แกงเขียวหวานไก่ สูตรมัดใจฝามี
แกงเขียวหวานไก่ คืออาหารไทยอีกหนึ่งเมนูที่มีชื่อเสียงมากที่สุด
นั่นคงเป็นเพราะรสชาติที่หลากหลาย มีทั้ง เผ็ด หวาน มัน และเค็ม
อีกทั้งยังสามารถทานกับทั้งข้าวสวย และขนมจีนก็ได้
ผมเชื่อว่า เมนูแกงเขียวหวานไก่ น่าจะติดหนึ่งในห้า
ของรายการอาหารไทยที่คนไทยชอบทานมากที่สุด
รวมไปถึงสามีของคุณๆก็น่าจะชื่นชอบเมนูเด็ดเมนูนี้เช่นเดียวกัน
ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องยากที่คุณสาวๆจะใช้เมนูนี้มัดใจคุณฝามี
รับรองว่าฝามี หรือสามีของคุณจะไม่ยอมไปทานแกงเขียวหวานที่ไหนอีก
ขนาดนั้นจริงๆนะครับ
ส่วนวิธีปรุงก็ไม่ได้ยากอะไรมากมาย
เพราะส่วนที่ยากก็คือจะปรุงอย่างไรให้แกงอร่อยก็เท่านั้น
ดังนั้นขั้นตอนและเคล็ดลับเล็กๆน้อยๆ
จึงสำคัญมากที่จะทำให้แกงมีรสชาติดีขึ้น
วันนี้ผมจึงขออาสาเอาขั้นตอน
และเคล็ดลับในการทำแกงเขียวหวานไก่มาฝากสาวๆ
ที่อยากจะทำให้คุณสามีทาน
เสน่ห์ปลายจวักผัวรักจนตาย ยังสามารถใช้ได้อยู่นะคุณ
ผมคิดว่าเคล็ดลับของผมทำให้แกงอร่อยขึ้นได้จริง
เพราะผ่านการการันตีจากเพื่อนฝูงมากมาย
จริงๆนะ ไม่ได้โม้!!!!!
ถ้าไม่รักคุณๆที่ติดตามผมมานาน ผมคงไม่ยอมเผยเคล็ดลับอย่างแน่นอน
แต่ไหนๆจะเปิดเผยแล้ว ก็เปิดให้มันหมดเปลือกไปเลย
ก่อนอื่นคงต้องว่ากันถึงพริกแกง
แกงจะอร่อย ต้องทำพริกแกงเอง ถ้าไปซื้อสำเร็จก็หมดกันพอดี
วัตถุดิบทุกอย่างต้องคัดสรรอย่างดีที่สุด
พริกชี้ฟ้าเขียว 20 เม็ด หรือตามชอบ
เลือกที่ไม่อ่อนไม่แก่จนเกินไป รสชาติความเผ็ดจะได้อยู่ระหว่างกลาง
ข่า 5 แว่น ตะไคร้ 2 ต้น ซอย
หอมแดง 3 หัว ซอย
กระเทียมไทย 15 กลีบ ต้องไทยเท่านั้น ถึงจะให้กลิ่นหอมหวนที่สุด
ขมิ้น เท่านิ้วก้อย ถ้าอยากให้แกงมีสีเหลืองจัดก็ใส่มากหน่อย
กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ ควรจะเป็นกะปิอย่างดี ของผมใช้กะปิคลองโคนเท่านั้น
ยี่ห้อเขารับประกันความอร่อยไปในตัวอยู่แล้ว
ลูกผักชี 2 ช้อนโต๊ะ
พริกไทยดำ 1ช้อนโต๊ะ
และยี่หร่า ยี่หร่าใช้หยิบมือเดียวก็พอ ถ้าใส่เยอะกลิ่นจะแรงเกินไป
ผิวมะกรูด นิดเดียว ถ้าเยอะ แกงจะมีรสขม
เกลือทะเลเม็ด 1 ช้อนชา รสจะอ่อนกว่าเกลือปรุงทิพย์
นมสด ครึ่งถ้วยตวง ได้ยินไม่ผิดหรอกครับ
นมสดผมใช้เติมตอนปั่นเครื่องแกงทั้งหมดผสมกัน
แต่ถ้าจะโขลกเครื่องแกงเอง ก็ไม่จำเป็นต้องใส่
แต่ผมชอบกลิ่นแกงที่มีกลิ่นนมผสมอยู่นิดหน่อย
จึงใช้เครื่องปั่นเครื่องแกงแทนการโขลก
(จริงๆแล้วขี้เกียจโขลกมากกว่า555)
วิธีทำเครื่องแกงก็โคตะระง่าย
เอาเครื่องที่กล่าวมาทั้งหมด ไปคั่วไฟให้หอม
ยกเว้นพริกชี้ฟ้าเขียว เพราะเราต้องการให้แกงมีสีเขียว
คั่วเสร็จก็นำมาปั่นกับนมสดเตรียมเอาไว้
เครื่องแกงก็พร้อมรอแล้วครับ
มาถึงขั้นตอนการเลือกส่วนผสมหลัก
ไก่ ผมเลือกเอาส่วนสะโพกติดน่อง ใช้ 2 ชิ้น
ถ้าเป็นส่วนส่วนอก เนื้อจะแข็งเกินไป ไม่อร่อย
เมื่อได้สะโพกไก่มาแล้วก็นำมาหั่นชิ้นให้พอดีคำ
นำมาหมักกับซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ และนมสด ครึ่งถ้วยตวง
ทิ้งเอาไว้ในตู้เย็นอย่างน้อย 2 ชั่วโมง
เพื่อให้เนื้อไก่ของเรานุ่มและมีรสชาติในตัวของมันเอง
ตามมาด้วยตีนไก่ หรือ ขาไก่ ผมใช้ 500 กรัม
พยายามเลือกที่อวบและใหญ่เท่าที่จะสามารถเลือกได้
ตัดและล้างให้สะอาด ต้มให้นิ่มแล้วล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง
ผมใช้เวลาต้มขาไก่ 40 นาที ขาไก่นุ่มกำลังดีครับ
กะทิ ผมเลือกใช้กะทิอัมพวา
ไม่ได้โฆษณาให้เขานะ แต่ของเขาอร่อยจริง
หลังจากที่ลองใช้มาทุกยี่ห้อแล้ว ถ้าจะคั้นกะทิเอง
ก็ควรเป็นมะพร้าวที่ซื้อมาจากอัมพวา
ใช้ขวดครึ่ง ขนาด 250ml
อีกครึ่งขวดใช้ทำเป็นหางกะทิในปริมาณเท่าๆกัน
มะเขือเปราะ ประมาณ 15 ลูก หั่น 4
เลือกลูกขนาดกลาง และไม่อ่อนหรือแก่จนเกินไป
ฟัก หั่นสี่เหลี่ยม สาเหตุที่ใส่ฟักผสมกับมะเขือ
เพราะผักทั้งสองอย่างจะดึงรสชาติซึ่งกันและกัน
ทำให้รสชาติดีมากขึ้นไปอีก ถ้าไม่เชื่อ ต้องลองด้วยตัวเองครับ
ใช้ฟัก 1 ส่วนต่อมะเขือเปราะ 2 ส่วน
ผมว่ารสชาติมันดีกว่ามะเขือพวงมาก
แต่เรื่องนี้ก็คงแล้วแต่ความชอบส่วนบุคคล
ใบโหระพาเด็ด 1 ถ้วย
พริกชี้ฟ้าแดงหั่นเฉียง 3 เม็ด
ใบมะกรูดฉีกก้านออก 2ใบ
เครื่องปรุงรส
น้ำตาลมะพร้าว ครึ่งช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
และน้ำมันหอย 2 ทัพพีตักแกงขนาดมาตรฐาน
ส่วนเครื่องเคียงก็คือ
ข้าวสวย หรือขนมจีน
แต่วันนี้ผมเลือกเป็นขนมจีน ควรเลือกที่เส้นเล็กหน่อย
จะได้รสชาติมากกว่า เมื่อซื้อขนมจีนมาแล้ว
ควรจะนำมามานึ่งอีกสัก 15 นาที จะทำให้ไม่เสาะท้อง
และป้องการท้องเสียจากการหมักขนมจีนได้
ไข่ต้ม
และถ้าจะให้ถูกต้องตามสำรับไทแท้ต้องแนมด้วยปลากรอบอีก 1 อย่าง
หรือยิ่งมีหมึกกะตอยยิ่งเริ่ด
เสน่ห์ของอาหารไทยอยู่ที่ว่า
เรารู้ว่าควรจะใช้อะไรทานเคียงกับอะไรนี่แหละ
มาถึงวิธีทำ
ตั้งกระทะน้ำมันพืชให้ร้อน ต้องใส่น้ำมันนะครับ เมื่อแกงเสร็จ
น้ำแกงจะมีมันลอยอยู่ข้างบน ช่วยทำให้แกงดูน่าทานยิ่งขึ้นไปอีกครับ
นำพริกแกงลงไปผัดให้หอม ตามด้วยหัวกะทิ
ผัดจนกะทิเริ่มแตกมัน จึงนำเนื้อไก่ที่เราหมักเอาไว้ลงไปผัด ผัดให้สุก
ตามด้วยหางกะทิ พอเดือดเติมขาไก่ที่ต้มแล้ว
พอเดือดอีกครั้ง ปรุงรสตามที่ระบุ
ต้องปรุงเลย รสชาติจะได้ซึมเข้าไปในเนื้อไก่ และขาไก่
พอเดือดสักพัก ค่อยเติมมะเขือเปราะและฟัก
ต้มต่อจนสุกและน้ำงวดลงเล็กน้อย
สังเกตว่าทุกๆอย่างเริ่มได้ที่
ค่อยเติมพริกชี้ฟ้าแดง ใบมะกรูด และใบโหระพา
แค่นี้ก็จะได้แกงเขียวหวานไก่ ที่อร่อยมากแล้วครับผม
สุดท้ายผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทั้งเคล็ดลับและขั้นตอนการทำ
จะพอเป็นประโยชน์แก่คุณบ้างไม่มากก็น้อย
ขอบคุณที่ติดตามอ่านจนจบครับ
ทิ้งท้ายเล็กน้อย แนะนำให้เสริฟพร้อมกะเทียมจีนสด
หรือจะกระเทียมโทนสด
รับรองนอกจากฝามีของคุณจะรักแล้ว
สามีของคุณยังจะแข็งและแรงเว่อร์555
ขอให้โชคดี ผัวรักผัวหลงจนโงหัวไม่ขึ้นตลอดไปนะครับผม
แกงเขียวหวานไก่ สูตรมัดใจคุณฝามี
แกงเขียวหวานไก่ สูตรมัดใจฝามี
แกงเขียวหวานไก่ คืออาหารไทยอีกหนึ่งเมนูที่มีชื่อเสียงมากที่สุด
นั่นคงเป็นเพราะรสชาติที่หลากหลาย มีทั้ง เผ็ด หวาน มัน และเค็ม
อีกทั้งยังสามารถทานกับทั้งข้าวสวย และขนมจีนก็ได้
ผมเชื่อว่า เมนูแกงเขียวหวานไก่ น่าจะติดหนึ่งในห้า
ของรายการอาหารไทยที่คนไทยชอบทานมากที่สุด
รวมไปถึงสามีของคุณๆก็น่าจะชื่นชอบเมนูเด็ดเมนูนี้เช่นเดียวกัน
ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องยากที่คุณสาวๆจะใช้เมนูนี้มัดใจคุณฝามี
รับรองว่าฝามี หรือสามีของคุณจะไม่ยอมไปทานแกงเขียวหวานที่ไหนอีก
ขนาดนั้นจริงๆนะครับ
ส่วนวิธีปรุงก็ไม่ได้ยากอะไรมากมาย
เพราะส่วนที่ยากก็คือจะปรุงอย่างไรให้แกงอร่อยก็เท่านั้น
ดังนั้นขั้นตอนและเคล็ดลับเล็กๆน้อยๆ
จึงสำคัญมากที่จะทำให้แกงมีรสชาติดีขึ้น
วันนี้ผมจึงขออาสาเอาขั้นตอน
และเคล็ดลับในการทำแกงเขียวหวานไก่มาฝากสาวๆ
ที่อยากจะทำให้คุณสามีทาน
เสน่ห์ปลายจวักผัวรักจนตาย ยังสามารถใช้ได้อยู่นะคุณ
ผมคิดว่าเคล็ดลับของผมทำให้แกงอร่อยขึ้นได้จริง
เพราะผ่านการการันตีจากเพื่อนฝูงมากมาย
จริงๆนะ ไม่ได้โม้!!!!!
ถ้าไม่รักคุณๆที่ติดตามผมมานาน ผมคงไม่ยอมเผยเคล็ดลับอย่างแน่นอน
แต่ไหนๆจะเปิดเผยแล้ว ก็เปิดให้มันหมดเปลือกไปเลย
ก่อนอื่นคงต้องว่ากันถึงพริกแกง
แกงจะอร่อย ต้องทำพริกแกงเอง ถ้าไปซื้อสำเร็จก็หมดกันพอดี
วัตถุดิบทุกอย่างต้องคัดสรรอย่างดีที่สุด
พริกชี้ฟ้าเขียว 20 เม็ด หรือตามชอบ
เลือกที่ไม่อ่อนไม่แก่จนเกินไป รสชาติความเผ็ดจะได้อยู่ระหว่างกลาง
ข่า 5 แว่น ตะไคร้ 2 ต้น ซอย
หอมแดง 3 หัว ซอย
กระเทียมไทย 15 กลีบ ต้องไทยเท่านั้น ถึงจะให้กลิ่นหอมหวนที่สุด
ขมิ้น เท่านิ้วก้อย ถ้าอยากให้แกงมีสีเหลืองจัดก็ใส่มากหน่อย
กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ ควรจะเป็นกะปิอย่างดี ของผมใช้กะปิคลองโคนเท่านั้น
ยี่ห้อเขารับประกันความอร่อยไปในตัวอยู่แล้ว
ลูกผักชี 2 ช้อนโต๊ะ
พริกไทยดำ 1ช้อนโต๊ะ
และยี่หร่า ยี่หร่าใช้หยิบมือเดียวก็พอ ถ้าใส่เยอะกลิ่นจะแรงเกินไป
ผิวมะกรูด นิดเดียว ถ้าเยอะ แกงจะมีรสขม
เกลือทะเลเม็ด 1 ช้อนชา รสจะอ่อนกว่าเกลือปรุงทิพย์
นมสด ครึ่งถ้วยตวง ได้ยินไม่ผิดหรอกครับ
นมสดผมใช้เติมตอนปั่นเครื่องแกงทั้งหมดผสมกัน
แต่ถ้าจะโขลกเครื่องแกงเอง ก็ไม่จำเป็นต้องใส่
แต่ผมชอบกลิ่นแกงที่มีกลิ่นนมผสมอยู่นิดหน่อย
จึงใช้เครื่องปั่นเครื่องแกงแทนการโขลก
(จริงๆแล้วขี้เกียจโขลกมากกว่า555)
วิธีทำเครื่องแกงก็โคตะระง่าย
เอาเครื่องที่กล่าวมาทั้งหมด ไปคั่วไฟให้หอม
ยกเว้นพริกชี้ฟ้าเขียว เพราะเราต้องการให้แกงมีสีเขียว
คั่วเสร็จก็นำมาปั่นกับนมสดเตรียมเอาไว้
เครื่องแกงก็พร้อมรอแล้วครับ
มาถึงขั้นตอนการเลือกส่วนผสมหลัก
ไก่ ผมเลือกเอาส่วนสะโพกติดน่อง ใช้ 2 ชิ้น
ถ้าเป็นส่วนส่วนอก เนื้อจะแข็งเกินไป ไม่อร่อย
เมื่อได้สะโพกไก่มาแล้วก็นำมาหั่นชิ้นให้พอดีคำ
นำมาหมักกับซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ และนมสด ครึ่งถ้วยตวง
ทิ้งเอาไว้ในตู้เย็นอย่างน้อย 2 ชั่วโมง
เพื่อให้เนื้อไก่ของเรานุ่มและมีรสชาติในตัวของมันเอง
ตามมาด้วยตีนไก่ หรือ ขาไก่ ผมใช้ 500 กรัม
พยายามเลือกที่อวบและใหญ่เท่าที่จะสามารถเลือกได้
ตัดและล้างให้สะอาด ต้มให้นิ่มแล้วล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้ง
ผมใช้เวลาต้มขาไก่ 40 นาที ขาไก่นุ่มกำลังดีครับ
กะทิ ผมเลือกใช้กะทิอัมพวา
ไม่ได้โฆษณาให้เขานะ แต่ของเขาอร่อยจริง
หลังจากที่ลองใช้มาทุกยี่ห้อแล้ว ถ้าจะคั้นกะทิเอง
ก็ควรเป็นมะพร้าวที่ซื้อมาจากอัมพวา
ใช้ขวดครึ่ง ขนาด 250ml
อีกครึ่งขวดใช้ทำเป็นหางกะทิในปริมาณเท่าๆกัน
มะเขือเปราะ ประมาณ 15 ลูก หั่น 4
เลือกลูกขนาดกลาง และไม่อ่อนหรือแก่จนเกินไป
ฟัก หั่นสี่เหลี่ยม สาเหตุที่ใส่ฟักผสมกับมะเขือ
เพราะผักทั้งสองอย่างจะดึงรสชาติซึ่งกันและกัน
ทำให้รสชาติดีมากขึ้นไปอีก ถ้าไม่เชื่อ ต้องลองด้วยตัวเองครับ
ใช้ฟัก 1 ส่วนต่อมะเขือเปราะ 2 ส่วน
ผมว่ารสชาติมันดีกว่ามะเขือพวงมาก
แต่เรื่องนี้ก็คงแล้วแต่ความชอบส่วนบุคคล
ใบโหระพาเด็ด 1 ถ้วย
พริกชี้ฟ้าแดงหั่นเฉียง 3 เม็ด
ใบมะกรูดฉีกก้านออก 2ใบ
เครื่องปรุงรส
น้ำตาลมะพร้าว ครึ่งช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
และน้ำมันหอย 2 ทัพพีตักแกงขนาดมาตรฐาน
ส่วนเครื่องเคียงก็คือ
ข้าวสวย หรือขนมจีน
แต่วันนี้ผมเลือกเป็นขนมจีน ควรเลือกที่เส้นเล็กหน่อย
จะได้รสชาติมากกว่า เมื่อซื้อขนมจีนมาแล้ว
ควรจะนำมามานึ่งอีกสัก 15 นาที จะทำให้ไม่เสาะท้อง
และป้องการท้องเสียจากการหมักขนมจีนได้
ไข่ต้ม
และถ้าจะให้ถูกต้องตามสำรับไทแท้ต้องแนมด้วยปลากรอบอีก 1 อย่าง
หรือยิ่งมีหมึกกะตอยยิ่งเริ่ด
เสน่ห์ของอาหารไทยอยู่ที่ว่า
เรารู้ว่าควรจะใช้อะไรทานเคียงกับอะไรนี่แหละ
มาถึงวิธีทำ
ตั้งกระทะน้ำมันพืชให้ร้อน ต้องใส่น้ำมันนะครับ เมื่อแกงเสร็จ
น้ำแกงจะมีมันลอยอยู่ข้างบน ช่วยทำให้แกงดูน่าทานยิ่งขึ้นไปอีกครับ
นำพริกแกงลงไปผัดให้หอม ตามด้วยหัวกะทิ
ผัดจนกะทิเริ่มแตกมัน จึงนำเนื้อไก่ที่เราหมักเอาไว้ลงไปผัด ผัดให้สุก
ตามด้วยหางกะทิ พอเดือดเติมขาไก่ที่ต้มแล้ว
พอเดือดอีกครั้ง ปรุงรสตามที่ระบุ
ต้องปรุงเลย รสชาติจะได้ซึมเข้าไปในเนื้อไก่ และขาไก่
พอเดือดสักพัก ค่อยเติมมะเขือเปราะและฟัก
ต้มต่อจนสุกและน้ำงวดลงเล็กน้อย
สังเกตว่าทุกๆอย่างเริ่มได้ที่
ค่อยเติมพริกชี้ฟ้าแดง ใบมะกรูด และใบโหระพา
แค่นี้ก็จะได้แกงเขียวหวานไก่ ที่อร่อยมากแล้วครับผม
สุดท้ายผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทั้งเคล็ดลับและขั้นตอนการทำ
จะพอเป็นประโยชน์แก่คุณบ้างไม่มากก็น้อย
ขอบคุณที่ติดตามอ่านจนจบครับ
ทิ้งท้ายเล็กน้อย แนะนำให้เสริฟพร้อมกะเทียมจีนสด
หรือจะกระเทียมโทนสด
รับรองนอกจากฝามีของคุณจะรักแล้ว
สามีของคุณยังจะแข็งและแรงเว่อร์555
ขอให้โชคดี ผัวรักผัวหลงจนโงหัวไม่ขึ้นตลอดไปนะครับผม