เสาร์ - อาทิตย์ที่ผ่านมา 5 - 6 พฤษภา 61 สองเฒ่าพร้อมเสื้อผ้าสัมภาระเต็นท์นอน สตาร์ทเครื่องล้อหมุนออกจากเมืองเพื่อเข้าป่าใช้ถนนมาลัยแมน 321 มุ่งสู่อำเภออู่ทอง เพื่อสัมผัสบรรยากาศช่วงมรสุมเข้า ตาม Plan จะไปชมความงามองค์พระใหญ่ที่แกะสลักภูเขาทั้งลูกในอำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี เสร็จแล้วหรือยัง  งดงามขนาดไหน  แล้วค่อยไปกางเต็นท์เล่นน้ำที่อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ (ถ้ำธารลอด) กาญจนบุรี ซักคืน
                    ระหว่างทางเห็นน้ำเจิ่งนองเปียกแฉะริมสองข้างทางตลอดสายตั้งแต่อำเภอกำแพงแสน สองพี่น้องจนย่างเข้าอำเภออู่ทอง สุพรรณบุรี แสดงว่าฝนตกก่อนหน้าที่เราจะมา (โชคดีมากมาย) ก่อนถึงหอนาฬิกาอู่ทองเห็นป้ายบอกทางแยกซ้าย "พระแกะสลักองค์ใหญ่ / พระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ" เลี้ยวเข้าไปแล้วเห็นป้ายตั้งเด่นอยู่บนยอดเขา "เมืองโบราณอู่่ทอง" ทีแรกนึกว่าใช่..กลับไม่ใช่  แค่เป็นเมืองโบราณอู่ทองที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง และคงจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งในวันข้างหน้า  เข้ามาแล้วแม้แดดเปรี้ยงร้อนอบอ้าว  จึงถือโอกาสเก็บภาพมานิดหน่อย
                    "เมืองโบราณอู่่ทอง" กับ "พระแกะสลักองค์ใหญ่ / พระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ" เป็นเส้นทางเดียวกัน เมืองโบราณอู่ทองถึงก่อน  ถัดไปจึงจะถึง "พระแกะสลักองค์ใหญ่" รวมระยะทาง 70 กว่ากิโล
                    "พระแกะสลักองค์ใหญ่ / พระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ" ยังคงอยู่ระหว่างการก่อสร้างและปรับพื้นที่ ถ้ำเทียมหลังองค์พระใหญ่ตอนนี้ "ห้ามเข้า" เพราะเครื่องจักรกำลังทำงานขยายถ้ำให้ใหญ่กว่าเดิมเพื่อไว้รองรับผู้มีความศรัทธาเข้ามาเยี่ยมเยียน  เห็นแล้วคงอีกนานจึงจะเสร็จสมบูรณ์
                    สถานีต่อไปตามที่ตั้งใจ "อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์/ถ้ำธารลอด" ยังคงใช้เส้นทางต่อเนื่องโดย Google map (ครั้งแรก) ระยะทาง 83.5 Km. เส้นทาง 3472 แยกขวาข้างหน้า 3443 เลี้ยวซ้ายทางหลวงชนบท 4020 บรรจบ 3390 แล้วตรงไป 3480..ถึงที่หมาย  มันก้อดีไปอีกแบบหนึ่งเพราะบึ่งไปอย่างเดียว  โดยปกติส่วนมากจะดูเส้นทางก่อนแล้วจำกับการถามไถ่บ้างเพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีกับคนในพื้นที่  ได้ถามได้พูดคุยนั่นโน้นนี่มันเป็นเรื่องที่ดีมาก  เชื่อหรือไม่? น้ำใจคนบ้านๆหากมีของกินก้อจะนำมาให้กิน  ถ้าซื้อก้อจะให้ปริมาณมาก  ไม่เชื่ออย่าลบหลู่ลองดูนะเพื่อน ทริปนี้เรายังได้กินสับปะรดสดสับปะรดกวนกับขนุนหอมหวาน ให้กะตางค์แกก้อไม่เอาคงถูกใจจากการพูดคุย  แกบอกให้กินฟรี  แกปลูกไว้เป็นสิบๆไร่  ฝนเริ่มตั้งเค้าจึงบอกกล่าวอำลา "ขอบคุณนะป้า" จร้า "เดินทางปลอดภัย"  แล้วเดินทาง  มาชะลออีกทีเห็นว่าดีและสวย
                    แล้วตียาวมาหยุดชุมชนตลาดหนองปรือหาซื้อเสบียงไว้คืนนี้ที่ "อุทยานแห่งชาติเฉลิมรัตนโกสินทร์ / ถ้ำธารลอด"  ตลาดหนองปรือเจริญมากมาย  ร้านรวงเยอะแยะ  ร้านสะดวกซื้อ 7-11 และ Cj ก้อมี  ถนนหนทางก้อดี สองข้างทางโปร่งโล่งไม่น่ากลัว เส้นทางสู่อุทยานผ่านอ่างเก็บน้ำและจุดชมวิวซึ่งหลายปีโน้นไม่มี
                    มาถึงอุทยานบรรยากาศเดี๋ยวแดดเดี๋ยวอึมครึม  รีบติดต่อแจ้งความประสงค์กับเจ้าหน้าที่ "คืนนี้จะนอนที่นี่เอย" พอรับรู้รับทราบ  ค่อยๆขับอย่างช้าๆเพราะว่าพื้นผิวถนนภายในเปียกและลื่น ท้ายสุดต้องขี่ผ่านฝายน้ำล้นแล้วพบเห็นโซนกางเต็นท์  เดินสำรวจพื้นที่ จุดไหน? เหมาะกับการกางเต็นท์ช่วงมรสุมเข้า  มีเพื่อนร่วมนอนคืนนี้กี่เต็นท์  กี่คน? (มี 2 เต็นท์ เรา 2  เค้า 4 ) ห้องอาบน้ำห้องสุขาเป็นอย่างไร? (มี/ดีใช้ได้)  บรรยากาศ 2 เต็นท์เป็นยังงัย? (เฉยๆเพราะเคยชิน)  ภาพรวมยังคงธรรมชาติ  ร่มรื่นเงียบสงบ  เหมาะกับคนที่ชื่นชอบ
                    คืนหนึ่งผ่านไปกับสายฝนที่ตกตลอดคืน  นอนหลับสบายกับมวลอากาศเย็น ท้องฟ้าแจ่มใสในยามเช้า  ตื่นล้างหน้าตาต้มน้ำชงกาแฟ  สายหน่อยต้มข้าวที่เอามา  แก้มกับผักกาดดองไข่เค็มที่ซื้อมาเท่านี้ก้อเกินพอ "สุขสุดเหลือล้น" คนเราก้อเท่านี้  กินแล้ว..ข...มันเป็นวัฎจักรร่างกาย  กินเสร็จทำโน้นนี่เรียบร้อย  เริ่มเดินเท้าไปยังเส้นทางเดิมเมื่อวานขี่ผ่านมา  เพื่อเข้า
                    เดินไปๆมีแค่เราสองคนกับบรรยากาศเขียวๆอึมครึมๆพื้นชื้นแฉะ  วังเวงเหงียบกริบ มีแค่เสียงน้ำไหล "ถ้ำธารลอดใหญ่" อีกต้องไกลเป็นกิโล  กลับดีกว่า  เผ่นก่อนดีกว่า...บรื้อ
                    กลับเก็บสัมภาระเต็นท์เรียบร้อย  ออกเดินทางเส้นทาง หนองปรือ - บ่อพลอย 3480+3086 เลี้ยวซ้ายที่ตลาดทุ่งมะสัง 3398 ออกมาบรรจบ 3199 เลี้ยวซ้ายเข้าตัวเมืองกาญจนบุรี 323 ผ่านอำเภอท่าม่วง ท่าเรือ ท่ามะกา ลูกแก และบ้านโป่ง บรรจบหมายเลข 4 บิดเต็มที่ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง  ถึงบ้านโดยสวัสดิภาพ  ระยะทาง 170 Km.โดยประมาณ