พอดีทราบข่าวมาว่า TOR การประมูลแหล่งบงกชและเอราวัณ ที่จะหมดอายุในปี 2565-2566 ประเทศไทยเราได้เปรียบเรื่องหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่สำคัญ คือ
1.เอกชนผู้รับสัญญาแบ่งปันผลผลิตต้องผลิตก๊าซธรรมชาติปริมาณการผลิตขั้นต่ำ 800 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ต่อเนื่องเป็นระยะเวลา10 ปี
ส่วนการประมูลในแหล่งบงกช จะต้องผลิตก๊าซธรรมชาติในปริมาณการผลิตขั้นต่ำ 700 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 10 ปี เช่นเดียวกัน
2.ผู้เข้าร่วมประมูลจะต้องเสนอราคาก๊าซธรรมชาติที่ไม่สูงไปกว่าราคาเฉลี่ยของราคาก๊าซธรรมชาติในปัจจุบัน
3.ผู้เข้าร่วมประมูลเสนอสัดส่วนการแบ่งกำไรให้แก่รัฐ ซึ่งจะต้องไม่ต่ำกว่า 50% และเสนอผลประโยชน์พิเศษต่าง ๆ เช่น โบนัสการลงนาม โบนัสการผลิต และผลประโยชน์พิเศษอื่นๆ
4.ผู้เข้าร่วมประมูลจะต้องเสนอสัดส่วนการจ้างพนักงานไทยไม่ต่ำกว่า 80% ในสิ้นปีที่ 1 และไม่ต่ำกว่า 90% ในสิ้นปีที่ 5 ของการดำเนินงาน
ซึ่งดูแล้วยังไง คนไทยก็ได้เปรียบเอกชนเห็นๆ ยังไงก็อยากจะให้ประเทศมีความมั่นคงทางพลังงานต่อเนื่อยงนะคะ จะได้ไม่ต้องขาดแคลนพลังงานในอนาคต
*ข้อมูลจาก energynewscenter.com
TOR การประมูลแหล่งบงกชและเอราวัณ ที่จะหมดอายุในปี 2565-2566
1.เอกชนผู้รับสัญญาแบ่งปันผลผลิตต้องผลิตก๊าซธรรมชาติปริมาณการผลิตขั้นต่ำ 800 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ต่อเนื่องเป็นระยะเวลา10 ปี
ส่วนการประมูลในแหล่งบงกช จะต้องผลิตก๊าซธรรมชาติในปริมาณการผลิตขั้นต่ำ 700 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 10 ปี เช่นเดียวกัน
2.ผู้เข้าร่วมประมูลจะต้องเสนอราคาก๊าซธรรมชาติที่ไม่สูงไปกว่าราคาเฉลี่ยของราคาก๊าซธรรมชาติในปัจจุบัน
3.ผู้เข้าร่วมประมูลเสนอสัดส่วนการแบ่งกำไรให้แก่รัฐ ซึ่งจะต้องไม่ต่ำกว่า 50% และเสนอผลประโยชน์พิเศษต่าง ๆ เช่น โบนัสการลงนาม โบนัสการผลิต และผลประโยชน์พิเศษอื่นๆ
4.ผู้เข้าร่วมประมูลจะต้องเสนอสัดส่วนการจ้างพนักงานไทยไม่ต่ำกว่า 80% ในสิ้นปีที่ 1 และไม่ต่ำกว่า 90% ในสิ้นปีที่ 5 ของการดำเนินงาน
ซึ่งดูแล้วยังไง คนไทยก็ได้เปรียบเอกชนเห็นๆ ยังไงก็อยากจะให้ประเทศมีความมั่นคงทางพลังงานต่อเนื่อยงนะคะ จะได้ไม่ต้องขาดแคลนพลังงานในอนาคต
*ข้อมูลจาก energynewscenter.com