วิธีการหาเสียงเมื่อถึงวันเลือกตั้งประธาน นักเรียน,กีฬาสี
สวัสดีครับเพื่อน ๆ ทุกคนที่กำลังจะหาเสียงการเลือกตั้งเพื่อเป็นประธาน อาทิเช่น ประธานนักเรียน ประธานสี
ผมเป็นคนหนึ่งที่กำลังมีเพื่อนที่จะลงสมัครประธาน โดยในวันนั้นเพื่อนได้มาขอบทกลอนเท่ ๆ มามัดใจผู้คน แต่ตอนนั้นผมกลับนึกอะไรไม่ออก และยังไม่มีโอกาสบอกเพื่อนคนนั้นสักที แทนที่จะคุยกันใน Messenger เรามาคุยกันในนี้ดีกว่าว่า"การหาเสียงอย่างไรจะให้มัดใจผู้คน" ผมหวังว่าเพื่อนคนนั้นจะเข้ามาอ่านกระทู้นี้นะครับ ^ ^
เป็นนักวางแผน คิดวิเคราะห์ เก่งในหลาย ๆ ด้าน รอบรู้ วิสัยทัศน์กว้างไกล อดทน ฯลฯ ล้วนเป็นคุณสมบัติของผู้นำทั้งสิ้น แต่ทว่าการที่จะนำเสนอตัวเราเองต่อผู้คนทั้งโรงเรียน ให้น่าดึงดูด น่าติดตาม น่าเชื่อถือ จะทำอย่างไรดี ง่าย ๆ เลยครับ ก็เพียงพูดดี ๆ แค่นั้น แต่การพูดดี ๆ นี้มันมีอะไรอย่างไรที่ลึกซึ้งมาก ๆ แต่ผมจะขอพูดเป็นประเด็นที่เราจะต้องสื่อให้คนที่ฟังเราคล้อยตามเราไปคือ
1.ที่มา ทำไมเราถึงมาอยู่จุดที่เป็นผู้สมัครเป็นประธาน การเกริ่นเกี่ยวกับตัวเราจะทำให้คนรู้จักเรามากขึ้น ดังเช่นว่า ตัวผมตอนขึ้นม.1 ในวันปฐมนิเทศ วันนั้นจะแนะนำตัวทีละคน ๆ ผมชื่อ....มาจากโรงเรียน... ซึ่งถ้ามองในมุมมองของผมที่ดูเพื่อนร่วมชั้น ผมก็จะจำชื่อแต่ละคน ไม่มากก็น้อยให้พอ ๆ รู้จักกัน ถ้าเราเจอหน้ากันก็เฮ้ยคนนี้ชื่อนี้ ๆ ก็ว่ากันไป
2.จุดประสงค์ของเรา ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาโรงเรียน ลดถังจำนวนขยะ ขยะรีไซเคิล Clean Days หรือจะเป็นการปรับปรุงกฏกติกาบางส่วน รูปแบบการบริหารจัดการงานในคณะประธานนักเรียน กีฬา
3.สิ่งที่ตอบโจทย์ของคน คนเราเวลามีปัญหามักจะหาวิธีต่าง ๆ เพื่อที่จะแก้ไขปัญหา ไม่ว่าจะเป็นการแก้ไขปัญหาด้วยตัวเอง ปรึกษาผู้อื่นและให้ผู้อืนช่วยด้วย แต่บางปัญหาในโรงเรียนบางเรื่องมันใหญ่ระดับที่นักเรียนอย่างเราจะทำได้ ประธานจึงเป็นผู้ที่จะดูแลคนในคณะ เป็นแกนนำทำความดี ระดมปัญหาที่เกิดมาแก้ไขและจัดการโดยวิธีต่าง ๆ เช่นการโน้มนาวให้คนมาช่วยกันทำด้วยการพูด ประกอบกับความน่าเชื่อถือในตำแหน่ง ประธานจึงเป็นคนที่เหมาะสม ที่จะแก้ปํญหาต่าง ๆ ของคนจำนวนมาก ดังนั้นสิ่งที่เราพร้อมที่จะให้คนอื่นคืออะไร และมันจะตอบโจทย์ความต้องการของเขามากแค่ไหน คนก็จะให้การสนับสนุนเราเท่านั้น
4.การทำให้คนรู้จักเราอย่างรวดเร็ว ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่คิดจะเดินเก็บขยะทีละชิ้น ๆ รอบโรงเรียนเพื่อให้คนรู้จักเรา มันเป็นความคิดที่ดีครับ แต่มันเปลืองแรง แล้วจะทำอย่างไรดี? ผมได้อ่านหนังสือเล่มหนึ่งเขาบอกว่า เซเว่นนั้นเป็นกิจการที่ทำการตลอด 24 ชั่วโมง เป็นหมื่น ๆ สาขา จะได้ว่า 24x10,000=240,000 ชั่วโมง โดยมีเจ้าของกิจการคนเดียว ก็เหมือนกับว่าในหนึ่งวันเขาทำงาน 240,000 ชั่วโมงเลยทีเดียว ฉะนั้น ถ้าเราจะหาเสียงในหนึ่งนาที แต่เหมือนทำเป็นชั่วโมง ๆ เช่น การทำป้ายรณรงค์ขยะ เราอาจมีข้อความเท่ ๆ ในกระดาษ A4 หนึ่งแผ่น และมีรูปเรา ชื่อเราอยู่ในนั้นด้วย ถ้าเราแปะป้ายไว้ในที่ต่าง ๆ ที่มีคนเดินอยู่ประจำ อย่างน้อยสัก 10 วินาทีที่คนคนหนึ่งจะมองป้ายเราและเห็นชื่อของเรา แต่ถ้ามีคนหลายคนที่มองป้ายเรา และมีป้ายหลายป้ายที่แปะให้คนเห็นในที่ต่าง ๆ สมมติมีคนเห็นป้ายเรา 50 คน คนละ 10 วินาที เราจะได้เวลาหาเสียง 50x10=500 วินาที หรือ 8 นาที ถ้ามี 10 ป้าย ก็ 80 นาที ถือว่าเยอะมาก ๆ เลยใช่ไหมล่ะครับ ในหนังสือนี้เขาเรียกว่าหลักการแยกร่าง ซึ่งจะช่วยประหยัดแรงขึ้นเยอะเลยล่ะครับ
5.วิธีการนำเสนอ โรงเรียนของผมจะมีการให้ผู้สมัครประธานพูดในตอนเช้าขณะที่นักเรียนทั้งโรงเรียนเข้าแถว โดยเทคนิคของแต่ละคนก็มีการนำเสนอที่แตกต่างกัน เช่น พูดกลอน เท่ ๆ ร้องเพลงเพราะ กับเนื้อเพลงที่แปลก เต้นแบบเอวสุดจะพริ้ว ทุกคนมีเทคนิคต่าง ๆ ที่เชื่อว่า แปลก แหวกแนว สิ่งพวกนี้แหละครับจะทำให้มันเป็นที่จดจำในสายตาคน ทำให้มีการพูดถึงมากกว่าการนำเสนอที่เรียบ ๆ ไม่มีอะไร เหมือนกับเพลงที่ มีจังหวะที่ฟังสบาย ๆ เช่นเพลง คลาสสิค มันก็ทำให้เราหลับได้ง่าย ๆ แต่ถ้าเป็นจังหวะที่มันรุนแรง ขึ้นลง ๆ เช่นเพลงแดนซ์ มันก็ทำให้เราอยากลุกขึ้นเต้นได้ตามสัญชาติญานเลย หรือจะเป็นการแทรกมุขตลก ๆ เข้าไปก็ดูดีเช่นกัน เพราะการสร้างรอยยิ่ม ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ช่วยให้คนผ่อนคลายได้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้การยิ้มทำให้เอ็นโดฟินหลั่งนั่นเองและคนจะรู้ว่าความผ่อนคลาย เป็นกันเอง มันหาได้ที่ตัวเรา
สำหรับกระทู้นี้เป็นการแชร์วิธีที่จะหาเสียงให้ได้มาก หาก เพื่อน ๆ พี่ ๆ คนใดมีประสบการณ์ด้านนี้ก็มาลองแชร์กันครับเผื่อรุ่นหลัง ๆ ของเราเขาจะได้มีความรู้และนำไปใช้ได้ครับผม
วิธีการหาเสียงเมื่อถึงวันเลือกตั้งประธาน นักเรียน,กีฬาสี
สวัสดีครับเพื่อน ๆ ทุกคนที่กำลังจะหาเสียงการเลือกตั้งเพื่อเป็นประธาน อาทิเช่น ประธานนักเรียน ประธานสี
ผมเป็นคนหนึ่งที่กำลังมีเพื่อนที่จะลงสมัครประธาน โดยในวันนั้นเพื่อนได้มาขอบทกลอนเท่ ๆ มามัดใจผู้คน แต่ตอนนั้นผมกลับนึกอะไรไม่ออก และยังไม่มีโอกาสบอกเพื่อนคนนั้นสักที แทนที่จะคุยกันใน Messenger เรามาคุยกันในนี้ดีกว่าว่า"การหาเสียงอย่างไรจะให้มัดใจผู้คน" ผมหวังว่าเพื่อนคนนั้นจะเข้ามาอ่านกระทู้นี้นะครับ ^ ^
เป็นนักวางแผน คิดวิเคราะห์ เก่งในหลาย ๆ ด้าน รอบรู้ วิสัยทัศน์กว้างไกล อดทน ฯลฯ ล้วนเป็นคุณสมบัติของผู้นำทั้งสิ้น แต่ทว่าการที่จะนำเสนอตัวเราเองต่อผู้คนทั้งโรงเรียน ให้น่าดึงดูด น่าติดตาม น่าเชื่อถือ จะทำอย่างไรดี ง่าย ๆ เลยครับ ก็เพียงพูดดี ๆ แค่นั้น แต่การพูดดี ๆ นี้มันมีอะไรอย่างไรที่ลึกซึ้งมาก ๆ แต่ผมจะขอพูดเป็นประเด็นที่เราจะต้องสื่อให้คนที่ฟังเราคล้อยตามเราไปคือ
1.ที่มา ทำไมเราถึงมาอยู่จุดที่เป็นผู้สมัครเป็นประธาน การเกริ่นเกี่ยวกับตัวเราจะทำให้คนรู้จักเรามากขึ้น ดังเช่นว่า ตัวผมตอนขึ้นม.1 ในวันปฐมนิเทศ วันนั้นจะแนะนำตัวทีละคน ๆ ผมชื่อ....มาจากโรงเรียน... ซึ่งถ้ามองในมุมมองของผมที่ดูเพื่อนร่วมชั้น ผมก็จะจำชื่อแต่ละคน ไม่มากก็น้อยให้พอ ๆ รู้จักกัน ถ้าเราเจอหน้ากันก็เฮ้ยคนนี้ชื่อนี้ ๆ ก็ว่ากันไป
2.จุดประสงค์ของเรา ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาโรงเรียน ลดถังจำนวนขยะ ขยะรีไซเคิล Clean Days หรือจะเป็นการปรับปรุงกฏกติกาบางส่วน รูปแบบการบริหารจัดการงานในคณะประธานนักเรียน กีฬา
3.สิ่งที่ตอบโจทย์ของคน คนเราเวลามีปัญหามักจะหาวิธีต่าง ๆ เพื่อที่จะแก้ไขปัญหา ไม่ว่าจะเป็นการแก้ไขปัญหาด้วยตัวเอง ปรึกษาผู้อื่นและให้ผู้อืนช่วยด้วย แต่บางปัญหาในโรงเรียนบางเรื่องมันใหญ่ระดับที่นักเรียนอย่างเราจะทำได้ ประธานจึงเป็นผู้ที่จะดูแลคนในคณะ เป็นแกนนำทำความดี ระดมปัญหาที่เกิดมาแก้ไขและจัดการโดยวิธีต่าง ๆ เช่นการโน้มนาวให้คนมาช่วยกันทำด้วยการพูด ประกอบกับความน่าเชื่อถือในตำแหน่ง ประธานจึงเป็นคนที่เหมาะสม ที่จะแก้ปํญหาต่าง ๆ ของคนจำนวนมาก ดังนั้นสิ่งที่เราพร้อมที่จะให้คนอื่นคืออะไร และมันจะตอบโจทย์ความต้องการของเขามากแค่ไหน คนก็จะให้การสนับสนุนเราเท่านั้น
4.การทำให้คนรู้จักเราอย่างรวดเร็ว ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่คิดจะเดินเก็บขยะทีละชิ้น ๆ รอบโรงเรียนเพื่อให้คนรู้จักเรา มันเป็นความคิดที่ดีครับ แต่มันเปลืองแรง แล้วจะทำอย่างไรดี? ผมได้อ่านหนังสือเล่มหนึ่งเขาบอกว่า เซเว่นนั้นเป็นกิจการที่ทำการตลอด 24 ชั่วโมง เป็นหมื่น ๆ สาขา จะได้ว่า 24x10,000=240,000 ชั่วโมง โดยมีเจ้าของกิจการคนเดียว ก็เหมือนกับว่าในหนึ่งวันเขาทำงาน 240,000 ชั่วโมงเลยทีเดียว ฉะนั้น ถ้าเราจะหาเสียงในหนึ่งนาที แต่เหมือนทำเป็นชั่วโมง ๆ เช่น การทำป้ายรณรงค์ขยะ เราอาจมีข้อความเท่ ๆ ในกระดาษ A4 หนึ่งแผ่น และมีรูปเรา ชื่อเราอยู่ในนั้นด้วย ถ้าเราแปะป้ายไว้ในที่ต่าง ๆ ที่มีคนเดินอยู่ประจำ อย่างน้อยสัก 10 วินาทีที่คนคนหนึ่งจะมองป้ายเราและเห็นชื่อของเรา แต่ถ้ามีคนหลายคนที่มองป้ายเรา และมีป้ายหลายป้ายที่แปะให้คนเห็นในที่ต่าง ๆ สมมติมีคนเห็นป้ายเรา 50 คน คนละ 10 วินาที เราจะได้เวลาหาเสียง 50x10=500 วินาที หรือ 8 นาที ถ้ามี 10 ป้าย ก็ 80 นาที ถือว่าเยอะมาก ๆ เลยใช่ไหมล่ะครับ ในหนังสือนี้เขาเรียกว่าหลักการแยกร่าง ซึ่งจะช่วยประหยัดแรงขึ้นเยอะเลยล่ะครับ
5.วิธีการนำเสนอ โรงเรียนของผมจะมีการให้ผู้สมัครประธานพูดในตอนเช้าขณะที่นักเรียนทั้งโรงเรียนเข้าแถว โดยเทคนิคของแต่ละคนก็มีการนำเสนอที่แตกต่างกัน เช่น พูดกลอน เท่ ๆ ร้องเพลงเพราะ กับเนื้อเพลงที่แปลก เต้นแบบเอวสุดจะพริ้ว ทุกคนมีเทคนิคต่าง ๆ ที่เชื่อว่า แปลก แหวกแนว สิ่งพวกนี้แหละครับจะทำให้มันเป็นที่จดจำในสายตาคน ทำให้มีการพูดถึงมากกว่าการนำเสนอที่เรียบ ๆ ไม่มีอะไร เหมือนกับเพลงที่ มีจังหวะที่ฟังสบาย ๆ เช่นเพลง คลาสสิค มันก็ทำให้เราหลับได้ง่าย ๆ แต่ถ้าเป็นจังหวะที่มันรุนแรง ขึ้นลง ๆ เช่นเพลงแดนซ์ มันก็ทำให้เราอยากลุกขึ้นเต้นได้ตามสัญชาติญานเลย หรือจะเป็นการแทรกมุขตลก ๆ เข้าไปก็ดูดีเช่นกัน เพราะการสร้างรอยยิ่ม ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ช่วยให้คนผ่อนคลายได้[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้และคนจะรู้ว่าความผ่อนคลาย เป็นกันเอง มันหาได้ที่ตัวเรา
สำหรับกระทู้นี้เป็นการแชร์วิธีที่จะหาเสียงให้ได้มาก หาก เพื่อน ๆ พี่ ๆ คนใดมีประสบการณ์ด้านนี้ก็มาลองแชร์กันครับเผื่อรุ่นหลัง ๆ ของเราเขาจะได้มีความรู้และนำไปใช้ได้ครับผม