เห็นโดยความเป็นอมฤต โดยความเป็นธาตุ หรือเทียบนิมิต ?

เรื่องนี้ถามไปตามที่ควรจะให้ความเห็น เพราะเกิดเรื่องว่าพระสงฆ์โดยเฉพาะ ในรูปหรือองค์ที่มีคุณวิเศษ ที่เข้าจำกัดการเห็นด้วยนิมิต คือท่านไม่แสดงเทศนาญาณด้วยความเป็นธาตุหรืออมฤต เป็นต้น คือแสดงญาณรู้อันเป็นไปในความรู้ คือนิมิตเท่านั้น ยังมิได้จำกัดหรืออุปโลกน์สมมุติเพื่อบอกแก่การ แห่งธาตุและอมฤตธรรมในเรื่องนั้นๆ ของเรื่องนั้น, คืออมฤตแห่งภพนั้น ฉะนั้นเราจะไม่คุยไปถึงเรื่องละเอียดขนาดนั้นจนเกินครู กระเดี๋ยวเรื่องจะได้ดีจะกลับเป็นได้อุบาทว์เสียเปล่า จะมัวต้องตามใช้หนี้ชี้สินแล้วไม่ต้องได้เรียนกันอยู่ ถึงสิ่งที่จะมาปรากฏหรือธำรงอยู่ด้วยกันกับมาตราแห่งโลกด้วยเหตุไรบ้าง? เช่นอมตะที่เป็นชื่อของความตายที่ปรากฏในโลกนี้แล้ว เป็นต้น

เมื่อเล่าเรื่องที่ต้องตายแล้ว อมต คือ อมฤต เหมือนมีธาตุอยู่ แต่อมตไม่มี, เพราะพอว่ามีความตาย จึงไม่สู้ว่าความตายนั้นจะเป็นอมต เพราะยังไม่มีใครพ้น แต่ต้องได้เป็นอยู่ด้วยความเป็นธาตุ, เมื่อวานนี้เราพูดกันถึงการณ์และสิ่งที่ปรากฏโดยเสด็จของสมเด็จพระสังฆราช ให้ได้พูดถึงธรรมานุสรณ์ ประเภทแห่งอุเทสิกเจดีย์ ในอุปโลกนธรรม ด้วยนามที่ตั้งขึ้นอย่างหนึ่งว่า “ตรีวิสุทธิประชานาถ”, ซึ่งไม่ทันท่วงทีแล้ว ที่ในที่นี้จะคุยได้ เฉพาะข่าวนี้ก็ไม่เป็นล่าสุดแล้ว ผ่านมาหลายวัน เมื่อยกจะคุยก็คงจะไม่น่าสนใจนักที่ใครจะรู้ไปด้วย, เรื่องนี้ ให้เชื่อว่าเป็นอิริยาบถแห่งพุทธวิชัยประดิษฐ์ ในรูปปางมารวิชัยอย่างหนึ่ง เห็นว่าจะเป็นท่วงทีในท่าขัดสมาธิราบ วางพระหัตถ์ซ้ายหงายฝ่าพระหัตถ์ไว้บนพระเพลา วางพระหัตถ์ขวาทาบตรงองค์พระชานุค่อนพระองค์มาทางพระชงฆ์,

จะให้ได้พูดถึงรูปอมฤต หรือธาตุอมต นั้น จะได้พูดอย่างการประติมาณวิทยา จะไม่พูดว่าพุทธะอันนั้น พุทธะอันนี้ เพราะไม่ชอบด้วยศัพท์ พอแค่พระพุทธพจน์เท่านั้นจะเป็นที่หมายคิดให้ตนได้เรียน ซึ่งควรจะพูดไว้เป็นอย่างของแบบอักษรไทย และภาษาไทย, และจะใคร่ให้ไพล่คำเป็นคำพูดล้อเล่นนั้นไม่ได้ จะหัวอ่านหัวใคร่ที่มีความเพี้ยนทางความหมายไปแล้วมาไม่ได้ แต่เราจะเรียนกันไปในฝ่ายของจักร์ ที่ว่า จักรคืออิริยาบท, และอย่าเพิ่งให้ปัญหาเล็กๆน้อยๆของการโยงศัพท์ไปผิดของนักเล่นหัวอันนั้น ได้เข้ามาแทรก, จงให้อภัยทานไปซะทีเถิด แล้วใจก็ควรจะผ่องใสไว้ เมื่อนั้นจึงจะได้เข้าร่ำเรียนเขียนบอกในทางถูกวิธีกันต่อไป

กล่าวโดยความเป็นอมฤต เป็นธาตุ หรือให้เทียบนิมิต ได้เทียบเข้าทางตำราอย่างพระสูตรจะให้กล่าวนั้น ยังไม่ถึงที่จะกระทำ เพราะว่าคุยถึง “ตรีวิสุทธิประชานาถ” ในอย่างใหม่ในโลกปัจจุบันของเรา ว่าอิริยาบถจักร คือจักรแห่งมารวิชัยมีมาแล้ว เป็นอุทกฤทธีปราบยุทธ ตัวธาตุอมฤตนั้นได้แก่ธาตุน้ำ กระทำสมุทรโคจรแล้วพิฆาตอริร้ายที่เป็นสิ่งรบกวนนั้นให้สิ้นลงไป พอแก่การณ์ปฐพีตามองค์ พระพุทธะจะยังทรง ยังพิภพโคจรธำรงไว้อยู่

ในความที่ต้องบำเพ็ญทานมาด้วยอัตภาพท้ายสุด ที่ทรงวิชัยประดิษฐ์นิทานนั่นแล้ว ว่าด้วยพระเวสันดร แรมรานรอนวิริยธรรมกรรมบทพากย์ ดำริธรรมานุสรณ์เป็นสิ่งพ้น เป็นที่พึ่ง, เรื่องนี้ต่อมาถึงให้ได้ที่ตรัสรู้ อาจาระโคจรเหล่านี้ ประดานี้ ข้าพเจ้าจะเล่าถึงมารวิชัยที่ตกสมุทรโคจรตามแต่ที่จะให้คนรู้ด้วย, เพราะพระพุทธเจ้าของเรานั้นทรงองค์ ผินพระพักตร์ไปข้างทิศตะวันออก ย่อมจะได้มีหมายให้ต้องกำหนดรู้อยู่  อันจะให้ได้ทราบ ได้ทำ ซึ่งบทกรรมนิยาม จิตนิยาม และธรรมนิยาม ให้รู้ต่อไป
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่