สวัสดีคร่า หายไปนาน รีวิวทริปสวิสยังไม่จบ ขอแอบมารีวิวทริปมัลดีฟส์ก่อนนะจ๊ะ
พอดีว่ากดจองตั๋วถูกได้จากแอร์เอเชีย บินช่วง ก.พ ที่ผ่านมาค่า ตอนแรกปอยตั้งใจจะไปเที่ยว
แต่บังเอิญได้ฤกษ์แต่งงานหลังเดือน พ.ค  พอดี เลยได้โอกาสไปถ่ายพรีเวดดิ้งที่มัลดีฟส์เลยจ้า


Credit: google

ขอสรุปคร่าวๆก่อนลง Detail  รีวิวทริปนะฮะ

Maldives เป็นประเทศที่เป็นหมู่เกาะปะการังหรือที่เรียกว่า Atoll การจะไปมัลดีฟหลักๆเลยต้องเลือกรีสอร์ท ว่าเราจะไปอยู่ตรงหมู่เกาะไหน บาง Atoll ก็เด่นเรื่องจุดดำน้ำลึก บางที่ก็เด่นเรื่องดำน้ำตื้น บางที่เน้นถูก บางที่เน้นโรงแรมหรูก็แล้วแต่คนชอบ

รอบนี้ได้โปรแอร์เอเชียไป-กลับ Maldives มา 4,990 บาท เลยไม่กดไม่ได้แล้ว แล้วก็เลือกอยู่ตรงหมู่เกาะ South Ari Atoll โรงแรม Vilamendhoo เพราะว่าจะได้ประสบการณ์นั่ง Seaplane นอกจากนี้หมู่เกาะนี้ยังอยู่ใกล้จุดชมทั้ง Manta Rays และ Whale Shark และแนวปะการัง+ปลาแถวนี้ก็ยังอุดมสมบูรณ์มากๆด้วย ไม่ต้องออกไปดำน้ำตื้นที่อื่น

โรงแรมก็จะมีให้เลือกแบบ Full Board (รวมอาหาร 3 มื้อไม่รวมน้ำดื่ม) หรือ All Inclusive (รวมน้ำดื่มและแอลกอฮอล์) ซึ่งเพิ่มเงินอีกหลายพัน แต่เราไม่มีใครกินเหล้ากันก็เลยเอา Full Board ดีกว่า ยังไงก็คุ้มกว่า

ค่าใช้จ่ายต่อคน
1. ค่าเครื่องบิน AirAsia คนละ 4,990 บาท รวมค่าโหลดกระเป๋า 25kg เป็นราวๆเฉลี่ยตกคนละ 5,750 บาท

2. ค่า Seaplane บินไป-กลับเกาะ Vilamendhoo 360 USD (ราวคนละ 11,000 บาท) ใช้เวลาบินประมาณ 30 นาที ยิ่งถ้าบินไป Atoll ไกลๆ เคยเห็นราคาขึ้นไปถึง 700-800 USD เลยล่ะ แพงน้ำตาไหลมากๆ เลยไปแค่นี้พอ

3. ค่าโรงแรมแบบ Full Board ที่ Vilamendhoo (พักแบบ Jacuzzi Water Villa และ Beach Villa) และนอน Male ด้วยรวม 4 วัน 3 คืน เฉลี่ยคนละประมาณ 20,000 บาท

4. ค่าเรือออกไปดู Whale Shark คนละ 65USD = คนละ 2,000 บาท (ซึ่งโชคไม่ดี ไม่เจอ เจอแต่โลมาแทน) ไกด์บอกว่าโอกาสเจออาทิตย์นึงนี่ 50/50 เลย แล้วแต่ดวง

5. ค่ายืมอุปกรณ์ดำน้ำ ค่าน้ำดื่ม และค่าอื่นๆบนเกาะ เฉลี่ยคนละ 450 บาท
สรุปค่าใช้จ่ายคนละ 39,200 บาท ยิ่งถ้าไปช่วง Low Season หลังเดือน พ.ค. ก็จะถูกกว่านี้เยอะมากโดยเฉพาะค่าโรงแรมจะหายไปเกือบครึ่งเลย

ถ้าใครจะมามัลดีฟ แนะนำว่าอย่าซื้อ Package ทัวร์เลย จองแยกเองมันจะคุ้มกว่ามากๆ แล้วมัน customize เองได้ ตอนแรกจะจอง Package กับทัวร์เหมือนกัน แต่เห็นราคาแล้วรับไม่ได้จริงๆ (ช่วงเดียวกัน ทัวร์เสนอมาประมาณ 50,000+ ต่อคนเฉพาะค่าโรงแรม+Seaplane ไม่รวมตั๋วเครื่องบิน) จองเองถูกกว่าราคา Package ไปเยอะเลย หรือถ้าใครอยากประหยัดงบก็เลือกโรงแรมใกล้ๆ สนามบินแล้วนั่ง Speed Boat ไม่ต้องนั่ง Seaplane ก็จะประหยัดงบไปได้เยอะมาก

สรุปคร่าวๆ ก็ประมาณนี้คร่า ต่อไปไปดูกันว่ามัลดีฟส์มีอะไรบ้างเอ่ย เริ่ม!!



การเดินทางไปเกาะต้องนั่ง Seaplane เท่านั้น ซึ่งถ้าเราเลือกเกาะใกล้ๆ สนามบินเราสามารถนั่งเรือไปแทนการนั่ง Seaplane จ้า


ข้ามแถบหมู่เกาะ


คือนักบินเท่ห์มาก ใ่ส่รองเท้าแตะขับเรื่องบินไม่พอ พี่แกถอดรองเท้าขับจ้า


บน Seaplane จะมีไม่กี่ที่นั่ง ของและที่นั่งจะอยู่ด้วยกันหมดเลย


พอดีวันที่ปอยไป เครื่องดีเลย์ ทำให้ทุกคนที่จะไปเกาะได้ไปหมดแล้ว เลยเป็นกลุ่มตกหล่น เลยมีช่วยที่ต้องแวะจอดรับแขกคนอื่น ขณะที่รอแขกคนอื่นเลยมีเวลาได้มาแชะภาพ 2 คน ราวกับเช่าเครื่องบินเหมาลำ 55555
พอถึงเกาะ เครื่องบินไม่สามารถที่จะจอดที่เกาะได้ต้องจอดกลางทะเล และจะมีเรือของโรงแรมมารับเราอีกที


ถึงแว้ว Vilamendhoo


LOBBY จะเป็นพื้นทราย จริงๆๆ เป็นทรายทั้งโรงแรมคือมาอยู่นี่ไม่ต้องเอารองเท้ามายังได้เลยจ้า เท้าเปล่าเดินสบายสุด


คืนแรก ห้อง Beach Villa หน้าห้อง เดินไปนิดนึงก็ถึงทะเลแล้วจ้า



ในห้องโอเคเลยนาจา



คืนที่สอง Jacuzzi Water Villa จะเป็นห้องแยกๆๆ กัน มีทางเข้าของใครของมัน



ห้องใหญ่โอเคเลยทีเดียว



หน้าห้องเปิดออกไป เป็นวิวทะเล



หลังห้องมีอ่าง Jacuzzi มีระบบทำน้ำอุ่นพร้อมมม



ห้องน้ำจะทะลุกับส่วนของ Jacuzzi แช่น้ำเสร็จมาอาบได้เลย



มองไปบ้านข้างๆๆ สวยมากก



ในส่วนของห้องอาหาร อาหารหลากหลายทั้ง อินเตอร์และอาหารแขก



วิวจากห้องอาหาร



คือกินดีอยู่ดีมาก บอกเลย  จริงๆแล้วโรงแรมมีกิจกรรมให้ทำอีกเยอะมาก ไม่ว่าจะเป็น คอร์ตเทนนิสฟิตเนส


ตกกลางคืนไม่มีอะไรทำก็ไปดูดาว



ตื่นเช้ามา วันถัดไปเราก็ออกเรือไปดู Whale shark กัน



แดดร้อนมาก แต่ท้องทะเลสวยมากเช่นกัน  ปรากฏว่าไม่เจอจ้า เสียเวลาไปเลยครึ่งวันน เลยกลับโรงแรมไปดำน้ำแทน



ดำน้ำรอบเกาะ คือสวยมากนะ แต่ทำไมภาพออกมาไม่สวย 5555



ได้เวลาอันควร เราก็เริ่มภารกิจแอบแฝงของเราคือการมาถ่าย พรีเวดดิ้ง
โดยเราได้พาพี่ไตร มาด้วย (Tripod ขาตั้งกล้อง) นั่นเอง
เริ่มจากรูปเดี่ยวๆๆ



รูปหน้าห้องที่เราพัก ดอกไม้ก็เตรียมไปเองนะจ๊ะ ซื้อจาก เจเจ ราคาประมาณ 400-500 ไปเลือกได้เลยเค้าจัดให้ด้วย
สำหรับการถ่ายครั้งนี้ใช้กล้อง SONY A7 และใช้ APP เชื่อมต่อกลับมือถือสำหรับการกดชัตเตอร์จ้า











ถ่ายภาพเสร็จเราก็แว๊บไป ดำน้ำอีกรอบ ก่อนจะนั่ง SEAPLANE กลับเข้าเมือง มาเล่ (เมืองหลวงของมัลดีฟส์)


พอถึงเมืองมาเล่ เราก็ไปเดินเล่นรอบเมืองจ้า คือ พอมาถึงเมืองมาเล่ ปอยเปลี่ยนชุดเลย เพราะเมืองมาเล่ เป็นเมืองนับถือศาสนาอิสลาม ค่อนข้างเคร่งครัดในการแต่งตัว คือไม่เห็นใครใส่ กางเกงขาสั้น หรือ ผู้หญิงใส่เสื้อแขนสั้นเลย


รอบๆเมือง เหมือนคนละโลกกับบนเกาะเลย

ชมตลาด ที่นี่ใช้เงิน US ได้แต่จะทอนเงินเป็นเงินรูฟียาห์ของมัลดีฟส์

ตลาดสดจะเหมือนบ้านเรา จากนั้นเราก็กลับโรงแรมนอนที่มาเล่หนึ่งคืน

วันรุ่งขึ้นก็บินกลับไทย ถือว่าเป็นทริปที่ได้พักผ่อนจริงๆ เพราะว่าอยู่บนเกาะมีแค่กินกับดำน้ำและถ่ายรูปเท่านั้น กลับมาไทยปุ๊บอยากไปเรียนดำน้ำเลยทันทีจ้า


จบแล้วคร่า รีวิวมัลดีฟส์แบบรวดเร็ว ยังไงก็ขอฝาก FB ของ Poiblog ด้วยนะคะ ใครสนใจทริปท่องเที่ยวแบบจัดเองหรือชอบหาของอร่อยกินต้องนี่เลยค่า
www.facebook.com/poiblog คร้าบ