ย้อนอ่าน EP.1 : เริ่มต้นการเดินทางกันที่ Los Angeles
https://ppantip.com/topic/37606310
เส้นทางของวันนี้
Santa Barbara – Solvang – San Simeon – Monterey
เมื่อออกจาก Venice beach เราก็พร้อมจะเที่ยวแบบ Road Trip จริงจัง โดยจะแวะเที่ยวตามเมืองต่างๆ อย่าง Santa Barbara, Solvang และ San Simeon เราจะขับตามทางหลวง Freeway ตัดเข้า Hwy1 ในบางช่วง เราวางไว้ว่าจะต้องไปถึงและพักที่ Monterey ในตอนเย็น ซึ่งวันนี้ถือว่าค่อนข้างหนักและเหนื่อยพอสมควร เพราะตารางเที่ยวเราอัดแน่นไปหน่อย แถมผิดแผนที่เอา Venice beach มาแทรกในตอนเช้า ทำให้เราออกจาก LA สายกว่าที่ควรค่ะ
SANTA BARBARA
เราออกเดินทาง และขับไปตามทางหลวง US-101N โดยเราจะแวะพักและเที่ยวกันจุดแรกที่ Santa Barbara
ใช้เวลาจาก Venice beach ประมาณ 2 ชั่วโมงกว่าถึงก็ประมาณเที่ยงๆ ได้ทานข้าวพอดีค่ะ Santa Barbara เป็นเมืองท่องเที่ยว ที่มีจุด Downtown State Street สำหรับนักท่องเที่ยวไว้เดินเล่น มีร้านค้า, ร้านอาหาร และร้านกาแฟ ไว้บริการ โดยอาคารจะเป็นสไตล์ Spanish สีขาวครีม ดูสบายตา
บรรยากาศวันนั้นไม่ค่อยคึกคักเท่าไหร่ อาจเป็นเพราะไม่ใช่สุดสัปดาห์ด้วยค่ะ ที่นี่เป็นเมืองตากอากาศเหมาะสำหรับการพักผ่อนทำกิจกรรมกับครอบครัว และคู่รัก ทั้งเล่นเซิร์ฟ ชิมไวน์ ทานอาหาร ส่วนเรามีเวลาน้อยก็เดินเล่นหาข้าวทาน แวะถ่ายรูป สักพักก็ออกเดินทางต่อค่ะ
SOLVANG
ขับไปอีกประมาณ 1 ชั่วโมงก็จะมาถึงเมืองนี้ค่ะ Solvang เป็นเมืองที่น่ารักมาก มีกิจกรรมให้ทำเยอะอยู่ค่ะ ทั้งนั่งรถม้า ชิมไวน์ เดินชมเมือง ขี่จักรยาน สถาปัตยกรรมออกแนวสไตล์ Danish ค่ะ เนื่องจากเมืองนี้ถูกบุกเบิกโดยชาวเดนมาร์ก-อเมริกัน มีร้านค้าของฝาก ร้านอาหาร และร้านเบเกอรี่ อยู่เยอะพอสมควร
เป็นเมืองที่เดินเล่นแล้วมีความสุข บรรยากาศดี สถาปัตยกรรมน่ารัก น่าแวะทานมื้อเที่ยงที่นี่
แต่ชอบที่สุดคือร้านขายของฝากชื่อร้าน Jule Hus ร้านนี้ขายแต่ของที่เกี่ยวกับเทศกาลคริสต์มาสและศาสนาคริสต์ค่ะ พอดีนับถือคริสต์ ก็เลยได้ของฝากจากที่นี่เยอะเลย
และที่นี่ยังมีร้านเบเกอรี่ที่เราปักหมุดไว้ น่าสนใจและน่าทานมากๆค่ะ แต่เสียดายเวลาไม่พอ อยากจะไปลองชิมขนมชื่อ Aebleskiver เป็น Danish pancake puffs เนื้อน่าจะเป็นเค้กหรือแป้งกลมๆ ราดด้วยแยมสตอเบอร์รี่และโรยไอซ์ซิ่ง และยังมีเบเกอรี่อื่นๆสไตล์ Danish ที่ต้องแปะไว้ก่อน ใครผ่านไปอย่าลืมลองชิมให้หน่อยนะคะ
*รูป Aebleskiver ขนม Danish pancake puffs ( รูปจาก Internet )
จริงๆเมืองนี้น่าเดินเล่นกว่า Santa Barbara ค่ะตามความคิดส่วนตัว น่าจะแบ่งเวลามาที่นี่เยอะกว่า เราใช้เวลาประมาณชั่วโมงกว่าๆ ก็ต้องออกไปยังจุดหมายต่อไปแล้วค่ะ
*Credit Picture : Coastal Discovery Center at San Simeon Bay
SAN SIMEON
เราตัดเข้ามาขับตามทางหลวง Highway1 เพื่อไปยังเมือง San Simeon เพื่อแวะไปเที่ยว 2 จุดที่ตั้งใจไว้ คืออยากไปดูสิงโตทะล และไปเที่ยวปราสาท Heart Castle ค่ะ โดยเมืองนี้อยู่ติดกับ Pacific Coast ทางเป็นถนน 2 เลน ค่อนข้างคดเคี้ยว และไม่ค่อยมีรถเท่าไหร่ค่ะ วิวข้างทางสวยค่ะ เป็นธรรมชาติ แต่ว่าก็ค่อนข้างใช้เวลาพอสมควรค่ะ เพราะจำกัดความเร็วให้ขับไม่เร็วมาก แถมลมแรงเพราะติดทะเล หมอกก็ลงด้วย ยิ่งต้องขับให้ระวังเป็นพิเศษ กว่าจะไปถึงก็ใช้เวลานานอยู่ค่ะ ประมาณ 2 ชั่วโมง ด้วยความที่ว่าวางแผนค่อนข้างหลวม และหาข้อมูลมาน้อย ตรงจุดแรกที่เราปักหมุดไว้ในแผนที่ พอไปถึงไม่เจอสิงโตทะเลค่ะ แบบอ้าว แอบเสียใจ และทะเลมันไม่ได้สวยมากนะคะ เป็นแบบหมอกลงและหนาวค่ะ ...มีแต่นกและโขดหิน
HEART CASTLE
เราจึงไปแวะต่อที่ Heart Castle แต่ก็เตรียมใจไว้แล้วเพราะไม่น่าจะได้ดู เพราะตอนนั้นน่าจะปิดแล้วค่ะ สี่โมงเย็นแล้ว สัญญาณก็ไม่ค่อยมีค่ะ บ้านเรือนก็ไม่ค่อยมี เราก็เลยลองเสี่ยงขึ้นไปดู โห..เห็นปราสาทอยู่บนยอดไกลๆ พอไปถึงตรง Tourist center ก็ปรากฏว่าปิดแล้วจริงด้วยค่ะ เสียดายมากค่ะ..น้ำตาจะไหล เอารูปจากอินเตอร์เนตมาให้ดูล่ะกันนะคะ
*อยากชมเสียดายมากจริงๆ Heart Castle at San Simeon (รูปจาก Internet)
สำหรับ Heart Castle เป็นปราสาทที่สวยงาม เจ้าของเก่าคือ William Randolph Hearst ถูกออกแบบโดยสถาปนิก Julia Morgan แต่ปัจจุบันเป็นสมบัติของรัฐ California และเป็นสถานที่ให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชม โดยถ้าหากวางแผนว่าจะไปที่นี่ควรจะจองตั๋วไว้ก่อนนะคะ จองผ่าน
http://hearstcastle.org/ ก็ได้ค่ะ มีรายละเอียดอยู่ โดยตั๋วค่าเข้าก็จะประมาณ 25 เหรียญ แต่ถ้าอยากดูโซนของปราสาทด้านในหรือห้องพิเศษก็ก็อาจจะต้องจ่ายเพิ่มนะคะ แต่อย่าลืมดูข้อมูลอัพเดทด้วยนะคะว่าช่วงที่ไปมีโซนไหนปิดปรับปรุงหรือเปล่าจะได้ไม่ต้องผิดหวังค่ะ ในการเข้าชมจะมีรถบัสบริการรับเราจาก Center ข้างล่างขึ้นไปยังบนปราสาทค่ะ มีเป็นรอบๆค่ะ ใช้เวลาในการชมปราสาทก็น่าจะสักราวๆ 2 โมงค่ะ จะว่าไปเวลารวมๆก็น่าจะเกือบครึ่งวันเลยค่ะ ยังไงอย่าลืมเผื่อเวลาและ เตรียมอาหารติดตัวไปด้วยนะคะ เพราะที่นั้นค่อนข้างหาอาหารทานยากค่ะ
ที่จริงก็เสียใจเหมือนกันนะคะที่ไม่ได้ดูค่ะ ฮือๆ ขับมาตั้งไกล พลาดไปแล้ว 2 จุด เราเลยลอง Search ดูค่ะว่า ตรงไหนดูสิงโตทะเลได้อีกบ้าง ปรากฏว่าที่จริงมีจุดชมไม่ไกลห่างออกไป 15 นาที เราก็..อืมลองไปดู อุตสาห์มาล่ะ แล้วเราก็เจอสิงโตทะเลจริงๆค่ะ น่ารักมาก ดีใจสุดๆ
ตรงจุดนี้คือ Elephant Seal Vista point มันนอนกันเต็มเลยค่ะ อาจจะไม่ได้เยอะมากเหมือนที่เราคาดหวัง แต่ก็ทำให้ได้เห็นพฤติกรรมตามธรรมชาติของมัน เวลามันส่งเสียงร้อง ขึ้นมาจากทะเล โวยวายใส่กัน เอาครีบเกาพุง คลานกระดึ๊บๆ มันน่ารัก และตลกมากเลยค่ะ แต่เราก็ชมอยู่สักพัก ก็ต้องรีบกลับเพราะว่าหนาว ลมแรงมาก หูเริ่มชา และเราค่อนข้างกังวลว่าจะช้า เพราะต้องขับรถอีก 3 ชั่วโมงกว่าที่จะถึง Monterey แล้วตอนนี้ก็ห้าโมงกว่าแล้วค่ะ พอเราขับกลับทาง Hwy1 ทางเดิม หมอกก็ลงเยอะเลยค่ะ เป็นหมอกจากทะเล แทบมองทางไม่เห็น ต้องค่อยๆขับ
พอหลุดออกจาก Hwy1 เป็นทางข้ามเขาที่จะตัดเข้า Freeway เราก็จะเจอกับภูมิทัศน์ที่สวยงามเป็นภูเขาปกคลุมด้วยหญ้าสีน้ำตาล ตัดกับต้นไม้เขียวเข้ม เป็นคลื่นภูเขาสลับกันไปมา พร้อมกับแสงอาทิตย์ยามเย็น สวยงามจริงๆค่ะ...อดไม่ได้ขอแวะถ่ายรูปสักหน่อย
แต่พอทางเริ่มมืด ตาก็เริ่มล้า เหนื่อยเหมือนกันค่ะ อีกทั้งทุกวันหลับไวด้วย 4-5 โมงก็หลับแล้ว
กว่าถึงที่พักประมาณ 3 ทุ่ม คืนนี้เราพักกันที่ Monterey Surf Inn เป็น Motel ชั้นเดียว แต่ห้องก็โอเคนะคะ ถึงจะเป็น Motel แต่ก็สะอาด เคาเตอร์ซิงค์น้ำและเตียงก็ค่อนข้างใหญ่ค่ะ นอนสบายนะคะ แต่ไม่รู้เพราะง่วงมากๆด้วยหรือเปล่า พอถึงแล้วก็รีบล้างหน้าแปรงฟัน กระโดดขึ้นเตียง หลับทันทีเลยค่ะ หมดไปแล้วสำหรับวันนี้ เป็นวันที่ยาวนานมากค่ะ
====> NEXT : ตื่นเช้าเดินชมเมืองชายทะเล แวะหมู่บ้านสุดน่ารัก ที่ Monterey และ Carmel By The Sea
ตามลิ้งนี้นะคะ :
https://ppantip.com/topic/37611987
[CR] ขับรถเที่ยวตะลุยอเมริกา USA West Coast Road Trip 14 วัน 3,500 km : [EP.2]ตามหาอุ๋งๆ ในเส้นทาง Pacific Coast Highway
ย้อนอ่าน EP.1 : เริ่มต้นการเดินทางกันที่ Los Angeles https://ppantip.com/topic/37606310
เมื่อออกจาก Venice beach เราก็พร้อมจะเที่ยวแบบ Road Trip จริงจัง โดยจะแวะเที่ยวตามเมืองต่างๆ อย่าง Santa Barbara, Solvang และ San Simeon เราจะขับตามทางหลวง Freeway ตัดเข้า Hwy1 ในบางช่วง เราวางไว้ว่าจะต้องไปถึงและพักที่ Monterey ในตอนเย็น ซึ่งวันนี้ถือว่าค่อนข้างหนักและเหนื่อยพอสมควร เพราะตารางเที่ยวเราอัดแน่นไปหน่อย แถมผิดแผนที่เอา Venice beach มาแทรกในตอนเช้า ทำให้เราออกจาก LA สายกว่าที่ควรค่ะ
เราออกเดินทาง และขับไปตามทางหลวง US-101N โดยเราจะแวะพักและเที่ยวกันจุดแรกที่ Santa Barbara
ใช้เวลาจาก Venice beach ประมาณ 2 ชั่วโมงกว่าถึงก็ประมาณเที่ยงๆ ได้ทานข้าวพอดีค่ะ Santa Barbara เป็นเมืองท่องเที่ยว ที่มีจุด Downtown State Street สำหรับนักท่องเที่ยวไว้เดินเล่น มีร้านค้า, ร้านอาหาร และร้านกาแฟ ไว้บริการ โดยอาคารจะเป็นสไตล์ Spanish สีขาวครีม ดูสบายตา
บรรยากาศวันนั้นไม่ค่อยคึกคักเท่าไหร่ อาจเป็นเพราะไม่ใช่สุดสัปดาห์ด้วยค่ะ ที่นี่เป็นเมืองตากอากาศเหมาะสำหรับการพักผ่อนทำกิจกรรมกับครอบครัว และคู่รัก ทั้งเล่นเซิร์ฟ ชิมไวน์ ทานอาหาร ส่วนเรามีเวลาน้อยก็เดินเล่นหาข้าวทาน แวะถ่ายรูป สักพักก็ออกเดินทางต่อค่ะ
ขับไปอีกประมาณ 1 ชั่วโมงก็จะมาถึงเมืองนี้ค่ะ Solvang เป็นเมืองที่น่ารักมาก มีกิจกรรมให้ทำเยอะอยู่ค่ะ ทั้งนั่งรถม้า ชิมไวน์ เดินชมเมือง ขี่จักรยาน สถาปัตยกรรมออกแนวสไตล์ Danish ค่ะ เนื่องจากเมืองนี้ถูกบุกเบิกโดยชาวเดนมาร์ก-อเมริกัน มีร้านค้าของฝาก ร้านอาหาร และร้านเบเกอรี่ อยู่เยอะพอสมควร
เป็นเมืองที่เดินเล่นแล้วมีความสุข บรรยากาศดี สถาปัตยกรรมน่ารัก น่าแวะทานมื้อเที่ยงที่นี่
แต่ชอบที่สุดคือร้านขายของฝากชื่อร้าน Jule Hus ร้านนี้ขายแต่ของที่เกี่ยวกับเทศกาลคริสต์มาสและศาสนาคริสต์ค่ะ พอดีนับถือคริสต์ ก็เลยได้ของฝากจากที่นี่เยอะเลย
และที่นี่ยังมีร้านเบเกอรี่ที่เราปักหมุดไว้ น่าสนใจและน่าทานมากๆค่ะ แต่เสียดายเวลาไม่พอ อยากจะไปลองชิมขนมชื่อ Aebleskiver เป็น Danish pancake puffs เนื้อน่าจะเป็นเค้กหรือแป้งกลมๆ ราดด้วยแยมสตอเบอร์รี่และโรยไอซ์ซิ่ง และยังมีเบเกอรี่อื่นๆสไตล์ Danish ที่ต้องแปะไว้ก่อน ใครผ่านไปอย่าลืมลองชิมให้หน่อยนะคะ
จริงๆเมืองนี้น่าเดินเล่นกว่า Santa Barbara ค่ะตามความคิดส่วนตัว น่าจะแบ่งเวลามาที่นี่เยอะกว่า เราใช้เวลาประมาณชั่วโมงกว่าๆ ก็ต้องออกไปยังจุดหมายต่อไปแล้วค่ะ
เราตัดเข้ามาขับตามทางหลวง Highway1 เพื่อไปยังเมือง San Simeon เพื่อแวะไปเที่ยว 2 จุดที่ตั้งใจไว้ คืออยากไปดูสิงโตทะล และไปเที่ยวปราสาท Heart Castle ค่ะ โดยเมืองนี้อยู่ติดกับ Pacific Coast ทางเป็นถนน 2 เลน ค่อนข้างคดเคี้ยว และไม่ค่อยมีรถเท่าไหร่ค่ะ วิวข้างทางสวยค่ะ เป็นธรรมชาติ แต่ว่าก็ค่อนข้างใช้เวลาพอสมควรค่ะ เพราะจำกัดความเร็วให้ขับไม่เร็วมาก แถมลมแรงเพราะติดทะเล หมอกก็ลงด้วย ยิ่งต้องขับให้ระวังเป็นพิเศษ กว่าจะไปถึงก็ใช้เวลานานอยู่ค่ะ ประมาณ 2 ชั่วโมง ด้วยความที่ว่าวางแผนค่อนข้างหลวม และหาข้อมูลมาน้อย ตรงจุดแรกที่เราปักหมุดไว้ในแผนที่ พอไปถึงไม่เจอสิงโตทะเลค่ะ แบบอ้าว แอบเสียใจ และทะเลมันไม่ได้สวยมากนะคะ เป็นแบบหมอกลงและหนาวค่ะ ...มีแต่นกและโขดหิน
เราจึงไปแวะต่อที่ Heart Castle แต่ก็เตรียมใจไว้แล้วเพราะไม่น่าจะได้ดู เพราะตอนนั้นน่าจะปิดแล้วค่ะ สี่โมงเย็นแล้ว สัญญาณก็ไม่ค่อยมีค่ะ บ้านเรือนก็ไม่ค่อยมี เราก็เลยลองเสี่ยงขึ้นไปดู โห..เห็นปราสาทอยู่บนยอดไกลๆ พอไปถึงตรง Tourist center ก็ปรากฏว่าปิดแล้วจริงด้วยค่ะ เสียดายมากค่ะ..น้ำตาจะไหล เอารูปจากอินเตอร์เนตมาให้ดูล่ะกันนะคะ
สำหรับ Heart Castle เป็นปราสาทที่สวยงาม เจ้าของเก่าคือ William Randolph Hearst ถูกออกแบบโดยสถาปนิก Julia Morgan แต่ปัจจุบันเป็นสมบัติของรัฐ California และเป็นสถานที่ให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชม โดยถ้าหากวางแผนว่าจะไปที่นี่ควรจะจองตั๋วไว้ก่อนนะคะ จองผ่าน http://hearstcastle.org/ ก็ได้ค่ะ มีรายละเอียดอยู่ โดยตั๋วค่าเข้าก็จะประมาณ 25 เหรียญ แต่ถ้าอยากดูโซนของปราสาทด้านในหรือห้องพิเศษก็ก็อาจจะต้องจ่ายเพิ่มนะคะ แต่อย่าลืมดูข้อมูลอัพเดทด้วยนะคะว่าช่วงที่ไปมีโซนไหนปิดปรับปรุงหรือเปล่าจะได้ไม่ต้องผิดหวังค่ะ ในการเข้าชมจะมีรถบัสบริการรับเราจาก Center ข้างล่างขึ้นไปยังบนปราสาทค่ะ มีเป็นรอบๆค่ะ ใช้เวลาในการชมปราสาทก็น่าจะสักราวๆ 2 โมงค่ะ จะว่าไปเวลารวมๆก็น่าจะเกือบครึ่งวันเลยค่ะ ยังไงอย่าลืมเผื่อเวลาและ เตรียมอาหารติดตัวไปด้วยนะคะ เพราะที่นั้นค่อนข้างหาอาหารทานยากค่ะ
ที่จริงก็เสียใจเหมือนกันนะคะที่ไม่ได้ดูค่ะ ฮือๆ ขับมาตั้งไกล พลาดไปแล้ว 2 จุด เราเลยลอง Search ดูค่ะว่า ตรงไหนดูสิงโตทะเลได้อีกบ้าง ปรากฏว่าที่จริงมีจุดชมไม่ไกลห่างออกไป 15 นาที เราก็..อืมลองไปดู อุตสาห์มาล่ะ แล้วเราก็เจอสิงโตทะเลจริงๆค่ะ น่ารักมาก ดีใจสุดๆ
ตรงจุดนี้คือ Elephant Seal Vista point มันนอนกันเต็มเลยค่ะ อาจจะไม่ได้เยอะมากเหมือนที่เราคาดหวัง แต่ก็ทำให้ได้เห็นพฤติกรรมตามธรรมชาติของมัน เวลามันส่งเสียงร้อง ขึ้นมาจากทะเล โวยวายใส่กัน เอาครีบเกาพุง คลานกระดึ๊บๆ มันน่ารัก และตลกมากเลยค่ะ แต่เราก็ชมอยู่สักพัก ก็ต้องรีบกลับเพราะว่าหนาว ลมแรงมาก หูเริ่มชา และเราค่อนข้างกังวลว่าจะช้า เพราะต้องขับรถอีก 3 ชั่วโมงกว่าที่จะถึง Monterey แล้วตอนนี้ก็ห้าโมงกว่าแล้วค่ะ พอเราขับกลับทาง Hwy1 ทางเดิม หมอกก็ลงเยอะเลยค่ะ เป็นหมอกจากทะเล แทบมองทางไม่เห็น ต้องค่อยๆขับ
พอหลุดออกจาก Hwy1 เป็นทางข้ามเขาที่จะตัดเข้า Freeway เราก็จะเจอกับภูมิทัศน์ที่สวยงามเป็นภูเขาปกคลุมด้วยหญ้าสีน้ำตาล ตัดกับต้นไม้เขียวเข้ม เป็นคลื่นภูเขาสลับกันไปมา พร้อมกับแสงอาทิตย์ยามเย็น สวยงามจริงๆค่ะ...อดไม่ได้ขอแวะถ่ายรูปสักหน่อย
แต่พอทางเริ่มมืด ตาก็เริ่มล้า เหนื่อยเหมือนกันค่ะ อีกทั้งทุกวันหลับไวด้วย 4-5 โมงก็หลับแล้ว
กว่าถึงที่พักประมาณ 3 ทุ่ม คืนนี้เราพักกันที่ Monterey Surf Inn เป็น Motel ชั้นเดียว แต่ห้องก็โอเคนะคะ ถึงจะเป็น Motel แต่ก็สะอาด เคาเตอร์ซิงค์น้ำและเตียงก็ค่อนข้างใหญ่ค่ะ นอนสบายนะคะ แต่ไม่รู้เพราะง่วงมากๆด้วยหรือเปล่า พอถึงแล้วก็รีบล้างหน้าแปรงฟัน กระโดดขึ้นเตียง หลับทันทีเลยค่ะ หมดไปแล้วสำหรับวันนี้ เป็นวันที่ยาวนานมากค่ะ
====> NEXT : ตื่นเช้าเดินชมเมืองชายทะเล แวะหมู่บ้านสุดน่ารัก ที่ Monterey และ Carmel By The Sea
ตามลิ้งนี้นะคะ : https://ppantip.com/topic/37611987