เริ่มต้นจากการที่มีโครงการตรวรเลือดในโรงเรียนทุกปี ส่วนตัวเราคิดว่าตัวเองไม่เป็นแน่ซึ่งก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรเลยเค้าให้ตรวจก็ตรวจไปตามสภาพ หลังจากที่เจาะเลือดเรียบร้อยแล้วเค้าก็ให้รอผลตรวจประมาณ 30 นาที เราก็ไม่ได้คิดอะไรเลยคิดในใจว่าไม่ได้เป็นแน่นอนเพราะทุกๆครั้งที่เรามีเพศสัมพันธ์เราก็ใช้ถุงยางอนามัยนะ ที่ไม่ป้องกันก็แค่ไม่กี่ครั้งเองและก็กับคนที่เราไว้ใจได้ด้วยไม่น่าจะเป็นหรอก (ในใจคิดอย่างนี้) ตัดผลมาตอนที่รับผลคนอื่นได้รับผลตรจกันเรียบร้อยแล้ว ทำไมเราได้ทีหลังทั้งๆที่เจาะเลือดเป็นคนแรก (ในใจก็หวั่นๆล่ะ) และแล้วทางหมอก็เรียกเราเข้าไปรับผลตรวจ (รับผลทีละคนในห้องเพราะหมอบอกว่าจะต้องเก็บความลับของคนไข้ทุกคน) ตอนแรกที่เข้าไปฟัง หมอก็ถามว่าเราได้ป้องกันมั้ยตอนที่มีเพศสัมพันธ์ เราก็บอกไปตามตรงว่าก็มีบ้างบางครั้งที่ไม่ได้ป้องกัน แต่แทบเกือบทุกครั้งป้องกันหมด หมอก็ชวนคุยอยู่นานว่าการมีเชื้อไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดนะ นู้นนี่นั่น และสุดท้ายหมอก็บอกว่าจะเรามีเชื้อ HIV อยู่ในร่างกายนะ เราก็แอบตกใจนิดๆน้ำตาคลอ แต่ตอนนั้นไม่ได้ร้องไห้นะ แค่รู้สึกแปลกๆ แต่ในใจก็ยังไม่เชื่อเลยทีเดียวในใจคิดอยากจะไปเจาะอีกรอบ แต่หมอบอกว่าไม่ได้สามารถได้นานเพราะกลัวคนอื่นจะสงสัยเกี่ยวกับผลของเรา พอเรากลับบ้านแล้วหลังจากที่ตรวจเราก็ร้องไห้หนักมาก พอวันรุ่งขึ้นเราก็ไปตรวจซ้ำให้แน่ใจ ที่คลีนิคนิรนาม สุดท้ายผลก็ออกมาว่าเราติดเชื้อ เพราะหมอเจาะเลือดเราไป 2 ครั้งเพื่อยืนยันว่าผลตรงกันทั้ง 2 ครั้ง และหมอที่คลีนิคนิรนามก็ให้คำปรึกษาเราเกี่ยวกับการรับยา การดูแลตัวเอง บลาๆ และหมอก็แนะนำให้เราเจาะ CD4 เพื่อหาจำนวนภูมิคุ้มกันที่เหลืออยู่ในร่างกายเราก็ทำตามที่หมอบอกเพราะเราในใจก็ยังแอบเศร้าๆอยู่ว่าทำไมเราถึงต้องมาเจอโรคแบบนี้ด้วยทั้งๆที่เราไม่ได้ แต่พอได้รับการักษาได้รับยา ก็รู้สึกดีขึ้นมาก
ก็อยากให้กำลังใจกับทุกคนที่ตรวจพบเชื้อว่าอย่าพึ่งหมดหวังทุกอย่างมีทางออกเสมอ
เมื่อรู้ว่าตัวเองติดเชื้อ HIV
ก็อยากให้กำลังใจกับทุกคนที่ตรวจพบเชื้อว่าอย่าพึ่งหมดหวังทุกอย่างมีทางออกเสมอ