Maldives เป็นประเทศที่ทำให้ผมหลงรักทะเล และทำให้เริ่มกลับมาศึกษาเกี่ยวกับทะเล และท่องเที่ยวทะเลอย่างจริงจัง
3 ครั้ง 3 โรงแรม ที่มามัลดีฟส์ อาจมากสู้คนอื่นไม่ได้ แต่ก็คิดว่ามากพอที่จะทำ Review ให้กับเพื่อนๆ ที่กำลังจะเดินทางท่องเที่ยวมัลดีฟส์ได้บ้าง ไม่มากก็น้อย จึงขอนำเอาข้อมูลมาแชร์กันครับ
สิ่งที่ควรรู้ก่อนมาเที่ยวมัลดีฟส์
- Maldives เป็นประเทศเอกราชประเทศหนึ่ง มิได้เป็นเมืองขึ้นหรือเป็นเครือรัฐเอกราชของใคร ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของอินเดีย หรือศรีลังกาครับ
- ศาสนาอิสลาม คือศาสนาประจำชาติ และชาวมัลดีฟส์ค่อนข้างเคร่งครัดศาสนาอิสลาม
- Maldives เป็นหมู่เกาะปะการังทั้งประเทศ มีเพียงไม่กี่เกาะเท่านั้นที่เป็นเกาะท้องถิ่น ที่พำนักอาศัยของชาวมัลดีฟส์ นอกนั้นเป็นเกาะในเขตอนุรักษ์ และเป็นเกาะที่รัฐบาลให้สัมปทานกับโรงแรมและรีสอร์ทต่างๆ
- เกาะส่วนตัวของโรงแรมและรีสอร์ทต่างๆ ผู้ได้รับสัมปทานโรงแรมมีหน้าที่ในการ "จัดหาไฟฟ้าและน้ำจืด" ด้วยตัวเอง เทศบาลมัลดีฟส์มิได้มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด
- การนำเข้าเนื้อหมูและเหล้า เป็นเรื่องต้องห้าม ไม่ว่าจะนำเข้ามาเพื่อการค้าหรือนำเข้ามาเป็นการส่วนตัว ยกเว้นการนำเข้ามาเพื่อจำหน่ายตามเกาะส่วนตัวที่เป็นโรงแรมและรีสอร์ทเท่านั้น
- ประมาณ 5 ปีที่ผ่านมานี้เอง ที่รัฐบาลมัลดีฟส์เพิ่งจะอนุญาตให้มีการสร้างโรงแรมบริเวณเกาะท้องถิ่น เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวที่กำลังซื้อน้อย อย่างไรก็ตาม การใส่ชุดว่ายน้ำที่ชายหาดสาธารณะบางแห่ง การรับประทานเนื้อหมูและผลิตภัณฑ์จากหมู รวมไปถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยังเป็นเรื่องต้องห้าม
- การท่องเที่ยวคือแหล่งรายได้หลัก การประมงคือแหล่งรายได้รองของประเทศมัลดีฟส์ อย่างไรก็ตาม สัตว์น้ำชนิดเดียวที่ทางรัฐบาลมัลดีฟส์อนุญาตให้ทำการประมงได้ คือ "ปลาทูน่า" เท่านั้น ไม่อนุญาตการประมงสัตว์ทะเลชนิดอื่น ดังนั้น อาหารทะเลที่มัลดีฟส์ "นำเข้า" ทั้งหมด
- มัลดีฟส์มีเพียง 2 ฤดู คือหน้าฝน และหน้าแล้ง หน้าฝน นับตั้งแต่กลางเดือนเมษายน จนถึงกลางเดือนตุลาคม ส่วนหน้าแล้ง จะเริ่มตั้งแต่กลางเดือนตุลาคม ถึงกลางเดือนเมษายน
- หน้าแล้ง เป็น High Season โรงแรมจะแพงกว่า และธรรมชาติจะสวยงามกว่ามาก
- หน้าฝน เป็น Low Season โรงแรมจะถูกกว่า และฝนตกบ่อย ฝนที่มัลดีฟส์ มักจะเป็นฝนปรอยๆ หรือตกๆ หยุดๆ น้อยครั้งที่จะเจอฝนตกหนักติดต่อกันเป็นเวลานานๆ หรือเป็นพายุ ถ้าไม่ซวยจริงๆ
- เครื่องบินจากไทย เกือบทั้งหมดลงที่สนามบิน Male มาเล่ ดังนั้น โรงแรมที่เดินทางสะดวก จะอยู่บริเวณ North Male Atoll หรือ South Male Atoll เท่านั้น (Kaafu Atoll ในภาษาท้องถิ่น) (Atoll = หมู่เกาะ) หากเป็น Atoll อื่น จะต้องเดินทางด้วยเครื่องบินภายในประเทศ หรือ Seaplane แทบทั้งสิ้น (อาจมีเรือโดยสารท้องถิ่นบ้าง แต่ผมไม่มีข้อมูลในส่วนนี้)
- แหล่งปะการังที่สวยที่สุดในมัลดีฟส์ อยู่บริเวณโดยรอบ South Ari Atoll อยากเห็นปะการังสวยงาม อาจต้องลงทุนสักหน่อย
- อย่างไรก็ตาม ปะการังเมืองไทย สวยกว่าที่มัลดีฟส์ ข้อดีของการดำน้ำที่มัลดีฟส์ คือน้ำใสแทบจะตลอดเวลา และโอกาสเจอสัตว์ใหญ่มีมากกว่า
เอาละ เดี๋ยวเราจะมาต่อ Review ในส่วนของโรงแรมกันบ้าง
[CR] รีวิว 3 โรงแรม มัลดีฟส์ ฉบับนักดำน้ำติดหรู โรงแรม Centara Ras Fushi โรงแรม Centara Grand Maldives โรงแรม SAii Lagoon
3 ครั้ง 3 โรงแรม ที่มามัลดีฟส์ อาจมากสู้คนอื่นไม่ได้ แต่ก็คิดว่ามากพอที่จะทำ Review ให้กับเพื่อนๆ ที่กำลังจะเดินทางท่องเที่ยวมัลดีฟส์ได้บ้าง ไม่มากก็น้อย จึงขอนำเอาข้อมูลมาแชร์กันครับ
สิ่งที่ควรรู้ก่อนมาเที่ยวมัลดีฟส์
- Maldives เป็นประเทศเอกราชประเทศหนึ่ง มิได้เป็นเมืองขึ้นหรือเป็นเครือรัฐเอกราชของใคร ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของอินเดีย หรือศรีลังกาครับ
- ศาสนาอิสลาม คือศาสนาประจำชาติ และชาวมัลดีฟส์ค่อนข้างเคร่งครัดศาสนาอิสลาม
- Maldives เป็นหมู่เกาะปะการังทั้งประเทศ มีเพียงไม่กี่เกาะเท่านั้นที่เป็นเกาะท้องถิ่น ที่พำนักอาศัยของชาวมัลดีฟส์ นอกนั้นเป็นเกาะในเขตอนุรักษ์ และเป็นเกาะที่รัฐบาลให้สัมปทานกับโรงแรมและรีสอร์ทต่างๆ
- เกาะส่วนตัวของโรงแรมและรีสอร์ทต่างๆ ผู้ได้รับสัมปทานโรงแรมมีหน้าที่ในการ "จัดหาไฟฟ้าและน้ำจืด" ด้วยตัวเอง เทศบาลมัลดีฟส์มิได้มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด
- การนำเข้าเนื้อหมูและเหล้า เป็นเรื่องต้องห้าม ไม่ว่าจะนำเข้ามาเพื่อการค้าหรือนำเข้ามาเป็นการส่วนตัว ยกเว้นการนำเข้ามาเพื่อจำหน่ายตามเกาะส่วนตัวที่เป็นโรงแรมและรีสอร์ทเท่านั้น
- ประมาณ 5 ปีที่ผ่านมานี้เอง ที่รัฐบาลมัลดีฟส์เพิ่งจะอนุญาตให้มีการสร้างโรงแรมบริเวณเกาะท้องถิ่น เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวที่กำลังซื้อน้อย อย่างไรก็ตาม การใส่ชุดว่ายน้ำที่ชายหาดสาธารณะบางแห่ง การรับประทานเนื้อหมูและผลิตภัณฑ์จากหมู รวมไปถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยังเป็นเรื่องต้องห้าม
- การท่องเที่ยวคือแหล่งรายได้หลัก การประมงคือแหล่งรายได้รองของประเทศมัลดีฟส์ อย่างไรก็ตาม สัตว์น้ำชนิดเดียวที่ทางรัฐบาลมัลดีฟส์อนุญาตให้ทำการประมงได้ คือ "ปลาทูน่า" เท่านั้น ไม่อนุญาตการประมงสัตว์ทะเลชนิดอื่น ดังนั้น อาหารทะเลที่มัลดีฟส์ "นำเข้า" ทั้งหมด
- มัลดีฟส์มีเพียง 2 ฤดู คือหน้าฝน และหน้าแล้ง หน้าฝน นับตั้งแต่กลางเดือนเมษายน จนถึงกลางเดือนตุลาคม ส่วนหน้าแล้ง จะเริ่มตั้งแต่กลางเดือนตุลาคม ถึงกลางเดือนเมษายน
- หน้าแล้ง เป็น High Season โรงแรมจะแพงกว่า และธรรมชาติจะสวยงามกว่ามาก
- หน้าฝน เป็น Low Season โรงแรมจะถูกกว่า และฝนตกบ่อย ฝนที่มัลดีฟส์ มักจะเป็นฝนปรอยๆ หรือตกๆ หยุดๆ น้อยครั้งที่จะเจอฝนตกหนักติดต่อกันเป็นเวลานานๆ หรือเป็นพายุ ถ้าไม่ซวยจริงๆ
- เครื่องบินจากไทย เกือบทั้งหมดลงที่สนามบิน Male มาเล่ ดังนั้น โรงแรมที่เดินทางสะดวก จะอยู่บริเวณ North Male Atoll หรือ South Male Atoll เท่านั้น (Kaafu Atoll ในภาษาท้องถิ่น) (Atoll = หมู่เกาะ) หากเป็น Atoll อื่น จะต้องเดินทางด้วยเครื่องบินภายในประเทศ หรือ Seaplane แทบทั้งสิ้น (อาจมีเรือโดยสารท้องถิ่นบ้าง แต่ผมไม่มีข้อมูลในส่วนนี้)
- แหล่งปะการังที่สวยที่สุดในมัลดีฟส์ อยู่บริเวณโดยรอบ South Ari Atoll อยากเห็นปะการังสวยงาม อาจต้องลงทุนสักหน่อย
- อย่างไรก็ตาม ปะการังเมืองไทย สวยกว่าที่มัลดีฟส์ ข้อดีของการดำน้ำที่มัลดีฟส์ คือน้ำใสแทบจะตลอดเวลา และโอกาสเจอสัตว์ใหญ่มีมากกว่า
เอาละ เดี๋ยวเราจะมาต่อ Review ในส่วนของโรงแรมกันบ้าง
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้