จากใจคนที่เคยทำงานร้านขายอาหารร้านขนมและร้านขายเครื่องดื่มในห้างตั้งแต่เป็นเด็กเสิร์ฟ ไต่เต้ามาเป็นกุ๊กและเป็นผู้จัดการร้าน สิ่งที่กลัวมากที่สุดของการทำงานไม่ใช่ลูกค้าด่าเรื่องการบริการหรือรสชาติอาหาร แต่กลัวเรื่องที่มีสิ่งแปลกปลอมที่อยู่ในอาหารที่เสิร์ฟมากที่สุด
สิ่งแปลกปลอมในอาหาร ส่วนตัวขอแยกออกเป็น2ประเภท คือ
1. สิ่งแปลกปลอมตามธรรมชาติ เช่น หนอนที่ติดอยู่ที่ผัก ก้อนกรวดเล็กๆที่แอบหลงอยู่ในข้าวที่หุง เป็นต้น
2. สิ่งแปลกปลอมที่ไม่ใช่ธรรมชาติ เช่น เศษแก้วแตก เส้นผม แมลงสาบ ขาแมลงสาบ แมลงอื่นๆ เป็นต้น
ความกลัวในเรื่องที่2 ส่วนตัวกลัวมากๆ ในชีวิตการทำงานที่เป็นผจก.ร้านเกือบ10ปี ถูกลูกค้าเรียกไปด่าที่โต๊ะ3ครั้ง ลูกค้าเจอลูกแมลงสาบตัวเล็กๆ1ครั้ง และแมลงอะไรก็ไม่รู้แต่ตัวเล็กๆ2ครั้ง ทุกครั้งที่เจอปัญหาเรื่องนี้ นอกจากแก้ปัญหากับลูกค้าแล้ว(ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาที่เรื่องใหญ่มาก) จะสั่งบิ๊กคลีนนิ่งหลังปิดร้านในวันนั้นทันที และให้บริษัทที่จ้างมาดูแลเรื่องหนูและแมลงเข้ามาในคืนนั้นทันที(ปกติเขาจะเข้ามาฉีดยาวางกาวดักหนูเดือนละครั้ง แต่ก็สามารถเรียกเข้ามาฉุกเฉินเพิ่มเติมนอกรอบได้)
นอกจากปัญหาเรื่องแมลงแล้ว ยังมีปัญหาใหญ่อีกเรื่องหนึ่งคือหนู ทุกคืนหลังปิดร้านหนูจะออกมาอาละวาดมาก ไม้อัด ฝ้า จะแข็งแค่ไหนสามารถกัดแทะได้หมด โซฟาเบาะหนังก็ขาดกระจุย ฉี่หนูก็กลิ่นแรง หนูพวกนี้ส่วนใหญ่จะออกมาตอนปิดร้าน ตอนที่ไม่มีคนอยู่ในร้าน แต่ก็มีหนูส่วนหนึ่งส่วนน้อยที่ไม่แน่ใจว่าใจกล้าหรือกล้าตายหรือมึนงงหลงทาง จะโผล่ออกมาตอนที่มีคนอยู่
สิ่งที่กลัวที่สุดไม่ใช่ว่ากลัวตัวหนู แต่กลัวหนูออกมาเดินเล่นในพื้นที่บริการลูกค้า ถึงแม้ว่าพื้นที่ในร้านจะกันหนูได้ แต่ประตูร้านที่เปิดอยู่ตลอดเวลา หนูพวกนี้มันเข้ามาจากประตูหน้าร้าน เดินผ่านเข้ามาผ่านพนักงานต้อนรับที่เป็นผู้หญิง ซึ่งพนักงานก็จะกรี๊ดต้อนรับ พอลูกค้าในร้านได้ยินเสียงพนักงานกรี๊ดก็จะหันมามองแล้วก็เห็นหนูเดินเข้ามาในร้าน บ้างก็ตัวเล็ก แต่ส่วนใหญ่ตัวโตอย่างกับแมว ลูกค้าทุกคนก็จะร่วมใจกันเล่นเวฟ หนูเดินผ่านโต๊ะไหน ลูกค้าก็จะยกขาขึ้นโดยอัตโนมัติ ในขณะที่พนักงานก็ช่วยกันต้อนช่วยกันไล่หนู บ้างก็รีบไปหยิบไม้กวาดสวมวิญญาณนักฮอกกี้ แต่ก็ต้อนหนูไปกรี๊ดไป บ้างก็สวมวิญญาณนักเตะ พอหนูวิ่งไปสุดร้านเห็นว่าเป็นทางตันก็วิ่งสวนออกมาเพื่อออกนอกร้าน ลูกค้าทุกคนก็จะยกขาเล่นเวฟส่งท้าย
อาจจะดูเหมือนตลกแต่จริงแล้วไม่ตลกเลย โชคดีที่ลูกค้าส่วนใหญ่ไม่เอาเรื่องเพราะเห็นว่ามันมาจากนอกร้าน แต่ทุกครั้งที่เกิดเรื่องก็จะแจ้งไปยังฝ่ายอาคารสถานที่ของทางห้างให้เขารับทราบและดำเนินการ และการประชุมใหญ่ตามรอบของทางห้างก็จะหยิบยกประเด็นนี้มาคุยเกือบทุกครั้ง ซึ่งก็แก้ไม่ตกซะที
ถึงแม้ทางร้านจะมีการปิดรู ปิดช่อง ปิดท่อ ฉีดยา วางกาว เพื่อกันและกำจัดหนูและแมลง แต่ทำอย่างไรก็ไม่สามารถแก้ไขได้100% เพราะพื้นที่ของร้านในห้างเป็นพื้นที่แชร์ร่วมกัน บนฝ้าเพดานก็โล่งๆติดกัน ร้านเรากำจัดหนูและแมลง แต่ร้านใกล้เคียงมีหนูและแมลง โอกาสที่หนูและแมลงจะเข้ามาร้านเราก็มีความเป็นได้เพราะหน้าร้านเป็นพืนที่เปิด
ถ้าไม่ทำร้านอาหารที่เป็นคล้ายๆฟาร์มเลี้ยงสัตว์ที่เป็นแบบฟาร์มปิด หรือคล้ายๆพื้นที่ปิดในโรงงานผลิตอาหาร ก็ยากที่จะแก้ไขเรื่องหนูและแมลง
ร้านอาหารที่ขายในห้างคุณคิดว่าสะอาดจริงหรือ?
สิ่งแปลกปลอมในอาหาร ส่วนตัวขอแยกออกเป็น2ประเภท คือ
1. สิ่งแปลกปลอมตามธรรมชาติ เช่น หนอนที่ติดอยู่ที่ผัก ก้อนกรวดเล็กๆที่แอบหลงอยู่ในข้าวที่หุง เป็นต้น
2. สิ่งแปลกปลอมที่ไม่ใช่ธรรมชาติ เช่น เศษแก้วแตก เส้นผม แมลงสาบ ขาแมลงสาบ แมลงอื่นๆ เป็นต้น
ความกลัวในเรื่องที่2 ส่วนตัวกลัวมากๆ ในชีวิตการทำงานที่เป็นผจก.ร้านเกือบ10ปี ถูกลูกค้าเรียกไปด่าที่โต๊ะ3ครั้ง ลูกค้าเจอลูกแมลงสาบตัวเล็กๆ1ครั้ง และแมลงอะไรก็ไม่รู้แต่ตัวเล็กๆ2ครั้ง ทุกครั้งที่เจอปัญหาเรื่องนี้ นอกจากแก้ปัญหากับลูกค้าแล้ว(ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาที่เรื่องใหญ่มาก) จะสั่งบิ๊กคลีนนิ่งหลังปิดร้านในวันนั้นทันที และให้บริษัทที่จ้างมาดูแลเรื่องหนูและแมลงเข้ามาในคืนนั้นทันที(ปกติเขาจะเข้ามาฉีดยาวางกาวดักหนูเดือนละครั้ง แต่ก็สามารถเรียกเข้ามาฉุกเฉินเพิ่มเติมนอกรอบได้)
นอกจากปัญหาเรื่องแมลงแล้ว ยังมีปัญหาใหญ่อีกเรื่องหนึ่งคือหนู ทุกคืนหลังปิดร้านหนูจะออกมาอาละวาดมาก ไม้อัด ฝ้า จะแข็งแค่ไหนสามารถกัดแทะได้หมด โซฟาเบาะหนังก็ขาดกระจุย ฉี่หนูก็กลิ่นแรง หนูพวกนี้ส่วนใหญ่จะออกมาตอนปิดร้าน ตอนที่ไม่มีคนอยู่ในร้าน แต่ก็มีหนูส่วนหนึ่งส่วนน้อยที่ไม่แน่ใจว่าใจกล้าหรือกล้าตายหรือมึนงงหลงทาง จะโผล่ออกมาตอนที่มีคนอยู่
สิ่งที่กลัวที่สุดไม่ใช่ว่ากลัวตัวหนู แต่กลัวหนูออกมาเดินเล่นในพื้นที่บริการลูกค้า ถึงแม้ว่าพื้นที่ในร้านจะกันหนูได้ แต่ประตูร้านที่เปิดอยู่ตลอดเวลา หนูพวกนี้มันเข้ามาจากประตูหน้าร้าน เดินผ่านเข้ามาผ่านพนักงานต้อนรับที่เป็นผู้หญิง ซึ่งพนักงานก็จะกรี๊ดต้อนรับ พอลูกค้าในร้านได้ยินเสียงพนักงานกรี๊ดก็จะหันมามองแล้วก็เห็นหนูเดินเข้ามาในร้าน บ้างก็ตัวเล็ก แต่ส่วนใหญ่ตัวโตอย่างกับแมว ลูกค้าทุกคนก็จะร่วมใจกันเล่นเวฟ หนูเดินผ่านโต๊ะไหน ลูกค้าก็จะยกขาขึ้นโดยอัตโนมัติ ในขณะที่พนักงานก็ช่วยกันต้อนช่วยกันไล่หนู บ้างก็รีบไปหยิบไม้กวาดสวมวิญญาณนักฮอกกี้ แต่ก็ต้อนหนูไปกรี๊ดไป บ้างก็สวมวิญญาณนักเตะ พอหนูวิ่งไปสุดร้านเห็นว่าเป็นทางตันก็วิ่งสวนออกมาเพื่อออกนอกร้าน ลูกค้าทุกคนก็จะยกขาเล่นเวฟส่งท้าย
อาจจะดูเหมือนตลกแต่จริงแล้วไม่ตลกเลย โชคดีที่ลูกค้าส่วนใหญ่ไม่เอาเรื่องเพราะเห็นว่ามันมาจากนอกร้าน แต่ทุกครั้งที่เกิดเรื่องก็จะแจ้งไปยังฝ่ายอาคารสถานที่ของทางห้างให้เขารับทราบและดำเนินการ และการประชุมใหญ่ตามรอบของทางห้างก็จะหยิบยกประเด็นนี้มาคุยเกือบทุกครั้ง ซึ่งก็แก้ไม่ตกซะที
ถึงแม้ทางร้านจะมีการปิดรู ปิดช่อง ปิดท่อ ฉีดยา วางกาว เพื่อกันและกำจัดหนูและแมลง แต่ทำอย่างไรก็ไม่สามารถแก้ไขได้100% เพราะพื้นที่ของร้านในห้างเป็นพื้นที่แชร์ร่วมกัน บนฝ้าเพดานก็โล่งๆติดกัน ร้านเรากำจัดหนูและแมลง แต่ร้านใกล้เคียงมีหนูและแมลง โอกาสที่หนูและแมลงจะเข้ามาร้านเราก็มีความเป็นได้เพราะหน้าร้านเป็นพืนที่เปิด
ถ้าไม่ทำร้านอาหารที่เป็นคล้ายๆฟาร์มเลี้ยงสัตว์ที่เป็นแบบฟาร์มปิด หรือคล้ายๆพื้นที่ปิดในโรงงานผลิตอาหาร ก็ยากที่จะแก้ไขเรื่องหนูและแมลง