วันนี้มีของอร่อยมาฝากกันเหมือนเดิมคร้าบบ
จะพาไปลอง อาหารฝรั่งเศส แบบต้นตำรับ ในร้านสวย ๆ บรรยากาศดี
ที่  " Brasserie Cordonnier " ( บราสเซอรี่ คอร์ดอนนิเยร์ )
ตั้งอยู่ ใจกลาง ซ.สุขุมวิท11 ติดกับ โรงแรม Le Fenix หลังร้านมีที่จอดรถเรียบร้อย

แอบกระซิบนิดนึงว่า Executive Chef ผู้ครีเอทบรรดาเมนูอร่อย ๆ ของทางร้าน
คือ เชฟ เคลมองต์ เฮอร์นานเดซ ที่ผ่านประสบการณ์จากร้านระดับมิชลินมามากมาย




บรรยากาศภายใน จำลองบราสเซอรี่แบบดั้งเดิมของฝรั่งเศส




โซนบาร์นี่อย่างแจ่มเลยครับ สมกับที่เป็นร้านในเครือ Soho Hospitality
ซึ่งมีร้านอาหารและบาร์ ดัง ๆ หลายแห่งเลยทีเดียว




เริ่มที่ขนมปังกันก่อน เสิร์ฟพร้อมเนยสดที่นำเข้ามาจากฝรั่งเศส
มี 2 แบบ คือ เนยสดธรรมดา และ แบบผสมทรัฟเฟิล




เริ่มด้วย Coldcuts & Cheeses Platter  ราคา 480++
จานนี้จะมี ชีส และ โคลคัท

เสิร์ฟมาพร้อมเครื่องเคียง เป็น แตงกวาดอง , มะกอก และ มะเขือเทศแห้ง
เรียกน้ำย่อยได้ดีเลยครับ จับคู่กับเครื่องดื่มเย็น ๆ นี่ สดชื่นดีมาก




ต่อด้วย Chilled Ratatouille ราคา 280++
เป็น สตูว์ผักราตาตุย ที่แทบจะเป็นอาหารสามัญประจำชาติเลยทีเดียว
แต่จานนี้ เชฟใช้เทคนิคในการผัดให้ร้อนแทนการตุ๋น โดยใช้มะเขือเทศ ถึง 3 แบบ
ท็อปมาด้วยยอดอ่อน และ เมล็ดทานตะวัน เพิ่มรสสัมผัสเวลาเคี้ยว

รสชาติหวานอมเปรี้ยวนิด ๆ กลมกล่อมดี




ถัดมาเป็น French Onion Soup ราคา 280++
พอร์ชั่นค่อนข้างใหญ่มากเลยครับ ควรจะสั่งมาแชร์กันสัก 2-3 คน
เชฟเอาหอมใหญ่ กับ แรดิช ไปผัดจนหอม สีโกลเด้นบราวน์ สวย ๆ ก่อนจะต้มกับซุปไก่
และท็อปมาด้วย ขนมปังฝรั่งเศสกับชีสเอ็มเมนทอล




เป็นซุปหอมใหญ่ที่อร่อยจริงจังมากครับ ตัวซุปกลมกล่อมมาก ๆ ยิ่งซดยิ่งเพลิน
แถมขนมปังฝรั่งเศสกับชีส  ก็เข้ากันดีสุด ๆ




ต่อด้วยเมนู Burgundy Snails ราคา 390++
เป็นหอยจากแคว้นเบอร์กันดี ที่ขึ้นชื่อว่าดีที่สุดของฝรั่งเศส
นำไปอบกับ เนย , กระเทียม , ผักชีฝรั่ง และ เหล้าพาสติส




ตอนมาเสิร์ฟนี่ ตัวหอยจะร้อนมากเลยครับ เพราะเพิ่งออกจากเตา
เค้าจะมีที่จับ และ ส้อม เล็ก ๆ ไว้ให้ใช้จิ้มเอาหอยออกมา




หอยเนื้อหนึบ แต่ไม่เหนียว หอมกระเทียม




จานนี้เป็น Terrine de Foie Gras Facon Cordonnier ราคา 560++
เป็น ตับบด ที่ทำจาก ฟัวกราส์หมักกับเกลือและพรืกไทย ก่อนนำไป Sous Vide จนสุก
แล้วถึงนำมาบด ทานคู่กับขนมปังบริออช หอม ๆ มัน ๆ




Tartare de boeuf Wagyu D'Australie et Huitre
เป็น ทาร์ทาร์เนื้อวากิวกับหอยนางรม คลุกกับครีมหอมแดง ราคา 460++
ถึงจะเป็นเนื้อดิบ แต่ด้วยความสด ของทั้งเนื้อและหอย ทำให้มัน Juicy เคี้ยวไปมีกลิ่นรสเฉพาะตัว




ต่อด้วยเมนูเส้นกันบ้าง กับ Linguines aux champignons et beurre a la truffle ราคา 280++
เป็นเส้น ลิงกวินี่ ผัดกับน้ำมันมะกอก และ เนยทรัฟเฟิล ใส่เห็ด แชมปิญอง และ พอร์ชินี่
เส้นนิ่มกะลังดี ได้กลิ่นหอมทรัฟเฟิล และ รสสัมผัสหนึบ ๆ ของเห็ด




ปิดท้ายด้วยเมนคอร์ส กับ เมนู Magret de Canard poele ราคา 520++
เป็น อกเป็ด และ ฟัวกราส์ ที่ Seared มาสุกกำลังดี ทานคู่กับ มันบดและสลัดผัก

ฟัวกราส์ ชิ้นหนานุ่ม อร่อยมากคร้าบบ ทอดมาเกรียม ๆ ถูกใจ
อกเป็ดก็นุ่มกำลังดี พอให้ได้เคี้ยวบ้าง ไม่เปื่อยจนเกินไป




ปิดท้ายด้วยของหวาน กับ Nougat glace sauce fruits rouges ราคา 200++
ตัวนูกัตรสหวานอ่อน ๆ ตัดกับ ความเปรี้ยวของเบอร์รี่ซอสได้ดีเลยครับ
ข้างในมีถั่วหลายชนิด เคี้ยวเพลิน




Mousse Au Chocolat ราคา 180++
ตัวมูสเนื้อละมุน เบา เนียนมากกก แถมรสเข้มข้น ทานคู่กับ ช็อคครัมเบิล กรุบ ๆ




ปิดท้าย เป็น Apple tarte tatin ราคา 220++
พัฟบาง ๆ อยู่ชั้นล่างสุด กับเนื้อแอ็ปเปิ้ล ที่สไลด์บางเฉียบซ้อนกันเป็นชั้น ๆ
ทานคู่กับไอศครีมซินนามอน หอม ๆ รสไม่หวานมาก




ไปยืนดูเค้าทำค็อกเทลไม่ธรรมดา ทำสวยทีเดียว ท่าทางจะแรงใช้ได้เลย
ใครสนใจอาหารฝรั่งเศส ในราคาสมเหตุสมผล ก็ไปลองกันได้คร้าบบ
กับ Brasserie Cordonnier ใน ซ.สุขุมวิท 11


ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามคร้าบบผม
>>> https://www.facebook.com/reviewbenz47