📚
เทคนิคการเรียนภาษาสำหรับมือใหม่
ส่วนตัวแล้วยังไม่เก่งเลยด้วยซ้ำถึงจะอ่านการ์ตูนเป็นภาษาอังกฤษบ้าง คุย/แชทกับเจ้าของภาษาบ้าง ใช้ไม่ถูก 100% หรอกเพราะเรามือใหม่และไม่ใช่เจ้าของภาษา และกำลังเรียนภาษาอื่นๆ เพิ่มเติมนิดๆ หน่อยๆ
เพราะชีวิตเรายังมีอะไรที่ต้องพัฒนาอีกเยอะแยะ การศึกษาหาความรู้มันไม่มีที่สิ้นสุดอยู่แล้ว ถือคติที่ว่า อย่าทำตัวเป็นน้ำเติมแก้ว และรอรับสิ่งใหม่ๆ อยู่ตลอด จะเป็นการดีที่สุด 5555
และวันนี้อยากมากแบ่งปันวิธีการเรียนภาษา ไม่ได้เจาะจงเฉพาะภาษาอังกฤษ หากกำลังเรียนภาษาอื่นอยู่ก็สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้เหมือนกัน ว่าเรียนยังไงแล้วเราจะสามารถสนุกไปกับมันได้
ก่อนอื่นบอกเลยว่าอย่าเรียนจากหนังสือเยอะ มันจะง่วงเร็วเกินไป จากประสบการณ์ตรง 5555555
(ไม่ใช่แค่อังกฤษ คณิตฯ สังคม ภาษาไทยก็ง่วง
)
ลองหาเพลงฟัง หาซีรีย์ดูดีว่า 🎤🎧📺
ขอแนะนำถ้าอยากจำคำศัพท์เร็วไม่ต้องไปนั่งท่องปากเปล่าเยอะ นอกจากน่าเบื่อแล้วถ้าจำอะไรไม่ได้เลยก็จะเสียเวลาเปล่า ยิ่งถ้าบางคนขี้เกียจทบทวนหน่อย แปปๆ ก็จะลืมละ ส่วนหนังสือเอาไว้ดูหลักไวยากรณ์กับตัวอย่างประโยค หรือพวกพื้นฐานต่างๆ ก็พอเนอะ แต่อย่าลืมว่าถ้าพื้นฐานยังไม่มั่นคงแล้วจะไประดับที่สูงขึ้น มันก็คงจะกระท่อนกระแท่นหน่อยๆ เพราะฉะนั้นแล้วพื้นฐานสำคัญที่สุด ทุกอย่างเริ่มมาจากมันเนี่ยแหละ
เทคนิคท่องจำมันก็ได้ผลนะ แต่ว่าต้องหมั่นทบทวนอยู่บ่อยๆ สมองเราจะได้คุ้นกับคำนั้นๆ ยิ่งคุ้นมากเท่าไรก็จะใช่เวลานึกคำน้อยเท่านั้น และสามารถโต้ตอบได้เร็ว จะเร็วได้อีกถ้าฝึกพูดบ่อยๆ หน้ากระจกก็ได้ เจ้าของภาษาก็ดี 555 เพ้อเยอะละเข้าเนื้อหาเถอะ 😂
🧠📖
เรียนกับเพลง ภาพยนต์ หรือซีรีย์
แค่อ่านหนังสือ หรือฝึกพูดเฉยๆ อาจจะน่าเบื่อ มาลองเรียนกับสื่อต่างๆ ตามที่บอกไปก็ได้
อย่างเช่นถ้าเราร้องเพลงนึงได้อย่างน้อยก็จำได้มากกว่า 10 คำละ (ส่วนจะรู้ความหมายไหมนั่นอีกเรื่องนึง)
การร้องเพลงเป็นการเรียนรู้รูปแบบนึงที่ดีมากนะ ดูอย่างตอนอนุบาลที่ครูให้เราท่อง A-Z หรือ ก-ฮ เป็นเพลงสิ มันสนุกนะไม่มีเบื่อเลย เด็กส่วนมากก็จำได้ดีไม่ลืมด้วย ทั้งอักษร ทั้งทำนองเพลง
ส่วนการดูหนังหรือซีรีย์ก็ได้ฝึกวิเคราห์ จำใจความ สรุปเนื้อเรื่องไปได้ด้วย ได้ประโยชน์ 2 ต่อเลย แต่ต้องไม่จบแค่ดูหรือฟังสื่อนั่นๆ อย่างเดียว ให้ทำต่อไปดังนี้.. (เข้าเรื่องจริงๆ สักที เกริ่นยาวมาก555)
▪ 1. การดูเนื้อเพลง/ดูบทละครหรือคำบรรยาย/อ่านการ์ตูน/อ่านบทความ ฯลฯ
❌ ถ้าดูหนัง/ซีรีย์ ขอห้ามเลยว่าอย่าดูซับไทย
ตอนแรกๆ ดูได้แต่ถ้าจำคำได้เยอะพอแล้วให้เปิดซับเป็นภาษาที่จะเรียนเท่านั้น เพราะถ้าเปิดซับไทย ยังไงเราก็จะเพ่งสมาธิไปที่ภาษาไทย ละก็ไม่ได้คำใหม่ เพราะมัวแต่อ่านซับไทย
✔ จดคำศัพท์ใหม่ๆ ที่ไม่เคยเจอ
ถ้าค้างคาใจกับคำไหนกลัวลืมก็จดไว้เลย เฟี้ยวหน่อยถ้าดู/อ่านในคอมก็แคปภาพเก็บไว้เลย (ส่วนมากก็ดูในคอมกันอยู่แล้วแหละเนอะ555) แล้วแยกคำศัพท์ที่ไม่เคยเจอออกมา ดูและจำว่ามันสะกดด้วยอักษรอะไรบ้าง หัดสะกดคำ ปากเปล่า หรือเขียนลงสมุดก็ได้ ถ้าเพิ่ง
เริ่มเรียนให้หาสมุดเล่มนึงเน้นใช้จด ใช้คัดคำศัพท์อย่างเดียวเลย เขียนเละๆ ก็ได้ 10 คำหรือ 100 คำก็แล้วแต่ความขยัน และแยกอีกเล่มนึงไว้ใช้จดคำศัพท์คู่กับคำแปล แต่บางคนก็เขียนโน๊ตแล้วแปะตามผนังบ้าน
💡
ขอแนะนำเว็บดูหนัง ดูซีรีย์ และเว็บอ่านการ์ตูน
1⃣ HDEUROPIX
https://www.hdeuropix.io/
เว็บไซต์ไว้ดูหนังกับซีรียส์ มีคำบรรยายภาษาอังกฤษแทบจะทุกเรื่อง มีหนังใหม่ๆ ซีรีย์ใหม่ๆ อัพเดทเรื่อยๆ (คำเตือนมันจะเด้งไปหน้าโฆษณาเยอะนิดนึง กว่าจะได้ดู555)
2⃣ ITVMOIVE
https://itvmovie.se/
คล้ายๆ เว็บก่อนหน้านี้เลย โอเคเหมือนกัน
3⃣ Read Comic Online
http://readcomiconline.to/
เว็บไซต์ไว้อ่านคอมมิค มังงะ ภาษาอังกฤษ
(หากดูหนังหรือซีรีย์ ซับที่เปิดต้องเป็นภาษาที่จะเรียนเท่านั้น)
4⃣ Line Webtoon
https://www.webtoons.com/en/
อันนี้คนไทยนิยมมาก แต่บางคนอาจจะยังไม่รู้ว่ามันเปลี่ยนเป็นภาษาอังกฤษได้
ภาษาอื่นก็ได้ จีน อินโดนีเซีย (สรุปเลือกได้ 4 ภาษา)
ถ้าให้แนะนำก็พวกนี้ที่เราอ่านอยู่ ชอบ Slack Wyrm, Adventures of God กับ My Name is Death มากมันฮาดี
ส่วนถ้าบางชอบดูหน้าจอคอมหรือโทรศัพท์ก็แนะนำให้จดศัพท์ลง Google Sheets ไปเลย
เพราะมันดีอย่างที่ว่า ไม่หาย ไม่เปื่อย ไม่ฉีกขาดได้เหมือนสมุด และบัญชีเชื่อมกับ Gmail ของ Google สามารถดูได้บนทุกอุปกรณ์ที่เราลงชื่อเข้าใช้ไว้ได้ 24 ชม. ที่ให้ใช้ Google Sheets เพราะเห็นว่ามันสะดวกจริงๆ เวลาจะเปิดดู
ยกตัวอย่าง...
เห็นไหมว่าเราแค่หาคำที่ต้องการได้โดยแค่กด
Ctrl + F มันก็จะไฮไลท์คำหรือตัวอักษรที่เราพิมพ์ใส่ช่องค้นหาที่มุมขวาบน
ถึงคำนั้นๆ จะอยู่ท้ายหรือล่างสุดข้อง sheet เราก็ไม่ต้องกลัวว่าจะต้องหาตาลายเหมือนในสมุด ไม่จำเป็นต้องเอาไม้บรรทัดมาทาบเวลาดูตารางด้วย555
ลิ้ง:
Google Sheets
https://play.google.com/store/apps/details?id=com.google.android.apps.docs.editors.sheets&hl=en
อ้างอิงจากกระทู้:
https://ppantip.com/topic/31927561
ขอบคุณมากๆ นะคะ
แนะนำเสริมไปอีกอย่างว่า...
ถ้าใครชอบอ่านบทความละขี้เกียจก๊อปวางๆ ใน Google Translate หรือวางในพจนานุกรมอื่นๆ ละก็ให้ลองใช้...
Google Dictionary
คนละตัวกับ Google Translate นะ อย่าเข้าใจผิด เพราะมันคือ ส่วนขยาย (หรือเรียกอีกอย่างว่า extension) บน Google Chrome
ลิ้ง:
https://chrome.google.com/webstore/detail/google-dictionary-by-goog/mgijmajocgfcbeboacabfgobmjgjcoja
คือถ้ามันง่ายและสะดวกมากจริงๆ แค่คลิ๊กบนคำมันก็แสดงความหมาย/คำแปลให้เราเลย ทีเด็ดอยู่ตรงที่สามารถกดฟังเลยได้ทันทีหลังจากคลิ๊กคำนั้นๆ กดรูปโทรโขงก็ได้ฟังเสียงละ (ภาษาอื่นก็ใช้ได้นะไม่ใช่แค้อังกฤษ)
อ้างอิงมาจากกระทู้นี้:
https://ppantip.com/topic/32660847
ขอบคุณมากๆ เลยนะคะที่แบ่งปันของดีๆ ให้กัน
▪ 2. สังเกตศัพท์นั้นว่ามันผันไหม
ถ้าผันให้ดูรากศัพท์ว่ามันมาจากคำว่าอะไร เพราะมันจะมีกรณีที่ว่า ผันแล้วคำศัพท์ต่างกันอย่างสิ้นเชิงเลย ยกตัวอย่างภาษาอังกฤษศัพท์ที่คุ้นเคยกันดี go / went / gone จะเห็นได้ว่า เขียนไม่ได้ใกล้เคียงกันเลย ถ้าเราจำแต่ละคำแยกกันมันจะยากนะ ให้จำแบบ go คือรากศัพท์ แยกเป็น ช่อง 2 went และ แยกเป็นช่อง 3 gone จะง่ายกว่า
💡
แนะนำแอพไว้ฝึกพื้นฐานภาษาอังกฤษ
1⃣ English Tenses Practice
https://play.google.com/store/apps/details?id=vn.magik.englishgrammar
รวบรวมไว้ทั้ง 12 tenses ในภาษาอังกฤษและมีแบบทดสอบ
2⃣ English Phrases In Use
https://play.google.com/store/apps/details?id=p11.minh.english_phrases_in_use
รวบรวมวลีและประโยคพื้นฐานที่ใช้ในชีวิตประจำวัน มีหลากหลายหมวดหมูมาก ทั้งกล่าวคำขอโทษ การทักทาย ถามทาง ขอความช่วยเหลือ ฯลฯ
3⃣ Memrise
https://play.google.com/store/apps/details?id=com.memrise.android.memrisecompanion
เอาไว้ท่องศัพท์ภาษาอังกฤษ แต่ไม่มีแปลเป็นภาษาไทยนะ อังกฤษล้วนๆ
4⃣ Duolingo
https://www.duolingo.com/
เอาไว้ท่องศัพท์ภาษาอังกฤษเหมือนเว็บด้านบน มีหลากหลายภาษาให้เลือก
▪ 3. ดูตัวอย่างการใช้ประโยคจากบทความ หนังสือ เว็บไซต์ ฯลฯ
การที่เราสามารถจำคำศัพท์ได้เพียงอย่างเดียว มันจะมีประโยชน์อะไรถ้าเราไม่รู้วิธีใช้มัน ก็เหมือนจำสูตรคณิตศาสตร์ได้แต่ใช้ไม่เป็น5555 มันจะมีกรณีที่แบบ... ไม่รู้จักประยุกต์ใช้คำ ไม่รู้ว่าควรว่างตำแหน่งไหน ทำหน้าที่อะไรในประโยค?
เพราะอย่างนี้แล้วเราถึงต้องศึกษาหาตัวอย่างการใช้คำนั้นๆ ในประโยคต่างๆ ด้วย
💡
แนะนำเว็บไซต์ไว้ดูตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษ
1⃣ Fraze It:
https://fraze.it/
มีให้แค่ตัวอย่างประโยค
2⃣ Longman:
https://www.ldoceonline.com/ (มีแอพให้โหลดบนใช้โทรศัทพ์และเว็บไซต์บนคอม)
มีความหมายให้ มีตัวอย่างประโยค กดฟังการออกเสียงคำได้
3⃣ Cambridge Dictionary: (มีแอพให้โหลดบนใช้โทรศัทพ์และเว็บไซต์บนคอม)
https://dictionary.cambridge.org/
มีความหมายให้ มีตัวอย่างประโยค กดฟังการออกเสียงคำได้
4⃣ Merriam-Webster: (มีแอพให้โหลดบนใช้โทรศัทพ์และเว็บไซต์บนคอม)
http://www.learnersdictionary.com/search/
มีความหมายให้ มีตัวอย่างประโยค กดฟังการออกเสียงคำได้
5⃣ Oxford Learner's Dictionaries: (มีแอพให้โหลดบนใช้โทรศัทพ์และเว็บไซต์บนคอม)
https://www.oxfordlearnersdictionaries.com/
มีความหมายให้ มีตัวอย่างประโยค กดฟังการออกเสียงคำได้
6⃣ Speechnotes:
https://speechnotes.co/
เป็นเว็บม้ามืดที่ไม่ค่อยมีคนรูปจักเท่าไร แต่ใช้ดีมากๆ สามารถพูดใส่ไมค์แล้วมันจะแปลงเป็นตัวอักษรให้เรา ใช้ทดสอบตัวเราว่าออกเสียงคำนั่นชัดมากแค่ไหน ยิ่งชัดยิ่งถูกต้องตามเจ้าของภาษามันก็แปลงให้เราถูกคำ หรือกรณีที่เราดูคลิป ดูหนัง ดูข่าวแล้วมันไม่มีซับให้เรา เราก็เปิดอัดเสียงในคอมละก็เข้าไปเปิดไมค์ในเว็บนี้ มันจะแปลงเสียงเป็นตัวอักษรให้เราทันที แต่ถ้าในคลิปนั้นๆ มีเสียงรบกวนมากเกินไป มันก็จะแปลงให้เราเพี้ยนๆ หน่อย ผิดคำบาง แต่ยืนยันเลยว่าแปลงได้ดีมากและใช้ได้หลายภาษา สามารถโหลดเก็บไว้เป็นไฟล์ .doc หรือ .txt ได้
7⃣ Line Dictionary: เหมาะและสะดวกกับคนไทยสุดๆ (มีแอพให้โหลดบนใช้โทรศัทพ์และเว็บไซต์บนคอม)
http://english-thai.linedict.com/#/enth/home
มีตัวอย่างประโยค มีตัวอย่างการออกเสียง สามารถบันทึกคำไว้ได้ และมีส่วนที่ช่วยทดสอบความจำเรา คือส่วน Words up มีเรียงคำให้เป็นประโยค เติมคำในช่องว่าง เลือกความหมายที่ถูกต้องของคำ และยังมีตัวอย่างการสนทนาประจำวัน กับสุภาษิตและคำคมให้ด้วย แอพครอบคลุมจักรวาลจริงๆ มีแทบทุกอย่าง555
▪ 4. ฝึกเขียนบ่อยๆ ถ้าเริ่มจำคำต่างๆ ได้แล้วก็ฝึกสร้างปรโยคเอง
ตามที่บอกไปในข้อ 1. ว่าหนื่งให้แยกสมุดที่คัดคำศัพท์ล้วนๆ กับสองสมุดที่จดคำศัพท์คู่กับความหมาย บางคนอาจจะร่วมตัวอย่างประโยคและการสร้างประโยคเองกับสมุดแบบที่สองไเลย หรือจะขยันแยกมาเป็นเล่มที่สามไปเลยก็ดีเนื้อหามันจะได้แยกกันไปเลย ถ้าปนกันเยอะๆ เข้าอาจจะงงได้555
▪ 5. เมื่อสร้างประโยคโดยการเขียนเป็นแล้ว ก็ให้เริ่มหัดพูด อาจจะหัดพูดเป็นคำๆ ไปก่อน หรือจะลองวางประโยคนั้นๆ ใน
Google Translate แล้วออกเสียงตามก็ได้แล้วแต่ชอบ หรืออาจจะใช้เว็บที่กล่าวไว้ด้านบนที่ชื่อว่า Speechnotes มาดูตัวอย่างดีกว่าว่ามันดียังไง แต่ถ้าฟังดีๆ จะสังเกตได้ว่าท้ายคลิปจะมีเสียงคนแทรกเข้ามาแล้วมันไม่แปลงเสียงเป็นคำให้เรา จะมีข้อเสียแค่ตรงนี้ ถ้าพื้นหลังไม่มีเสียงรบกวนก็จะแปลงได้ดีมากๆ
ตามที่เห็นในคลิปวีดีโอ แสดงให้เห็นว่าเราสามารถใช้ Speechnotes แปลงจากคลิปเป็นตัวอักษรได้ ถือว่าสะดวกมากๆ เลยทีเดียว นอกจากนี้ยังใช้ให้มันอ่านออกเสียงให้เราฟังได้อีกด้วย โดยการกดรูปโทรโขงตรงมุมขวาล่าง
เดี๋ยวไว้ว่างๆ มาต่ออีก สร้างประโยคได้แล้ว พูดพอได้แล้ว ก็ถึงเวลาไปฝึกคุยกับชาวต่างชาติจริงๆ สักทีบาง อาจจะแนะนำแอพหรือเว็บเพิ่มเติมอีก มีในคลังอีกเยอะเลย
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ เนื้อหาอาจจะไม่ได้แปลกใหม่อะไรมาก แค่อยากมาแนะนำวิธีการของตัวเองบ้างนิดๆ หน่อยๆ หากมีอะไรผิดพลาดก็ขออภัยด้วยค่ะ
เทคนิคการเรียนภาษาสำหรับมือใหม่ [มีแอพและเว็บไซต์แนะนำ]
ส่วนตัวแล้วยังไม่เก่งเลยด้วยซ้ำถึงจะอ่านการ์ตูนเป็นภาษาอังกฤษบ้าง คุย/แชทกับเจ้าของภาษาบ้าง ใช้ไม่ถูก 100% หรอกเพราะเรามือใหม่และไม่ใช่เจ้าของภาษา และกำลังเรียนภาษาอื่นๆ เพิ่มเติมนิดๆ หน่อยๆ
เพราะชีวิตเรายังมีอะไรที่ต้องพัฒนาอีกเยอะแยะ การศึกษาหาความรู้มันไม่มีที่สิ้นสุดอยู่แล้ว ถือคติที่ว่า อย่าทำตัวเป็นน้ำเติมแก้ว และรอรับสิ่งใหม่ๆ อยู่ตลอด จะเป็นการดีที่สุด 5555
และวันนี้อยากมากแบ่งปันวิธีการเรียนภาษา ไม่ได้เจาะจงเฉพาะภาษาอังกฤษ หากกำลังเรียนภาษาอื่นอยู่ก็สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้เหมือนกัน ว่าเรียนยังไงแล้วเราจะสามารถสนุกไปกับมันได้
ก่อนอื่นบอกเลยว่าอย่าเรียนจากหนังสือเยอะ มันจะง่วงเร็วเกินไป จากประสบการณ์ตรง 5555555
(ไม่ใช่แค่อังกฤษ คณิตฯ สังคม ภาษาไทยก็ง่วง )
ลองหาเพลงฟัง หาซีรีย์ดูดีว่า 🎤🎧📺
ขอแนะนำถ้าอยากจำคำศัพท์เร็วไม่ต้องไปนั่งท่องปากเปล่าเยอะ นอกจากน่าเบื่อแล้วถ้าจำอะไรไม่ได้เลยก็จะเสียเวลาเปล่า ยิ่งถ้าบางคนขี้เกียจทบทวนหน่อย แปปๆ ก็จะลืมละ ส่วนหนังสือเอาไว้ดูหลักไวยากรณ์กับตัวอย่างประโยค หรือพวกพื้นฐานต่างๆ ก็พอเนอะ แต่อย่าลืมว่าถ้าพื้นฐานยังไม่มั่นคงแล้วจะไประดับที่สูงขึ้น มันก็คงจะกระท่อนกระแท่นหน่อยๆ เพราะฉะนั้นแล้วพื้นฐานสำคัญที่สุด ทุกอย่างเริ่มมาจากมันเนี่ยแหละ
เทคนิคท่องจำมันก็ได้ผลนะ แต่ว่าต้องหมั่นทบทวนอยู่บ่อยๆ สมองเราจะได้คุ้นกับคำนั้นๆ ยิ่งคุ้นมากเท่าไรก็จะใช่เวลานึกคำน้อยเท่านั้น และสามารถโต้ตอบได้เร็ว จะเร็วได้อีกถ้าฝึกพูดบ่อยๆ หน้ากระจกก็ได้ เจ้าของภาษาก็ดี 555 เพ้อเยอะละเข้าเนื้อหาเถอะ 😂
🧠📖 เรียนกับเพลง ภาพยนต์ หรือซีรีย์
แค่อ่านหนังสือ หรือฝึกพูดเฉยๆ อาจจะน่าเบื่อ มาลองเรียนกับสื่อต่างๆ ตามที่บอกไปก็ได้
อย่างเช่นถ้าเราร้องเพลงนึงได้อย่างน้อยก็จำได้มากกว่า 10 คำละ (ส่วนจะรู้ความหมายไหมนั่นอีกเรื่องนึง)
การร้องเพลงเป็นการเรียนรู้รูปแบบนึงที่ดีมากนะ ดูอย่างตอนอนุบาลที่ครูให้เราท่อง A-Z หรือ ก-ฮ เป็นเพลงสิ มันสนุกนะไม่มีเบื่อเลย เด็กส่วนมากก็จำได้ดีไม่ลืมด้วย ทั้งอักษร ทั้งทำนองเพลง
ส่วนการดูหนังหรือซีรีย์ก็ได้ฝึกวิเคราห์ จำใจความ สรุปเนื้อเรื่องไปได้ด้วย ได้ประโยชน์ 2 ต่อเลย แต่ต้องไม่จบแค่ดูหรือฟังสื่อนั่นๆ อย่างเดียว ให้ทำต่อไปดังนี้.. (เข้าเรื่องจริงๆ สักที เกริ่นยาวมาก555)
▪ 1. การดูเนื้อเพลง/ดูบทละครหรือคำบรรยาย/อ่านการ์ตูน/อ่านบทความ ฯลฯ
❌ ถ้าดูหนัง/ซีรีย์ ขอห้ามเลยว่าอย่าดูซับไทย
ตอนแรกๆ ดูได้แต่ถ้าจำคำได้เยอะพอแล้วให้เปิดซับเป็นภาษาที่จะเรียนเท่านั้น เพราะถ้าเปิดซับไทย ยังไงเราก็จะเพ่งสมาธิไปที่ภาษาไทย ละก็ไม่ได้คำใหม่ เพราะมัวแต่อ่านซับไทย
✔ จดคำศัพท์ใหม่ๆ ที่ไม่เคยเจอ
ถ้าค้างคาใจกับคำไหนกลัวลืมก็จดไว้เลย เฟี้ยวหน่อยถ้าดู/อ่านในคอมก็แคปภาพเก็บไว้เลย (ส่วนมากก็ดูในคอมกันอยู่แล้วแหละเนอะ555) แล้วแยกคำศัพท์ที่ไม่เคยเจอออกมา ดูและจำว่ามันสะกดด้วยอักษรอะไรบ้าง หัดสะกดคำ ปากเปล่า หรือเขียนลงสมุดก็ได้ ถ้าเพิ่ง
เริ่มเรียนให้หาสมุดเล่มนึงเน้นใช้จด ใช้คัดคำศัพท์อย่างเดียวเลย เขียนเละๆ ก็ได้ 10 คำหรือ 100 คำก็แล้วแต่ความขยัน และแยกอีกเล่มนึงไว้ใช้จดคำศัพท์คู่กับคำแปล แต่บางคนก็เขียนโน๊ตแล้วแปะตามผนังบ้าน
💡 ขอแนะนำเว็บดูหนัง ดูซีรีย์ และเว็บอ่านการ์ตูน
1⃣ HDEUROPIX
https://www.hdeuropix.io/
เว็บไซต์ไว้ดูหนังกับซีรียส์ มีคำบรรยายภาษาอังกฤษแทบจะทุกเรื่อง มีหนังใหม่ๆ ซีรีย์ใหม่ๆ อัพเดทเรื่อยๆ (คำเตือนมันจะเด้งไปหน้าโฆษณาเยอะนิดนึง กว่าจะได้ดู555)
2⃣ ITVMOIVE
https://itvmovie.se/
คล้ายๆ เว็บก่อนหน้านี้เลย โอเคเหมือนกัน
3⃣ Read Comic Online
http://readcomiconline.to/
เว็บไซต์ไว้อ่านคอมมิค มังงะ ภาษาอังกฤษ
(หากดูหนังหรือซีรีย์ ซับที่เปิดต้องเป็นภาษาที่จะเรียนเท่านั้น)
4⃣ Line Webtoon
https://www.webtoons.com/en/
อันนี้คนไทยนิยมมาก แต่บางคนอาจจะยังไม่รู้ว่ามันเปลี่ยนเป็นภาษาอังกฤษได้
ภาษาอื่นก็ได้ จีน อินโดนีเซีย (สรุปเลือกได้ 4 ภาษา)
ถ้าให้แนะนำก็พวกนี้ที่เราอ่านอยู่ ชอบ Slack Wyrm, Adventures of God กับ My Name is Death มากมันฮาดี
ส่วนถ้าบางชอบดูหน้าจอคอมหรือโทรศัพท์ก็แนะนำให้จดศัพท์ลง Google Sheets ไปเลย
เพราะมันดีอย่างที่ว่า ไม่หาย ไม่เปื่อย ไม่ฉีกขาดได้เหมือนสมุด และบัญชีเชื่อมกับ Gmail ของ Google สามารถดูได้บนทุกอุปกรณ์ที่เราลงชื่อเข้าใช้ไว้ได้ 24 ชม. ที่ให้ใช้ Google Sheets เพราะเห็นว่ามันสะดวกจริงๆ เวลาจะเปิดดู
ยกตัวอย่าง...
เห็นไหมว่าเราแค่หาคำที่ต้องการได้โดยแค่กด Ctrl + F มันก็จะไฮไลท์คำหรือตัวอักษรที่เราพิมพ์ใส่ช่องค้นหาที่มุมขวาบน
ถึงคำนั้นๆ จะอยู่ท้ายหรือล่างสุดข้อง sheet เราก็ไม่ต้องกลัวว่าจะต้องหาตาลายเหมือนในสมุด ไม่จำเป็นต้องเอาไม้บรรทัดมาทาบเวลาดูตารางด้วย555
ลิ้ง: Google Sheets
https://play.google.com/store/apps/details?id=com.google.android.apps.docs.editors.sheets&hl=en
อ้างอิงจากกระทู้: https://ppantip.com/topic/31927561
ขอบคุณมากๆ นะคะ
แนะนำเสริมไปอีกอย่างว่า...
ถ้าใครชอบอ่านบทความละขี้เกียจก๊อปวางๆ ใน Google Translate หรือวางในพจนานุกรมอื่นๆ ละก็ให้ลองใช้...
Google Dictionary
คนละตัวกับ Google Translate นะ อย่าเข้าใจผิด เพราะมันคือ ส่วนขยาย (หรือเรียกอีกอย่างว่า extension) บน Google Chrome
ลิ้ง: https://chrome.google.com/webstore/detail/google-dictionary-by-goog/mgijmajocgfcbeboacabfgobmjgjcoja
คือถ้ามันง่ายและสะดวกมากจริงๆ แค่คลิ๊กบนคำมันก็แสดงความหมาย/คำแปลให้เราเลย ทีเด็ดอยู่ตรงที่สามารถกดฟังเลยได้ทันทีหลังจากคลิ๊กคำนั้นๆ กดรูปโทรโขงก็ได้ฟังเสียงละ (ภาษาอื่นก็ใช้ได้นะไม่ใช่แค้อังกฤษ)
อ้างอิงมาจากกระทู้นี้: https://ppantip.com/topic/32660847
ขอบคุณมากๆ เลยนะคะที่แบ่งปันของดีๆ ให้กัน
▪ 2. สังเกตศัพท์นั้นว่ามันผันไหม
ถ้าผันให้ดูรากศัพท์ว่ามันมาจากคำว่าอะไร เพราะมันจะมีกรณีที่ว่า ผันแล้วคำศัพท์ต่างกันอย่างสิ้นเชิงเลย ยกตัวอย่างภาษาอังกฤษศัพท์ที่คุ้นเคยกันดี go / went / gone จะเห็นได้ว่า เขียนไม่ได้ใกล้เคียงกันเลย ถ้าเราจำแต่ละคำแยกกันมันจะยากนะ ให้จำแบบ go คือรากศัพท์ แยกเป็น ช่อง 2 went และ แยกเป็นช่อง 3 gone จะง่ายกว่า
💡 แนะนำแอพไว้ฝึกพื้นฐานภาษาอังกฤษ
1⃣ English Tenses Practice
https://play.google.com/store/apps/details?id=vn.magik.englishgrammar
รวบรวมไว้ทั้ง 12 tenses ในภาษาอังกฤษและมีแบบทดสอบ
2⃣ English Phrases In Use
https://play.google.com/store/apps/details?id=p11.minh.english_phrases_in_use
รวบรวมวลีและประโยคพื้นฐานที่ใช้ในชีวิตประจำวัน มีหลากหลายหมวดหมูมาก ทั้งกล่าวคำขอโทษ การทักทาย ถามทาง ขอความช่วยเหลือ ฯลฯ
3⃣ Memrise
https://play.google.com/store/apps/details?id=com.memrise.android.memrisecompanion
เอาไว้ท่องศัพท์ภาษาอังกฤษ แต่ไม่มีแปลเป็นภาษาไทยนะ อังกฤษล้วนๆ
4⃣ Duolingo
https://www.duolingo.com/
เอาไว้ท่องศัพท์ภาษาอังกฤษเหมือนเว็บด้านบน มีหลากหลายภาษาให้เลือก
▪ 3. ดูตัวอย่างการใช้ประโยคจากบทความ หนังสือ เว็บไซต์ ฯลฯ
การที่เราสามารถจำคำศัพท์ได้เพียงอย่างเดียว มันจะมีประโยชน์อะไรถ้าเราไม่รู้วิธีใช้มัน ก็เหมือนจำสูตรคณิตศาสตร์ได้แต่ใช้ไม่เป็น5555 มันจะมีกรณีที่แบบ... ไม่รู้จักประยุกต์ใช้คำ ไม่รู้ว่าควรว่างตำแหน่งไหน ทำหน้าที่อะไรในประโยค?
เพราะอย่างนี้แล้วเราถึงต้องศึกษาหาตัวอย่างการใช้คำนั้นๆ ในประโยคต่างๆ ด้วย
💡 แนะนำเว็บไซต์ไว้ดูตัวอย่างประโยคภาษาอังกฤษ
1⃣ Fraze It: https://fraze.it/
มีให้แค่ตัวอย่างประโยค
2⃣ Longman: https://www.ldoceonline.com/ (มีแอพให้โหลดบนใช้โทรศัทพ์และเว็บไซต์บนคอม)
มีความหมายให้ มีตัวอย่างประโยค กดฟังการออกเสียงคำได้
3⃣ Cambridge Dictionary: (มีแอพให้โหลดบนใช้โทรศัทพ์และเว็บไซต์บนคอม)
https://dictionary.cambridge.org/
มีความหมายให้ มีตัวอย่างประโยค กดฟังการออกเสียงคำได้
4⃣ Merriam-Webster: (มีแอพให้โหลดบนใช้โทรศัทพ์และเว็บไซต์บนคอม)
http://www.learnersdictionary.com/search/
มีความหมายให้ มีตัวอย่างประโยค กดฟังการออกเสียงคำได้
5⃣ Oxford Learner's Dictionaries: (มีแอพให้โหลดบนใช้โทรศัทพ์และเว็บไซต์บนคอม)
https://www.oxfordlearnersdictionaries.com/
มีความหมายให้ มีตัวอย่างประโยค กดฟังการออกเสียงคำได้
6⃣ Speechnotes:
https://speechnotes.co/
เป็นเว็บม้ามืดที่ไม่ค่อยมีคนรูปจักเท่าไร แต่ใช้ดีมากๆ สามารถพูดใส่ไมค์แล้วมันจะแปลงเป็นตัวอักษรให้เรา ใช้ทดสอบตัวเราว่าออกเสียงคำนั่นชัดมากแค่ไหน ยิ่งชัดยิ่งถูกต้องตามเจ้าของภาษามันก็แปลงให้เราถูกคำ หรือกรณีที่เราดูคลิป ดูหนัง ดูข่าวแล้วมันไม่มีซับให้เรา เราก็เปิดอัดเสียงในคอมละก็เข้าไปเปิดไมค์ในเว็บนี้ มันจะแปลงเสียงเป็นตัวอักษรให้เราทันที แต่ถ้าในคลิปนั้นๆ มีเสียงรบกวนมากเกินไป มันก็จะแปลงให้เราเพี้ยนๆ หน่อย ผิดคำบาง แต่ยืนยันเลยว่าแปลงได้ดีมากและใช้ได้หลายภาษา สามารถโหลดเก็บไว้เป็นไฟล์ .doc หรือ .txt ได้
7⃣ Line Dictionary: เหมาะและสะดวกกับคนไทยสุดๆ (มีแอพให้โหลดบนใช้โทรศัทพ์และเว็บไซต์บนคอม)
http://english-thai.linedict.com/#/enth/home
มีตัวอย่างประโยค มีตัวอย่างการออกเสียง สามารถบันทึกคำไว้ได้ และมีส่วนที่ช่วยทดสอบความจำเรา คือส่วน Words up มีเรียงคำให้เป็นประโยค เติมคำในช่องว่าง เลือกความหมายที่ถูกต้องของคำ และยังมีตัวอย่างการสนทนาประจำวัน กับสุภาษิตและคำคมให้ด้วย แอพครอบคลุมจักรวาลจริงๆ มีแทบทุกอย่าง555
▪ 4. ฝึกเขียนบ่อยๆ ถ้าเริ่มจำคำต่างๆ ได้แล้วก็ฝึกสร้างปรโยคเอง
ตามที่บอกไปในข้อ 1. ว่าหนื่งให้แยกสมุดที่คัดคำศัพท์ล้วนๆ กับสองสมุดที่จดคำศัพท์คู่กับความหมาย บางคนอาจจะร่วมตัวอย่างประโยคและการสร้างประโยคเองกับสมุดแบบที่สองไเลย หรือจะขยันแยกมาเป็นเล่มที่สามไปเลยก็ดีเนื้อหามันจะได้แยกกันไปเลย ถ้าปนกันเยอะๆ เข้าอาจจะงงได้555
▪ 5. เมื่อสร้างประโยคโดยการเขียนเป็นแล้ว ก็ให้เริ่มหัดพูด อาจจะหัดพูดเป็นคำๆ ไปก่อน หรือจะลองวางประโยคนั้นๆ ใน
Google Translate แล้วออกเสียงตามก็ได้แล้วแต่ชอบ หรืออาจจะใช้เว็บที่กล่าวไว้ด้านบนที่ชื่อว่า Speechnotes มาดูตัวอย่างดีกว่าว่ามันดียังไง แต่ถ้าฟังดีๆ จะสังเกตได้ว่าท้ายคลิปจะมีเสียงคนแทรกเข้ามาแล้วมันไม่แปลงเสียงเป็นคำให้เรา จะมีข้อเสียแค่ตรงนี้ ถ้าพื้นหลังไม่มีเสียงรบกวนก็จะแปลงได้ดีมากๆ
ตามที่เห็นในคลิปวีดีโอ แสดงให้เห็นว่าเราสามารถใช้ Speechnotes แปลงจากคลิปเป็นตัวอักษรได้ ถือว่าสะดวกมากๆ เลยทีเดียว นอกจากนี้ยังใช้ให้มันอ่านออกเสียงให้เราฟังได้อีกด้วย โดยการกดรูปโทรโขงตรงมุมขวาล่าง
เดี๋ยวไว้ว่างๆ มาต่ออีก สร้างประโยคได้แล้ว พูดพอได้แล้ว ก็ถึงเวลาไปฝึกคุยกับชาวต่างชาติจริงๆ สักทีบาง อาจจะแนะนำแอพหรือเว็บเพิ่มเติมอีก มีในคลังอีกเยอะเลย
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ เนื้อหาอาจจะไม่ได้แปลกใหม่อะไรมาก แค่อยากมาแนะนำวิธีการของตัวเองบ้างนิดๆ หน่อยๆ หากมีอะไรผิดพลาดก็ขออภัยด้วยค่ะ