ขึ้นชื่อว่า มัลดีฟส์ ใครๆก็รู้ ว่ามันสวยมาก คนนั้นก็โพสต์ คนนี้ก็แชร์ แหม...อยากไปมั่ง และถ้าไม่ได้ไปสัมผัสด้วยตัวเอง จะรู้ได้ยังไง!!
ทำไงดี ปกติ ททถ เที่ยวทุกที่ที่ถูกๆ ในเมื่อเงินน้อย ก็ต้องหาข้อมูลเยอะๆ ต้องขอบคุณน้องๆหลานๆในพันทิป ที่แชร์ข้อมูลไว้เป็นแนวทาง
อ่านๆๆๆ แล้วเราก็เอามาประมวลผลความเป็นไปได้
วันหยุดพร้อม...ตั๋วโปรพร้อม...ก็เริ่มวางแผน
แรกเริ่ม จะไปกันแค่ 2 คน พอเพื่อนๆ รู้ ก็ขอร่วมทริปด้วยอีก4คน รวมเป็น สว.สส. 6 คน (เพื่อนที่คบกันมากว่า 30 ปี)
แพคเกจทัวร์ จะไหวมั๊ย สี่ห้าหมื่น?
ดูราคาแล้ว ตัดสินใจ ไปเองเถ๊อะ ประหยัดกว่า สเปคไม่สูง ขอแค่ได้นอน water villa & นั่งseaplane ก็พอแล้ว
ที่พัก เราเลือกจากราคาเป็นตัวตั้ง list มา 4-5 ที่ อ่านคอมเมนต์ ดูความคุ้มค่า และเอามาประมวลผล เหลือตัวเลือกสุดท้ายที่ Kuredu resort & spa หาอ่าน รีวิวคนไทยน้อยมาก แต่คะแนนจากคนต่างชาติค่อนข้างดี
ในราคาที่ขนหน้าแข้งร่วงกราว แต่ก็จำต้องยอมจ่าย เพื่อ Say hi... Maldives
สรุป ค่าใช้จ่ายต่อคนเป็นเงินไทย ตรงนี้เลย เผื่อใครขี้เกียจอ่าน
Air Asia ไปกลับ อาหาร1มื้อ และเลือกซื้อที่นั่งขาไป รวมคนละ = 7,250
Seaplane ไปกลับคนละ 360$ = 12,000
Kuredu 3วัน2คืน (beach bungalow 3ห้อง 1คืน + 3water villa 3ห้อง 1คืน) เฉลี่ยคนละ = 12,244
Hulhumale hotel คืนสุดท้ายใกล้สนามบิน รวม BF และค่าเดินทาง เฉลี่ยคนละ = 1,100
ประกันการเดินทางคนละ = 154
Dinner แมนฮัตตันคนละ = 500
รวมเบ็ดเสร็จคนละ = 33,248 บาท
ขอเพิ่มเติมข้อมูล Kuredu เผื่อมีคนสนใจ
ที่ตั้งของรีสอร์ท อยู่ห่างจากสนามบินมาเล่ ประมาณ 150 กม. ต้องเดินทางโดย seaplane ประมาณ 40 นาที โดยรีสอร์ทจะจัดการจองให้
เป็นรีสอร์ทเดียวบนเกาะ ไม่มีชาวบ้านอยู่อาศัย แต่มีบ้านพักสำหรับเจ้าหน้าที่ และพนักงานของรีสอร์ท
เป็นเกาะที่มีความสมบูรณ์ มีต้นไม้ให้ความร่มรื่นอยู่ทั่วทั้งเกาะ แอบเห็นว่าเค้าปลูกกล้วยเองด้วย
Kuredu ไม่หรูหราฟูฟ่า แต่เค้าตั้งใจสร้างบ้านให้กลมกลืนกับธรรมชาติอย่างลงตัว
Kuredu มีทุกอย่างไว้บริการ Restaurant & bar หลากหลาย /ห้องยิมและกีฬาอื่นๆ/ สปา/ วินเซิร์ฟ /ดำน้ำดูปลาและปะการัง/ ทัวร์ บริการถ่ายรูปที่ระลึก แม้แต่คลีนิคก็มี
Kuredu สะอาดทั่วทุกบริเวณ ไม่มีขยะให้เห็นซักชิ้น มีพนักงานกวาดตลอดเวลา รวมถึงในห้องพักก็สะอาดมากๆ
Kuredu มีการจัดการที่ดี ขอชื่นชมพนักงานทุกคนน่ารักเป็นกันเอง ยินดีให้บริการ ไม่เลือกว่าเอเชียหรือยุโรป ระหว่างที่เราเข้าพัก พวกเราหกคน คือคนไทยกลุ่มเดียวที่เข้าพักใน Kuredu พนักงานบางคนรู้จักเมืองไทย บางคนมีเพื่อนเป็นคนไทย จึงชวนคุยกันสนุกสนาน
เท่าที่เห็น ในน้ำมีปลา บนฟ้ามีนก เท่านั้น มองหา หมา แมว มด จิ้งจก ตุ๊กแก หรือสัตว์อื่น ไม่เจอเลย
สรุป...เพื่อนร่วมทริปทุกคน เห็นตรงกันว่าคุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไป สบายตา สบายใจ สบายปาก สบายท้อง และมีความสุขสุดๆ
หากใครสนใจ หรือมีอะไรสงสัย ถามมาได้เลย ถ้ารู้...เรายินดีตอบ และถ้าไม่รู้...จะพยายามหาคำตอบให้จ้ะ
บันทึกการเดินทาง
11.30 ก่อนเครื่อง landing ลงสนามบินมาเล่ เราก็ได้สัมผัสความสวยงามของมัลดีฟส์จากวิวมุมสูงสมใจ เพราะอากาศดีแดดจ้า
11.40 เครื่องลงเรียบร้อย เดินเข้าอาคารได้เลย ตม.ที่นี่สบายๆ ไม่ซีเรียส กลุ่มคุณมา6คนเหรอ มา มา มาทีเดียว ผ่านโลด
12.00 ผ่านออกมา กำลังจะมองหาเคาน์เตอร์รีสอร์ท Kuredu ก็มีเจ้าหน้าที่เดินมาหา ขานชื่อกันเล็กน้อย เมื่อใช่และชัวร์ ก็พาพวกเราไปเคาน์เตอร์ TMA เพื่อเช็คอิน Seaplane ชั่งน้ำหนักกระเป๋า ออก Boarding pass เสร็จก็พาเรานั่งรถตู้ไปพักผ่อนที่ lounge ของ Kuredu รอเวลา seaplane
ที่ Kuredu lounge พนักงานต้อนรับดูแลเราเป็นอย่างดี ให้เราลงทะเบียนนิดหน่อย มี free Wi-Fi ,free soft drinks ไม่จำกัด หลังจากลงทะเบียนไปประมาณ 15 นาที เจ้าหน้าที่ก็มาแจ้งให้เรารู้ว่าจะได้ขึ้น seaplane 14.30 น.
เมื่อต้องรอเวลา เจ้าหน้าที่ก็มาถามพวกเราว่า สนใจไปทานอาหารกลางวันกันมั๊ย ถ้าสนใจ เค้าจะพานั่งรถไป แค่2นาทีเอง พร้อมมอบ free voucher ให้ด้วย 555 ใครจะปฏิเสธได้ลงคอ
Free lunch ที่ TMA lounge ชมวิว seaplane กันไปเพลินๆ เกือบบ่ายสอง ก็นั่งรถกลับ บังเอิญรถที่เรานั่งกลับ เป็นรถเวียนของสนามบิน ซึ่งวิ่งระหว่างสนามบินมาเล่ กับ สนามบินseaplane โดยมีlounge ของรีสอร์ทอยู่ระหว่างทาง เจ้าหน้าที่ TMA lounge จึงให้เราขึ้นไปแต่คงไม่ได้สื่อสารอะไร Driver จึงเข้าใจไปเองว่าพวกเราจะตรงไปสนามบินมาเล่
เมื่อรถมาจอดที่ Kuredu lounge ก่อนจะมีคนอื่นขึ้นรถ พวกเราก็ลุกและจะลง แต่ driver เบรคไว้ไม่ให้ลง พวกเราก็งงๆกัน และคิดว่าเค้าคงจะพาเราไปขึ้น seaplane เลยมั้งเพราะใกล้เวลาแล้วจึงนั่งต่อไป อ่ะOK ไปต่อ พอขับไปๆ อ้าว...ทางเดิมที่จะไปสนามบินมาเล่นี่นา ก็เข้าใจแล้ว ว่าเค้าคงเข้าใจผิด คิดว่าเราจะออกจากมัลดีฟส์นั่นเอง
พอถึงสนามบินมาเล่ ส่งคนอื่นลงหมด เราก็ไปบอกเค้าว่าพวกเราจะต้องขึ้นseaplane นะ ไม่ไช่จะกลับบ้าน เราเพิ่งมาถึง จะส่งเรากลับแล้วเหรอ...เค้าตกใจ และขอโทษพวกเรา จากนั้น ก็ซิ่งไปส่งพวกเราที่ Kuredu lounge ในทันที ก็เป็นอันว่า พวกเราไม่ตก seaplane กันละนะ
14.20 รถตู้พาพวกเรา 6คน และคนอื่นๆ อีกห้าหกคน ไปขึ้น seaplane ก่อนเครื่อง take off ก็จะเหมือนเรือที่วิ่งไปบนน้ำแบบช้าๆ สักพัก ก็speed และtake off ขึ้นไต่ระดับไปสูงพอประมาณ และบินไปในระดับความเร็วคงที่ ถึงตอนนี้ก็ชมวิวสองข้างทางไปเพลินๆสวยๆ ถ่ายรูปรัวๆ
15.00 ก่อนถึง Kuredu แวะส่งชาวญี่ปุ่น 2 คนลงทุ่นกลางน้ำของรีสอร์ท komandoo แล้วขึ้นบินตีโค้งมาลงจอดท่าเทียบเรือของ Kuredu
Ahmed คือ host ที่มารอต้อนรับเรา และพาเดินไปเช็คอินที่ main lobby ธรรมเนียมของ Kuredu จะมีการตีกลองต้อนรับแขกด้วย น่ารักดี หลังจากรับ welcome drink ก็ต้องชำระค่า seaplane คนละ $360 (ราคาไปกลับ)
Ahmed ตั้งอกตั้งใจอธิบายรายละเอียดทุกอย่างเกี่ยวกับ Kuredu เหมือนเข้าคอร์สอะไรสักอย่าง ยาวนานจนพวกเราต้องบอกพอละ อยากเข้าห้องพัก เค้าจึงพาเราไปรับอาหารว่าง ก่อนพาไปห้องพัก พวกเราแยกย้ายกันเข้าห้องใครห้องมัน ซึ่งห่างกันมาก คงเป็นผลจากการที่เราเปลี่ยนวันเข้าพักก่อนนี้นั่นเอง พักผ่อนแป๊บนึง ก็ไปรวมตัวกันชวนกันไปดินเนอร์
19.00 ได้เวลาอาหารเย็น บุฟเฟ่ต์แต่ละวันจะเปลี่ยนธีมไปในทุกๆวัน ซึ่งจัดเต็มมากทั้งอาหารและเครื่องดื่ม ทุกคนอิ่มมากกกก
คืนแรกเราเลือกพัก Beach Bungalow / All inclusive 3ห้อง 28,556 บาท/6 ตกคนละ 4,760 บาท
ห้องสวย สะอาด มีโซฟาเบด 1 ตัว ห้องน้ำ open air มีฟรีมินิบาร์จัดเต็ม ขนมเครื่องดื่มน้ำอัดลม น้ำผลไม้ ชากาแฟและนม
และกำนัลพิเศษ เพิ่มแชมเปญอีกห้องละขวด ฟรีคอร์สดำน้ำ ฟรีสปา ฟรีถ่ายรูปที่ระลึก ฟรีล่องเรือชมพระอาทิตย์ตก เหมือนจะคุ้ม แต่ไม่คุ้มเพราะพวกเรามีเวลาน้อยมาก กินไม่ไหว ใช้ไม่หมด
เพราะเมื่อกลับจากดินเนอร์ เราก็พบจดหมายแจ้งว่า วันรุ่งขึ้น ที่เราจอง water villa ไว้นั้น เราต้อง move 10 โมงเช้า คือ หลัง buffet breakfast นั่นเอง
คืนที่สองเราเลือกพัก Water Villa พร้อมอาหารสามมื้อ 3ห้อง 43,982 บาท/6 ตกคนละ 7,330 บาท
แน่นอน ห้องสวยสะอาด กว้าง มีระเบียงหน้าบ้านพร้อมเตียงอาบแดด มีทีวี ตู้เย็น เครื่องชงกาแฟ ฟรีมินิบาร์เหมือนเดิม
10โมง check in @ Water villa คราวนี้พวกเราได้ห้องเรียงกัน ตะโกนคุยกันที่ระเบียงริมน้ำได้เลย ชวนกันเล่นน้ำหน้าบ้าน แป๊บเดียว จากแดดจ้าๆ ฝนก็ตั้งเค้ามาแต่ไกล ฝนไม่ใช่ปัญหา แต่ปัญหาจริงๆคือ มีน้องฉลามตัวไม่ใหญไม่เล็ก มาว่ายด้วยนี่ซี่ ไม่กลัวนะ แต่... เพื่อนหนี เราก็ต้องหนีด้วย ขึ้นจากน้ำ อาบน้ำแต่งตัว พักผ่อนแป๊บเดียว ก็ถึงเวลา lunch อีกแล้ว
13.00 คือเวลาอาหารกลางวันของที่นี่ วันนี้เราเปลี่ยนมากินที่ restaurant สำหรับ water villa โดยเฉพาะ อาหารเครื่องดื่มหลากหลายจัดเต็มเหมือนเดิม หลังอาหาร ก็นั่งรถไปอีกด้านของเกาะ เดินย่อยชมวิวถ่ายรูปไปเรื่อยๆรอบเกาะ กลับเข้าห้องพัก บ่ายๆ ร้อนๆ แบบนี้เครื่องดื่มเต็มตู้เย็นเอามาดื่มกันบ้าง พักผ่อนและดื่มดำกับ water villa กันซะให้พอ
ห้าโมงเย็น แดดร่มลมตก พากันไปเดินเล่นริมหาด และเดินเรื่อยไปบน sand bank ที่ยาวสุดลูกหูลูกตา ทรายละเอียดขาวสะอาด น้ำทะเลสีฟ้าใสอ่อนสลับเข้ม และที่สำคัญ มีกระเบนสองตัวมาว่ายอวดโฉมให้ชมด้วย
ทุ่มตรง ได้เวลาดินเนอร์ ที่ restaurant โต๊ะใหญ่ถูกจัดรอพวกเราอย่างเรียบร้อยสวยงาม อิ่มหนำสำราญ กับอาหารและเครื่องดื่มแล้ว ก็กลับไปนอนดูดาวริมน้ำหน้าบ้าน อากาศดี๊ดีดูดาวได้ไม่ถึงชั่วโมง ฝนก็กระหน่ำลงมา ลมแรงมากจนบ้านสั่น ต้องเข้านอนโดยปริยาย
เช้าวันสุดท้ายที่ Kuredu ป้าๆ ขอเล่นน้ำในสระว่ายน้ำ จะได้ว่ายแบบสบายใจ ขึ้นจากน้ำก็จัดเต็ม Breakfast
11.00 check out รวม ๆ แล้ว พวกเราใช้เวลาน้อยมากที่ Kuredu แต่ก็นั่นแหละอย่างที่บอก เราก็แค่มา Say Hi…Maldives
กล้องดีๆ แพงๆ ก็ไม่มี มีแค่ มือถือ Vivo ธรรมดาๆ กับ Note 8
13.15 Seaplane พาพวกเรากลับมาเล่พร้อมลมแรงและฝนกระหน่ำ เลทจากกำหนดเดิมไปเกือบชั่วโมง และระหว่างทางก็มีฝนเป็นช่วงๆ สลับกับแดดเบาๆ ทัศนวิสัยไม่ค่อยดี แต่Seaplane ก็พาเราถึงจุดหมายได้อย่างปลอดภัย
จากสนามบิน TMA มีรถมาส่งที่สนามบินมาเล่ แต่เรายังไม่กลับ เราอยู่มัลดีฟส์ต่ออีกคืน เพราะอยากสัมผัสมัลดีฟส์อีกด้านนึง
คืนสุดท้าย เพื่อประหยัด เราเลือกนอนบนเกาะ Hulhumale ใกล้ๆ สนามบิน ห้องละเกือบสองพันรวมอาหารเช้า
เมื่อรวมค่าเดินทางไปกลับสนามบิน ก็ตกคนละ 1,100 บาท
จากสนามบินมาเล่ เราเลือกเดินทางไป เกาะHulhumale เอง โดยรถ Airport Shuttle bus ค่าโดยสารประมาณคนละ 50 บาท
ถ้าให้รถโรงแรมมารับเค้าคิดรวม 30$ต่อเที่ยว/6คน คิดเป็นเงินไทยเกือบพันบาท เราจึงเลือกใช้บริการรถโรงแรมเฉพาะขากลับในวันรุ่งขึ้น
เย็นนี้เราพากันไปเดินเล่น Hulhumale center park และท่าเรือเฟอรรี่
Dinner วันนี้ต้องซื้อกินเองละ ตกลงกินกันบนตึกสูง ร้าน Manhattan fish market อิ่มอร่อยสมราคา คนละ$15 (ประมาณ500บาท)
กินเสร็จ ชมบ้านเมืองและร้านค้าสองข้างทาง เดินไปเรื่อยๆ ไม่ทันเหนื่อยก็ถึงโรงแรม
เช้าสุดท้ายก่อนกลับกรุงเทพ มีเวลาพักผ่อนสบายๆ ก่อนและหลังอาหารเช้า เพราะเรานัดให้รถโรงแรมไปส่งสนามบินมาเล่ตอนสิบโมง
กลับถึงดอนเมืองช่วงค่ำๆ เป็นอันจบทริปของป้าๆ สว.สส. ทั้งหกแค่นี้
ขอบคุณที่รับชม และต้องขออภัยในความผิดพลาดในการรีวิวด้วยนะจ๊ะ ไม่ได้รีวิวมานานมากแล้ว
[CR] สว.สส. สูงวัยสดใส Say Hi... Maldives 12-15 Aug 2018
ทำไงดี ปกติ ททถ เที่ยวทุกที่ที่ถูกๆ ในเมื่อเงินน้อย ก็ต้องหาข้อมูลเยอะๆ ต้องขอบคุณน้องๆหลานๆในพันทิป ที่แชร์ข้อมูลไว้เป็นแนวทาง
อ่านๆๆๆ แล้วเราก็เอามาประมวลผลความเป็นไปได้
วันหยุดพร้อม...ตั๋วโปรพร้อม...ก็เริ่มวางแผน
แรกเริ่ม จะไปกันแค่ 2 คน พอเพื่อนๆ รู้ ก็ขอร่วมทริปด้วยอีก4คน รวมเป็น สว.สส. 6 คน (เพื่อนที่คบกันมากว่า 30 ปี)
แพคเกจทัวร์ จะไหวมั๊ย สี่ห้าหมื่น?
ดูราคาแล้ว ตัดสินใจ ไปเองเถ๊อะ ประหยัดกว่า สเปคไม่สูง ขอแค่ได้นอน water villa & นั่งseaplane ก็พอแล้ว
ที่พัก เราเลือกจากราคาเป็นตัวตั้ง list มา 4-5 ที่ อ่านคอมเมนต์ ดูความคุ้มค่า และเอามาประมวลผล เหลือตัวเลือกสุดท้ายที่ Kuredu resort & spa หาอ่าน รีวิวคนไทยน้อยมาก แต่คะแนนจากคนต่างชาติค่อนข้างดี
ในราคาที่ขนหน้าแข้งร่วงกราว แต่ก็จำต้องยอมจ่าย เพื่อ Say hi... Maldives
สรุป ค่าใช้จ่ายต่อคนเป็นเงินไทย ตรงนี้เลย เผื่อใครขี้เกียจอ่าน
Air Asia ไปกลับ อาหาร1มื้อ และเลือกซื้อที่นั่งขาไป รวมคนละ = 7,250
Seaplane ไปกลับคนละ 360$ = 12,000
Kuredu 3วัน2คืน (beach bungalow 3ห้อง 1คืน + 3water villa 3ห้อง 1คืน) เฉลี่ยคนละ = 12,244
Hulhumale hotel คืนสุดท้ายใกล้สนามบิน รวม BF และค่าเดินทาง เฉลี่ยคนละ = 1,100
ประกันการเดินทางคนละ = 154
Dinner แมนฮัตตันคนละ = 500
รวมเบ็ดเสร็จคนละ = 33,248 บาท
ขอเพิ่มเติมข้อมูล Kuredu เผื่อมีคนสนใจ
ที่ตั้งของรีสอร์ท อยู่ห่างจากสนามบินมาเล่ ประมาณ 150 กม. ต้องเดินทางโดย seaplane ประมาณ 40 นาที โดยรีสอร์ทจะจัดการจองให้
เป็นรีสอร์ทเดียวบนเกาะ ไม่มีชาวบ้านอยู่อาศัย แต่มีบ้านพักสำหรับเจ้าหน้าที่ และพนักงานของรีสอร์ท
เป็นเกาะที่มีความสมบูรณ์ มีต้นไม้ให้ความร่มรื่นอยู่ทั่วทั้งเกาะ แอบเห็นว่าเค้าปลูกกล้วยเองด้วย
Kuredu ไม่หรูหราฟูฟ่า แต่เค้าตั้งใจสร้างบ้านให้กลมกลืนกับธรรมชาติอย่างลงตัว
Kuredu มีทุกอย่างไว้บริการ Restaurant & bar หลากหลาย /ห้องยิมและกีฬาอื่นๆ/ สปา/ วินเซิร์ฟ /ดำน้ำดูปลาและปะการัง/ ทัวร์ บริการถ่ายรูปที่ระลึก แม้แต่คลีนิคก็มี
Kuredu สะอาดทั่วทุกบริเวณ ไม่มีขยะให้เห็นซักชิ้น มีพนักงานกวาดตลอดเวลา รวมถึงในห้องพักก็สะอาดมากๆ
Kuredu มีการจัดการที่ดี ขอชื่นชมพนักงานทุกคนน่ารักเป็นกันเอง ยินดีให้บริการ ไม่เลือกว่าเอเชียหรือยุโรป ระหว่างที่เราเข้าพัก พวกเราหกคน คือคนไทยกลุ่มเดียวที่เข้าพักใน Kuredu พนักงานบางคนรู้จักเมืองไทย บางคนมีเพื่อนเป็นคนไทย จึงชวนคุยกันสนุกสนาน
เท่าที่เห็น ในน้ำมีปลา บนฟ้ามีนก เท่านั้น มองหา หมา แมว มด จิ้งจก ตุ๊กแก หรือสัตว์อื่น ไม่เจอเลย
สรุป...เพื่อนร่วมทริปทุกคน เห็นตรงกันว่าคุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไป สบายตา สบายใจ สบายปาก สบายท้อง และมีความสุขสุดๆ
หากใครสนใจ หรือมีอะไรสงสัย ถามมาได้เลย ถ้ารู้...เรายินดีตอบ และถ้าไม่รู้...จะพยายามหาคำตอบให้จ้ะ
บันทึกการเดินทาง
11.30 ก่อนเครื่อง landing ลงสนามบินมาเล่ เราก็ได้สัมผัสความสวยงามของมัลดีฟส์จากวิวมุมสูงสมใจ เพราะอากาศดีแดดจ้า
11.40 เครื่องลงเรียบร้อย เดินเข้าอาคารได้เลย ตม.ที่นี่สบายๆ ไม่ซีเรียส กลุ่มคุณมา6คนเหรอ มา มา มาทีเดียว ผ่านโลด
12.00 ผ่านออกมา กำลังจะมองหาเคาน์เตอร์รีสอร์ท Kuredu ก็มีเจ้าหน้าที่เดินมาหา ขานชื่อกันเล็กน้อย เมื่อใช่และชัวร์ ก็พาพวกเราไปเคาน์เตอร์ TMA เพื่อเช็คอิน Seaplane ชั่งน้ำหนักกระเป๋า ออก Boarding pass เสร็จก็พาเรานั่งรถตู้ไปพักผ่อนที่ lounge ของ Kuredu รอเวลา seaplane
ที่ Kuredu lounge พนักงานต้อนรับดูแลเราเป็นอย่างดี ให้เราลงทะเบียนนิดหน่อย มี free Wi-Fi ,free soft drinks ไม่จำกัด หลังจากลงทะเบียนไปประมาณ 15 นาที เจ้าหน้าที่ก็มาแจ้งให้เรารู้ว่าจะได้ขึ้น seaplane 14.30 น.
เมื่อต้องรอเวลา เจ้าหน้าที่ก็มาถามพวกเราว่า สนใจไปทานอาหารกลางวันกันมั๊ย ถ้าสนใจ เค้าจะพานั่งรถไป แค่2นาทีเอง พร้อมมอบ free voucher ให้ด้วย 555 ใครจะปฏิเสธได้ลงคอ
Free lunch ที่ TMA lounge ชมวิว seaplane กันไปเพลินๆ เกือบบ่ายสอง ก็นั่งรถกลับ บังเอิญรถที่เรานั่งกลับ เป็นรถเวียนของสนามบิน ซึ่งวิ่งระหว่างสนามบินมาเล่ กับ สนามบินseaplane โดยมีlounge ของรีสอร์ทอยู่ระหว่างทาง เจ้าหน้าที่ TMA lounge จึงให้เราขึ้นไปแต่คงไม่ได้สื่อสารอะไร Driver จึงเข้าใจไปเองว่าพวกเราจะตรงไปสนามบินมาเล่
เมื่อรถมาจอดที่ Kuredu lounge ก่อนจะมีคนอื่นขึ้นรถ พวกเราก็ลุกและจะลง แต่ driver เบรคไว้ไม่ให้ลง พวกเราก็งงๆกัน และคิดว่าเค้าคงจะพาเราไปขึ้น seaplane เลยมั้งเพราะใกล้เวลาแล้วจึงนั่งต่อไป อ่ะOK ไปต่อ พอขับไปๆ อ้าว...ทางเดิมที่จะไปสนามบินมาเล่นี่นา ก็เข้าใจแล้ว ว่าเค้าคงเข้าใจผิด คิดว่าเราจะออกจากมัลดีฟส์นั่นเอง
พอถึงสนามบินมาเล่ ส่งคนอื่นลงหมด เราก็ไปบอกเค้าว่าพวกเราจะต้องขึ้นseaplane นะ ไม่ไช่จะกลับบ้าน เราเพิ่งมาถึง จะส่งเรากลับแล้วเหรอ...เค้าตกใจ และขอโทษพวกเรา จากนั้น ก็ซิ่งไปส่งพวกเราที่ Kuredu lounge ในทันที ก็เป็นอันว่า พวกเราไม่ตก seaplane กันละนะ
14.20 รถตู้พาพวกเรา 6คน และคนอื่นๆ อีกห้าหกคน ไปขึ้น seaplane ก่อนเครื่อง take off ก็จะเหมือนเรือที่วิ่งไปบนน้ำแบบช้าๆ สักพัก ก็speed และtake off ขึ้นไต่ระดับไปสูงพอประมาณ และบินไปในระดับความเร็วคงที่ ถึงตอนนี้ก็ชมวิวสองข้างทางไปเพลินๆสวยๆ ถ่ายรูปรัวๆ
15.00 ก่อนถึง Kuredu แวะส่งชาวญี่ปุ่น 2 คนลงทุ่นกลางน้ำของรีสอร์ท komandoo แล้วขึ้นบินตีโค้งมาลงจอดท่าเทียบเรือของ Kuredu
Ahmed คือ host ที่มารอต้อนรับเรา และพาเดินไปเช็คอินที่ main lobby ธรรมเนียมของ Kuredu จะมีการตีกลองต้อนรับแขกด้วย น่ารักดี หลังจากรับ welcome drink ก็ต้องชำระค่า seaplane คนละ $360 (ราคาไปกลับ)
Ahmed ตั้งอกตั้งใจอธิบายรายละเอียดทุกอย่างเกี่ยวกับ Kuredu เหมือนเข้าคอร์สอะไรสักอย่าง ยาวนานจนพวกเราต้องบอกพอละ อยากเข้าห้องพัก เค้าจึงพาเราไปรับอาหารว่าง ก่อนพาไปห้องพัก พวกเราแยกย้ายกันเข้าห้องใครห้องมัน ซึ่งห่างกันมาก คงเป็นผลจากการที่เราเปลี่ยนวันเข้าพักก่อนนี้นั่นเอง พักผ่อนแป๊บนึง ก็ไปรวมตัวกันชวนกันไปดินเนอร์
19.00 ได้เวลาอาหารเย็น บุฟเฟ่ต์แต่ละวันจะเปลี่ยนธีมไปในทุกๆวัน ซึ่งจัดเต็มมากทั้งอาหารและเครื่องดื่ม ทุกคนอิ่มมากกกก
คืนแรกเราเลือกพัก Beach Bungalow / All inclusive 3ห้อง 28,556 บาท/6 ตกคนละ 4,760 บาท
ห้องสวย สะอาด มีโซฟาเบด 1 ตัว ห้องน้ำ open air มีฟรีมินิบาร์จัดเต็ม ขนมเครื่องดื่มน้ำอัดลม น้ำผลไม้ ชากาแฟและนม
และกำนัลพิเศษ เพิ่มแชมเปญอีกห้องละขวด ฟรีคอร์สดำน้ำ ฟรีสปา ฟรีถ่ายรูปที่ระลึก ฟรีล่องเรือชมพระอาทิตย์ตก เหมือนจะคุ้ม แต่ไม่คุ้มเพราะพวกเรามีเวลาน้อยมาก กินไม่ไหว ใช้ไม่หมด
เพราะเมื่อกลับจากดินเนอร์ เราก็พบจดหมายแจ้งว่า วันรุ่งขึ้น ที่เราจอง water villa ไว้นั้น เราต้อง move 10 โมงเช้า คือ หลัง buffet breakfast นั่นเอง
คืนที่สองเราเลือกพัก Water Villa พร้อมอาหารสามมื้อ 3ห้อง 43,982 บาท/6 ตกคนละ 7,330 บาท
แน่นอน ห้องสวยสะอาด กว้าง มีระเบียงหน้าบ้านพร้อมเตียงอาบแดด มีทีวี ตู้เย็น เครื่องชงกาแฟ ฟรีมินิบาร์เหมือนเดิม
10โมง check in @ Water villa คราวนี้พวกเราได้ห้องเรียงกัน ตะโกนคุยกันที่ระเบียงริมน้ำได้เลย ชวนกันเล่นน้ำหน้าบ้าน แป๊บเดียว จากแดดจ้าๆ ฝนก็ตั้งเค้ามาแต่ไกล ฝนไม่ใช่ปัญหา แต่ปัญหาจริงๆคือ มีน้องฉลามตัวไม่ใหญไม่เล็ก มาว่ายด้วยนี่ซี่ ไม่กลัวนะ แต่... เพื่อนหนี เราก็ต้องหนีด้วย ขึ้นจากน้ำ อาบน้ำแต่งตัว พักผ่อนแป๊บเดียว ก็ถึงเวลา lunch อีกแล้ว
13.00 คือเวลาอาหารกลางวันของที่นี่ วันนี้เราเปลี่ยนมากินที่ restaurant สำหรับ water villa โดยเฉพาะ อาหารเครื่องดื่มหลากหลายจัดเต็มเหมือนเดิม หลังอาหาร ก็นั่งรถไปอีกด้านของเกาะ เดินย่อยชมวิวถ่ายรูปไปเรื่อยๆรอบเกาะ กลับเข้าห้องพัก บ่ายๆ ร้อนๆ แบบนี้เครื่องดื่มเต็มตู้เย็นเอามาดื่มกันบ้าง พักผ่อนและดื่มดำกับ water villa กันซะให้พอ
ห้าโมงเย็น แดดร่มลมตก พากันไปเดินเล่นริมหาด และเดินเรื่อยไปบน sand bank ที่ยาวสุดลูกหูลูกตา ทรายละเอียดขาวสะอาด น้ำทะเลสีฟ้าใสอ่อนสลับเข้ม และที่สำคัญ มีกระเบนสองตัวมาว่ายอวดโฉมให้ชมด้วย
ทุ่มตรง ได้เวลาดินเนอร์ ที่ restaurant โต๊ะใหญ่ถูกจัดรอพวกเราอย่างเรียบร้อยสวยงาม อิ่มหนำสำราญ กับอาหารและเครื่องดื่มแล้ว ก็กลับไปนอนดูดาวริมน้ำหน้าบ้าน อากาศดี๊ดีดูดาวได้ไม่ถึงชั่วโมง ฝนก็กระหน่ำลงมา ลมแรงมากจนบ้านสั่น ต้องเข้านอนโดยปริยาย
เช้าวันสุดท้ายที่ Kuredu ป้าๆ ขอเล่นน้ำในสระว่ายน้ำ จะได้ว่ายแบบสบายใจ ขึ้นจากน้ำก็จัดเต็ม Breakfast
11.00 check out รวม ๆ แล้ว พวกเราใช้เวลาน้อยมากที่ Kuredu แต่ก็นั่นแหละอย่างที่บอก เราก็แค่มา Say Hi…Maldives
กล้องดีๆ แพงๆ ก็ไม่มี มีแค่ มือถือ Vivo ธรรมดาๆ กับ Note 8
13.15 Seaplane พาพวกเรากลับมาเล่พร้อมลมแรงและฝนกระหน่ำ เลทจากกำหนดเดิมไปเกือบชั่วโมง และระหว่างทางก็มีฝนเป็นช่วงๆ สลับกับแดดเบาๆ ทัศนวิสัยไม่ค่อยดี แต่Seaplane ก็พาเราถึงจุดหมายได้อย่างปลอดภัย
จากสนามบิน TMA มีรถมาส่งที่สนามบินมาเล่ แต่เรายังไม่กลับ เราอยู่มัลดีฟส์ต่ออีกคืน เพราะอยากสัมผัสมัลดีฟส์อีกด้านนึง
คืนสุดท้าย เพื่อประหยัด เราเลือกนอนบนเกาะ Hulhumale ใกล้ๆ สนามบิน ห้องละเกือบสองพันรวมอาหารเช้า
เมื่อรวมค่าเดินทางไปกลับสนามบิน ก็ตกคนละ 1,100 บาท
จากสนามบินมาเล่ เราเลือกเดินทางไป เกาะHulhumale เอง โดยรถ Airport Shuttle bus ค่าโดยสารประมาณคนละ 50 บาท
ถ้าให้รถโรงแรมมารับเค้าคิดรวม 30$ต่อเที่ยว/6คน คิดเป็นเงินไทยเกือบพันบาท เราจึงเลือกใช้บริการรถโรงแรมเฉพาะขากลับในวันรุ่งขึ้น
เย็นนี้เราพากันไปเดินเล่น Hulhumale center park และท่าเรือเฟอรรี่
Dinner วันนี้ต้องซื้อกินเองละ ตกลงกินกันบนตึกสูง ร้าน Manhattan fish market อิ่มอร่อยสมราคา คนละ$15 (ประมาณ500บาท)
กินเสร็จ ชมบ้านเมืองและร้านค้าสองข้างทาง เดินไปเรื่อยๆ ไม่ทันเหนื่อยก็ถึงโรงแรม
เช้าสุดท้ายก่อนกลับกรุงเทพ มีเวลาพักผ่อนสบายๆ ก่อนและหลังอาหารเช้า เพราะเรานัดให้รถโรงแรมไปส่งสนามบินมาเล่ตอนสิบโมง
กลับถึงดอนเมืองช่วงค่ำๆ เป็นอันจบทริปของป้าๆ สว.สส. ทั้งหกแค่นี้
ขอบคุณที่รับชม และต้องขออภัยในความผิดพลาดในการรีวิวด้วยนะจ๊ะ ไม่ได้รีวิวมานานมากแล้ว
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้