สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 11
เรื่องรถไฟความเร็วสูง ต้องแยกให้ออกครับระหว่างมาเลย์ และ กรณีไทย ครับ กรณีมาเลเซีย สถานีส่วนใหญ่อยู่ที่มาเลเซีย และมีเพียงสถานีเดียว อยู่ที่สิงคโปร์ ระหว่างทางของประเทศมาเลเซีย แทบจะไม่มีผู้คนเลยครับ
ต้องเข้าใจธรรมชาติมาเลเซีย และ สะสางภาพลวงตาของประเทศนี้ก่อน ว่าทำไม ท่านมหาบุรุษเสิอเหลิอถึง ยกเลิกโครงการนี้ มาเลย์ประชากรน้อยกว่าไทย ครึ่งนึงครับ ประมาณ 31 ล้านคน ส่วนใหญ่กระจุกตัวรอบๆ KL และเมืองท่าที่สำคัญ ประชากรส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรเหมือนบ้านเรา ปลูกปาลม์น้ำมัน ปลูกยาง เหมือนภาคใต้บ้านเรา บางส่วนอยู่ในอุตสาหกรรมเกษตร และปิโตรเคมี
การท่องเที่ยวไม่ได้ pop เหมือนกับที่โฆษณาว่า ทรูลี่เอเซีย ที่จริงเที่ยวกันไม่กี่ที่ จำนวนนักท่องเที่ยวมาจาก การแวะ transit สนามบิน (ไม่เหมือนเมิองไทยที่นักท่องเที่ยว เขาต้องผ่านพิธีการเข้าเมือง ท่องเที่ยวจริงๆ ถ้าเราจำนวน นักเดินทาง transit ด้วยนี่ตัวเลขจะอลังกว่านี้เยอะ)
รายได้หลักมาจากอุตสาหกรรมไฮเทค เช่น ยา อิเล็คทรอนิกส์ น้ำมัน และสินค้าเกษตร
คำถาม...ในเมื่อไม่มี demand แล้วจะสร้างไปทำไม ? ทางรถไฟจริง ที่ควรสร้างคือ ตอนเหนือที่ติดกับไทยครับ ซึ่งมีประชากร และเศรษฐกิจหลักๆอยู่ในบริเวณนั้น
การลงทุนสี่แสนล้านจึงเอื้อประโยชน์ให้ สิงคโปร์ มากกว่ามาเลย์ที่ได้ เพราะถ้าก่อสร้างจริง ประเมินแล้วระหว่างทางในประเทศมาเลย์แทบจะร้างคนขึ้น
และประเทศไทยหละ
กลับกัน ประชากรบ้านเรา 60 กว่าล้านคน การกระจายตัวตามต่างจังหวัดเริ่มเห็นชัด (ลองเทียบง่ายๆ สัก สามสิบปีก่อนสิ) การสร้างรถไฟความเร็วสูงเป็นการกระจายความเจริญสองฝั่งทางตามแนวรถไฟ ดูอย่างจังหวัดชลบุรีง่ายๆ ที่ขับรถจากกทม ไป พัทยา เร็วกว่า ขับรถจากดอนเมืองไปสยาม ความเจริญเริ่มกระจาย ห้างไป บริษัทไป ส่วนราชการเริ่มไป model จะเริ่มคล้ายๆญี่ปุ่น ทำงานโตเกียว แต่บ้านอยู่นอกเมือง ถ้าระยะทางร่นไม่เกิน ชั่วโมง การตัดสินใจเลือกบ้านที่พัก อาจจะเป็นจังหวัด รอบๆกทม เช่น กาญจนบุรี , สระบุรี เป็นต้น (มอเตอร์เวย์สองสายนี้กำลังสร้างอยู่)
รถไฟความเร็จสูง จะทำให้เวลาการเดินทางร่นเหลือไม่เกิน 45 นาทีจาก กทมบางซื่อ ตอนนี้ถนนขยายเต็มศักยภาพแล้วครับมันต้อง เพิ่มระบบขนส่งด้วยราง
เมืองไทยเคยมีประสบการณ์ต่อต้านรถไฟฟ้า โดยเฉพาะลาดพร้าว สะพานใหม่ (เขาเลยไม่สร้าง) ตอนนี้เป็นยังไงคนคงเห็นกัน
ต้องเข้าใจธรรมชาติมาเลเซีย และ สะสางภาพลวงตาของประเทศนี้ก่อน ว่าทำไม ท่านมหาบุรุษเสิอเหลิอถึง ยกเลิกโครงการนี้ มาเลย์ประชากรน้อยกว่าไทย ครึ่งนึงครับ ประมาณ 31 ล้านคน ส่วนใหญ่กระจุกตัวรอบๆ KL และเมืองท่าที่สำคัญ ประชากรส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรเหมือนบ้านเรา ปลูกปาลม์น้ำมัน ปลูกยาง เหมือนภาคใต้บ้านเรา บางส่วนอยู่ในอุตสาหกรรมเกษตร และปิโตรเคมี
การท่องเที่ยวไม่ได้ pop เหมือนกับที่โฆษณาว่า ทรูลี่เอเซีย ที่จริงเที่ยวกันไม่กี่ที่ จำนวนนักท่องเที่ยวมาจาก การแวะ transit สนามบิน (ไม่เหมือนเมิองไทยที่นักท่องเที่ยว เขาต้องผ่านพิธีการเข้าเมือง ท่องเที่ยวจริงๆ ถ้าเราจำนวน นักเดินทาง transit ด้วยนี่ตัวเลขจะอลังกว่านี้เยอะ)
รายได้หลักมาจากอุตสาหกรรมไฮเทค เช่น ยา อิเล็คทรอนิกส์ น้ำมัน และสินค้าเกษตร
คำถาม...ในเมื่อไม่มี demand แล้วจะสร้างไปทำไม ? ทางรถไฟจริง ที่ควรสร้างคือ ตอนเหนือที่ติดกับไทยครับ ซึ่งมีประชากร และเศรษฐกิจหลักๆอยู่ในบริเวณนั้น
การลงทุนสี่แสนล้านจึงเอื้อประโยชน์ให้ สิงคโปร์ มากกว่ามาเลย์ที่ได้ เพราะถ้าก่อสร้างจริง ประเมินแล้วระหว่างทางในประเทศมาเลย์แทบจะร้างคนขึ้น
และประเทศไทยหละ
กลับกัน ประชากรบ้านเรา 60 กว่าล้านคน การกระจายตัวตามต่างจังหวัดเริ่มเห็นชัด (ลองเทียบง่ายๆ สัก สามสิบปีก่อนสิ) การสร้างรถไฟความเร็วสูงเป็นการกระจายความเจริญสองฝั่งทางตามแนวรถไฟ ดูอย่างจังหวัดชลบุรีง่ายๆ ที่ขับรถจากกทม ไป พัทยา เร็วกว่า ขับรถจากดอนเมืองไปสยาม ความเจริญเริ่มกระจาย ห้างไป บริษัทไป ส่วนราชการเริ่มไป model จะเริ่มคล้ายๆญี่ปุ่น ทำงานโตเกียว แต่บ้านอยู่นอกเมือง ถ้าระยะทางร่นไม่เกิน ชั่วโมง การตัดสินใจเลือกบ้านที่พัก อาจจะเป็นจังหวัด รอบๆกทม เช่น กาญจนบุรี , สระบุรี เป็นต้น (มอเตอร์เวย์สองสายนี้กำลังสร้างอยู่)
รถไฟความเร็จสูง จะทำให้เวลาการเดินทางร่นเหลือไม่เกิน 45 นาทีจาก กทมบางซื่อ ตอนนี้ถนนขยายเต็มศักยภาพแล้วครับมันต้อง เพิ่มระบบขนส่งด้วยราง
เมืองไทยเคยมีประสบการณ์ต่อต้านรถไฟฟ้า โดยเฉพาะลาดพร้าว สะพานใหม่ (เขาเลยไม่สร้าง) ตอนนี้เป็นยังไงคนคงเห็นกัน
แสดงความคิดเห็น
มหาเธร์ นายกรัฐมนตรีมาเลเซียยืนยันเตรียมยกเลิกโครงการรถไฟความเร็วสูงที่ลงนามร่วมกับทางสิงคโปร์ เพื่อสะสางหนี้เก่า
มหาเธร์ โมฮัมหมัด นายกรัฐมนตรีมาเลเซียยืนยันเตรียมยกเลิกโครงการรถไฟความเร็วสูงที่ลงนามร่วมกับทางสิงคโปร์ โดยทางรัฐบาลมาเลเซียจะเจรจากับทางสิงคโปร์เกี่ยวกับเรื่องนี้รวมไปถึงค่าชดเชยที่จะต้องจ่ายให้กับทางสิงคโปร์
ซึ่งทางมาเลเซียคาดว่าค่าชดเชยที่จะต้องจ่ายให้กับทางสิงคโปร์จะอยู่ที่ประมาณ 500ล้านริงกิต (ประมาณ 4พันล้านบาท)
ทั้งนี้รัฐบาลมาเลเซียชุดปัจจุบันกำลังทบทวนการลงทุนโครงการเมกะโปรเจคหลายโครงการที่ได้รับการอนุมัติจากรัฐบาลชุดก่อนหน้าเพื่อช่วยประหยัดเงินงบประมาณประเทศ โดยรวมไปถึงโครงการรถไฟความเร็วสูง (HSR), โครงการ Bandar Malaysia, โครงการ Tun Razak Exchange (TRX), รวมไปถึงโครงการทางหลวงบนเกาะบอร์เนียว (Pan-Borneo Highway) ด้วย
ที่มา : https://www.thestar.com.my/news/nation/2018/05/28/dr-m-confirms-scrapping-of-high-speed-rail-project-with-singapore/