้นะครับ
https://ppantip.com/topic/32836879
ทฤษฎีนี้ขัดกับหลักความเข้าใจของผมมาก ผมเลยลองจินตนาการตัวอย่างออกมา
ตัวอย่างของผมจะอาศัยหลักการมองเห็นของมนุษย์เข้ามาด้วยนะครับ
ตามหลักการมองเห็นเราจะมองเห็นวัตถุได้ก็ต่อเมื่อแสงกระทบเข้ากับวัตถุและสะท้อนกลับมาที่ตาเรา
สมมติว่า A เคลือนที่ออกจาก B ด้วยความเร็วเท่ากับแสง ไปยังดาวที่ห่างออกไป 10 ปีแสง และเดินทางกลับทันทีเมื่อถึงดาวนั้น
ทางด้าน B
B จะมองเห็น A หายวับไปทันที เนื่องจาก A เคลื่อนที่ด้วยความเร็วแสง แสงจะไม่สามารถกระทบกับ A และท้อนกลับมาที่ตา B ได้
เพราะแสงวิ่งตาม A ไม่ทัน และ B จะมองเห็น A อีกครั้งเมื่อผ่านไป 20 ปีพร้อมกับ A กลับมายังที่เดิม
มาที่ A กันบ้าง
A จะมองเห็น B หยุดอยู่กับที่เพราะ A เคลื่อนที่มาพร้อมกับแสงของ B ณ เวลานั้น
สมมติว่า B ขยับแขน A จะไม่สามารถรับรู้ได้เพราะแสงจากการที่ B ขยับแขนจะเดินทางมาไม่ถึงตาของ A
เท่ากับ A จะคิดว่าเวลาของตัวเองได้หยุดลงไปนั่นเอง
มาถึงตรงนี้ดูเหมือนทฤษฎีจะเป็นจริง แต่ว่ามันเป็นจริงแค่ด้านเดียวเท่านั้น ก็คือ A ต้องเดินทางออกห่างจาก B เท่านั้น
เมื่อ A เดินทางกลับไปหา B การรับรู้ของ A จะรับรู้ว่าเวลาผ่านไปเร็วกว่าปกติ 2 เท่า
เพราะแสงจาก B ที่เดินทางมาหา A และ A ก็เดินทางกลับไปหา B ด้วยความเร็วแสงเช่นกัน
ตรงนี้ให้นึกภาพ รถวิ่งเข้าหากันด้วยความเร็ว 100 กม/ชม ความเร็วตอนชนก็จะเท่ากับ 200
เพราะฉนั้น จากเวลาที่หยุดไปของ A บวกกับเวลาขากลับที่ผ่านไปเร็ว 2 เท่า
เมื่อกลับมาถึงโลก เวลาของทั้งคู่ก็จะผ่านไป 20 ปีเท่ากัน A และ B จะไม่มีใครแก่กว่ากันเลย
เวลาไม่ได้หยุด การรับรู้ต่างหากที่ถูกหยุด
ผมไม่ค่อยรู้เรื่องทฤษฎี เลยสมมติเหตุการณ์ขึ้นมา ลองมาถกเถียงกันดูนะครับ
ว่าด้วยเรื่องความเร็วแสง
เวลาของเราก็จะเดินช้าลงเรื่อยๆ จนกระทั่งความเร็วเท่ากับแสงเวลาของเราจะหยุด
ขอยกตัวอย่างตามกระทู้นี้นะครับ https://ppantip.com/topic/32836879
ทฤษฎีนี้ขัดกับหลักความเข้าใจของผมมาก ผมเลยลองจินตนาการตัวอย่างออกมา
ตัวอย่างของผมจะอาศัยหลักการมองเห็นของมนุษย์เข้ามาด้วยนะครับ
ตามหลักการมองเห็นเราจะมองเห็นวัตถุได้ก็ต่อเมื่อแสงกระทบเข้ากับวัตถุและสะท้อนกลับมาที่ตาเรา
สมมติว่า A เคลือนที่ออกจาก B ด้วยความเร็วเท่ากับแสง ไปยังดาวที่ห่างออกไป 10 ปีแสง และเดินทางกลับทันทีเมื่อถึงดาวนั้น
ทางด้าน B
B จะมองเห็น A หายวับไปทันที เนื่องจาก A เคลื่อนที่ด้วยความเร็วแสง แสงจะไม่สามารถกระทบกับ A และท้อนกลับมาที่ตา B ได้
เพราะแสงวิ่งตาม A ไม่ทัน และ B จะมองเห็น A อีกครั้งเมื่อผ่านไป 20 ปีพร้อมกับ A กลับมายังที่เดิม
มาที่ A กันบ้าง
A จะมองเห็น B หยุดอยู่กับที่เพราะ A เคลื่อนที่มาพร้อมกับแสงของ B ณ เวลานั้น
สมมติว่า B ขยับแขน A จะไม่สามารถรับรู้ได้เพราะแสงจากการที่ B ขยับแขนจะเดินทางมาไม่ถึงตาของ A
เท่ากับ A จะคิดว่าเวลาของตัวเองได้หยุดลงไปนั่นเอง
มาถึงตรงนี้ดูเหมือนทฤษฎีจะเป็นจริง แต่ว่ามันเป็นจริงแค่ด้านเดียวเท่านั้น ก็คือ A ต้องเดินทางออกห่างจาก B เท่านั้น
เมื่อ A เดินทางกลับไปหา B การรับรู้ของ A จะรับรู้ว่าเวลาผ่านไปเร็วกว่าปกติ 2 เท่า
เพราะแสงจาก B ที่เดินทางมาหา A และ A ก็เดินทางกลับไปหา B ด้วยความเร็วแสงเช่นกัน
ตรงนี้ให้นึกภาพ รถวิ่งเข้าหากันด้วยความเร็ว 100 กม/ชม ความเร็วตอนชนก็จะเท่ากับ 200
เพราะฉนั้น จากเวลาที่หยุดไปของ A บวกกับเวลาขากลับที่ผ่านไปเร็ว 2 เท่า
เมื่อกลับมาถึงโลก เวลาของทั้งคู่ก็จะผ่านไป 20 ปีเท่ากัน A และ B จะไม่มีใครแก่กว่ากันเลย
เวลาไม่ได้หยุด การรับรู้ต่างหากที่ถูกหยุด
ผมไม่ค่อยรู้เรื่องทฤษฎี เลยสมมติเหตุการณ์ขึ้นมา ลองมาถกเถียงกันดูนะครับ