โรคเหงือก เป็นปัญหาที่สามารถพบได้ในคนทุกวัย แต่โรคนี้มักจะพบมากในคนอายุ 40 ปีขึ้นไป การอักเสบของเหงือกเกิดจากคราบแบคทีเรียและหินปูนที่เกาะอยู่ที่ผิวฟัน ถ้าเราปล่อยคราบแบคทีเรียทิ้งไว้นานๆ คราบแบคทีเรียนี้จะค่อยๆ แข็งตัวขึ้นจนกลายเป็นหินปูน และสร้างสารพิษขึ้นมาทำลายเนื้อเยื่อกระดูกเบ้าฟันทำให้เกิดการอักเสบได้ครับ
ในช่วงแรกของการเกิดโรคเหงือกอักเสบนี้ เราสามารถรักษาให้เหงือกกลับมาเป็นปกติได้นะครับ เนื่องจากกระดูกและเนื้อเยื่อรอบรากฟันยังไม่ถูกทำลาย แต่ถ้าปล่อยทิ้งไว้นานโดยไม่รักษา โรคเหงือกอักเสบก็อาจกลายเป็นโรคปริทันต์ได้ ทำให้เกิดความเสียหายกับฟันและกระดูกรอบรากฟันอย่างถาวร จนทำให้ฟันโยกและต้องถอนในที่สุดนั่นเองครับ
เราจะป้องกันโรคเหงือกอักเสบได้อย่างไร?
การดูแลความสะอาดของช่องปากและฟันด้วยตัวเองเป็นสิ่งสำคัญ แต่ก็อาจมีบางบริเวณที่เราทำความสะอาดได้ไม่ทั่วถึงจนทำให้เกิดการสะสมของคราบแบคทีเรียที่มากขึ้น และแข็งกลายเป็นหินปูน
นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำไมเราถึงจะต้องมาพบทันตแพทย์เป็นประจำอย่างน้อย 6 เดือน/ครั้ง เพื่อทำความสะอาดบริเวณดังกล่าว ก่อนที่จะกลายเป็นโรคเหงือกอักเสบและโรคปริทันต์นั่นเองครับ
ยิ่งสูงวัย ยิ่งต้องใส่ใจสุขภาพช่องปาก
ในช่วงแรกของการเกิดโรคเหงือกอักเสบนี้ เราสามารถรักษาให้เหงือกกลับมาเป็นปกติได้นะครับ เนื่องจากกระดูกและเนื้อเยื่อรอบรากฟันยังไม่ถูกทำลาย แต่ถ้าปล่อยทิ้งไว้นานโดยไม่รักษา โรคเหงือกอักเสบก็อาจกลายเป็นโรคปริทันต์ได้ ทำให้เกิดความเสียหายกับฟันและกระดูกรอบรากฟันอย่างถาวร จนทำให้ฟันโยกและต้องถอนในที่สุดนั่นเองครับ
เราจะป้องกันโรคเหงือกอักเสบได้อย่างไร?
การดูแลความสะอาดของช่องปากและฟันด้วยตัวเองเป็นสิ่งสำคัญ แต่ก็อาจมีบางบริเวณที่เราทำความสะอาดได้ไม่ทั่วถึงจนทำให้เกิดการสะสมของคราบแบคทีเรียที่มากขึ้น และแข็งกลายเป็นหินปูน
นั่นจึงเป็นสาเหตุที่ทำไมเราถึงจะต้องมาพบทันตแพทย์เป็นประจำอย่างน้อย 6 เดือน/ครั้ง เพื่อทำความสะอาดบริเวณดังกล่าว ก่อนที่จะกลายเป็นโรคเหงือกอักเสบและโรคปริทันต์นั่นเองครับ