หวัดดีค่ะทุกคน วันนี้ฤกษ์งามยามดี… ได้เวลาเอาหน้าเหียกๆ มาแชร์ประสบการณ์สุดช้ำระกำทรวงให้เพื่อนๆชาวพันทิปได้มีแนวทางและกำลังใจต่อสู้กับสิวบนใบหน้ากันต่อไปค๊ะ….
จขกท เป็นคนนึงที่มีปัญหาสิวมาตล๊อด ตล่อดดดดดTT (แอบน้อยใจในโชคชะตา) เรียกได้ว่าที่ผ่านมาสี่ห้าปีก็ เป็นๆ หายๆ มาตลอด …ระหว่างนั้นก็จำใจรักษากับคลินิกแห่งนึงมาโดยตลอด เพราะเคยนอกใจหาซื้อครีมมาใช้เอง (ครีมที่ว่าก็ซื้อจากร้านขายยา ผ่านการหาข้อมูลมาแล้วว่าผ่านการทดสอบโง้นงี้งั้นว่าอ่อนโยนต่อผิวแพ้ง่ายไรงี้)สุดท้ายหน้าแหกข่ะ..... (บางครั้งก็มิได้นอกใจหมอเล๊ย จู่ๆ สิวก็แห่กันมารวมตัวแบบไม่ทันตั้งตัวแทบทุกอณูบนหน้าเองสะงั้น ....อายุก็ไม่น้อยจะ 30 แล้ว แฟนไม่มียังไม่เศร้าเท่าเป็นสิวเล๊ยยย...เศร้าแฮ๊ะ)
สุดท้ายต้องกลับมาตายรัง จ่ายตังให้หมอกู้หน้าหยั่งเดิมม!!
ในที่สุดอิชั้นนนก็ทนไม่ไหวเจ้าข่ะ ขอลุกขึ้นมาปฏิวัติวงจรสิวด้วยตัวเองเสียที!!!?
เมื่อทำแล้วเห็นผลก็อยากจะแบ่งปันให้ทุกคนไว้เป็นแนวทางในการดูแลตัวเอง….
ส่วนวิธีการอย่างไรนั้นจะทยอยมาอัพเดทเรื่อยๆนะคะ
...เริ่มจากเสาะหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ต และก็กระทู้ในพันทิปนี่แหละค้ะนัมเบอร์วันนน….
จขกท ใช้เวลาเกือบ 2 เดือน เริ่มตั้งแต่ช่วงที่สิวเห่อ กลางเดือนมีนาคม แต่มารักษาจริงๆจังๆด้วยตัวเองเดือนเมษายนค้ะ….ตอนนี้ก็ยังคงหลงเหลือร่องรอยไว้ให้ได้รักษากันต่อไป
ปล. อีกเรื่องที่อยากแนะนำนะคะ สำหรับผลิตภัณฑ์บางตัวที่เราไม่สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยา หรือตามห้างร้านทั่วๆไป จขกท จะใช้วิธีสั่งซื้อออนไลน์ค๊ะ เพราะฉะนั้น ตัดปัญหาหาซื้อผลิตภัณฑ์ยากส์ไปเลย แถมในช้อปปิ้งออนไลน์ยังมีหลายราคาให้เราเปรียบเทียบเลือกซื้ออีกด้วยน๊าาา....สะดวกมั่กๆ>>
....
ว่าแล้นนก็มาดูสภาพช่วงก่อนหน้าเหียกกันก่อนนนนนน
สภาพก่อนสิวระบาดค่ะ ไสยๆ
....
ก่อนภาพต่อไป ขอคั่นด้วย ดอกไม้สวยๆก่อนละกัน ทำใจแป้ป.. แฮร่ๆ
.....หลังจากนั้น....
...ภาพนี้ ถ่ายช่วงปลายเดือน มี.ค 61 เป็นช่วงพีคสุดๆ สิวเห่อมาได้สักระยะ ช่วงนั้นระบมมากกกกกTT
และด้วยความที่ จขกท หักห้ามใจตัวเองในการแคะ แกะ เกา ไม่ได้....สภาพเลยเยินนอย่างที่เห็น
.....
และทั้งหมดนี้คือผลิตภัณฑ์ที่เราเลือกใช้ส่วนใหญ่หาซื้อได้ง่ายนะคะ มีตัวครีมกันแดดสีฟ้า-ขาว ลำดับสุดท้ายที่เรายังใช้ของหมอ คลีนิคที่เคยรักษาประจำอยู่ พอดีซื้อมาตุนไว้หลายหลอด เลยเอามาใช้ให้หมดค่ะ ยังไม่อยากลองของใหม่ (จากภาพ เราพยายามเรียงตามขั้นตอนการใช้แล้วนะ...ขออธิบายขั้นตอน/ลำดับการใช้ผลิตภัณฑ์ในตอนท้ายนะคะ^^) และผลิตภัณฑ์บางตัว เราเลือกที่จะใช้ขนาดทดลองก่อนนะคะ กลัวแพ้ แล้วต้องมานั่งเสียดายทั้งเงิน เสียทั้งความรู้สึก (แอบงก..นั่นเอง)
ตัวไหนใช้ดี ค่อยถอยไซด์จริงมาใช้เนอะๆๆ
ไอเท็มนี้เอาไว้เสริมค่ะ เหมือนเดิม... ซื้อขนาดเล็กสุดมาใช้555 แรกๆ ไม่มั่นใจเท่าไหร่ กลิ่นดูไม่น่าเชื่อถือ จะแพ้มั้ยว๊าาาา?? ...แต่ไหนๆก็ซื้อมาแล้ว ลองใช้ดูก็ได้ฟะ ในที่สุดก็เสี่ยงชีวิต ลองแต้มจุดเล็กๆบนหัวสิวก่อน....ดีงามเลยค่ะตัวนี้ ราคาไม่แพง ทาแล้วก็เย็นๆดี สิวแห้งไว แถมไม่แพ้ด้วยยยย สำหรับเราตัวนี้แต้มได้เรื่อยๆ ว่างตอนไหน แต้มตอนนั้น ชอบมั่กๆ **เราใช้แต้มเฉพาะวันหยุดอยู่บ้านนะเออ มันจะว่อกๆหน่อย)
ตัวนี้หาซากไม่ได้จริงๆ เพราะ เราปาดใช้จนหยดสุดท้ายไปแล้ว และยังไม่ได้ไปซื้อมาใหม่ แฮร่ๆ (ขอยืมรูปมาละกัน **ขอใครฟะ??)
ใช้ดีอีกเช่นกัน ลดรอยดำได้ดีเลยย^^
กระดาษเช็ดหน้า (อันที่จริงใช้ผ้าสะอาดซับหลังล้างหน้าตามปกติได้ แต่ต้องมั่นใจนะว่าผ้าที่เราใช้มันสะอาดจริงๆ...แต่เราไม่แน่ใจในความสะอาดของตัวเองเท่าไหร่ เลยต้องอาศัยกระดาษเช็ดหน้า รู้สึกปลอดภัยกับใบหน้าดี)
......
มาดูวิวัฒนาการบนใบหน้า หลังจากใช้เวลากับมันพอสมควรค่ะ
จขกท ไม่ลงรายละเอียดช่วงเวลาในทุกๆภาพนะคะ
รูปสุดท้ายขวามือ เพิ่งถ่ายเมื่อวาน 13 พ.ค 61 ค่ะ (ผ่านมาเดือนกว่าๆ ผลลัพธ์ค่อนข้างน่าพอใจ ** เคสเรารักษาเองล้วนๆ ไม่ผ่านคลีนิคใดๆทั้งสิ้น**
...
เชวิดหม่นหมองงงอยู่พักใหญ่ (พยายามทำใจให้ชิน ไม่เครียดแล้ว แต่พูดเลยยยยย ทำม่ายยยด้ายยย เครียดดดดว๊อยยยยย!!! TT)
....
ระหว่างนี้ ไปเดินโต๋เต๋ในสโตแถวบ้าน เห็นสครับตัวนี้ลดราคาอยู่ เลยสอยมาลองค่ะ เห็นข้างซองเขียนว่ามีส่วนผสมของน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ดูธรรมชาติดี ช่วยลดรอยด่างดำ มีกลิ่นหอมอ่อนๆ เราใช้สครับหน้า อาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง (ดีงามมมมม อีกแล้ววว ไม่รู้คิดไปเองรึเปล่า แต่รู้สึกว่ารอยดำจางไว หน้าใสขึ้นหลังล้างหน้า)
มาดูรูปล่าสุดกันนนนดีกว่า...
15 พ.ค 61 ......ยังเหลือรอยดำอีกเยอะเลย คงต้องไช้เวลาอีกสักระยะ แต่ก็มีกำลังใจในการดูแลตัวเองขึ้นเย๊อะเลยค่ะ สู้เว้ยยยย!!!
มาดูสเต็ปในการรักษาสิวของเรากันค่ะ
เช้า /วันทำงาน-วันหยุด^^
1. แต้ม Benzac 5%
เราใช้แต้มเป็นจุดๆนะ มิกล้าละเลงเต็มหน้า แสบๆคันๆยุกๆยิกๆ สะใจดี ว๊ะฮ่าๆ....(ทาทิ้งไว้สัก 5-10 นาทีเป็นอันเสร็จพิธีค่ะ)
2.ล้างหน้าด้วย acne aid สีฟ้า
จริงๆ เคยลองใช้ทั้งสีแดง/สีฟ้า เท่าที่รู้สีแดงเหมาะกับผู้ที่มีผิวมัน ส่วนสีฟ้าสำหรับผิวแห้ง แต่เราผิวผสม เลยอยากลองมันทั้ง 2 อย่าง ผลปรากฎว่า เราชอบสีฟ้ามากกว่า ไม่ชอบกลิ่นสีแดงบวกกับเนื้อครีมที่ค่อนข้างหนืด ตัวสีฟ้าจะเหลวกว่า ที่สำคัญมันอ่อนโยน มีกลิ่นหอมอ่อนๆ สำหรับเราสีฟ้าเวริ์คคคคค555
3. ซับหน้าให้แห้งด้วยกระดาษสำหรับเช็ดหน้า
4. ใช้สำลีแผ่น เช็ดหน้าอีกครั้งด้วยน้ำเกลื่อ รอให้น้ำเกลือแห้งแปปนึง
5. แต้ม Clinda - M ตามหัวสิวเลยค่ะ เท่าที่ทราบตัวนี้มีฤทธิ์ช่วยฆ่าเชื้อสิวอะไรประมาณนั้นน
6. ทาเซรั่ม vit c ชื่อยาวววม๊ากกก (powerful-strength line-reduceing concentrate ของ kiehl's) ตัวนี้ช่วยลดรอยดำได้ดีเลย เพราะมีส่วนผสมของวิตามินซีสูงถึง 12.5% ทีเดียวเชียว ที่สำคัญเราไม่แพ้ ปลื้มมมมเลย แต่ราคาแอบหวาดเสียวนิดหน่อย (ยังไม่แน่ใจว่าจะซื้อใช้ต่อดีมั้ย)
7. ลงเซรั่มเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวต่อค่ะ เราใช้ตัว hydro-plumping re-texturizing serum concentrate ของ kiehl's เจ้าเก่า (ชื่อยาวอีกแล้ววววว ><)
8. ทาครีมกันแดด เราใช้ของเดิมที่สั่งซื้อจากคลีนิกนะ อย่างที่พอจะทราบกันดี ช่วงรักษาสิวนี่ ครีมกันแดดเป็นอะไรที่ห้ามลืม เดี๋ยวหน้าคล้ำเอาน๊าาา
9. ลงคอนชีลเลอร์สำหรับปกปิดสิวโดยเฉพาะ เราใช้ของ eucerin dermo purifyer cover stick (สำหรับเรามันก้ปกปิดรอยดำได้ระดับนึง แต่ไม่เนียนเท่าไหร่ ยังคงมองเห็นรอยดำอ่ะ ดีตรงที่มันผลิตมาสำหรับผู้มีปัญหาสิว พร้อมมีส่วนผสมที่ช่วยรักษาสิวในตัว จึงไม่ต่องกลัวอุดตัน) ลักษณะเป็นแท่ง ใช้สะดวกดีนะ ถื่อว่าโอเคสำหรับวันที่ต้องออกไปพบปะผู้คน
10. ทาแป้งฝุ่น(แป้งเด็ก) เป็นแันเสร็จพิธี ออกแรดได้555
**สำหรับวันหยุดอยู่บ้าน เรางดลงคอนชีลเลอร์ แต่จะทา differin เป็นจุดๆไป/สลับกับการแต้ม Ziiit P-lotion บ้าง แล้วแต่อารมณ์
**สำหรับ Differin และ Benzac เภสัชกร แนะนำให้ทดสอบการแพ้ก่อน โดยการทาลงบนท้องแขน ดูอาการแพ้ 24 ชั่วโมง แต่เราทดสอบที่สิวตัวเอง 1 เม็ดเลย โชคดีไปที่ไม่แพ้ (อย่าเอาอย่างตาม จขกท นะคะ...เสี่ยงเป็นอย่างยิ่ง)
.......
ตอนเย็น
ขั้นตอนคล้ายๆกับตอนเช้าทุกประการ เพิ่มเติมคือ อันดับแรกให้เริ่มที่การเช็ดหน้าด้วย cleansing lotion เราใช้ Bifesta (เห็นรีวิวเยอะเลยในอินเตอร์เน็ต) เป็นสูตร acne care นะคะ แล้วทำตามขั้นตอน 1-7 ได้เลย ...สุดท้าย ท้ายสุดเราใช้ Smooth E acne scar serum ทาให้ทั่วรอยดำค่ะ นวดๆ สักพัก เสร็จแล้วก็นอนดูทีวีตามอัธยาศัยค่าาา
.......
ไว้จะมาอัพเดทอีกครั้งนะคะ
Fightingggggggggggg++++++
ประสบการณ์รักษาสิวด้วยตังเอง
จขกท เป็นคนนึงที่มีปัญหาสิวมาตล๊อด ตล่อดดดดดTT (แอบน้อยใจในโชคชะตา) เรียกได้ว่าที่ผ่านมาสี่ห้าปีก็ เป็นๆ หายๆ มาตลอด …ระหว่างนั้นก็จำใจรักษากับคลินิกแห่งนึงมาโดยตลอด เพราะเคยนอกใจหาซื้อครีมมาใช้เอง (ครีมที่ว่าก็ซื้อจากร้านขายยา ผ่านการหาข้อมูลมาแล้วว่าผ่านการทดสอบโง้นงี้งั้นว่าอ่อนโยนต่อผิวแพ้ง่ายไรงี้)สุดท้ายหน้าแหกข่ะ..... (บางครั้งก็มิได้นอกใจหมอเล๊ย จู่ๆ สิวก็แห่กันมารวมตัวแบบไม่ทันตั้งตัวแทบทุกอณูบนหน้าเองสะงั้น ....อายุก็ไม่น้อยจะ 30 แล้ว แฟนไม่มียังไม่เศร้าเท่าเป็นสิวเล๊ยยย...เศร้าแฮ๊ะ)
สุดท้ายต้องกลับมาตายรัง จ่ายตังให้หมอกู้หน้าหยั่งเดิมม!!
ในที่สุดอิชั้นนนก็ทนไม่ไหวเจ้าข่ะ ขอลุกขึ้นมาปฏิวัติวงจรสิวด้วยตัวเองเสียที!!!?
เมื่อทำแล้วเห็นผลก็อยากจะแบ่งปันให้ทุกคนไว้เป็นแนวทางในการดูแลตัวเอง….
ส่วนวิธีการอย่างไรนั้นจะทยอยมาอัพเดทเรื่อยๆนะคะ
...เริ่มจากเสาะหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ต และก็กระทู้ในพันทิปนี่แหละค้ะนัมเบอร์วันนน….
จขกท ใช้เวลาเกือบ 2 เดือน เริ่มตั้งแต่ช่วงที่สิวเห่อ กลางเดือนมีนาคม แต่มารักษาจริงๆจังๆด้วยตัวเองเดือนเมษายนค้ะ….ตอนนี้ก็ยังคงหลงเหลือร่องรอยไว้ให้ได้รักษากันต่อไป
ปล. อีกเรื่องที่อยากแนะนำนะคะ สำหรับผลิตภัณฑ์บางตัวที่เราไม่สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายยา หรือตามห้างร้านทั่วๆไป จขกท จะใช้วิธีสั่งซื้อออนไลน์ค๊ะ เพราะฉะนั้น ตัดปัญหาหาซื้อผลิตภัณฑ์ยากส์ไปเลย แถมในช้อปปิ้งออนไลน์ยังมีหลายราคาให้เราเปรียบเทียบเลือกซื้ออีกด้วยน๊าาา....สะดวกมั่กๆ>>
....
ว่าแล้นนก็มาดูสภาพช่วงก่อนหน้าเหียกกันก่อนนนนนน
....
ก่อนภาพต่อไป ขอคั่นด้วย ดอกไม้สวยๆก่อนละกัน ทำใจแป้ป.. แฮร่ๆ
.....หลังจากนั้น....
...ภาพนี้ ถ่ายช่วงปลายเดือน มี.ค 61 เป็นช่วงพีคสุดๆ สิวเห่อมาได้สักระยะ ช่วงนั้นระบมมากกกกกTT
และด้วยความที่ จขกท หักห้ามใจตัวเองในการแคะ แกะ เกา ไม่ได้....สภาพเลยเยินนอย่างที่เห็น
.....
และทั้งหมดนี้คือผลิตภัณฑ์ที่เราเลือกใช้ส่วนใหญ่หาซื้อได้ง่ายนะคะ มีตัวครีมกันแดดสีฟ้า-ขาว ลำดับสุดท้ายที่เรายังใช้ของหมอ คลีนิคที่เคยรักษาประจำอยู่ พอดีซื้อมาตุนไว้หลายหลอด เลยเอามาใช้ให้หมดค่ะ ยังไม่อยากลองของใหม่ (จากภาพ เราพยายามเรียงตามขั้นตอนการใช้แล้วนะ...ขออธิบายขั้นตอน/ลำดับการใช้ผลิตภัณฑ์ในตอนท้ายนะคะ^^) และผลิตภัณฑ์บางตัว เราเลือกที่จะใช้ขนาดทดลองก่อนนะคะ กลัวแพ้ แล้วต้องมานั่งเสียดายทั้งเงิน เสียทั้งความรู้สึก (แอบงก..นั่นเอง)
ตัวไหนใช้ดี ค่อยถอยไซด์จริงมาใช้เนอะๆๆ
ไอเท็มนี้เอาไว้เสริมค่ะ เหมือนเดิม... ซื้อขนาดเล็กสุดมาใช้555 แรกๆ ไม่มั่นใจเท่าไหร่ กลิ่นดูไม่น่าเชื่อถือ จะแพ้มั้ยว๊าาาา?? ...แต่ไหนๆก็ซื้อมาแล้ว ลองใช้ดูก็ได้ฟะ ในที่สุดก็เสี่ยงชีวิต ลองแต้มจุดเล็กๆบนหัวสิวก่อน....ดีงามเลยค่ะตัวนี้ ราคาไม่แพง ทาแล้วก็เย็นๆดี สิวแห้งไว แถมไม่แพ้ด้วยยยย สำหรับเราตัวนี้แต้มได้เรื่อยๆ ว่างตอนไหน แต้มตอนนั้น ชอบมั่กๆ **เราใช้แต้มเฉพาะวันหยุดอยู่บ้านนะเออ มันจะว่อกๆหน่อย)
ตัวนี้หาซากไม่ได้จริงๆ เพราะ เราปาดใช้จนหยดสุดท้ายไปแล้ว และยังไม่ได้ไปซื้อมาใหม่ แฮร่ๆ (ขอยืมรูปมาละกัน **ขอใครฟะ??)
ใช้ดีอีกเช่นกัน ลดรอยดำได้ดีเลยย^^
กระดาษเช็ดหน้า (อันที่จริงใช้ผ้าสะอาดซับหลังล้างหน้าตามปกติได้ แต่ต้องมั่นใจนะว่าผ้าที่เราใช้มันสะอาดจริงๆ...แต่เราไม่แน่ใจในความสะอาดของตัวเองเท่าไหร่ เลยต้องอาศัยกระดาษเช็ดหน้า รู้สึกปลอดภัยกับใบหน้าดี)
......
มาดูวิวัฒนาการบนใบหน้า หลังจากใช้เวลากับมันพอสมควรค่ะ
จขกท ไม่ลงรายละเอียดช่วงเวลาในทุกๆภาพนะคะ
รูปสุดท้ายขวามือ เพิ่งถ่ายเมื่อวาน 13 พ.ค 61 ค่ะ (ผ่านมาเดือนกว่าๆ ผลลัพธ์ค่อนข้างน่าพอใจ ** เคสเรารักษาเองล้วนๆ ไม่ผ่านคลีนิคใดๆทั้งสิ้น**
...
เชวิดหม่นหมองงงอยู่พักใหญ่ (พยายามทำใจให้ชิน ไม่เครียดแล้ว แต่พูดเลยยยยย ทำม่ายยยด้ายยย เครียดดดดว๊อยยยยย!!! TT)
....
ระหว่างนี้ ไปเดินโต๋เต๋ในสโตแถวบ้าน เห็นสครับตัวนี้ลดราคาอยู่ เลยสอยมาลองค่ะ เห็นข้างซองเขียนว่ามีส่วนผสมของน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ดูธรรมชาติดี ช่วยลดรอยด่างดำ มีกลิ่นหอมอ่อนๆ เราใช้สครับหน้า อาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง (ดีงามมมมม อีกแล้ววว ไม่รู้คิดไปเองรึเปล่า แต่รู้สึกว่ารอยดำจางไว หน้าใสขึ้นหลังล้างหน้า)
มาดูรูปล่าสุดกันนนนดีกว่า...
15 พ.ค 61 ......ยังเหลือรอยดำอีกเยอะเลย คงต้องไช้เวลาอีกสักระยะ แต่ก็มีกำลังใจในการดูแลตัวเองขึ้นเย๊อะเลยค่ะ สู้เว้ยยยย!!!
มาดูสเต็ปในการรักษาสิวของเรากันค่ะ
เช้า /วันทำงาน-วันหยุด^^
1. แต้ม Benzac 5%
เราใช้แต้มเป็นจุดๆนะ มิกล้าละเลงเต็มหน้า แสบๆคันๆยุกๆยิกๆ สะใจดี ว๊ะฮ่าๆ....(ทาทิ้งไว้สัก 5-10 นาทีเป็นอันเสร็จพิธีค่ะ)
2.ล้างหน้าด้วย acne aid สีฟ้า
จริงๆ เคยลองใช้ทั้งสีแดง/สีฟ้า เท่าที่รู้สีแดงเหมาะกับผู้ที่มีผิวมัน ส่วนสีฟ้าสำหรับผิวแห้ง แต่เราผิวผสม เลยอยากลองมันทั้ง 2 อย่าง ผลปรากฎว่า เราชอบสีฟ้ามากกว่า ไม่ชอบกลิ่นสีแดงบวกกับเนื้อครีมที่ค่อนข้างหนืด ตัวสีฟ้าจะเหลวกว่า ที่สำคัญมันอ่อนโยน มีกลิ่นหอมอ่อนๆ สำหรับเราสีฟ้าเวริ์คคคคค555
3. ซับหน้าให้แห้งด้วยกระดาษสำหรับเช็ดหน้า
4. ใช้สำลีแผ่น เช็ดหน้าอีกครั้งด้วยน้ำเกลื่อ รอให้น้ำเกลือแห้งแปปนึง
5. แต้ม Clinda - M ตามหัวสิวเลยค่ะ เท่าที่ทราบตัวนี้มีฤทธิ์ช่วยฆ่าเชื้อสิวอะไรประมาณนั้นน
6. ทาเซรั่ม vit c ชื่อยาวววม๊ากกก (powerful-strength line-reduceing concentrate ของ kiehl's) ตัวนี้ช่วยลดรอยดำได้ดีเลย เพราะมีส่วนผสมของวิตามินซีสูงถึง 12.5% ทีเดียวเชียว ที่สำคัญเราไม่แพ้ ปลื้มมมมเลย แต่ราคาแอบหวาดเสียวนิดหน่อย (ยังไม่แน่ใจว่าจะซื้อใช้ต่อดีมั้ย)
7. ลงเซรั่มเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวต่อค่ะ เราใช้ตัว hydro-plumping re-texturizing serum concentrate ของ kiehl's เจ้าเก่า (ชื่อยาวอีกแล้ววววว ><)
8. ทาครีมกันแดด เราใช้ของเดิมที่สั่งซื้อจากคลีนิกนะ อย่างที่พอจะทราบกันดี ช่วงรักษาสิวนี่ ครีมกันแดดเป็นอะไรที่ห้ามลืม เดี๋ยวหน้าคล้ำเอาน๊าาา
9. ลงคอนชีลเลอร์สำหรับปกปิดสิวโดยเฉพาะ เราใช้ของ eucerin dermo purifyer cover stick (สำหรับเรามันก้ปกปิดรอยดำได้ระดับนึง แต่ไม่เนียนเท่าไหร่ ยังคงมองเห็นรอยดำอ่ะ ดีตรงที่มันผลิตมาสำหรับผู้มีปัญหาสิว พร้อมมีส่วนผสมที่ช่วยรักษาสิวในตัว จึงไม่ต่องกลัวอุดตัน) ลักษณะเป็นแท่ง ใช้สะดวกดีนะ ถื่อว่าโอเคสำหรับวันที่ต้องออกไปพบปะผู้คน
10. ทาแป้งฝุ่น(แป้งเด็ก) เป็นแันเสร็จพิธี ออกแรดได้555
**สำหรับวันหยุดอยู่บ้าน เรางดลงคอนชีลเลอร์ แต่จะทา differin เป็นจุดๆไป/สลับกับการแต้ม Ziiit P-lotion บ้าง แล้วแต่อารมณ์
**สำหรับ Differin และ Benzac เภสัชกร แนะนำให้ทดสอบการแพ้ก่อน โดยการทาลงบนท้องแขน ดูอาการแพ้ 24 ชั่วโมง แต่เราทดสอบที่สิวตัวเอง 1 เม็ดเลย โชคดีไปที่ไม่แพ้ (อย่าเอาอย่างตาม จขกท นะคะ...เสี่ยงเป็นอย่างยิ่ง)
.......
ตอนเย็น
ขั้นตอนคล้ายๆกับตอนเช้าทุกประการ เพิ่มเติมคือ อันดับแรกให้เริ่มที่การเช็ดหน้าด้วย cleansing lotion เราใช้ Bifesta (เห็นรีวิวเยอะเลยในอินเตอร์เน็ต) เป็นสูตร acne care นะคะ แล้วทำตามขั้นตอน 1-7 ได้เลย ...สุดท้าย ท้ายสุดเราใช้ Smooth E acne scar serum ทาให้ทั่วรอยดำค่ะ นวดๆ สักพัก เสร็จแล้วก็นอนดูทีวีตามอัธยาศัยค่าาา
.......
ไว้จะมาอัพเดทอีกครั้งนะคะ
Fightingggggggggggg++++++