สวัสดีครับเพื่อนๆชาวพันทิปทุกคน ผมมีเรื่องจะปรึกษาครับ เรื่องที่ผมเขียนอาจจะดูเหมือนแต่งนิยายเพราะผมอยากให้เพื่อนๆรับรู้ถึงอารมณ์ความรู้สึกว่าผมรู้สึกยังไง ว่าผมมีความสุขมากแค่ไหนเมื่อได้อยู่กับเพื่อนคนนี้ แต่ขอบอกเลยครับว่าเรื่องทั้งหมดไม่ใช่เรื่องแต่งแน่นอน
สวัสดีครับผมเป็นเด็กม.ปลายธรรมดาๆ ที่ดันไปรู้สึกดีกับเพื่อนผู้ชายด้วยกัน เพื่อนคนนี้สมมติว่าชื่อจ. ผมรู้จักกับจ.ตอนขึ้นม.4ใหม่ๆ เรามาจากคนละห้องกัน เพิ่งมาสนิทจริงๆก็ม.4เทอม2 เขาเป็นคนพูดเยอะ ชวนคุยนั่นนี่ ปกติแล้วผมจะรำคาญคนที่พูดมาก ขี้โม้ครับ แต่แปลกอย่างนึงคือเขาเป็นคนพูดเยอะแต่ไม่น่าเบื่อเลยครับ กลับมีเสน่ห์ด้วยซ้ำ มันมีหลายอย่างที่ผมชอบในตัวเขา จ.เป็นเพื่อนที่ผมอยู่ด้วยแล้วรู้สึกอบอุ่น คุยได้ทุกเรื่อง มีเรื่องอะไรเขาจะมาคุยกับผมครับ เวลาผมอยู่กับจ.ผมแทบจะมองไม่เห็นใครเลย เราเดินกลับบ้านด้วยกันบ่อยๆ(แม้จะมีเพื่อนคนอื่นๆเดินด้วย แต่สุดท้ายก็เหลือเราสองคนอยู่ดี) เวลาเดินกับกลุ่มเพื่อนช่วงพักเที่ยง คนที่เดินนำหน้ามักจะเป็นผมกับจ.2คน เราเดินคุยกันอย่างออกรส เล่นขัดขากัน หัวเราะได้เต็มที่(แหงแหละครับ ตอนเรียนภาคเช้าไม่ได้คุยกันเลยเพราะทุกคนตั้งใจฟังอาจารย์สอน) เราเดินไปคุยไปโดยไม่ได้สนเลยครับว่าเพื่อนคนอื่นๆจะเดินตามมาหรือป่าว บางทีหันไป นู่นนเพื่อนห่างตั้งไกลเลยต้องหยุดรอเพื่อนอยู่บ่อยๆ จ.จะเป็นที่คอยปล่อยมุกใส่ผม(ใส่เพื่อนคนอื่นๆด้วยแหละ)ฮาบ้าง ไม่ฮาบ้าง แต่ผมก็หัวเราะอยู่ดีนั่นแหละ อ่านถึงตรงนี้เพื่อนๆคงคิดใช่มั้ยครับว่าความสัมพันธ์ของผมกับจ.จะราบรื่น เปล่าครับ
อย่างที่บอกว่าเราคุยกันได้ทุกเรื่อง แม้กระทั่งเรื่องผญ.ที่เขาแอบชอบ ตอนแรกผมก็เฉยๆเพราะยังไม่ได้รู้สึกชอบจ.เกินคำว่าเพื่อน บวกกับผู้หญิงที่เขาแอบชอบก็เป็นคนเพอร์เฟคจนผมคิดว่ายังไงเค้าคนนั้นก็ไม่มีทางชอบมัน 55555 (ปล.ตอนนี้ผมยังสับสนอยู่ว่าจริงๆแล้วตัวเองชอบผู้ชายหรือผู้หญิง) ผมก็รับฟัง แล้วก็แซวมันเล่นตามประสาเพื่อนเล่นกัน จนเวลาผ่านไป ด้วยความที่เราสนิทกันมากขึ้น เล่นถึงเนื้อถึงตัวกันมากขึ้น ช่วงเวลาดีๆที่มีให้กัน(แบบเพื่อน)ก็มีมากขึ้น ทำให้ผมสับสนว่าผมชอบจ.เหรอ ซึ่งไม่น่าแปลกถ้าจะมีคนชอบจ.เพราะหลงเสน่ห์เขา(เหมือนผม) และแน่นอนโมเม้นของจ.กับคนที่ชอบก็มีมากขึ้นเช่นกัน ตอนนี้เวลาที่จ.คุยเรื่องผญ.คนนั้นกับผม ก็ไม่ได้คุยอะไรหรอกครับส่วนมากก็มาคุยเรื่องความน่ารักของฝ่ายหญิง แล้วเจ้าตัวก็ทำท่าทีเขิน เห็นแบบนั้นแล้วความรู้สึกเฉยๆก็เปลี่ยนไป ผมรู้สึกชาๆที่หน้า ที่มือ รู้สึกเจ็บที่หัวใจ ยิ้ม,หัวเราะแบบฝืนๆ ไม่กล้าสบตาเพราะถ้าจ.เห็นนัยตาของผมเขาคงรู้แน่ว่าผมรู้สึกไม่พอใจ ผมพยายามเก็บความรู้สึกตัวเอง ดำเนินต่อไปให้เป็นปกติที่สุด ผมกับจ.มักจะเล่นผลักกันแรงๆแต่ก็ไม่ได้โกรธกันจริงจัง เล่นกันเฉพาะเวลาที่ผมเล่นมุกล้อเค้าแล้วขำมากๆครับ แต่คราวนี้เขาพูดถึงคนนั้นให้ผมฟัง ผมก็พยายามรับฟังแล้วขำตอบแบบเจื่อนๆ ผมรู้สึกชาๆเจ็บๆแบบเดิมครับ แล้วผมก็พูดล้อคนนั้นของมันแบบเดิม แต่คราวนี้ผมพูดลามปามไปหน่อย มันก็เลยตบหัวผมแล้วผลักผมเหมือนที่เคยเล่นกัน(มันก็เล่นขำๆแหละ+ความหวงผญ.เรื่องที่ผมไปล้อเค้าแรงๆ) ผมก็หัวเราะกลบเกลื่อนในใจรู้สึกเจ็บ มันไม่ใช่ความเจ็บเพราะโดนตบหัว แต่มันเป็นความเจ็บที่ผมไม่มีสิทธิ์ไปยุ่งเรื่องของเขาสองคน(อันนี้คิดเอง จ.คงไม่ได้คิดอะไรขนาดนั้น ...มั้ง) ผมก็นั่งนิ่งไปแต่ดีที่มีเพื่อนคนอื่นๆนั่งอยู่ด้วย เขาเลยจับสังเกตไม่ได้ว่าผมดูนิ่งๆแปลกๆ สักพักผมก็บอกลาเพื่อนคนหนิ่งที่นั่งใกล้ผม แล้วก็กลับบ้านไปเลย วันนั้นผมไม่เป็นอันจะทำการบ้าน ผมนอนคิดทวนดูสิ่งที่เราเป็น เราเป็นเพื่อนกันไม่ใช่เหรอทำไมผมถึงคิดเกินเพื่อน เรารู้สึกดีต่อกันไม่ใช่เหรอหรือเราคิดไปเองข้างเดียว ความสับสนมาเยือนผมนอนคิดทั้งคืน ดราม่าตัวเอง เจ็บจนจะร้องไห้ แล้วก็หลับไปเพราะเหนื่อยมาทั้งวัน
สิ่งที่ผมคิดเมื่อคืนคือจะเลิกไปยุ่งเกี่ยวกับจ.และเรื่องของจ. ทำตัวปกติ แต่สิ่งที่ผมทำมันเป็นการเมิน...หรือป่าว? ตอนเช้าของทุกๆวัน เวลามาถึงรร.ผมจะลากเก้าอี้ไปนั่งใกล้แล้วคุยเรื่องสัพเพเหระของผมไป แต่วันนี้ผมกลับวางกระเป๋าแล้วแยกไปคุยกับเพื่อนกลุ่มอื่น เขาถามเรื่องงานที่อาจารย์สั่งผมก็ตอบแบบถามคำตอบคำ และเป็นอย่างที่คิดผมไม่กล้าสบตานัก เพื่อนที่นั่งใกล้เขาคุยกับผม ผมก็มองที่เพื่อนคนนั้นอย่างเดียวไม่กล้าเบนสายตาไปมองจ. แต่จากที่เห็นจากหางตา จ.กำลังมองผมด้วยความสงสัย ตอนกินข้าวผมกับเพื่อนๆคนอื่นรวมถึงจ.ไปกินข้าวที่โรงอาหารเราไม่ได้เดินไปคุยไปเหมือนแต่ก่อน แต่ผมเดินชิดติดกับเพื่อนสนิทของผม เพราะไม่อยากให้จ.เข้ามาชวนผมคุย เราได้นั่งที่ติดกันเหมือนอย่างเคย เรากินข้าวโดยไม่ได้คุยกันแต่ผมกับแสร้งคุยกับเพื่อนคนอื่นอย่างสนุกสนาน ลืมบอกไปว่าในห้องจ.เป็นคนเฮฮา ปล่อยมุกแซวอาจารย์ให้เพื่อนได้ฮากันทั้งห้อง แต่วันนี้ผมสังเกตได้เลยว่าเขาเงียบรวมถึงตอนที่นั่งกินข้าว ในใจผมรู้สึกไม่มีความสุขเลยที่ต้องเห็นจ.หงอยอย่างงี้ ผมคิดไปเองหรือปล่าวว่าจ.เงียบผิดแปลกไปเพราะผม ผมเห็นอย่างนั้นผมก็อยากจะเข้าไปคุยด้วยครับ อยากถามว่า'เป็นไรวันนี้ ทำไมเงียบจัง'แล้วส่งยิ้มหวานให้ ยักคิ้วหน่อยๆ เนี่ยผมคิดไว้หมดแล้วว่าจะทำยังไงบ้าง แต่ผมก็คิดถึงความเจ็บด้วยถ้าเรากลับไปสนิทแบบเดิมเราก็จะเจ็บแบบเดิม สุดท้ายคำพูดที่ผมคิดไว้ในหัวเลยไม่ได้ถูกพูดออกไป....
ตอนบ่ายๆในวันเดียวกันผมลุกออกจากที่นั่งตัวเองเพราะความเบื่อ เพื่อนผู้หญิงสองสามคนขอให้ผมติวหนังสือให้ครับ เพราะคาบต่อไปจะสอบแล้วเราเลยนั่งติวบนพื้นห้องใต้พัดลมตัวหนึ่ง(หน้าร้อนอากาศร้อนมากๆ) ติวไปเรื่อยๆจ.ก็มานั่งล้อมวงกับผมครับโดยนั่งข้างๆผม (ผมรู้สึกใจชื้นแปลกๆ เพราะคิดว่าเขาคิดถึงผม เหรอ?555 ผมไม่กล้าคิดอย่างนั้นหรอก)ผมไม่ได้สนใจ ไม่อยากจะสนใจเพราะเรื่องที่อธิบายไปนั่นแหละครับ เพื่อนถามตรงนั้นตรงนี้ผมก็อธิบายไป พอจ.ถามผมก็อธิบายไปครับ(ไม่อยากงอนโดยใช่เหตุเหมือนตอนกลางวัน เดี๋ยวเพื่อนผญ.จะหาว่าผมไม่แมน
) หลังจากหมดคาบว่างผมก็เลิกติวแล้วเตรียมตัวเรียนวิชาต่อไป เขาก็แกล้งทำเป็นลุกไม่ขึ้นแล้วส่งมือให้ผมดึง ผมก็ดึงปกติและแน่นอนครับผมไม่ได้สบตาเพราะใจที่เต้นแรงมากๆในตอนนั้น ช่วงเย็นเราเรียนภาษาครับ วันนี้มีนัดกินข้าวหลังเลิกเรียนกะเพื่อนที่ร้านข้าวหน้ารร. เราไปกันบ่อยกับกลุ่มเพื่อนๆ ผมนัดเพื่อนคนอื่นๆที่เรียนคนละตึกไว้(แต่ห้องเดียวกัน) จ.ที่เรียนตึกเดียวกะผมมาชวนผมไปร้านประจำ แต่ผมบอกว่าไปก่อนเลยนัดเพื่อนอีกคนไว้(ตลกมั้ยครับยังไงก็นั่งกินด้วยกันแท้ๆ ไม่เนียนเลยเนอะ555) แต่เขากลับพูดติดตลกว่า'งั้นกูไปก่อนนะ ไปช้าที่เต็มแน่' ผมไม่ได้ยิ้มให้ ผมไม่ได้เงยไปสบตาด้วยซ้ำ ไม่อยากยุ่งเกี่ยวอะไรด้วยเลย แย่จัง :'(
พอพวกเรากินข้าวเสร็จ ในร้านก็จะชุลมุนวุ่นวายเพราะเพื่อนผมจะลุกไปหยิบนู่นตักนี่มากิน ผมในตอนนั้นก็เงียบปนเศร้าลุกออกไปหาอะไรมากินบ้าง พอกินเสร็จผมก็บอกเพื่อนว่าจะกลับ แต่ไม่ได้บอกทุกคน จ.ได้ยินเลยบอกว่าจะไปส่งแล้วบอกจะเลี้ยงอะไรสักอย่างแหละนี่แหละ ผมก็ยิ้มๆให้แล้วเดินออกจากร้านไปกับเพื่อนที่กลับทางเดียวกัน แย่เนอะ ผมไม่ได้สนใจที่เขาพูดเลย ผมอยู่บนรถรับส่งนักเรียนแล้วก็คิดไปพลางๆเกี่ยวกับเรื่องราวในวันนี้ สายตาก็มองหาเขาไปด้วย เพราะปกติเราจะเดินมาด้วยกัน แต่หันมองบ่อยเท่าไหร่ผมก็ไม่เห็นสักที ผมเลยหาอะไรมานั่งอ่านพอเงยหน้าอีกทีก็เห็นหลังไวๆเดินเลี้ยวตรงหัวมุมแล้วครับ บ้าเอ้ยมองตั้งนานไม่เห็น แต่เท่าที่มองผมเห็นเขาเดินคนเดียว .......... ตอนนั้นผมทิ้งชีทที่อ่านลงบนตัก ในใจรู้สึกโทษตัวเองซ้ำไปซ้ำมา ทำไมผมถึงปล่อยให้เขาเดินกลับบ้านคนเดียว ผมรู้ว่าคนที่เคยมีเพื่อนเดินด้วยทุกวัน แล้วต้องมาเดียวคนเดียวมันรู้สึกแย่แค่ไหน ตอนนั้นผมรู้เลยว่าผมให้อภัยเค้าทุกอย่าง ผมไม่เป็นอันอ่านชีทต่อ คิ้วทั้งสองเริ่มขมวดเข้าหากัน ในหัวมันตื้อไปหมดผมทำอะไรลงไป ถ้าคนที่นั่งข้างผมหันมามองผมตอนนั้นหล่ะก็ เขาคงสงสัยว่าผมเครียดอะไร เรียนหนักไปเหรอน้อง ผมกลับบ้านมาด้วยความเหนื่อยล้า ร่างกายอ่อนไปหมด อาบน้ำ ทำการบ้าน กินข้าว นอน แต่ก็ยังไม่ลืมที่จะระบายความรู้สึกลงบนทวิตเตอร์แอคเคาท์เดิมของผม(สร้างเพื่อระบายโดยเฉพาะ) ผมสัญญาว่าจะกลับไปเป็นเพื่อนสนิทที่ดีเหมือนเดิม และจะยินดีด้วย ถ้าจ.พูดชมหรือโม้เรื่องคนๆนั้นให้ผมฟังอีก หลังจากนั้นมาผมก็มีท่าทีเหมือนเดิมทุกอย่าง (ถ้าผมเป็นเขาผมคงคิดว่าไอนี่เป็นไบโพลาร์หรือปล่าว XD) ผมทำทุกอย่างเหมือนเดิมครับ เหมือนเดิมแม้กระทั่งรู้สึกไม่พอใจเมื่อจ.พูดถึงคนนั้น .. นั่นไงผมทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับตัวเองไม่ได้
******ผมเล่าปัญหาของผมจบแล้วครับ ตอนนี้ผมขอปรึกษาว่าผมควรจะทำยังไง จะสนิทกันเหมือนเดิมและต้องทนเจ็บเหมือนเดิม กับทำตัวห่างเหินและเจ็บที่เห็นเขาหงอย(จ.ไม่ได้หงอยเพราะไม่มีเพื่อนนะครับ เขาเพื่อนเยอะออก) ผมเป็นทุกข์มากครับ รู้สึกเหมือนว่าผมแพ้ทุกทางเลย ผมไม่รู้จะไปต่อยังไง ไม่อยากเสียเพื่อนคนนี้ไปเลยจริงๆครับ แนะนำด้วยครับ ขอบคุณครับ
ปล.ทำไมอ่านดูแล้วเหมือนแต่งนิยายเลย555 แต่ยังไงก็แล้วแต่มันมาจาดเรื่องจริงทั้งหมดครับ
[เล่าเรื่อง+ปรึกษา] แอบชอบเพื่อนที่เป็นผู้ชายด้วยกัน ทำไงดีครับผมไปต่อไม่เป็นแล้วTT
สวัสดีครับผมเป็นเด็กม.ปลายธรรมดาๆ ที่ดันไปรู้สึกดีกับเพื่อนผู้ชายด้วยกัน เพื่อนคนนี้สมมติว่าชื่อจ. ผมรู้จักกับจ.ตอนขึ้นม.4ใหม่ๆ เรามาจากคนละห้องกัน เพิ่งมาสนิทจริงๆก็ม.4เทอม2 เขาเป็นคนพูดเยอะ ชวนคุยนั่นนี่ ปกติแล้วผมจะรำคาญคนที่พูดมาก ขี้โม้ครับ แต่แปลกอย่างนึงคือเขาเป็นคนพูดเยอะแต่ไม่น่าเบื่อเลยครับ กลับมีเสน่ห์ด้วยซ้ำ มันมีหลายอย่างที่ผมชอบในตัวเขา จ.เป็นเพื่อนที่ผมอยู่ด้วยแล้วรู้สึกอบอุ่น คุยได้ทุกเรื่อง มีเรื่องอะไรเขาจะมาคุยกับผมครับ เวลาผมอยู่กับจ.ผมแทบจะมองไม่เห็นใครเลย เราเดินกลับบ้านด้วยกันบ่อยๆ(แม้จะมีเพื่อนคนอื่นๆเดินด้วย แต่สุดท้ายก็เหลือเราสองคนอยู่ดี) เวลาเดินกับกลุ่มเพื่อนช่วงพักเที่ยง คนที่เดินนำหน้ามักจะเป็นผมกับจ.2คน เราเดินคุยกันอย่างออกรส เล่นขัดขากัน หัวเราะได้เต็มที่(แหงแหละครับ ตอนเรียนภาคเช้าไม่ได้คุยกันเลยเพราะทุกคนตั้งใจฟังอาจารย์สอน) เราเดินไปคุยไปโดยไม่ได้สนเลยครับว่าเพื่อนคนอื่นๆจะเดินตามมาหรือป่าว บางทีหันไป นู่นนเพื่อนห่างตั้งไกลเลยต้องหยุดรอเพื่อนอยู่บ่อยๆ จ.จะเป็นที่คอยปล่อยมุกใส่ผม(ใส่เพื่อนคนอื่นๆด้วยแหละ)ฮาบ้าง ไม่ฮาบ้าง แต่ผมก็หัวเราะอยู่ดีนั่นแหละ อ่านถึงตรงนี้เพื่อนๆคงคิดใช่มั้ยครับว่าความสัมพันธ์ของผมกับจ.จะราบรื่น เปล่าครับ
อย่างที่บอกว่าเราคุยกันได้ทุกเรื่อง แม้กระทั่งเรื่องผญ.ที่เขาแอบชอบ ตอนแรกผมก็เฉยๆเพราะยังไม่ได้รู้สึกชอบจ.เกินคำว่าเพื่อน บวกกับผู้หญิงที่เขาแอบชอบก็เป็นคนเพอร์เฟคจนผมคิดว่ายังไงเค้าคนนั้นก็ไม่มีทางชอบมัน 55555 (ปล.ตอนนี้ผมยังสับสนอยู่ว่าจริงๆแล้วตัวเองชอบผู้ชายหรือผู้หญิง) ผมก็รับฟัง แล้วก็แซวมันเล่นตามประสาเพื่อนเล่นกัน จนเวลาผ่านไป ด้วยความที่เราสนิทกันมากขึ้น เล่นถึงเนื้อถึงตัวกันมากขึ้น ช่วงเวลาดีๆที่มีให้กัน(แบบเพื่อน)ก็มีมากขึ้น ทำให้ผมสับสนว่าผมชอบจ.เหรอ ซึ่งไม่น่าแปลกถ้าจะมีคนชอบจ.เพราะหลงเสน่ห์เขา(เหมือนผม) และแน่นอนโมเม้นของจ.กับคนที่ชอบก็มีมากขึ้นเช่นกัน ตอนนี้เวลาที่จ.คุยเรื่องผญ.คนนั้นกับผม ก็ไม่ได้คุยอะไรหรอกครับส่วนมากก็มาคุยเรื่องความน่ารักของฝ่ายหญิง แล้วเจ้าตัวก็ทำท่าทีเขิน เห็นแบบนั้นแล้วความรู้สึกเฉยๆก็เปลี่ยนไป ผมรู้สึกชาๆที่หน้า ที่มือ รู้สึกเจ็บที่หัวใจ ยิ้ม,หัวเราะแบบฝืนๆ ไม่กล้าสบตาเพราะถ้าจ.เห็นนัยตาของผมเขาคงรู้แน่ว่าผมรู้สึกไม่พอใจ ผมพยายามเก็บความรู้สึกตัวเอง ดำเนินต่อไปให้เป็นปกติที่สุด ผมกับจ.มักจะเล่นผลักกันแรงๆแต่ก็ไม่ได้โกรธกันจริงจัง เล่นกันเฉพาะเวลาที่ผมเล่นมุกล้อเค้าแล้วขำมากๆครับ แต่คราวนี้เขาพูดถึงคนนั้นให้ผมฟัง ผมก็พยายามรับฟังแล้วขำตอบแบบเจื่อนๆ ผมรู้สึกชาๆเจ็บๆแบบเดิมครับ แล้วผมก็พูดล้อคนนั้นของมันแบบเดิม แต่คราวนี้ผมพูดลามปามไปหน่อย มันก็เลยตบหัวผมแล้วผลักผมเหมือนที่เคยเล่นกัน(มันก็เล่นขำๆแหละ+ความหวงผญ.เรื่องที่ผมไปล้อเค้าแรงๆ) ผมก็หัวเราะกลบเกลื่อนในใจรู้สึกเจ็บ มันไม่ใช่ความเจ็บเพราะโดนตบหัว แต่มันเป็นความเจ็บที่ผมไม่มีสิทธิ์ไปยุ่งเรื่องของเขาสองคน(อันนี้คิดเอง จ.คงไม่ได้คิดอะไรขนาดนั้น ...มั้ง) ผมก็นั่งนิ่งไปแต่ดีที่มีเพื่อนคนอื่นๆนั่งอยู่ด้วย เขาเลยจับสังเกตไม่ได้ว่าผมดูนิ่งๆแปลกๆ สักพักผมก็บอกลาเพื่อนคนหนิ่งที่นั่งใกล้ผม แล้วก็กลับบ้านไปเลย วันนั้นผมไม่เป็นอันจะทำการบ้าน ผมนอนคิดทวนดูสิ่งที่เราเป็น เราเป็นเพื่อนกันไม่ใช่เหรอทำไมผมถึงคิดเกินเพื่อน เรารู้สึกดีต่อกันไม่ใช่เหรอหรือเราคิดไปเองข้างเดียว ความสับสนมาเยือนผมนอนคิดทั้งคืน ดราม่าตัวเอง เจ็บจนจะร้องไห้ แล้วก็หลับไปเพราะเหนื่อยมาทั้งวัน
สิ่งที่ผมคิดเมื่อคืนคือจะเลิกไปยุ่งเกี่ยวกับจ.และเรื่องของจ. ทำตัวปกติ แต่สิ่งที่ผมทำมันเป็นการเมิน...หรือป่าว? ตอนเช้าของทุกๆวัน เวลามาถึงรร.ผมจะลากเก้าอี้ไปนั่งใกล้แล้วคุยเรื่องสัพเพเหระของผมไป แต่วันนี้ผมกลับวางกระเป๋าแล้วแยกไปคุยกับเพื่อนกลุ่มอื่น เขาถามเรื่องงานที่อาจารย์สั่งผมก็ตอบแบบถามคำตอบคำ และเป็นอย่างที่คิดผมไม่กล้าสบตานัก เพื่อนที่นั่งใกล้เขาคุยกับผม ผมก็มองที่เพื่อนคนนั้นอย่างเดียวไม่กล้าเบนสายตาไปมองจ. แต่จากที่เห็นจากหางตา จ.กำลังมองผมด้วยความสงสัย ตอนกินข้าวผมกับเพื่อนๆคนอื่นรวมถึงจ.ไปกินข้าวที่โรงอาหารเราไม่ได้เดินไปคุยไปเหมือนแต่ก่อน แต่ผมเดินชิดติดกับเพื่อนสนิทของผม เพราะไม่อยากให้จ.เข้ามาชวนผมคุย เราได้นั่งที่ติดกันเหมือนอย่างเคย เรากินข้าวโดยไม่ได้คุยกันแต่ผมกับแสร้งคุยกับเพื่อนคนอื่นอย่างสนุกสนาน ลืมบอกไปว่าในห้องจ.เป็นคนเฮฮา ปล่อยมุกแซวอาจารย์ให้เพื่อนได้ฮากันทั้งห้อง แต่วันนี้ผมสังเกตได้เลยว่าเขาเงียบรวมถึงตอนที่นั่งกินข้าว ในใจผมรู้สึกไม่มีความสุขเลยที่ต้องเห็นจ.หงอยอย่างงี้ ผมคิดไปเองหรือปล่าวว่าจ.เงียบผิดแปลกไปเพราะผม ผมเห็นอย่างนั้นผมก็อยากจะเข้าไปคุยด้วยครับ อยากถามว่า'เป็นไรวันนี้ ทำไมเงียบจัง'แล้วส่งยิ้มหวานให้ ยักคิ้วหน่อยๆ เนี่ยผมคิดไว้หมดแล้วว่าจะทำยังไงบ้าง แต่ผมก็คิดถึงความเจ็บด้วยถ้าเรากลับไปสนิทแบบเดิมเราก็จะเจ็บแบบเดิม สุดท้ายคำพูดที่ผมคิดไว้ในหัวเลยไม่ได้ถูกพูดออกไป....
ตอนบ่ายๆในวันเดียวกันผมลุกออกจากที่นั่งตัวเองเพราะความเบื่อ เพื่อนผู้หญิงสองสามคนขอให้ผมติวหนังสือให้ครับ เพราะคาบต่อไปจะสอบแล้วเราเลยนั่งติวบนพื้นห้องใต้พัดลมตัวหนึ่ง(หน้าร้อนอากาศร้อนมากๆ) ติวไปเรื่อยๆจ.ก็มานั่งล้อมวงกับผมครับโดยนั่งข้างๆผม (ผมรู้สึกใจชื้นแปลกๆ เพราะคิดว่าเขาคิดถึงผม เหรอ?555 ผมไม่กล้าคิดอย่างนั้นหรอก)ผมไม่ได้สนใจ ไม่อยากจะสนใจเพราะเรื่องที่อธิบายไปนั่นแหละครับ เพื่อนถามตรงนั้นตรงนี้ผมก็อธิบายไป พอจ.ถามผมก็อธิบายไปครับ(ไม่อยากงอนโดยใช่เหตุเหมือนตอนกลางวัน เดี๋ยวเพื่อนผญ.จะหาว่าผมไม่แมน) หลังจากหมดคาบว่างผมก็เลิกติวแล้วเตรียมตัวเรียนวิชาต่อไป เขาก็แกล้งทำเป็นลุกไม่ขึ้นแล้วส่งมือให้ผมดึง ผมก็ดึงปกติและแน่นอนครับผมไม่ได้สบตาเพราะใจที่เต้นแรงมากๆในตอนนั้น ช่วงเย็นเราเรียนภาษาครับ วันนี้มีนัดกินข้าวหลังเลิกเรียนกะเพื่อนที่ร้านข้าวหน้ารร. เราไปกันบ่อยกับกลุ่มเพื่อนๆ ผมนัดเพื่อนคนอื่นๆที่เรียนคนละตึกไว้(แต่ห้องเดียวกัน) จ.ที่เรียนตึกเดียวกะผมมาชวนผมไปร้านประจำ แต่ผมบอกว่าไปก่อนเลยนัดเพื่อนอีกคนไว้(ตลกมั้ยครับยังไงก็นั่งกินด้วยกันแท้ๆ ไม่เนียนเลยเนอะ555) แต่เขากลับพูดติดตลกว่า'งั้นกูไปก่อนนะ ไปช้าที่เต็มแน่' ผมไม่ได้ยิ้มให้ ผมไม่ได้เงยไปสบตาด้วยซ้ำ ไม่อยากยุ่งเกี่ยวอะไรด้วยเลย แย่จัง :'(
พอพวกเรากินข้าวเสร็จ ในร้านก็จะชุลมุนวุ่นวายเพราะเพื่อนผมจะลุกไปหยิบนู่นตักนี่มากิน ผมในตอนนั้นก็เงียบปนเศร้าลุกออกไปหาอะไรมากินบ้าง พอกินเสร็จผมก็บอกเพื่อนว่าจะกลับ แต่ไม่ได้บอกทุกคน จ.ได้ยินเลยบอกว่าจะไปส่งแล้วบอกจะเลี้ยงอะไรสักอย่างแหละนี่แหละ ผมก็ยิ้มๆให้แล้วเดินออกจากร้านไปกับเพื่อนที่กลับทางเดียวกัน แย่เนอะ ผมไม่ได้สนใจที่เขาพูดเลย ผมอยู่บนรถรับส่งนักเรียนแล้วก็คิดไปพลางๆเกี่ยวกับเรื่องราวในวันนี้ สายตาก็มองหาเขาไปด้วย เพราะปกติเราจะเดินมาด้วยกัน แต่หันมองบ่อยเท่าไหร่ผมก็ไม่เห็นสักที ผมเลยหาอะไรมานั่งอ่านพอเงยหน้าอีกทีก็เห็นหลังไวๆเดินเลี้ยวตรงหัวมุมแล้วครับ บ้าเอ้ยมองตั้งนานไม่เห็น แต่เท่าที่มองผมเห็นเขาเดินคนเดียว .......... ตอนนั้นผมทิ้งชีทที่อ่านลงบนตัก ในใจรู้สึกโทษตัวเองซ้ำไปซ้ำมา ทำไมผมถึงปล่อยให้เขาเดินกลับบ้านคนเดียว ผมรู้ว่าคนที่เคยมีเพื่อนเดินด้วยทุกวัน แล้วต้องมาเดียวคนเดียวมันรู้สึกแย่แค่ไหน ตอนนั้นผมรู้เลยว่าผมให้อภัยเค้าทุกอย่าง ผมไม่เป็นอันอ่านชีทต่อ คิ้วทั้งสองเริ่มขมวดเข้าหากัน ในหัวมันตื้อไปหมดผมทำอะไรลงไป ถ้าคนที่นั่งข้างผมหันมามองผมตอนนั้นหล่ะก็ เขาคงสงสัยว่าผมเครียดอะไร เรียนหนักไปเหรอน้อง ผมกลับบ้านมาด้วยความเหนื่อยล้า ร่างกายอ่อนไปหมด อาบน้ำ ทำการบ้าน กินข้าว นอน แต่ก็ยังไม่ลืมที่จะระบายความรู้สึกลงบนทวิตเตอร์แอคเคาท์เดิมของผม(สร้างเพื่อระบายโดยเฉพาะ) ผมสัญญาว่าจะกลับไปเป็นเพื่อนสนิทที่ดีเหมือนเดิม และจะยินดีด้วย ถ้าจ.พูดชมหรือโม้เรื่องคนๆนั้นให้ผมฟังอีก หลังจากนั้นมาผมก็มีท่าทีเหมือนเดิมทุกอย่าง (ถ้าผมเป็นเขาผมคงคิดว่าไอนี่เป็นไบโพลาร์หรือปล่าว XD) ผมทำทุกอย่างเหมือนเดิมครับ เหมือนเดิมแม้กระทั่งรู้สึกไม่พอใจเมื่อจ.พูดถึงคนนั้น .. นั่นไงผมทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับตัวเองไม่ได้
******ผมเล่าปัญหาของผมจบแล้วครับ ตอนนี้ผมขอปรึกษาว่าผมควรจะทำยังไง จะสนิทกันเหมือนเดิมและต้องทนเจ็บเหมือนเดิม กับทำตัวห่างเหินและเจ็บที่เห็นเขาหงอย(จ.ไม่ได้หงอยเพราะไม่มีเพื่อนนะครับ เขาเพื่อนเยอะออก) ผมเป็นทุกข์มากครับ รู้สึกเหมือนว่าผมแพ้ทุกทางเลย ผมไม่รู้จะไปต่อยังไง ไม่อยากเสียเพื่อนคนนี้ไปเลยจริงๆครับ แนะนำด้วยครับ ขอบคุณครับ
ปล.ทำไมอ่านดูแล้วเหมือนแต่งนิยายเลย555 แต่ยังไงก็แล้วแต่มันมาจาดเรื่องจริงทั้งหมดครับ