ต่อจาก Part1 :
https://ppantip.com/topic/41998682
มาต่อกันนะครับ Roadtrip มาถึงแล้วว ตื่นเต้นมากครับ เพราะวันนี้ผมจะได้ขับรถในเอมริกาซึ่งขับคนละฝั่งกับบ้านเรา ผมตื่นแต่เช้าไปรับรถ และแน่นอนครับ สิ่งที่ต้องไปให้ได้คือการขับรถเลียบมหาสมุทรแปซิฟิกอันกว้างใหญ่ นั่นคือถนน Highway1 และ highlight ที่สุดสำหรับผมในวันนี้คือ Lone cypress
เป้าหมายแรกของผมคือ Cannery row : Cannery Row Brewing Company เมือง Monterey แต่ด้วยความที่ผมจะขับเลียบมห่สมุทร Pacific ผมเลยต้องดูแผนที่ประกอบการตั้ง goole maps เพราะถ้าปักหมุดไป Monterey google maps จะพาเราวิ่งทางหลัก ไม่ได้วิ่งเลียบทะเล ดังนั้นถ้าใครอยากใช้ Highway1 อย่าลืมนำแผนที่มาดูประกอบการเดินทางนะครับ
Highway1 เป็นถนนที่ไม่ควรพลาดจริงๆ ถนนแคบหน่อย มีเสียวๆบ้าง แต่สวยจนเกินบรรยายครับ ผมนำรูปที่ถ่ายไว้จากการการขับรถโดยใช้เส้นทาง Highway1 มาฝากด้วยครับ
ขับมาสักพัก ผมก็ถึงเมือง Monterey จริงๆที่นี่ควรแวะเที่ยว Aquarium แต่ด้วยเวลาผมไม่พอ ก็เลยต้อง skip ไป ผมแวะทานเที่ยงที่ร้านอาหารแถว Cannery row ซึ่งก็อยู่บริเวณเดียวกันกับ Aquarium เลยครับ ดื่มด่ำบรรยากาศเมืองตากอากาศริมทะเลจนชุ่มปอดแล้วค่อยเดินทางต่อ
เดินทางต่ออีกนิดเพื่อไป 17 miles drive ซึ่งอยู่ไม่ไกล โดยเป้าหมายที่ผมอยากแวะที่นี่คือ Pebble beach และ Lone cypress
Pepple beach
เป็นทะเลที่มีสนามกอล์ฟและที่พักในตัว สถานที่นี้เคยใช้เป็นสถานที่จัด US Golf Championship ที่มีบุคคลระดับโลกเคยมาแข่ง รวมถึง Tiger wood ด้วย ที่นี่นอกจากจะมาชมวิวทิวทัศน์ได้แล้ว ยังมีประวัติที่มาของ Pebble beach ให้เรียนรู้ด้วยครับ
Lone cypress
สวยแบบเหงาๆ แข็งแรงแต่อ่อนไหว ผมให้นิยามของสถานที่แห่งนี้ ต้นไม้ยืนต้นรับกระแสลมริมมหาสมุทร สวยงามมาก สิ่งที่ตาเห็นเหมือนภาพวาด แต่เป็นภาพวาดที่มีมิติของการเคลื่อนไหว ให้อารมณืที่ดูแตกต่างในคราเดียวกัน มีทั้งความเหงาของต้นไม้ที่ดูโดดเดี่ยว มีความอ่อนโยนของต้นไม้ที่ลู่ตามลม และให้ความแข็งแรงที่ไม่ว่าลมจะแรง แดดจะร้อนแค่ไหน แต่ฉันจะสู้และฉันจะยืนหยัด อวดความสวยให้คนทั้งโลกชม คิดถึงคำคมเลยครับ
"When we long for life without difficulties, remind us that oaks grow strong in contrary winds and diamonds are made under pressure" โดย Peter Marshall
ผมเห็นถึงคุณค่าของการมีชีวิตขึ้นมาทันทีเลยครับ
รูปนี้คือรูปที่ผมถ่ายเอง ไม่มีการตกแต่งใดๆทั้งสิ้นเลยครับ
หลังจากอิ่มเอมใจ ผมก็เข้าสู่ที่พัก โดยวันนี้ผมพักที่ Camel by the sea ซึ่งอยู่แถวๆนี้ครับ
ปล. Jetlack ยังมี เลยขอเข้านอนเร็วนิดนึงครับ ฝืนขับรถกลัวอันตราย
ขอจบกระทู้นี้ไว้แค่นี้ก่อนนะครับ
เดี๋ยวกระทู้ต่อไป ผมจะขับรถต่อไปเมือง LA มาร่วมทริปกับผมต่อนะครับ
ขอบคุณที่ติดตามอ่านนะครับ
ฝากเพจ
https://www.facebook.com/jadtripkan
Tiktok: @jadtrip
https://vt.tiktok.com/ZSLFYsX8D/
ไม่ได้ออกนอกประเทศมา 3 ปี จัดทริปทั้งทีต้องเอาให้คุ้มกับ California USA part2: ขับเลียบ Pacific Ocean
มาต่อกันนะครับ Roadtrip มาถึงแล้วว ตื่นเต้นมากครับ เพราะวันนี้ผมจะได้ขับรถในเอมริกาซึ่งขับคนละฝั่งกับบ้านเรา ผมตื่นแต่เช้าไปรับรถ และแน่นอนครับ สิ่งที่ต้องไปให้ได้คือการขับรถเลียบมหาสมุทรแปซิฟิกอันกว้างใหญ่ นั่นคือถนน Highway1 และ highlight ที่สุดสำหรับผมในวันนี้คือ Lone cypress
เป้าหมายแรกของผมคือ Cannery row : Cannery Row Brewing Company เมือง Monterey แต่ด้วยความที่ผมจะขับเลียบมห่สมุทร Pacific ผมเลยต้องดูแผนที่ประกอบการตั้ง goole maps เพราะถ้าปักหมุดไป Monterey google maps จะพาเราวิ่งทางหลัก ไม่ได้วิ่งเลียบทะเล ดังนั้นถ้าใครอยากใช้ Highway1 อย่าลืมนำแผนที่มาดูประกอบการเดินทางนะครับ
Highway1 เป็นถนนที่ไม่ควรพลาดจริงๆ ถนนแคบหน่อย มีเสียวๆบ้าง แต่สวยจนเกินบรรยายครับ ผมนำรูปที่ถ่ายไว้จากการการขับรถโดยใช้เส้นทาง Highway1 มาฝากด้วยครับ
ขับมาสักพัก ผมก็ถึงเมือง Monterey จริงๆที่นี่ควรแวะเที่ยว Aquarium แต่ด้วยเวลาผมไม่พอ ก็เลยต้อง skip ไป ผมแวะทานเที่ยงที่ร้านอาหารแถว Cannery row ซึ่งก็อยู่บริเวณเดียวกันกับ Aquarium เลยครับ ดื่มด่ำบรรยากาศเมืองตากอากาศริมทะเลจนชุ่มปอดแล้วค่อยเดินทางต่อ
เดินทางต่ออีกนิดเพื่อไป 17 miles drive ซึ่งอยู่ไม่ไกล โดยเป้าหมายที่ผมอยากแวะที่นี่คือ Pebble beach และ Lone cypress
Pepple beach
เป็นทะเลที่มีสนามกอล์ฟและที่พักในตัว สถานที่นี้เคยใช้เป็นสถานที่จัด US Golf Championship ที่มีบุคคลระดับโลกเคยมาแข่ง รวมถึง Tiger wood ด้วย ที่นี่นอกจากจะมาชมวิวทิวทัศน์ได้แล้ว ยังมีประวัติที่มาของ Pebble beach ให้เรียนรู้ด้วยครับ
Lone cypress
สวยแบบเหงาๆ แข็งแรงแต่อ่อนไหว ผมให้นิยามของสถานที่แห่งนี้ ต้นไม้ยืนต้นรับกระแสลมริมมหาสมุทร สวยงามมาก สิ่งที่ตาเห็นเหมือนภาพวาด แต่เป็นภาพวาดที่มีมิติของการเคลื่อนไหว ให้อารมณืที่ดูแตกต่างในคราเดียวกัน มีทั้งความเหงาของต้นไม้ที่ดูโดดเดี่ยว มีความอ่อนโยนของต้นไม้ที่ลู่ตามลม และให้ความแข็งแรงที่ไม่ว่าลมจะแรง แดดจะร้อนแค่ไหน แต่ฉันจะสู้และฉันจะยืนหยัด อวดความสวยให้คนทั้งโลกชม คิดถึงคำคมเลยครับ
"When we long for life without difficulties, remind us that oaks grow strong in contrary winds and diamonds are made under pressure" โดย Peter Marshall
ผมเห็นถึงคุณค่าของการมีชีวิตขึ้นมาทันทีเลยครับ
รูปนี้คือรูปที่ผมถ่ายเอง ไม่มีการตกแต่งใดๆทั้งสิ้นเลยครับ
หลังจากอิ่มเอมใจ ผมก็เข้าสู่ที่พัก โดยวันนี้ผมพักที่ Camel by the sea ซึ่งอยู่แถวๆนี้ครับ
ปล. Jetlack ยังมี เลยขอเข้านอนเร็วนิดนึงครับ ฝืนขับรถกลัวอันตราย
ขอจบกระทู้นี้ไว้แค่นี้ก่อนนะครับ
เดี๋ยวกระทู้ต่อไป ผมจะขับรถต่อไปเมือง LA มาร่วมทริปกับผมต่อนะครับ
ขอบคุณที่ติดตามอ่านนะครับ
ฝากเพจ
https://www.facebook.com/jadtripkan
Tiktok: @jadtrip
https://vt.tiktok.com/ZSLFYsX8D/