ผมจะมาเล่าประสบการณ์ติดตม.ที่ประเทศสิงคโปร์แถมยังโชคร้ายถูกส่งกลับอดเที่ยว เสียเงิน เสียเวลา เสียความรู้สึก แต่ก็ได้ความรู้ใหม่สิ่งเล็กๆน้อยๆที่เราอาจจะมองข้าม

เมื่อวันจันทร์ที่14พค61 ผมได้เดินทางไปยังประเทศสิงคโปร์โดยสายการบินน้องไทยสิงโต กำหนดการถึงสนามบินchangi โดยประมาณ 11.20 โดยไปกับแฟน
เนื่องด้วยนี่เป็นการมาเที่ยวที่นี่ครั้งที่สอง ผมเคยมาแล้วเมื่อ4ปีก่อนทำให้ผมไม่ได้ซีเรียสอะไร คิดว่ายังไงถึงสิงคโปร์ต้องได้เที่ยวตามที่แพลนไว้ แต่!!!! มันกลับไม่เป็นอย่างที่คิดไว้
ผมโดนส่งตัวไปสอบสวน พร้อมคนไทยและชาติอื่นๆผสมกันไปกลุ่มหนึ่ง รอบนี้ไม่เหมือนรอบก่อนตรงที่คนโดนเรียกไปห้องสอบสวนเยอะมากกก กว่าเขาจะเรียกผมถามข้อมูลก็ปาไป2ชั่วโมงได้ โดยที่แฟนผมผ่านออกไปรอเรียบร้อยแล้ว ผมไม่ได้ซีเรียสอะไรเพราะเราเคยมา ภาษาอังกฤษก็พูดได้ ก็นั่งรอต่อไป
นี่คือคำถามคร่าวๆ ที่ผมโดนถามนะครับ
ตม : มากับใคร , มาพักที่ไหน , อยู่กี่วัน , ตอนนี้ทำอะไรอยู่ ,ขอดูรายละเอียดการพักพร้อมตั๋วกลับ
***และนี่คือเหตุผลที่ทำให้ผมโดนกักตัว
ตม : เคยมาสิงคโปร์ใช่ไหม? รอบก่อนใช้ชื่ออะไร
ขอย้อนพร้อมบอกเหตุผลนะครับ
ผม ใช้ชื่อภาษาไทยชื่อเดิม ไม่มีการเปลี่ยนชื่อ แต่!! ผมได้มีการแก้ตัวสะกดชื่อภาษาอังกฤษในบัตรประชาชนเนื่องจาบัตรประชาชนใบเก่าหาย เลยทำใหม่แล้วเปลี่ยนให้อ่านง่ายขึ้น จาก --dha-- เป็น --ta-- ผมเลยได้ไปทำพาสปอร์ตใหม่เพื่อเปลี่ยนตัวสะกดชื่อภาษาอังกฤษให้เหมือนตามบัตรประชาชน
ทางตม.ต้องการขอดูเอกสารที่อำเภอเปลี่ยนตัวสะกดภาษาอังกฤษ ซึ่งผมได้อธิบายไปว่า ผมเปลี่ยนแค่ภาษาอังกฤษแต่ชื่อไทยยังเหมือนเดิม เลยไม่มีการออกเอกสารให้ สามารถทำได้เลยเว้นแต่จะเปลี่ยนชื่อภาษาไทยทางอำเภอถึงจะออกเอกสารให้
สรุป ตม.กักตัวผมไว้ โดยให้เหตุผลว่า เราเชื่อว่าคุณมาเที่ยวจริง แต่เราไม่สามารถให้คุณเข้าประเทศเราได้ เนื่องจากรอบก่อนที่คุณมา พาสปอร์ตอีกชื่อหนึ่ง แล้วรอบนี้คุณใช้พาสปอร์ตเล่มใหม่ โดยเปลี่ยนตัวสะกด เราไม่เข้าใจเหตุผลการเปลี่ยนชื่อของคุณและเราไม่สามารถให้คุณเข้าประเทศเราได้ ถ้านี่คุณมาครั้งแรก จะไม่มีปัญหาเลย -- ถึงตรงนี้ผมอึ้งไปสักพัก แล้วบอกเค้าว่า ผมไปประเทศอื่นด้วยพาสปอร์ตเล่มใหม่ไม่เคยมีปัญหาเลย ทั้งๆที่ก่อนหน้าก็ใช้เล่มเก่าตัวสะกดเก่า ซึ่งตม.ได้ตอบผมว่า กฎแต่ละประเทศไม่เหมือนกัน ต้องขอโทษด้วย
หลังจากนั้นผมขอไปหาแฟนเพื่อจะบอกว่าต้องกลับประเทศนะเที่ยวด้วยไม่ได้ แต่ทางตม.ไม่อนุญาติ ใจผมนี่แทบสลาย แต่ทำไงได้ เราทำได้แค่ยอมรับ ก่อนจะถูกย้ายจากจุดสอบสวนไปรอที่ห้องเย็นอีกจุดหนึ่งภายในขาออกของสนามบินโดยทีตำรวจคุมหน้า หลัง ซ้ายขวา เหมือนเป็นอาชญากรรมข้ามชาติยังไงยังงั้น
พอถึงห้องเย็นทางตำรวจจะให้เราเซ็นยืนยันตัวตน จับแยกชายหญิง ห้ามไม่ให้ผมคุยกับคนไทยด้วยกัน รอในนั้นประมาณ6ชั่วโมงก่อนถูกพาตัวไปขึ้นเครื่องกลับประเทศไทย


ผมตั้งกระทู้นี้เพื่ออยากจะแชร์ประสบการณ์ เผื่อใครเคยไปสิงคโปร์แล้วจะไปอีกแต่ได้เปลี่ยนชื่อหรือเปลี่ยนพาสปอร์ตเล่มใหม่ อย่าลืมนำเล่มเก่าไปด้วยนะครับ

ปล.1 ห้องเย็นหนาวมาก สมกับชื่อห้องเย็น
ปล.2 เขาส่งเรากลับประเทศ เราต้องจ่ายค่าตั๋วเองนะครับ ให้พกเงินติดตัวไปด้วยอย่าฝากเพื่อน ของผมเอาเงินให้แฟนเก็บ เกือบไม่มีจ่ายค่าตั๋ว แต่คนไทยที่ติดด้วยกันใจดีให้ยืม ต้องขอบคุณมากๆครับ
ปล.3 กรณีเคสผม ทางตม.ถกเถียงกันนานมากทำให้ผมรอนานจนเป็นคนสุดท้ายที่รอผล บ้างก็ว่าเพื่อนที่มาด้วยเขาผ่านนะให้เขาผ่านเถอะ แต่อำนาจอยู่ที่ทางหัวหน้าเขา ซึ่งคำตอบคือ ไม่ให้
ปล.4 คนไทยที่ติดด้วยกัน มีบางส่วนได้ผ่านเข้าประเทศ และอีกส่วนถูกกักตัวแล้วได้กลับมาพร้อมผมครับ โดยเป็นผู้หญิงล้วน ผมเป็นผู้ชายคนเดียว
ปล.5 ถึงไทยโดยสวัสดิภาพแล้วครับ ตม.ไทยบอกโดนส่งกลับมาแบบนี้ทุกวัน แต่กรณีผม เค้าก็งงกัน

**นี่เป็นกระทู้แรก สมัครเพื่อเล่าประสบการณ์ที่จะจำไม่มีวันลืมของผมครับ เขียนผิดหรือเขียนไม่เข้าใจตรงไหน ขออภัย ณ ที่นี้ด้วยนะครับ