สวัสดีครับผม 🙏 วันนี้มาเขียนกระทู้อีกแล้วนะครับ ขอแนะนำตัวก่อน ผมชื่อต้นกล้านะครับผม อายุ 14 ปีใกล้จะ 15 แล้ว สืบเนื่องมาจากผมได้ไปซื้อกล้ิอง
Sony A7 mark iii มาใหม่นะครับเมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมานะครับผม ก็คือเป็นล็อตแรกเลยนะครับผม ซึ่งผมได้ทำ Vlog ตอนไปซื้อกล้องด้วยนะครับผม ฝากด้วยนะคร๊าบ555
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://youtu.be/WgC3L9DKDgc ก็ภาพถ่ายเซ็ตนี้เนี่ย จริงๆคือผมไม่ได้ตั้งตัวก่อนเลยว่าจะมาถ่าย เลยมีเลนส์ตัวเดียวทั้งเซ้ตเลยนะครับผม นั่นก็คือ
Sigma 50 1.4 HSM(A) โดยใช้ Adapter ตัว Metrabones V นะครับ
ก็ตามหัวข้อเลยครับผม คือช่วงนั้นเนี่ย พอดีคุณยายผมได้เข้าโรงพยาบาลเนื่องจากพบว่าเป็นมะเร็งปอดระยะสุดท้ายมาตั้งแต่เดือน ก.พ. ปีที่แล้วนะครับ คุณยายก็พยายามรักษามาเรื่อยๆ ตั้งแต่ทราบว่าท่านเป็นมะเร็งปอด แต่ท่านก็ใช้ชีวิตเหมือนคนปกติได้เลย จนคุณพ่อซึ่งเป็นลูกเขยของคุณยายก็สร้างบ้านหลังนึงให้คุณยาย สร้างสไตล์โมเดิร์นด้วยปูนเปลือยตกแต่งด้วยไม้ ก็สร้างไปตั้งแต่เดือน มิ.ย. จนถึงกลางเดือน ต.ค.
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้นี่ครับภาพบ้าน ภาพอาจจะสดไปหน่อยนะครับ🙏 พอดีแต่งไว้เล่นๆ หาไฟล์สดไม่เจอ ซึ่งกะไว้ว่าจะสร้างเสร็จทันวันเกิดคุณยายพอดี ซึ่งก็ทันจริงๆครับ ก็ได้มาขึ้นบ้านใหม่วันเกิดคุณยายเลย แต่คุณยายก็สามารถมาอยู่บ้านได้ปกตินะครับผม เพียงแต่ว่าช่วงแรกๆคุณหมอได้ให้ยาแล้วก็ให้เกล็ดเลือดมาเดือนละครั้งต่อเนื่องหลายเดือนเลยครับ ก็คืออยู่โรงพยาบาลสัก 2-3 วันเพื่อให้เกล็ดเลือดแล้วก็กลับมารักษาตัวที่บ้าน จนเมื่อปลายเดือนมีนาคม ผมทราบว่า Sony A7iii จะเปิดตัวหลังจากที่ผมรอมาเกือบปี เพราะแบกเจ้า 5D ลูกรักไม่ไหวครับ 555 ก็ผมกะว่าจะรอคุณยายออกจากโรงพยาบาลแล้วก็มาถ่ายรูปคู่กับคุณตา จนถึงวันรับกล้องผมก็ลองถ่ายรูปคุณตาก่อนเลย ก็ภาพถ่ายทั้งหมดอย่างที่บอกนะครับ เป็นภาพจากกล้อง Sony A7iii ตัวใหม่ พร้อมด้วยเลนส์ Sigma 50 1.4 HSM(A) ของผมนั่นเองครับผม ภาพอาจจะสีสดไปหน่อยนะครับผม พอดีไม่ค่อยถนัดแนวแบบนี้เท่าไหร่ ส่วนใหญ่ถนัดถ่ายแต่สาวๆ
ขอเปิดด้วย GIF ก่อนเลยแล้วกัน คือก๋งผมเนี่ยชอบแต่งตัววัยรุ่นพอตัวเลยแหละครับ 555 บางทีแกก็เอาชุดผมไปใส่บ้าง อ้อลืมบอกไป ก๋งผมแกอายุ 84 แล้วนะครับ แกยังแข็งแรงอยู่เลย
บางทีแกก็ชอบมานั่งข้างนอกบ้าน เนื่องจากบ้านเนี่ยอยู่กลางน้ำ แล้วที่รอบๆเป็นที่โล่งเลย ลมเย็นสบายมากครับ
ที่จริงเวลานี่เนี่ย...แกต้องจิบกาแฟกับขนมแล้วนะ ลืมกันหมดเลย 555
บางทีแกก็ชอบเล่นมุขตลกหรือทำอะไรตลกๆให้คนในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นลูกหลานหรือคนงาน หรือแม่บ้าน 555+
บางทีแกก็ชอบนั่งตรงนี้บ้าง ผมกลับมาบ้านทีไรใกล้ๆเย็นๆก็เห็นแกนั่งตรงนี้ตลอดแหละ เปิดประตูบ้านมาแกก็จะมองตลอด ว่าใครหว่า!!! แล้วถามผมตลอดเลยว่ากินอะไรมายัง
อ้าววววว!!! มุมเสยบ้างงงง
บางมุม แกก็คิดถึงคุณยายนะ แต่แกไม่กล้าไปเยี่ยมที่โรงพยาบาลเท่าไหร่ แกกลัวคุณยายรำคาญ
อึ้มมมมมม Detail เยอะเกิ๊นนนนนน
ก๋งทำหน้าแบบนี้ ทำให้ผมนึกถึงเพลง"คิดถึงจัง มาหาหน่อย" ของพี่โอ๊ต ปราโมทย์ เลย5555555
อ้าวววววว ไปกอดถังออกซิเจนแม่จ๋า(คุณยาย) ทำไมละ โถ่วววววว
สวัสดี ชาวร๊อคคคคคคค🤘🤘🤘
เท่ละคร๊าบบบบบช็อตนี้555
อารมณ์นี้เพลง"คนทางนั้น"ลอยมาอีก 55555
ได้ฟิลลิ่งเลยนะเนี่ย
อ้าววววว เล่นเปียโนหลานซะงั้น
อื้มมมมมม ฟิลลิ่งมาเต็มอีกแล้วครับท่าน
ถามว่า นี่ก๋งเล่นเป็นจริงหรอ........ไม่เป็นครับ55555
อ้าวววว หมดเวลาเท่ซะละ เปลี่ยนคอสตูมแล้ว อยู่บ้านจริงๆสภาพนี้เลยครับ555555 ชุดนี้เลย
บางทีก็นอนท่านี้เลย บางทีก็ตื่นมาดูทีวีบ้าง
บางทีก็มีหน้าที่ให้อาหารปลาเองบ้าง
กินเสร็จก็ล้างจานเอง555 แต่ส่วนใหญ่จะเป็นพี่สาวที่ต้องล้าง555
โมเม้นท์พ่อบ้านจริงๆ555
วันวานยังหวานอยู่นะเนี่ยยย (ภาพนี้ถ่ายด้วยเลนส์ Canon 24-70 f2.8L II USM)
จนเมื่อวันที่ 30 ที่ผ่านมา ผมได้เข้าไปหาคุณยายเป็นปกติ แต่ตอนนั้นคุณยายหลับ แล้วเนื่องด้วยของฤทธิ์ยามอร์ฟีนด้วย แกมักจะพูดละเมอบ้างบางครั้ง แต่วันนั้นก่อนผมจะออกไป แกพูดมาว่า"ตั้งใจเรียนนะลูก" ผมก็เลยไม่ได้คิดอะไร แล้วผมก็หอมแก้มคุณยายแล้วกลับบ้านเหมือนปกติ แต่ปกติวันเสาร์ผมจะไม่ได้เข้าไปเนื่องจากขออยู่บ้านพักผ่อนวันนึง เพราะว่าจากบ้านมาโรงพยาบาลก็ 40-50 กม. ค่าแท๊กซี่ก็แพงพอสมควร จนมาถึงวันที่ 1 เม.ษ. วันนั้นเป็นวันที่คุณลุงของผม(ลูกชายคนโตของคุณยาย) ได้บวชให้คุณยายพอดี แล้วหลวงลุงก็จะมาหาคุณยายตอนเช้าของวันรุ่งขึ้นแต่คุณยายก็ได้เห็นงานบวชและเห็นคุณลุงในผ้าเหลือง แต่วันนั้นผมไม่ได้ไปงานบวชหลวงลุงและไปเยี่ยมคุณยาย เพราะติดงาน Meeting ของ Sony Club Thailand พอดี เลยคิดว่าไม่น่ามีอะไรเกิดขึ้น จนกระทั่งเมื่อเวลาประมาณ 2 ทุ่มครึ่ง คุณหมอจากทางโรงพยาบาลแจ้งมาทางคุณป้าว่าคุณยายไม่ไหวแล้ว อาจจะจากไปอย่างสงบภายใน 24 ชั่วโมง ผมและครอบครัวก็เลยรีบไปที่โรงพยาบาลตอนเกือบ 4 ทุ่ม ญาติก็มากันพร้อมหน้า ขาดแค่...ก๋งและหลวงลุง ซึ่งหลวงลุงมาบวชที่นครนายกซึ่งเป็นบ้านเกิดของคุณยาย ทุกคนก็ได้แต่บอกคุณยายว่า"ให้รอพระก่อนนะแม่" แต่สุดท้าย...คุณยายก็ไม่รอพระเสียแล้ว คุณยายก็ได้จากไปอย่างสงบเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2561 เวลา 22.15น.
ภาพนี้เป็นภาพที่ถ่ายในงานแต่งของหลานชายคนโตในตระกูล ซึ่งคุณยายตั้งใจที่จะไปงานแต่งของพี่ชายมาก เนื่องด้วยทั้งตระกูลมีหลานชายแค่ 2 คนและคุณยายก็รักหลานผู้ชายมากด้วย โดยงานแต่งนี้จัดเมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์ ที่อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ก่อนที่คุณยายจะมาทรุดและแอดมิดโรงพยาบาลยาวเลย แต่คุณยายก็คงสบายใจแกแล้วแหละ เพราะว่าแกได้เห็นทั้งงานแต่งของหลานชายคนโต และเห็นหลานชายคนเล็กมีความมุ่งมั่นที่จะดูแลกิจการที่บ้านต่อจากคุณพ่อ และก็ได้เห็นลูกหลานเหลนมาดูแลใกล้ชิดแก เติบโตมีอนาคต ก็สำหรับกระทู้นี้ผมตั้งใจที่จะถ่ายคุณยายหลังจากที่ท่านออกจากโรงพยาบาลคู่กับก๋ง แต่คงไม่มีโอกาสแล้วแหละครับ ทุกอย่างล้วนเป็นสัจธรรมของมนุษย์ ทั้งการเกิด การแก่ การเจ็บ และการตาย เพียงแต่เราหัดยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้นให้ได้ ขอบคุณคุณยายมากนะครับที่เลี้ยงดูหลานมาตั้งแต่พูดไม่เป็น เดินไม่คล่อง จนเวลามีปัญหาอะไร กล้าก็มีที่พึ่งเป็นคุณยายคนเดียวแหละครับ แต่ตอนนี้ไม่มีคุณยายแล้ว ท่านมักสอนผมเสมอว่า
"เราโตแล้ว เราควรดูแลตัวเองได้แล้วนะ หากแม่(คุณยาย)ไม่อยู่แล้ว กล้าต้องอยู่ให้ได้นะ เข้มแข็งไว้ และสุดท้ายขอขอบคุณทุกคน และ พื้นที่ตรงนี้ให้ผมเขียนบรรยายเล่าความรู้สึกให้ทุกคนด้วยนะครับ ขอบคุณครับผม🙏
เมื่อหลานซื้อกล้องมาใหม่ และอยากถ่ายคุณตาและคุณยายที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งระยะสุดท้าย
ก็ตามหัวข้อเลยครับผม คือช่วงนั้นเนี่ย พอดีคุณยายผมได้เข้าโรงพยาบาลเนื่องจากพบว่าเป็นมะเร็งปอดระยะสุดท้ายมาตั้งแต่เดือน ก.พ. ปีที่แล้วนะครับ คุณยายก็พยายามรักษามาเรื่อยๆ ตั้งแต่ทราบว่าท่านเป็นมะเร็งปอด แต่ท่านก็ใช้ชีวิตเหมือนคนปกติได้เลย จนคุณพ่อซึ่งเป็นลูกเขยของคุณยายก็สร้างบ้านหลังนึงให้คุณยาย สร้างสไตล์โมเดิร์นด้วยปูนเปลือยตกแต่งด้วยไม้ ก็สร้างไปตั้งแต่เดือน มิ.ย. จนถึงกลางเดือน ต.ค.[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ ซึ่งกะไว้ว่าจะสร้างเสร็จทันวันเกิดคุณยายพอดี ซึ่งก็ทันจริงๆครับ ก็ได้มาขึ้นบ้านใหม่วันเกิดคุณยายเลย แต่คุณยายก็สามารถมาอยู่บ้านได้ปกตินะครับผม เพียงแต่ว่าช่วงแรกๆคุณหมอได้ให้ยาแล้วก็ให้เกล็ดเลือดมาเดือนละครั้งต่อเนื่องหลายเดือนเลยครับ ก็คืออยู่โรงพยาบาลสัก 2-3 วันเพื่อให้เกล็ดเลือดแล้วก็กลับมารักษาตัวที่บ้าน จนเมื่อปลายเดือนมีนาคม ผมทราบว่า Sony A7iii จะเปิดตัวหลังจากที่ผมรอมาเกือบปี เพราะแบกเจ้า 5D ลูกรักไม่ไหวครับ 555 ก็ผมกะว่าจะรอคุณยายออกจากโรงพยาบาลแล้วก็มาถ่ายรูปคู่กับคุณตา จนถึงวันรับกล้องผมก็ลองถ่ายรูปคุณตาก่อนเลย ก็ภาพถ่ายทั้งหมดอย่างที่บอกนะครับ เป็นภาพจากกล้อง Sony A7iii ตัวใหม่ พร้อมด้วยเลนส์ Sigma 50 1.4 HSM(A) ของผมนั่นเองครับผม ภาพอาจจะสีสดไปหน่อยนะครับผม พอดีไม่ค่อยถนัดแนวแบบนี้เท่าไหร่ ส่วนใหญ่ถนัดถ่ายแต่สาวๆ
ขอเปิดด้วย GIF ก่อนเลยแล้วกัน คือก๋งผมเนี่ยชอบแต่งตัววัยรุ่นพอตัวเลยแหละครับ 555 บางทีแกก็เอาชุดผมไปใส่บ้าง อ้อลืมบอกไป ก๋งผมแกอายุ 84 แล้วนะครับ แกยังแข็งแรงอยู่เลย
บางทีแกก็ชอบมานั่งข้างนอกบ้าน เนื่องจากบ้านเนี่ยอยู่กลางน้ำ แล้วที่รอบๆเป็นที่โล่งเลย ลมเย็นสบายมากครับ
ที่จริงเวลานี่เนี่ย...แกต้องจิบกาแฟกับขนมแล้วนะ ลืมกันหมดเลย 555
บางทีแกก็ชอบเล่นมุขตลกหรือทำอะไรตลกๆให้คนในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นลูกหลานหรือคนงาน หรือแม่บ้าน 555+
บางทีแกก็ชอบนั่งตรงนี้บ้าง ผมกลับมาบ้านทีไรใกล้ๆเย็นๆก็เห็นแกนั่งตรงนี้ตลอดแหละ เปิดประตูบ้านมาแกก็จะมองตลอด ว่าใครหว่า!!! แล้วถามผมตลอดเลยว่ากินอะไรมายัง
อ้าววววว!!! มุมเสยบ้างงงง
บางมุม แกก็คิดถึงคุณยายนะ แต่แกไม่กล้าไปเยี่ยมที่โรงพยาบาลเท่าไหร่ แกกลัวคุณยายรำคาญ
อึ้มมมมมม Detail เยอะเกิ๊นนนนนน
ก๋งทำหน้าแบบนี้ ทำให้ผมนึกถึงเพลง"คิดถึงจัง มาหาหน่อย" ของพี่โอ๊ต ปราโมทย์ เลย5555555
อ้าวววววว ไปกอดถังออกซิเจนแม่จ๋า(คุณยาย) ทำไมละ โถ่วววววว
สวัสดี ชาวร๊อคคคคคคค🤘🤘🤘
เท่ละคร๊าบบบบบช็อตนี้555
อารมณ์นี้เพลง"คนทางนั้น"ลอยมาอีก 55555
ได้ฟิลลิ่งเลยนะเนี่ย
อ้าววววว เล่นเปียโนหลานซะงั้น
อื้มมมมมม ฟิลลิ่งมาเต็มอีกแล้วครับท่าน
ถามว่า นี่ก๋งเล่นเป็นจริงหรอ........ไม่เป็นครับ55555
อ้าวววว หมดเวลาเท่ซะละ เปลี่ยนคอสตูมแล้ว อยู่บ้านจริงๆสภาพนี้เลยครับ555555 ชุดนี้เลย
บางทีก็นอนท่านี้เลย บางทีก็ตื่นมาดูทีวีบ้าง
บางทีก็มีหน้าที่ให้อาหารปลาเองบ้าง
กินเสร็จก็ล้างจานเอง555 แต่ส่วนใหญ่จะเป็นพี่สาวที่ต้องล้าง555
โมเม้นท์พ่อบ้านจริงๆ555
วันวานยังหวานอยู่นะเนี่ยยย (ภาพนี้ถ่ายด้วยเลนส์ Canon 24-70 f2.8L II USM)
จนเมื่อวันที่ 30 ที่ผ่านมา ผมได้เข้าไปหาคุณยายเป็นปกติ แต่ตอนนั้นคุณยายหลับ แล้วเนื่องด้วยของฤทธิ์ยามอร์ฟีนด้วย แกมักจะพูดละเมอบ้างบางครั้ง แต่วันนั้นก่อนผมจะออกไป แกพูดมาว่า"ตั้งใจเรียนนะลูก" ผมก็เลยไม่ได้คิดอะไร แล้วผมก็หอมแก้มคุณยายแล้วกลับบ้านเหมือนปกติ แต่ปกติวันเสาร์ผมจะไม่ได้เข้าไปเนื่องจากขออยู่บ้านพักผ่อนวันนึง เพราะว่าจากบ้านมาโรงพยาบาลก็ 40-50 กม. ค่าแท๊กซี่ก็แพงพอสมควร จนมาถึงวันที่ 1 เม.ษ. วันนั้นเป็นวันที่คุณลุงของผม(ลูกชายคนโตของคุณยาย) ได้บวชให้คุณยายพอดี แล้วหลวงลุงก็จะมาหาคุณยายตอนเช้าของวันรุ่งขึ้นแต่คุณยายก็ได้เห็นงานบวชและเห็นคุณลุงในผ้าเหลือง แต่วันนั้นผมไม่ได้ไปงานบวชหลวงลุงและไปเยี่ยมคุณยาย เพราะติดงาน Meeting ของ Sony Club Thailand พอดี เลยคิดว่าไม่น่ามีอะไรเกิดขึ้น จนกระทั่งเมื่อเวลาประมาณ 2 ทุ่มครึ่ง คุณหมอจากทางโรงพยาบาลแจ้งมาทางคุณป้าว่าคุณยายไม่ไหวแล้ว อาจจะจากไปอย่างสงบภายใน 24 ชั่วโมง ผมและครอบครัวก็เลยรีบไปที่โรงพยาบาลตอนเกือบ 4 ทุ่ม ญาติก็มากันพร้อมหน้า ขาดแค่...ก๋งและหลวงลุง ซึ่งหลวงลุงมาบวชที่นครนายกซึ่งเป็นบ้านเกิดของคุณยาย ทุกคนก็ได้แต่บอกคุณยายว่า"ให้รอพระก่อนนะแม่" แต่สุดท้าย...คุณยายก็ไม่รอพระเสียแล้ว คุณยายก็ได้จากไปอย่างสงบเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2561 เวลา 22.15น.
ภาพนี้เป็นภาพที่ถ่ายในงานแต่งของหลานชายคนโตในตระกูล ซึ่งคุณยายตั้งใจที่จะไปงานแต่งของพี่ชายมาก เนื่องด้วยทั้งตระกูลมีหลานชายแค่ 2 คนและคุณยายก็รักหลานผู้ชายมากด้วย โดยงานแต่งนี้จัดเมื่อกลางเดือนกุมภาพันธ์ ที่อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ก่อนที่คุณยายจะมาทรุดและแอดมิดโรงพยาบาลยาวเลย แต่คุณยายก็คงสบายใจแกแล้วแหละ เพราะว่าแกได้เห็นทั้งงานแต่งของหลานชายคนโต และเห็นหลานชายคนเล็กมีความมุ่งมั่นที่จะดูแลกิจการที่บ้านต่อจากคุณพ่อ และก็ได้เห็นลูกหลานเหลนมาดูแลใกล้ชิดแก เติบโตมีอนาคต ก็สำหรับกระทู้นี้ผมตั้งใจที่จะถ่ายคุณยายหลังจากที่ท่านออกจากโรงพยาบาลคู่กับก๋ง แต่คงไม่มีโอกาสแล้วแหละครับ ทุกอย่างล้วนเป็นสัจธรรมของมนุษย์ ทั้งการเกิด การแก่ การเจ็บ และการตาย เพียงแต่เราหัดยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้นให้ได้ ขอบคุณคุณยายมากนะครับที่เลี้ยงดูหลานมาตั้งแต่พูดไม่เป็น เดินไม่คล่อง จนเวลามีปัญหาอะไร กล้าก็มีที่พึ่งเป็นคุณยายคนเดียวแหละครับ แต่ตอนนี้ไม่มีคุณยายแล้ว ท่านมักสอนผมเสมอว่า"เราโตแล้ว เราควรดูแลตัวเองได้แล้วนะ หากแม่(คุณยาย)ไม่อยู่แล้ว กล้าต้องอยู่ให้ได้นะ เข้มแข็งไว้ และสุดท้ายขอขอบคุณทุกคน และ พื้นที่ตรงนี้ให้ผมเขียนบรรยายเล่าความรู้สึกให้ทุกคนด้วยนะครับ ขอบคุณครับผม🙏