ไม่ไกลจากบ้านป้าสมศรี แห่งตำบลเจริญสุขที่เราไปขอความรู้เกี่ยวกับ "ผ้าภูอัคนี" มากนัก มีวัดแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่บนภูเขาไฟที่มอดแล้ว และเป็นแหล่งวัตถุดิบสำคัญของการย้อมผ้าภูอัคนี นั่นคือ วัดเขาพระอังคารวัดเขาพระอังคาร ตั้งอยู่บนยอดเขาอังคาร ซึ่งสูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 320 เมตร อยู่ห่างจากหมู่บ้านเจริญสุข ประมาณ 3 กิโลเมตร ในตำบลเจริญสุข อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดบุรีรัมย์ สันนิษฐานว่าสร้างมาในสมัยเดียวกับปราสาทหินพนมรุ้ง หรือในยุคที่ขอมเรืองอำนาจเป็นวัดที่มีความสวยงาม ใหญ่โตแห่งหนึ่งของจังหวัดบุรีรัมย์ มีสิ่งที่น่าสนใจมากมาย อาทิ โบสถ์ 3 ยอด ซึ่งภายในโบสถ์มีภาพจิตรกรรมฝาผนัง และเรื่องราวชาดกเป็นภาษาอังกฤษ ใบเสมาพันปี พระพิฆเนศงาเดียว พระพุทธ 109 องค์ พระตำหนักศักดิ์สิทธิ์ เทวรูปเจ้าเมืองขอม ฯลฯ เขาพระอังคารเป็นภูเขาไฟที่ดับแล้ว บริเวณที่ตั้งวัด เป็นปากปล่องภูเขาไฟ สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นที่ตั้งโบราณสถานสมัยทวารวดีเพราะพบเสมาหินแกะสลักเป็นจำนวนมาก เขาพระอังคาร มองจากที่สูงเป็นรูปคล้ายพญาครุฑกำลังกระพือปีกหรือคว่ำหน้า โดยหันหัวไปทางใต้ ซึ่งเป็นที่ตั้งของหมู่บ้านถาวร ส่วนลำตัวต้นปีกซ้าย เป็นโบราณวัตถุและพระอังคารธาตุของพระพุทธเจ้า ปีกซ้ายเนินเขายื่นไปทางทิศตะวันออก เป็นหมู่บ้านเจริญสุข ส่วนหางไปทางทิศเหนือ คือ บ้านสวายสอ อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ เขาอังคารครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 90 ตารางกิโลเมตรน่าเสียดายที่สิ่งก่อสร้างในปัจจุบันสร้างทับของเดิมทั้งหมด เราจึงไม่สามารถสันนิฐานได้ว่า สิ่งก่อสร้างดั้งเดิมนั้นเป็นเช่นไร เราเดินเที่ยวชมสถานที่ของวัดเขาพระอังคารอยู่นาน น่าแปลกใจเราไม่พบพระที่อยู่จำวัดแห่งนี้สักรูปเดียววัดดูค่อนข้างใหม่ แต่ออกจะรกด้วยใบไม้ใบหญ้าสักหน่อย เดินดูจนเพลิน ด้วยการก่อสร้างวัดแห่งนี้ล้วนมสถาปัตย์กรรมที่น่าสนใจ เป็นการรวมความเชื่อและศิลปฮินดู ขอม และไทยเข้าด้วยกันอย่างแปลกตานอกจากสถานที่ที่น่าแปลกตาแล้ว บนยอดเขาพระอังคารแห่งนี้ ยังมีทิวทัศน์ที่น่าแปลกใจ เพราะสามารถมองลงมาจากยอดเขาเพื่อชมวิวด้านล่างได้อีกด้วยเราเดินชมกันได้พักใหญ่ แต่เมื่อมองนาฬิกาเราควรจะต้องรีบกลับก่อนค่ำ เพราะคนขับรถของเราไม่เคยมาที่นี่ และดูจะไม่ชำนาญทางสักเท่าไร แถมหนทางยังต้องผ่านทุ่งนา และโรงโม่หินที่ค่อนข้างมีฝุ่นหนา การเดินทางในย่ำค่ำคงไม่สนุกนัก