เกือบหนึ่งปีแล้วครับ  ที่ผมเลิกวุ่นวายกับสลิ่มชน  เพราะเบื่อ
ฟัดกันสลิ่มชนมาเจ็ดแปดปี  เหมือนตักน้ำราดหัวตอ   หล่อแค่ไหนก็เบื่อครับ  

เลยเลิกวุ่นวายกับสลิ่มชน

แต่พอเห็นกระทู้นี้  https://ppantip.com/topic/37541604   ที่มียอดแชร์กว่าพัน
เลยต้องหันกลับมาวุ่นวายกับสลิ่มชนสักนิด   เพราะดูแล้ว สลิ่มชนไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย
นอกจากเห็นว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับตระกูลชินวัตร  ก็เฮ ๆ กันแชร์สนั่นไปเท่านั้นเอง



สลิ่มชนครับ   อ่านให้ดี ๆ นะครับ   ไม่ต้องกลัวเงิบ

เรื่องบ้านพักป่าแหว่งนี่  เป็นเรื่องของ ฝ่ายตุลาการล้วน ๆ ครับ
รัฐบาลไม่เกี่ยว  รัฐมนตรีไม่เกี่ยว  กระทรวงยุติธรรมไม่เกี่ยว

เป็นเรื่องของฝ่ายตุลาการล้วน ๆ  ภายในการกำกับดูแลของประธานศาลฎีกา


คือยังงี้ครับ

ตามระบบเดิม  ศาลยุติธรรมเป็นหน่วยงานภายใต้กระทรวงยุติธรรม
แต่กระทรวงยุติธรรม  ไม่ว่าปลัดกระทรวง  รมว.กระทรวง  ไม่มีอำนาจในการบริหารศาลยุติธรรมครับ

อำนาจในการบริหารศาลยุติธรรมเป็นของคณะกรรมการตุลาการ (ก.ต.)

ก.ต. มีอำนาจหน้าที่บริหารจัดการทั้งหมด  ให้คุณให้โทษข้าราชการตุลาการ
กระทรวงมีแค่หน้าที่สนับสนุนด้านธุรการเท่านั้น   ปลัด  รมว. ไม่มีอำนาจเข้าไปยุ่มย่ามอะไรได้


ปี 2543   ตามบทบัญญัติของ รธน.40  ให้ศาลยุติธรรมแยกออกจากกระทรวงยุติธรรม
จัดตั้งสำนักงานศาลยุติธรรมขึ้นมาทำหน้าที่ด้านธุรการแทนกระทรวงยุติธรรม  เป็นหน่วยงานอิสระ มีฐานะเป็นนิติบุคคล
และมีเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรมเป็นผู้บังคับบัญชา ขึ้นตรงต่อประธานศาลฎีกา

ประธานศาลฎีกามีอำนาจหน้าที่เช่นเดียวกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม

อำนาจหน้าที่บริหารจัดการ ให้คุณให้โทษ  ยังเป็นของ ก.ต. อย่างเดิม



ทีนี้  การสร้างบ้านพักป่าแหว่ง นี่
เป็นเรื่องของสำนักงานศาลยุติธรรมครับ  โดยเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรมเป็นผู้กำกับดูแล  ภายใต้ประธานศาลฎีกา

จากสำนักงานศาลยุติธรรม  ก็ต่อไปยังกระทรวงยุติธรรม  ต่อไปยัง ครม.  ไปยังสำนักงบประมาณ
เพื่อขอสนับสนุนงบประมาณ

ครม. และ กระทรวงยุติธรรม  ไม่ว่าก่อนศาลยุติธรรม หรือหลังศาลยุติธรรมจะแยกตัวออกไป
ไม่รู้หรอกครับว่าที่ดินเป็นอย่างไร  อยู่ในป่า บนเขา ริมทะเล  หรือยังไงไม่รู้หรอกครับ

รู้เพียงว่า  เป็นที่ราชพัสดุ   หากกรมธนารักษ์เจ้าของที่ดินอนุญาตให้ใช้  ก็ได้ใช้   ไม่อนุญาตก็อด
เท่านั้นเอง

ยิ่งเมื่อก่อตั้งสำนักงานศาลยุติธรรม  ซึ่งมีฐานะเป็นนิติบุคคล  เป็นหน่วยงานอิสระขึ้นตรงต่อประธานศาลฎีกา
ครม. และกระทรวงยุติธรรม  ยิ่งไม่มีสิทธิเข้าไปก้าวก่ายใด ๆ เลย

เมื่อ ครม. และ กระทรวงยุติธรรม  เห็นสำนักงานศาลยุติธรรมทำเรื่องขอมาตามขั้นตอน
ก็แค่พิจารณาว่าเป็นไปตามกฎหมายหรือไม่เท่านั้น  หากไม่ขัดกฎหมาย  ทำได้อย่างเดียว  คือสนับสนุนอนุมัติให้ตามขอ



ประเด็นคือ   ผู้ขอ  ผู้ดำเนินการประกวดราคาก่อสร้าง   ย่อมรู้ว่าที่ราชพัสดุตรงนั้นเป็นอย่างไร
เหมาะสมไหมที่จะก่อสร้างบ้านพักข้าราชการตุลาการ  ซึ่งเป็นข้าราชการที่มีภาพลักษณ์สมถะ มักน้อย สันโดษ
  
ไม่ใช่หาพื้นที่ที่เป็นเหมือนรีสอร์ท  เหมือนไม่ใช่บ้านพัก  แต่คือบ้านตากอากาศพักผ่อน
หรือหากเป็นบ้านพัก  ก็เป็นบ้านพักแบบไม่เหมาะแก่ฐานานุรูปของคนเป็นตุลาการ

ตรงนี้  สำนักงานศาลยุติธรรมควรเป็นผู้ดูแล  พิจารณาถึงความเหมาะสม
ไม่ใช่ ครม.  ไม่ใช่กระทรวงยุติธรรม

การดึงเรื่องโยงเพื่อ "เน้น" ว่าพวกชินวัตรเป็นผู้อนุมัติให้ก่อสร้างจึงคือเรื่อง "การเมือง" ล้วน ๆ




จะเห็นว่า  หลังมีปัญหา   รัฐบาลลุงตู่ก็ไม่ได้ยุ่งครับ  ยุ่งไม่ได้  (แต่ คสช. ยุ่งได้)
เป็นเรื่องของสำนักงานศาลยุติธรรมที่จะบริหารจัดการ  พูดคุย เจรจาหาทางออก



แล้วทำไมจึงมีปัญหาในตอนนี้  ทั้งที่สร้างจวนจะเสร็จแล้ว
ก็อาจเพิ่งเป็นข่าว  เพิ่งรู้กัน  การเมืองเรื่องถล่มลุงตู่  หรือจะเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์อื่นใดไม่ทราบได้

แต่ที่แน่ ๆ
ผมเห็นว่าไม่เหมาะสมครับ  ที่บ้านพักข้าราชการ  ไม่ว่าจะหน่วยงานใดไปสร้างอยู่ในพื้นที่แบบนั้น
แม้ว่าพื้นที่จะถูกต้องตามกฎหมายก็ตาม

สำนักงานศาลยุติธรรมครับที่ต้องรับผิดชอบเต็ม ๆ




เมื่อยนิ้ว
จบ



[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ข้อมูลเพิ่มเติม   https://www.coj.go.th/home/aboutjudicial.html