นี่เป็นการตั้งกระทู้ครั้งแรกในชีวิต ถ้าผิดพลาดประการใด ขออภัยด้วยนะคะ
ขอแนะนำตัวก่อน ชื่อ กุ๊กค่ะ ตอนนี้อายุก็ปาเข้าไป 27 ขวบปีแล้ว เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อต้นปี 2557
เอาล่ะ ไม่พูดพร่ำทำเพลง มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า ด้วยความที่ช่วงนั้นจขกท. เป็นชะนีตัวเล็กๆคนหนึ่งที่อยากจะมีผิวหน้าที่ขาวใส เหมือนสาวๆวัยแรกรุ่นกับเค้าบ้าง ก็เลยไปสรรหาครีมหน้าขาวมาใช้ ดั๊นไปสะดุดที่ครีมแบรนด์นึงซึ่งขายในอินเตอร์เน็ตนี่เอง แต่จขกท.จะไม่เล่าขวัญถึงชื่อแบรนด์เค้าละกันเนาะ ซึ่งราคาก็ไม่ได้ถูกๆนะ 1,500 เลยมั๊งตอนนั้นถ้าจำไม่ผิด พอได้ครีมมาเราก็เริ่มใช้ พอใช้ไปช่วงแรกๆดีมากเลยค่ะ ช่วงเดือนแรกๆคนทักหน้าขาวใส เราใช้ไปได้ประมาณ 4 เดือน ก็เริ่มมีคนทักเยอะว่าหน้าขาวไป ขาวเหมือนกระดาษ แถมมีสิวอุดตันขึ้นประปรายที่แก้ม คาง และหน้าผากด้วย เราเลยตัดสินใจเลิกใช้แบบหักดิบเลยค่ะ ผ่านไปแค่สัปดาห์เดียว กรรมตามทันเลยจ้า สิวที่มันเคยอุดตันอยู่ตอนที่ใช้ครีมนี่ปะทุออกมายิ่งกว่าโจ๊กเดือด เริ่มที่คาง ลามมาที่แก้ม จากนั้น ขึ้นที่หน้าผากด้วย สรุปคือ สิวปะทุทั้งหน้า มีรูปให้พิสูจน์ถึงความสยองด้วยตามภาพด้านล่างเลยค่ะ
พอก่อนดีกว่า เดี๋ยวคนอ่านจะอ้วกตาม TT ทีนี้เริ่มเครียด สิวก็ยิ่งขึ้น พอสิวขึ้นเราก็กด จิตก็ตก ส่องกระจกตลอด หน้านี่พังยับเยิน จากที่คนทักหน้าขาวใส ก็เริ่มทักใหม่ว่าเป็นอิสุกอิใสรึเปล่า เรานี่ยิ่งเครียดไปใหญ่ อยากตายมากๆ ไม่กล้าออกจากบ้าน ไม่อยากเจอใคร อ๋อออยยยย!! เราก็เลยได้แต่คิดแล้วก็สงสัย เข้าใจกันบ้างมั๊ยว่าคนที่เป็นสิว ไม่อยากให้ใครมาทักเสียเซลฟ์ เค้าต้องการกำลังใจอย่างแรงกล้าขนาดไหน เห้อออ!! ก็ต้องก้มหน้ารับชะตากรรมต่อไปอีกเป็นอาทิตย์สองอาทิตย์แน่ะ
แล้วก็เหมือนเทวดาเข้าข้าง นั่ง search หาวิธีรักษาสิวด้วยตัวเองจากอากู๋ ก็มาสะดุดกับกระทู้หนึ่งในห้องแป้งนี่แหละค่ะ เกี่ยวกับการรักษาสิวด้วยตัวเอง เราก็เริ่มมีความหวัง ก็เลยไปซื้อมาใช้ตามที่จขกท.เค้าแนะนำมา อ้ออ!!ที่เราไม่คิดจะไปรักษาที่คลินิคหมอ เพราะ บ้านเราอยู่ต่างจังหวัด แถมอยู่บนเขา อยู่ต่างอำเภออีกต่างหาก ไม่ได้อยู่ในเมือง ซึ่งไม่สะดวก เวลาไม่เอื้ออำนวย ที่เล่ายืดเยื้อมาทั้งหมดเสแสร้งล้วนๆค่ะ 555+ ประเด็นหลักๆเลยคือ เข้าคลินิค หมอมันแพงค่ะ เอาล่ะ ต่อค่ะ ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่เราใช้รักษาตลอดระยะเวลา 6 เดือน มีอยู่ 3 ตัวเท่านั้น ซึ่งตอนนี้สิวเราก็หายมานานแล้ว แต่เราก็ยังคงใช้ 3 ตัวนี้อยู่ ดังจะกล่าวต่อไปนี้นะคะ
1. Benzac 2.5% รูปร่างหน้าตาเป็นแบบนี้
เชื่อว่าสาวๆคงจะรู้จักกันดี ตัวนี้ในเอกสารกำกับ เค้าจะให้ใช้หลังล้างหน้าวันละ 1-2 ครั้ง แต่เราใจร้อน อยากหายเร็ว เราเลยใช้ทาก่อนล้างหน้าประมาณ 10-15 นาที แล้วก็เพิ่มเวลาตามลำดับ (มีวิธีที่เราใช้เขียนให้ไว้ด้านล่างนะจ๊ะ)
2. Cetaphil Gentle Skin Cleanser ตัวนี้ขอบอกว่าเริ่สมาก
เราจัดขวดใหญ่มาเลยค่ะ ตอนนั้นราคาประมาณ 600-800 บาท แล้วแต่ว่าซื้อที่ไหน ตามบูทหรือวัตสันก็มีค่ะ แต่ถ้าซื้อตามร้านขายยาจะถูกกว่าค่อนข้างเยอะนะ แต่ความรู้สึกเวลาที่ใช้ล้างหน้านี่จะรู้สึกว่าล้างหน้าไม่สะอาด ต้องใช้น้ำล้างเยอะๆ แต่โดยส่วนตัวแล้วชอบมากค่ะ อ่อนโยนดี
3.Clinda-m ตัวนี้หาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไปเลยค่ะ ราคาประมาณ 50-70 บาท แล้วแต่ร้าน แต่ราคาติดที่ผลิตภัณฑ์จะอยู่ที่ 69 บาทนะ ตัวยาจะเป็นน้ำ ใช้แต้มบริเวณที่เป็นสิวอักเสบค่ะ
(ขอเน้นเลยนะคะ ช่วงที่รักษาสิวเนี่ย ไม่แนะนำให้ทาครีมรักษารอยดำ เพราะครีมพวกนี้จะไปอุดตันรูขุมขนทำให้สิวไม่หาย เราควรรักษาสิวให้หายก่อนค่อนรักษารอยดำกันต่อไปเนอะ อดทน ใจเย็นๆ มันต้องหายๆ ท่องเข้าไว้ อย่ารักษาสิวและรอยสิวไปพร้อมกัน สิวมันจะไม่หายซักทีนะจ๊ะเด็กๆ )
มาที่วิธีการใช้กันดีกว่า เราจะแบ่งช่วงเวลาในการเพิ่มปริมาณยาตามนี้ค่ะ
1. ช่วง 10 วันแรก เราจะใช้ Benzac 2.5% ทาบางๆทั่วทั้งหน้าเลยเพราะสิวเราขึ้นทั้งหน้า แหกทั้งหน้า 55+ ทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที เพื่อให้ผิวหน้าเราทำความรู้จักกับยาก่อน ว่าชั้นจะมารักษาเธอนะ เธอต้องหาย หลังจากนั้น ก็ใช้ cetaphil ล้างหน้า โดยขั้นตอนนี้เรา นับ 1-180 หรือใช้เวลาล้างนาน 3 นาที คือไม่ต้องถูแรงนะคะ ค่อยๆนวด ขั้นตอนนี้ถ้าทำได้จะรู้สึกฟินมากๆเลยค่ะ พอล้างน้ำเปล่าเรียบร้อยแล้วเราจะใช้กระดาษเช็ดหน้าคลีเน็กส์ ค่อยๆซับให้แห้ง หลังจากนั้นค่อยใช้ Clinda-m แต้มๆบริเวณที่เป็นสิวอักเสบ เท่านี้เป็นอันเสร็จขั้นตอน
2. พอทา Benzac ก่อนล้างหน้า 5 นาที ครบ 10 วันแล้ว เราก็จะเพิ่มระยะเวลาให้นานมากขึ้น โดยเราเพิ่มเวลาเป็น 10 นาที ต่อไปอีก 20 วัน ส่วนขั้นตอนล้างหน้าเราทำเหมือนเดิมค่ะ ใช้ cetaphil ล้าง นับ 1-180 เหมือนเดิม ใช้กระดาษเช็ดหน้า แล้วก็ใช้ clinda-m แต้มบริเวณสิวอักเสบ ซึ่งสิวก็ยังคงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตรงนี้ยุบ ตรงนั้นขึ้น ตาลายกันเลยทีเดียวเชียวหล่ะ
3. หลังจากที่เราทา Benzac ก่อนล้างหน้าครบ 20 วันแล้ว เราก็เพิ่มเวลาเป็น 30 นาที ต่อไปอีก 1 เดือน ขั้นตอนล้างหน้าเหมือนเดิมเลยจ้า ผ่านไป 2 เดือนแล้วคิดว่าสิวจะยุบใช่มั๊ย โน๊ววววว!!!! ยังขึ้นต่อเนื่อง แต่เราไม่ยอมแพ้ ทำแบบเดิมต่อไป
4. ขั้นสุดท้ายเป็นการทา Benzac ที่ยาวนานมากที่สุด พีคสุดคือเราทาก่อนนอนเลย แล้วตื่นมาล้างหน้าทีเดียว หลังจากนั้นก็ทาก่อนนอนมาตลอด แต่ขึ้นตอนการล้างหน้ายังเป็นเหมือนเดิมเช้า-เย็นนะ เราทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ คือต้องมีวินัย ไม่ขี้เกียจ ต้องทำเป็นประจำด้วยนะ
หลังจากที่ใช้วิธีนี้อยู่ประมาณ 3 เดือน ปาฏิหารย์ ก็เกิดขึ้นกับชะนีตัวน้อยๆอย่างดิชั้นค่ะ นั่นคือ สิวไม่ขึ้นเพิ่มจากเดิม ลดลงมากจากที่แทบจะไม่มีพื้นที่ให้นางได้แออัดเป็นชุมชนสลัม ช่วงนั้นแฮปปี้มากๆ แต่เราก็ยังไม่นิ่งนอนใจ ใช้วิธีที่กล่าวมาข้างต้นไปเรื่อยๆอีกเป็นเดือนๆค่ะ (ทำเฉพาะข้อ 4. นะคะ) เพื่อให้แน่ใจว่าหล่อนจะไม่กลับมาทำร้ายชั้นได้อีก เข้าเดือนที่ 5 สิวไม่มีแล้ว ผิวหน้าดีขึ้น แต่นางได้ทิ้งรอยดำ รอยแดง และหลุมสิว เอาไว้สะกิดใจให้ช้ำเล่นๆ ทั่วหน้าเลย แต่ไม่เป็นไร อดทนมาขนาดนี้แล้ว เอาอยู่ ว่าแล้วก็ search อากู๋ หาเลยค่า ครีมรักษารอยสิว แต่คราวนี้เราไม่ตกหลุมพรางของพวกขายครีมในอินเตอร์เนตอีกแล้ว และจะไม่ใจอ่อนกับสรรพคุณและโฆษณาชวนเชื่ออีกนานับประการ ที่เห็นผลเร็วใน 7 วัน หรืออะไรต่อมิอะไร เช่นเคยค่ะ เราก็มาสะดุดที่กระทู้ในห้องแป้งของพันทิปนี่แหละ เค้าว่ากันว่า ครีม Oley ซองละ 12 บาทนั้นดีนักแล เห็นอย่างนี้แล้ว เราจะช้าอยู่ใยคะ รีบคว้ามอเตอร์ไซค์ขับไปเซเว่นเลยจ้า เหมามา 2 ซอง ก่อน พอแน่ใจว่าสิวไม่ขึ้นแล้ว ก็เริ่มทาครีม Oley ทั้งเช้า และก่อนนอน ปรากฎว่า ใช้ไปประมาณเดือนกว่าๆ รอยสิวจางลงมากจริงๆ และสิวก็ไม่ขึ้น สรุปไม่แพ้ เราก็เลยใช้ตัวนี้มาจนถึงทุกวันนี้เลยค่ะ แต่เรื่องรอยสิวเนี่ย ยังไงก็ยังรักษายากอยู่ดี ใครมีวิธีก็มาแนะนำเราหน่อยนะคะ
นี่เป็นรูปตอนสิวยุบ หน้าเริ่มหาย แต่ทิ้งรอยไว้เยอะเหมือนกันค่ะ
ช่วงที่เป็นสิวหนักๆของเรานี่เรียกได้ว่าเป็นช่วงโหดร้ายของชีวิตเลยนะ แต่เรายังโชคดีหน่อยที่ช่วงนั้นตกงาน กลับไปช่วยแม่ขายของที่บ้าน เลยมีเวลารักษาสิวนานหน่อย และมั่นใจว่าสิวหายจริงๆ ก็เริ่มแต่งหน้าทาแป้ง จากช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา แม้แต่แป้งฝุ่นเรายังไม่กล้าแตะ แต่เดี๋ยวนี้เหรอ หึๆ จัดมาเต็มๆค่ะ
เปรียบเทียบตอนเป็นสิว กับตอนหายค่ะ
สุดท้ายแล้ว เราไม่คิดจะกลับไปใช้ครีมที่ขายตามอินเตอร์เน็ต อวดอ้างสรรพคุณต่างๆนาๆ แรกๆดี หลังๆพัง อีกแล้วล่ะค่ะ เข็ดมาก และเราก็เลิกอยากเป็นชะนีหน้าขาวใสเหมือนแต่ก่อน ตอนนี้แค่ไม่เป็นสิว เราก็โอเคมากๆแล้ว ยังไงเราก็ขอเป็นกำลังใจคนที่เป็นสิวนะคะ อย่าท้อ เห็นมั๊ยถ้าเรามีวินัย ยังไงเราก็ต้องหาย แต่ละคนก็ใช้ระยะเวลาในการรักษาที่ต่างกันไป บางคนหายไวบางคนหายช้า อย่าไปเครียด เพราะสุดท้ายเราก็หาย แค่ต้องใจเย็นๆ อดทน และ ใช้เวลา
อันนี้เป็นรูปที่แต่งหน้าบางๆแล้ว ผิวแข็งแรงมากค่ะ แสงช่วยได้เยอะและแอบใช้แอพนิดหน่อยค่ะ อิอิ
ส่วนด้านล่างนี้เป็นรูปของ จขกท. ปัจจุบัน ถ่ายวันที่ 4 มีนาคม 2559 ค่ะ ไม่ได้ใช้แอพตกแต่งภาพใดๆเลยจ้า หน้าไม่ได้ใสมาก แต่สิวไม่ขึ้น ก็พอใจละ
ปล. เราอาจเขียนกระทู้ยาวมากและวกไปวนมา ถ้าอ่านแล้วงง ถามเราได้นะคะ สู้ๆน้า คนเก่ง ^^
[CR] แชร์ประสบการณ์รักษาสิวด้วยตัวเองนาน 6 เดือน โดยไม่พึ่งหมอ
ขอแนะนำตัวก่อน ชื่อ กุ๊กค่ะ ตอนนี้อายุก็ปาเข้าไป 27 ขวบปีแล้ว เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อต้นปี 2557
เอาล่ะ ไม่พูดพร่ำทำเพลง มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า ด้วยความที่ช่วงนั้นจขกท. เป็นชะนีตัวเล็กๆคนหนึ่งที่อยากจะมีผิวหน้าที่ขาวใส เหมือนสาวๆวัยแรกรุ่นกับเค้าบ้าง ก็เลยไปสรรหาครีมหน้าขาวมาใช้ ดั๊นไปสะดุดที่ครีมแบรนด์นึงซึ่งขายในอินเตอร์เน็ตนี่เอง แต่จขกท.จะไม่เล่าขวัญถึงชื่อแบรนด์เค้าละกันเนาะ ซึ่งราคาก็ไม่ได้ถูกๆนะ 1,500 เลยมั๊งตอนนั้นถ้าจำไม่ผิด พอได้ครีมมาเราก็เริ่มใช้ พอใช้ไปช่วงแรกๆดีมากเลยค่ะ ช่วงเดือนแรกๆคนทักหน้าขาวใส เราใช้ไปได้ประมาณ 4 เดือน ก็เริ่มมีคนทักเยอะว่าหน้าขาวไป ขาวเหมือนกระดาษ แถมมีสิวอุดตันขึ้นประปรายที่แก้ม คาง และหน้าผากด้วย เราเลยตัดสินใจเลิกใช้แบบหักดิบเลยค่ะ ผ่านไปแค่สัปดาห์เดียว กรรมตามทันเลยจ้า สิวที่มันเคยอุดตันอยู่ตอนที่ใช้ครีมนี่ปะทุออกมายิ่งกว่าโจ๊กเดือด เริ่มที่คาง ลามมาที่แก้ม จากนั้น ขึ้นที่หน้าผากด้วย สรุปคือ สิวปะทุทั้งหน้า มีรูปให้พิสูจน์ถึงความสยองด้วยตามภาพด้านล่างเลยค่ะ
พอก่อนดีกว่า เดี๋ยวคนอ่านจะอ้วกตาม TT ทีนี้เริ่มเครียด สิวก็ยิ่งขึ้น พอสิวขึ้นเราก็กด จิตก็ตก ส่องกระจกตลอด หน้านี่พังยับเยิน จากที่คนทักหน้าขาวใส ก็เริ่มทักใหม่ว่าเป็นอิสุกอิใสรึเปล่า เรานี่ยิ่งเครียดไปใหญ่ อยากตายมากๆ ไม่กล้าออกจากบ้าน ไม่อยากเจอใคร อ๋อออยยยย!! เราก็เลยได้แต่คิดแล้วก็สงสัย เข้าใจกันบ้างมั๊ยว่าคนที่เป็นสิว ไม่อยากให้ใครมาทักเสียเซลฟ์ เค้าต้องการกำลังใจอย่างแรงกล้าขนาดไหน เห้อออ!! ก็ต้องก้มหน้ารับชะตากรรมต่อไปอีกเป็นอาทิตย์สองอาทิตย์แน่ะ
แล้วก็เหมือนเทวดาเข้าข้าง นั่ง search หาวิธีรักษาสิวด้วยตัวเองจากอากู๋ ก็มาสะดุดกับกระทู้หนึ่งในห้องแป้งนี่แหละค่ะ เกี่ยวกับการรักษาสิวด้วยตัวเอง เราก็เริ่มมีความหวัง ก็เลยไปซื้อมาใช้ตามที่จขกท.เค้าแนะนำมา อ้ออ!!ที่เราไม่คิดจะไปรักษาที่คลินิคหมอ เพราะ บ้านเราอยู่ต่างจังหวัด แถมอยู่บนเขา อยู่ต่างอำเภออีกต่างหาก ไม่ได้อยู่ในเมือง ซึ่งไม่สะดวก เวลาไม่เอื้ออำนวย ที่เล่ายืดเยื้อมาทั้งหมดเสแสร้งล้วนๆค่ะ 555+ ประเด็นหลักๆเลยคือ เข้าคลินิค หมอมันแพงค่ะ เอาล่ะ ต่อค่ะ ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่เราใช้รักษาตลอดระยะเวลา 6 เดือน มีอยู่ 3 ตัวเท่านั้น ซึ่งตอนนี้สิวเราก็หายมานานแล้ว แต่เราก็ยังคงใช้ 3 ตัวนี้อยู่ ดังจะกล่าวต่อไปนี้นะคะ
1. Benzac 2.5% รูปร่างหน้าตาเป็นแบบนี้
เชื่อว่าสาวๆคงจะรู้จักกันดี ตัวนี้ในเอกสารกำกับ เค้าจะให้ใช้หลังล้างหน้าวันละ 1-2 ครั้ง แต่เราใจร้อน อยากหายเร็ว เราเลยใช้ทาก่อนล้างหน้าประมาณ 10-15 นาที แล้วก็เพิ่มเวลาตามลำดับ (มีวิธีที่เราใช้เขียนให้ไว้ด้านล่างนะจ๊ะ)
2. Cetaphil Gentle Skin Cleanser ตัวนี้ขอบอกว่าเริ่สมาก
เราจัดขวดใหญ่มาเลยค่ะ ตอนนั้นราคาประมาณ 600-800 บาท แล้วแต่ว่าซื้อที่ไหน ตามบูทหรือวัตสันก็มีค่ะ แต่ถ้าซื้อตามร้านขายยาจะถูกกว่าค่อนข้างเยอะนะ แต่ความรู้สึกเวลาที่ใช้ล้างหน้านี่จะรู้สึกว่าล้างหน้าไม่สะอาด ต้องใช้น้ำล้างเยอะๆ แต่โดยส่วนตัวแล้วชอบมากค่ะ อ่อนโยนดี
3.Clinda-m ตัวนี้หาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไปเลยค่ะ ราคาประมาณ 50-70 บาท แล้วแต่ร้าน แต่ราคาติดที่ผลิตภัณฑ์จะอยู่ที่ 69 บาทนะ ตัวยาจะเป็นน้ำ ใช้แต้มบริเวณที่เป็นสิวอักเสบค่ะ
(ขอเน้นเลยนะคะ ช่วงที่รักษาสิวเนี่ย ไม่แนะนำให้ทาครีมรักษารอยดำ เพราะครีมพวกนี้จะไปอุดตันรูขุมขนทำให้สิวไม่หาย เราควรรักษาสิวให้หายก่อนค่อนรักษารอยดำกันต่อไปเนอะ อดทน ใจเย็นๆ มันต้องหายๆ ท่องเข้าไว้ อย่ารักษาสิวและรอยสิวไปพร้อมกัน สิวมันจะไม่หายซักทีนะจ๊ะเด็กๆ )
มาที่วิธีการใช้กันดีกว่า เราจะแบ่งช่วงเวลาในการเพิ่มปริมาณยาตามนี้ค่ะ
1. ช่วง 10 วันแรก เราจะใช้ Benzac 2.5% ทาบางๆทั่วทั้งหน้าเลยเพราะสิวเราขึ้นทั้งหน้า แหกทั้งหน้า 55+ ทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที เพื่อให้ผิวหน้าเราทำความรู้จักกับยาก่อน ว่าชั้นจะมารักษาเธอนะ เธอต้องหาย หลังจากนั้น ก็ใช้ cetaphil ล้างหน้า โดยขั้นตอนนี้เรา นับ 1-180 หรือใช้เวลาล้างนาน 3 นาที คือไม่ต้องถูแรงนะคะ ค่อยๆนวด ขั้นตอนนี้ถ้าทำได้จะรู้สึกฟินมากๆเลยค่ะ พอล้างน้ำเปล่าเรียบร้อยแล้วเราจะใช้กระดาษเช็ดหน้าคลีเน็กส์ ค่อยๆซับให้แห้ง หลังจากนั้นค่อยใช้ Clinda-m แต้มๆบริเวณที่เป็นสิวอักเสบ เท่านี้เป็นอันเสร็จขั้นตอน
2. พอทา Benzac ก่อนล้างหน้า 5 นาที ครบ 10 วันแล้ว เราก็จะเพิ่มระยะเวลาให้นานมากขึ้น โดยเราเพิ่มเวลาเป็น 10 นาที ต่อไปอีก 20 วัน ส่วนขั้นตอนล้างหน้าเราทำเหมือนเดิมค่ะ ใช้ cetaphil ล้าง นับ 1-180 เหมือนเดิม ใช้กระดาษเช็ดหน้า แล้วก็ใช้ clinda-m แต้มบริเวณสิวอักเสบ ซึ่งสิวก็ยังคงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตรงนี้ยุบ ตรงนั้นขึ้น ตาลายกันเลยทีเดียวเชียวหล่ะ
3. หลังจากที่เราทา Benzac ก่อนล้างหน้าครบ 20 วันแล้ว เราก็เพิ่มเวลาเป็น 30 นาที ต่อไปอีก 1 เดือน ขั้นตอนล้างหน้าเหมือนเดิมเลยจ้า ผ่านไป 2 เดือนแล้วคิดว่าสิวจะยุบใช่มั๊ย โน๊ววววว!!!! ยังขึ้นต่อเนื่อง แต่เราไม่ยอมแพ้ ทำแบบเดิมต่อไป
4. ขั้นสุดท้ายเป็นการทา Benzac ที่ยาวนานมากที่สุด พีคสุดคือเราทาก่อนนอนเลย แล้วตื่นมาล้างหน้าทีเดียว หลังจากนั้นก็ทาก่อนนอนมาตลอด แต่ขึ้นตอนการล้างหน้ายังเป็นเหมือนเดิมเช้า-เย็นนะ เราทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ คือต้องมีวินัย ไม่ขี้เกียจ ต้องทำเป็นประจำด้วยนะ
หลังจากที่ใช้วิธีนี้อยู่ประมาณ 3 เดือน ปาฏิหารย์ ก็เกิดขึ้นกับชะนีตัวน้อยๆอย่างดิชั้นค่ะ นั่นคือ สิวไม่ขึ้นเพิ่มจากเดิม ลดลงมากจากที่แทบจะไม่มีพื้นที่ให้นางได้แออัดเป็นชุมชนสลัม ช่วงนั้นแฮปปี้มากๆ แต่เราก็ยังไม่นิ่งนอนใจ ใช้วิธีที่กล่าวมาข้างต้นไปเรื่อยๆอีกเป็นเดือนๆค่ะ (ทำเฉพาะข้อ 4. นะคะ) เพื่อให้แน่ใจว่าหล่อนจะไม่กลับมาทำร้ายชั้นได้อีก เข้าเดือนที่ 5 สิวไม่มีแล้ว ผิวหน้าดีขึ้น แต่นางได้ทิ้งรอยดำ รอยแดง และหลุมสิว เอาไว้สะกิดใจให้ช้ำเล่นๆ ทั่วหน้าเลย แต่ไม่เป็นไร อดทนมาขนาดนี้แล้ว เอาอยู่ ว่าแล้วก็ search อากู๋ หาเลยค่า ครีมรักษารอยสิว แต่คราวนี้เราไม่ตกหลุมพรางของพวกขายครีมในอินเตอร์เนตอีกแล้ว และจะไม่ใจอ่อนกับสรรพคุณและโฆษณาชวนเชื่ออีกนานับประการ ที่เห็นผลเร็วใน 7 วัน หรืออะไรต่อมิอะไร เช่นเคยค่ะ เราก็มาสะดุดที่กระทู้ในห้องแป้งของพันทิปนี่แหละ เค้าว่ากันว่า ครีม Oley ซองละ 12 บาทนั้นดีนักแล เห็นอย่างนี้แล้ว เราจะช้าอยู่ใยคะ รีบคว้ามอเตอร์ไซค์ขับไปเซเว่นเลยจ้า เหมามา 2 ซอง ก่อน พอแน่ใจว่าสิวไม่ขึ้นแล้ว ก็เริ่มทาครีม Oley ทั้งเช้า และก่อนนอน ปรากฎว่า ใช้ไปประมาณเดือนกว่าๆ รอยสิวจางลงมากจริงๆ และสิวก็ไม่ขึ้น สรุปไม่แพ้ เราก็เลยใช้ตัวนี้มาจนถึงทุกวันนี้เลยค่ะ แต่เรื่องรอยสิวเนี่ย ยังไงก็ยังรักษายากอยู่ดี ใครมีวิธีก็มาแนะนำเราหน่อยนะคะ
นี่เป็นรูปตอนสิวยุบ หน้าเริ่มหาย แต่ทิ้งรอยไว้เยอะเหมือนกันค่ะ
ช่วงที่เป็นสิวหนักๆของเรานี่เรียกได้ว่าเป็นช่วงโหดร้ายของชีวิตเลยนะ แต่เรายังโชคดีหน่อยที่ช่วงนั้นตกงาน กลับไปช่วยแม่ขายของที่บ้าน เลยมีเวลารักษาสิวนานหน่อย และมั่นใจว่าสิวหายจริงๆ ก็เริ่มแต่งหน้าทาแป้ง จากช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา แม้แต่แป้งฝุ่นเรายังไม่กล้าแตะ แต่เดี๋ยวนี้เหรอ หึๆ จัดมาเต็มๆค่ะ
เปรียบเทียบตอนเป็นสิว กับตอนหายค่ะ
สุดท้ายแล้ว เราไม่คิดจะกลับไปใช้ครีมที่ขายตามอินเตอร์เน็ต อวดอ้างสรรพคุณต่างๆนาๆ แรกๆดี หลังๆพัง อีกแล้วล่ะค่ะ เข็ดมาก และเราก็เลิกอยากเป็นชะนีหน้าขาวใสเหมือนแต่ก่อน ตอนนี้แค่ไม่เป็นสิว เราก็โอเคมากๆแล้ว ยังไงเราก็ขอเป็นกำลังใจคนที่เป็นสิวนะคะ อย่าท้อ เห็นมั๊ยถ้าเรามีวินัย ยังไงเราก็ต้องหาย แต่ละคนก็ใช้ระยะเวลาในการรักษาที่ต่างกันไป บางคนหายไวบางคนหายช้า อย่าไปเครียด เพราะสุดท้ายเราก็หาย แค่ต้องใจเย็นๆ อดทน และ ใช้เวลา
อันนี้เป็นรูปที่แต่งหน้าบางๆแล้ว ผิวแข็งแรงมากค่ะ แสงช่วยได้เยอะและแอบใช้แอพนิดหน่อยค่ะ อิอิ
ส่วนด้านล่างนี้เป็นรูปของ จขกท. ปัจจุบัน ถ่ายวันที่ 4 มีนาคม 2559 ค่ะ ไม่ได้ใช้แอพตกแต่งภาพใดๆเลยจ้า หน้าไม่ได้ใสมาก แต่สิวไม่ขึ้น ก็พอใจละ
ปล. เราอาจเขียนกระทู้ยาวมากและวกไปวนมา ถ้าอ่านแล้วงง ถามเราได้นะคะ สู้ๆน้า คนเก่ง ^^