ความย่อว่า ในที่สุดลงแห่งการแสดงยมกปาฏิหาริย์
พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จเข้าจำพรรษา
ณ แท่นบัณฑุกัมพลศิลาอาสน์ที่โคนไม้ปาริชาตในเทวนคร
ทรงกระทำพระมารดาให้เป็นองค์พยาน
ตรัสอยู่ซึ่งพระอภิธรรมกถาแก่เทวบริษัท
ครั้นทรงแสดงปกรณ์ธัมมสังคณีได้ ๑๐๐ ปี
พวกภิกษุวัชชีบุตรแสดงวัตถุ ๑๐ ประการ
อันผิดจากพระธรรมวินัย คือ :-
๑. ภิกษุเก็บเกลือเหลือไว้ในกลักสำหรับฉันกับอาหาร เห็นว่าสมควร.
๒. ภิกษุฉันอาหารเมื่อตะวันบ่าย ๒ นิ้ว เห็นว่าสมควร.
๓. ภิกษุห้ามภัตแล้วเข้าไปในละแวกบ้าน แล้วฉันภัตที่ไม่ทำวินัยกรรมก่อน หรือไม่เป็นเดนภิกษุไข้ เห็นว่าสมควร.
๔. ภิกษุอยู่ในอาวาสเดียวกันจะแยกทำสังฆกรรม เห็นว่าสมควร.
๕. ภิกษุทำอุโบสถไม่รอฉันทานุมัติ เห็นว่าสมควร.
๖. ข้อปฏิบัติที่อุปัชฌาย์อาจารย์เคยประพฤติมาผิดถูกอย่างไร ประพฤติตาม เห็นว่าสมควร.
๗. ภิกษุห้ามภัตแล้วฉันนมสดที่ยังไม่แปรเป็นนมส้ม เห็นว่าสมควร.
๘. ภิกษุดื่มสุราอ่อนๆ เห็นว่าสมควร.
๙. ภิกษุใช้ผ้านิสีทนะที่ไม่มีชาย เห็นว่าสมควร.
๑๐. ภิกษุรับหรือยินดีเงินและทองที่เขาเก็บไว้เพื่อตน เห็นว่าสมควร.
พระธรรมวินัย ถูกบิดเบือน หาแท้100เปอร์เซนต์ไม่ได้
พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จเข้าจำพรรษา
ณ แท่นบัณฑุกัมพลศิลาอาสน์ที่โคนไม้ปาริชาตในเทวนคร
ทรงกระทำพระมารดาให้เป็นองค์พยาน
ตรัสอยู่ซึ่งพระอภิธรรมกถาแก่เทวบริษัท
ครั้นทรงแสดงปกรณ์ธัมมสังคณีได้ ๑๐๐ ปี
พวกภิกษุวัชชีบุตรแสดงวัตถุ ๑๐ ประการ
อันผิดจากพระธรรมวินัย คือ :-
๑. ภิกษุเก็บเกลือเหลือไว้ในกลักสำหรับฉันกับอาหาร เห็นว่าสมควร.
๒. ภิกษุฉันอาหารเมื่อตะวันบ่าย ๒ นิ้ว เห็นว่าสมควร.
๓. ภิกษุห้ามภัตแล้วเข้าไปในละแวกบ้าน แล้วฉันภัตที่ไม่ทำวินัยกรรมก่อน หรือไม่เป็นเดนภิกษุไข้ เห็นว่าสมควร.
๔. ภิกษุอยู่ในอาวาสเดียวกันจะแยกทำสังฆกรรม เห็นว่าสมควร.
๕. ภิกษุทำอุโบสถไม่รอฉันทานุมัติ เห็นว่าสมควร.
๖. ข้อปฏิบัติที่อุปัชฌาย์อาจารย์เคยประพฤติมาผิดถูกอย่างไร ประพฤติตาม เห็นว่าสมควร.
๗. ภิกษุห้ามภัตแล้วฉันนมสดที่ยังไม่แปรเป็นนมส้ม เห็นว่าสมควร.
๘. ภิกษุดื่มสุราอ่อนๆ เห็นว่าสมควร.
๙. ภิกษุใช้ผ้านิสีทนะที่ไม่มีชาย เห็นว่าสมควร.
๑๐. ภิกษุรับหรือยินดีเงินและทองที่เขาเก็บไว้เพื่อตน เห็นว่าสมควร.