ติดตามเรื่องราวอื่นๆได้ที่เพจนี้ครับ Never Ending Wanderlust
Facebook :
https://www.facebook.com/Never-Ending-Wanderlust-333202827168152/
Instagram :
https://www.instagram.com/wanderlust_neverending/
ชีวิตบนเรือสำราญ สำราญจริงหรือ? ฉบับหมดเปลือก
https://ppantip.com/topic/37607106
ชีวิตบนเรือสำราญ สำราญจริงหรือ? ภาคต่อ ตอน 2
https://ppantip.com/topic/37615183
ชีวิตบนเรือสำราญ สำราญจริงหรือ? ตอน 3
https://ppantip.com/topic/37665346
สวัสดีครับ ก่อนอื่นผมขอโทษครับที่ได้บอกไว้ในตอนที่ 3 ว่าผมจะไปต่อตอนใหม่ในกระทู้เดิม แต่เนื่องจากเรื่องราวที่ผมอยากจะนำเสนอนั้น ผมมีความภูมิใจเล็กๆที่อยากจะมาแบ่งปัน จึงได้เลือกมาตั้งเป็นตอนใหม่ซะเลย
เรื่องราวนั้นก็ยังคงเกี่ยวข้องการการทำงานและใช้ชีวิตบนเรือสำราญเช่นเคย หากยังไม่เบื่อกันนะครับ 555 แต่หากเป็นเรื่องราวที่เป็นมุมเล็กๆที่ผมรู้สึกว่ามันมีคุณค่าทางจิตใจ
การทำงานบนเรือสำราญแน่นอนอย่างที่ผมเคยเล่าว่ามันทำแบบระยะยาว หลายเดือน ไม่มีวันหยุด ทำทุกวันประมาณ 7-9 เดือนบนเรือ ซึ่งแน่นอนว่าหากไม่มีกิจกรรมอะไรเลยบนเรือ ลูกเรือทุกคงคงเฉาตายแน่ๆ ทางแผนกบุคคลจึงเป็นแผนกที่จะต้องจัดหากิจกรรมต่างๆมาให้กับลูกเรือได้เข้าร่วมและผ่อนคลายจาการทำงานหนัก ไม่ว่าจะเป็นงานปาร์ตี้สังสรรค์ การจัดอาหารในธีมต่างๆแบบนานาชาติเพื่อไม่ให้ลูกเรือเกิดอาการเบื่ออาหาร การจัดกิจกรรมคาสิโนในหมู่ลูกเรือ เนื่องจากลูกเรือไม่อนุญาตให้ไปเล่นคาสิโนบนเรือ เพราะมีการแบ่งพื้นที่ระหว่างลูกเรือกับแขก และอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งหนึ่งในกิจกรรมที่ผมไม่เคยพลาดที่จะเข้าร่วมนั่นคือการโชว์ความสามารถพิเศษ ซึ่งก็ไม่ค่อยจะมีแต่อยากโชว์ 555
ผมเชื่อเสมอว่าการที่เราไปทำงานบนเรือสำราญ เรือที่มีเพื่อนๆมาจากทั่วทุกมุมโลกมากกว่า 60 ประเทศนั้น การโชว์ความสามารถพิเศษจึงเป็นโอกาสอันดีที่จะเผยแพร่วัฒนธรรมไทยสู่สายตาโลก เหอๆๆ ออกแนวยัดเยียด
ในการทำงานบนเรือสำราญในปี 2016 และ 2017 ของผมนั้น ทางเรือได้จัดกิจกรรมคล้ายๆกันทั้งสองรอบ แต่ผมจะขอเล่ากิจกรรมในปี 2016 เนื่องจากผมได้พาวัฒนธรรมไทยสู๋พี่น้องชาวเรือนั่นเอง
กิจกรรมครั้งนั้นจัดกันเฉพาะในหมู่ลูกเรือ ไม่มีแขกมาเข้าร่วม โดยจัดที่โรงละครใหญ่ในเรือสำราญ ทางเรือได้เปิดโอกาสให้ลูกเรือทุกคนที่มีความสามารถเข้าร่วมได้ สามารถทำอะไรก็ได้บนเวที ประมาณ Thailand's Got Talent ซึ่งผมก็ลงชื่อเข้าร่วมทันทีที่ทราบข่าว
ทางเรือได้ให้เวลาในการฝึกซ้อมประมาณ 1 อาทิตย์เท่านั้น ซึ่งใน 1 อาทิตย์ ลูกเรือแต่ละคนก็หาเวลาฝึกซ้อมกับสถานที่ฝึกซ้อมยากเสียเหลือเกิน ตอนนั้นผมเลือกที่จะร้องเพลงไทย มีคนไทยบางคนบอกว่าทำไมไม่ร้องเพลงภาษาอังกฤษ ร้องเพลงไทยใครจะไปเข้าใจ แต่ผมคิดว่ามันจะมีโอกาสสักกี่ครั้งกันที่ชาวต่างชาติจะได้ยินเพลงไทย จริงมั้ยครับ
พอถึงวันงาน มีลูกเรือมากหน้าหลายตามาเข้าร่วมกิจกรรมนี้กันอย่างมากมาย หลายแผนก หลายชนชาติ ประมาณ 10 คนน่าจะได้ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย อินเดีย นอกนั้นก็ประปรายคือมีเนปาล และผมคนไทยคนเดียวของงานนี้ หน้าตาของประเทศชาติ 555
การแสดงของแต่ละคนก็เริ่มต้นขึ้น โดยส่วนใหญ่จะเป็นการร้องเพลง ทั้งร้องเพลงภาษาอังกฤษ และเพลงภาษาของแต่ละคน การแสดงระบำกังฟูโดยหนุ่มชาวบาหลี การเป่าขลุ่ยบาหลีโดยหนุ่มชาวบาหลีเช่นเดียวกัน ผมบอกได้เลยว่าคนบาหลีเป็นคนที่รักษาขนบธรรมเนียมของเขามากกก เพราะเวลาอยู่บนเรือ เมื่อถึงเวลาที่มีเทศกาลสำคัญ เขาจะรวมตัวกันจัดเทศกาลร่วมกันเสมอ คนไทยก็ไม่น้อยหน้าครับ เรามีการจัดเทศกาลสงกรานต์บนเรือเช่นเดียวกัน โดยคนบาหลีเขาจะภูมิใจมากที่ได้โชว์ศิลปะวัฒนธรรมของเขาออกมา ผมเคยคุยกับคนอินโดนีเซียที่ไม่ได้มาจากบาหลี เขาบอกว่าแอบหมั่นไส้คนบาหลี เพราะเขาออกแนวหยิ่งและทรนงในความเป็นชนชาติบาหลีของเขาเองเกินไป 555
ตอนนั้นผมได้แสดงเป็นคนที่ 4 หรือ 5 เนี่ยแหละครับ ตอนนั้นตื่นเต้นมาก เพราะผมร้างเวทีมานาน คือเมื่อก่อนอาชีพเก่าของผมตอนอยู่ที่ประเทศไทย ผมเคยเป็นไกด์นำเที่ยว ซึ่งรวมไปถึงเป็นพิธีกร นำกิจกรรม ร้องเพลงให้แขกฟัง จึงไม่ตื่นเวทีเลย แต่ตอนเนี้ย...ตื่นเต้นมาก 555
ผมได้นำเพลงไทยสตริงไปร้อง 1 เพลง แต่จุดที่อยากจะนำเสนออยู่ที่เพลงปิดท้ายครับ ผมเลือกเอาบทประพันธ์กาพย์เห่เรือกระบวนพยุหยาตราทางชลมารคมา 1 บท เป็นบทชมเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ ถามว่าผมร้องเพลงไทยเดิมเก่งกาจอะไรมั้ย ก็ต้องตอบว่าไม่เลยครับ แต่อารมณ์ตอนนั้นคือภูมิใจมากกว่าที่เป็นคนไทย ภูมิใจที่ชาติของเรามีวัฒนธรรมที่โดดเด่นมากจนต่างชาติต้องหันกลับมามอง ผมขออนุญาตแนบไฟล์วีดีโอการร้องเห่เรือของงานวันนั้นที่ลิงค์ด้านล่างครับ
เมื่อร้องเสร็จผมก็ลงมาจากเวทีและไม่นานก็มีคนเดินเข้ามาหาผมและบอกกับผมว่าเมื่อสักครู่ตอนที่ผมอยู่บนเวทีและร้องเพลงน่ะ เขาไม่รู้เรื่องหรอกว่าผมร้องอะไร แต่เขาสัมผัสได้ว่าบทเพลงที่ผมร้องออกมานั้นมันพิเศษ มีมนต์ขลังมาก เหมือนเป็นพิธีกรรมอะไรสักอย่าง ตอนนั้นผมดีใจลึกๆมากที่มีชาวต่างชาติสามารถสัมผัสอารมณ์ของบทเพลงของไทยได้
พอทุกคนแสดงความสามารถครบแล้ว ทางทีมงานก็ได้แจกของรางวัลเท่ากันครับ ไม่มีคนแพ้คนชนะ แค่นี้ผมก็มีความสุขเล็กๆแล้วที่ได้เหมือนเป็นทูตวัฒนธรรมในต่างแดนสักครั้งหนึ่งในชีวิต ทั้งที่ชิวิตจริงไม่เคยเป็น 555
นับว่าเป็นประสบการณ์ที่สำคัญของการทำงานบนเรือสำราญที่มากกว่าการทำงาน ไม่ใช่แค่ผมคนเดียวนะครับที่เผยแพร่วัฒนธรรมไทยแบบนี้ แต่ยังมีพี่ๆอีกหลายคนที่ทำแบบนี้อยู่บนเรือสำราญ แม้ว่าตอนนี้ผมจะไม่ได้ทำงานบนเรือสำราญแล้ว แต่ทุกครั้งที่มีคนลงคลิปของคนไทยที่ไปแสดงความเป็นไทยบนเวทีบนเรือสำราญ ผมก็อดยิ้มไม่ได้ที่เรายังรักความเป็นไทยครับ มันอยู่ในสายเลือด
ขอขอบคุณครับที่ตามอ่านกันมา แม้ว่าตอนนี้จะไม่ยาวมากนัก แต่ผมก็ภูมิใจเขียนจริงๆครับ
คราวหน้าจะมาเล่าเรื่องของการเจ็บป่วยและพยาบาลบนเรือครับ มันจะรักษายังไงเมื่ออยู่บนเรือ
วันนี้ขอลาไปก่อนครับ สวัสดีครับผม
ชีวิตบนเรือสำราญ สำราญจริงหรือ? ตอน 4 ฑูตวัฒนธรรมบนเรือสำราญ
ติดตามเรื่องราวอื่นๆได้ที่เพจนี้ครับ Never Ending Wanderlust
Facebook : https://www.facebook.com/Never-Ending-Wanderlust-333202827168152/
Instagram : https://www.instagram.com/wanderlust_neverending/
ชีวิตบนเรือสำราญ สำราญจริงหรือ? ฉบับหมดเปลือก https://ppantip.com/topic/37607106
ชีวิตบนเรือสำราญ สำราญจริงหรือ? ภาคต่อ ตอน 2 https://ppantip.com/topic/37615183
ชีวิตบนเรือสำราญ สำราญจริงหรือ? ตอน 3 https://ppantip.com/topic/37665346
สวัสดีครับ ก่อนอื่นผมขอโทษครับที่ได้บอกไว้ในตอนที่ 3 ว่าผมจะไปต่อตอนใหม่ในกระทู้เดิม แต่เนื่องจากเรื่องราวที่ผมอยากจะนำเสนอนั้น ผมมีความภูมิใจเล็กๆที่อยากจะมาแบ่งปัน จึงได้เลือกมาตั้งเป็นตอนใหม่ซะเลย
เรื่องราวนั้นก็ยังคงเกี่ยวข้องการการทำงานและใช้ชีวิตบนเรือสำราญเช่นเคย หากยังไม่เบื่อกันนะครับ 555 แต่หากเป็นเรื่องราวที่เป็นมุมเล็กๆที่ผมรู้สึกว่ามันมีคุณค่าทางจิตใจ
การทำงานบนเรือสำราญแน่นอนอย่างที่ผมเคยเล่าว่ามันทำแบบระยะยาว หลายเดือน ไม่มีวันหยุด ทำทุกวันประมาณ 7-9 เดือนบนเรือ ซึ่งแน่นอนว่าหากไม่มีกิจกรรมอะไรเลยบนเรือ ลูกเรือทุกคงคงเฉาตายแน่ๆ ทางแผนกบุคคลจึงเป็นแผนกที่จะต้องจัดหากิจกรรมต่างๆมาให้กับลูกเรือได้เข้าร่วมและผ่อนคลายจาการทำงานหนัก ไม่ว่าจะเป็นงานปาร์ตี้สังสรรค์ การจัดอาหารในธีมต่างๆแบบนานาชาติเพื่อไม่ให้ลูกเรือเกิดอาการเบื่ออาหาร การจัดกิจกรรมคาสิโนในหมู่ลูกเรือ เนื่องจากลูกเรือไม่อนุญาตให้ไปเล่นคาสิโนบนเรือ เพราะมีการแบ่งพื้นที่ระหว่างลูกเรือกับแขก และอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งหนึ่งในกิจกรรมที่ผมไม่เคยพลาดที่จะเข้าร่วมนั่นคือการโชว์ความสามารถพิเศษ ซึ่งก็ไม่ค่อยจะมีแต่อยากโชว์ 555
ผมเชื่อเสมอว่าการที่เราไปทำงานบนเรือสำราญ เรือที่มีเพื่อนๆมาจากทั่วทุกมุมโลกมากกว่า 60 ประเทศนั้น การโชว์ความสามารถพิเศษจึงเป็นโอกาสอันดีที่จะเผยแพร่วัฒนธรรมไทยสู่สายตาโลก เหอๆๆ ออกแนวยัดเยียด
ในการทำงานบนเรือสำราญในปี 2016 และ 2017 ของผมนั้น ทางเรือได้จัดกิจกรรมคล้ายๆกันทั้งสองรอบ แต่ผมจะขอเล่ากิจกรรมในปี 2016 เนื่องจากผมได้พาวัฒนธรรมไทยสู๋พี่น้องชาวเรือนั่นเอง
กิจกรรมครั้งนั้นจัดกันเฉพาะในหมู่ลูกเรือ ไม่มีแขกมาเข้าร่วม โดยจัดที่โรงละครใหญ่ในเรือสำราญ ทางเรือได้เปิดโอกาสให้ลูกเรือทุกคนที่มีความสามารถเข้าร่วมได้ สามารถทำอะไรก็ได้บนเวที ประมาณ Thailand's Got Talent ซึ่งผมก็ลงชื่อเข้าร่วมทันทีที่ทราบข่าว
ทางเรือได้ให้เวลาในการฝึกซ้อมประมาณ 1 อาทิตย์เท่านั้น ซึ่งใน 1 อาทิตย์ ลูกเรือแต่ละคนก็หาเวลาฝึกซ้อมกับสถานที่ฝึกซ้อมยากเสียเหลือเกิน ตอนนั้นผมเลือกที่จะร้องเพลงไทย มีคนไทยบางคนบอกว่าทำไมไม่ร้องเพลงภาษาอังกฤษ ร้องเพลงไทยใครจะไปเข้าใจ แต่ผมคิดว่ามันจะมีโอกาสสักกี่ครั้งกันที่ชาวต่างชาติจะได้ยินเพลงไทย จริงมั้ยครับ
พอถึงวันงาน มีลูกเรือมากหน้าหลายตามาเข้าร่วมกิจกรรมนี้กันอย่างมากมาย หลายแผนก หลายชนชาติ ประมาณ 10 คนน่าจะได้ แต่ส่วนใหญ่จะเป็นฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย อินเดีย นอกนั้นก็ประปรายคือมีเนปาล และผมคนไทยคนเดียวของงานนี้ หน้าตาของประเทศชาติ 555
การแสดงของแต่ละคนก็เริ่มต้นขึ้น โดยส่วนใหญ่จะเป็นการร้องเพลง ทั้งร้องเพลงภาษาอังกฤษ และเพลงภาษาของแต่ละคน การแสดงระบำกังฟูโดยหนุ่มชาวบาหลี การเป่าขลุ่ยบาหลีโดยหนุ่มชาวบาหลีเช่นเดียวกัน ผมบอกได้เลยว่าคนบาหลีเป็นคนที่รักษาขนบธรรมเนียมของเขามากกก เพราะเวลาอยู่บนเรือ เมื่อถึงเวลาที่มีเทศกาลสำคัญ เขาจะรวมตัวกันจัดเทศกาลร่วมกันเสมอ คนไทยก็ไม่น้อยหน้าครับ เรามีการจัดเทศกาลสงกรานต์บนเรือเช่นเดียวกัน โดยคนบาหลีเขาจะภูมิใจมากที่ได้โชว์ศิลปะวัฒนธรรมของเขาออกมา ผมเคยคุยกับคนอินโดนีเซียที่ไม่ได้มาจากบาหลี เขาบอกว่าแอบหมั่นไส้คนบาหลี เพราะเขาออกแนวหยิ่งและทรนงในความเป็นชนชาติบาหลีของเขาเองเกินไป 555
ตอนนั้นผมได้แสดงเป็นคนที่ 4 หรือ 5 เนี่ยแหละครับ ตอนนั้นตื่นเต้นมาก เพราะผมร้างเวทีมานาน คือเมื่อก่อนอาชีพเก่าของผมตอนอยู่ที่ประเทศไทย ผมเคยเป็นไกด์นำเที่ยว ซึ่งรวมไปถึงเป็นพิธีกร นำกิจกรรม ร้องเพลงให้แขกฟัง จึงไม่ตื่นเวทีเลย แต่ตอนเนี้ย...ตื่นเต้นมาก 555
ผมได้นำเพลงไทยสตริงไปร้อง 1 เพลง แต่จุดที่อยากจะนำเสนออยู่ที่เพลงปิดท้ายครับ ผมเลือกเอาบทประพันธ์กาพย์เห่เรือกระบวนพยุหยาตราทางชลมารคมา 1 บท เป็นบทชมเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ ถามว่าผมร้องเพลงไทยเดิมเก่งกาจอะไรมั้ย ก็ต้องตอบว่าไม่เลยครับ แต่อารมณ์ตอนนั้นคือภูมิใจมากกว่าที่เป็นคนไทย ภูมิใจที่ชาติของเรามีวัฒนธรรมที่โดดเด่นมากจนต่างชาติต้องหันกลับมามอง ผมขออนุญาตแนบไฟล์วีดีโอการร้องเห่เรือของงานวันนั้นที่ลิงค์ด้านล่างครับ
เมื่อร้องเสร็จผมก็ลงมาจากเวทีและไม่นานก็มีคนเดินเข้ามาหาผมและบอกกับผมว่าเมื่อสักครู่ตอนที่ผมอยู่บนเวทีและร้องเพลงน่ะ เขาไม่รู้เรื่องหรอกว่าผมร้องอะไร แต่เขาสัมผัสได้ว่าบทเพลงที่ผมร้องออกมานั้นมันพิเศษ มีมนต์ขลังมาก เหมือนเป็นพิธีกรรมอะไรสักอย่าง ตอนนั้นผมดีใจลึกๆมากที่มีชาวต่างชาติสามารถสัมผัสอารมณ์ของบทเพลงของไทยได้
พอทุกคนแสดงความสามารถครบแล้ว ทางทีมงานก็ได้แจกของรางวัลเท่ากันครับ ไม่มีคนแพ้คนชนะ แค่นี้ผมก็มีความสุขเล็กๆแล้วที่ได้เหมือนเป็นทูตวัฒนธรรมในต่างแดนสักครั้งหนึ่งในชีวิต ทั้งที่ชิวิตจริงไม่เคยเป็น 555
นับว่าเป็นประสบการณ์ที่สำคัญของการทำงานบนเรือสำราญที่มากกว่าการทำงาน ไม่ใช่แค่ผมคนเดียวนะครับที่เผยแพร่วัฒนธรรมไทยแบบนี้ แต่ยังมีพี่ๆอีกหลายคนที่ทำแบบนี้อยู่บนเรือสำราญ แม้ว่าตอนนี้ผมจะไม่ได้ทำงานบนเรือสำราญแล้ว แต่ทุกครั้งที่มีคนลงคลิปของคนไทยที่ไปแสดงความเป็นไทยบนเวทีบนเรือสำราญ ผมก็อดยิ้มไม่ได้ที่เรายังรักความเป็นไทยครับ มันอยู่ในสายเลือด
ขอขอบคุณครับที่ตามอ่านกันมา แม้ว่าตอนนี้จะไม่ยาวมากนัก แต่ผมก็ภูมิใจเขียนจริงๆครับ
คราวหน้าจะมาเล่าเรื่องของการเจ็บป่วยและพยาบาลบนเรือครับ มันจะรักษายังไงเมื่ออยู่บนเรือ
วันนี้ขอลาไปก่อนครับ สวัสดีครับผม