🏘🏠~มาลาริน~ติดตามตัวละครปมบ้านพักศาลเชิงดอยสุเทพ.. กระชาก"ไอ้โม่งเซ็นสร้างบ้านพักศาลฯ อ้าว..คนกันเองทั้งนั้นที่เซ็น?

กระทู้คำถาม


ศาลยุติธรรม ออกมาชี้แจงถึงสองครั้งสองคราวแต่ยังมีคนต้าน เพราะเหตุใด มีเบื้องหน้าเบื้องหลังหรือไม่


เพื่อให้เข้าใจในเรื่องนี้ ตั้งแต่ต้น ก็ต้องไล่เลียงที่มาของโครงการนี้ ทั้งจากฝ่ายต้าน และฝ่ายศาล ซึ่งจะพบว่า มีตัวละคร สอดแทรกในแต่ละห้วงเวลา ส่วนจะเป็นใครกันบ้าง ไปดูกันที่ละขั้น ทีละตอน


เริ่มที่ ขั้นตอนที่ 1.การหาที่ดิน ก่อนรธน.2540 บังคับใช้ ศาล สังกัดอยู่กับกระทรวงยุติธรรม แยกการบริหารคือ ประธานศาลฎีกา กับรมว.ยุติธรรม


โดยที่ กระทรวงยุติธรรม มีหน้าที่ทางธุรการ รวมถึงการจัดสร้างอาคารต่างๆ ของศาลยุติธรรม ด้วย


ช่วงเวลาที่ 2.ช่วงขอใช้ที่ดิน มีดังนี้


-25 ก.ค.2540 กระทรวงยุติธรรม ขอใช้พื้นที่ 106 ไร่ หลังหน่วยกองพันทหารปืนใหญ่ ที่ 7 แต่กองทัพภาคที่ 3 ปฏิเสธ


-2543 (รัฐบาล ชวน หลีกภัย) กระทรวงยุติธรรม ตอนนั้นปลัดกระทรวง ชื่อ สมชาย วงศ์สวัสดิ์ (11 พ.ย.2542-8 มี.ค.2549) ขอใช้ที่ดินของกรมธนารักษ์ สร้างที่พักศาลอุทธรณ์ ภาค 5

-20 ส.ค.2543 ศาล แยกจากกระทรวงยุติธรรม (เป็นไปตาม รธน.2540) จัดตั้งสำนักงานศาลยุติธรรม ทำหน้าที่ธุรการศาล


-2547 (รัฐบาล ทักษิณ ชินวัตร) สำนักงานอธิบดีผู้พิพากษา ภาค 5 ขอใช้พื้นที่ 143 ไร่ 3 งาน 41 ตารางวา โดยที่ พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร ผบ.ทบ.ในเวลานั้นเป็นผู้ "อนุญาต"


-2556 (รัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร) ศาลอุทธรณ์ภาค 5 ได้รับงบประมาณ 1,000 ล้านบาท เริ่มเปิดพื้นที่ก่อสร้างที่ทำการศาลอุทธรณ์ภาค 5 บ้านพัก และอาคารชุด สำหรับข้าราชการตุลาการ


มาถึงช่วงเวลาที่ 3.เปิดการประมูล เอกชนทำสัญญา และเป็น บริษัท พี.เอ็น.เอส.ไซน์ จำกัด เป็นคู่สัญญา 4 สัญญา รวมวงเงิน 734,825,000 บาทมี น.ส.รัชนก ภูอิทธิวงศ์, น.ส.วรางคณา ภูอิทธิวงศ์ เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ


สำหรับ "ภูอิทธิวงศ์" เป็นนามสกุลเดียวกับ ณรงค์ ภูอิทธิวงศ์ อดีตส.ส.เชียงใหม่ พรรคชาติไทยพัฒนา

http://www.nationtv.tv/main/content/378615594/

อ้าว..คนกันเองทั้งนั้นที่เซ็น?! กระชาก"ไอ้โม่งเซ็นสร้างบ้านพักศาลฯ" เจ้าปัญหา ที่แท้ล้วน"เครือข่ายนายใหญ่แห่งสันกำแพง" ทั้งนั้นที่เอี่ยว



คนเชียงใหม่กันเองทั้งนั้นที่เซ็นอนุมัติ?! "เปรี้ยง" เพจดังที่เกาะติดการเมืองเสื้อแดง และองคาพยพของระบอบทักษิณมานาน ได้ออกมาเปิดไทม์ไลน์ "ไอ้โม่ง" ที่เซ็นให้สร้างบ้านพักศาลภาค 5 เชิงดอยสุเทพที่กำลังมีปัญหาถูกต่อต้านอย่างหนักของคนในพื้นที่ กระทั่งรุนแรงถึงขนาดฝ่ายต้านนั้นยืนกรานให้ "รื้อ" สถานเดียวเท่านั้น ทั้งที่โครงการดำเนินไปแล้วกว่า 90 % ใช้เงินไปแล้วนับ 1,000 ล้านบาท



ความคลุมเครือของข้อมูล บวกกับระยะเวลาที่ทอดยาวมานานของต้นเรื่องที่อนุมัติไว้ ทำให้หลายฝ่ายโดยเฉพาะ "ชาวแดง" ที่จ้องจะโจมตีอยู่แล้ว ต่างโหมกระพือเรื่องนี้ และด่ากราดไปที่รัฐบาล คสช. ว่าเป็นผู้สั่งการ...กระทำชำเราผืนป่าเชิงดอยสุเทพทั้งหมด

เมื่อเรื่องทำท่าจะบานปลายกันใหญ่  เพจดังที่เกาะติดการเมืองเสื้อแดง และองคาพยพของระบอบทักษิณมานานอย่าง "เปรี้ยง" จึงออกมากระชากหน้ากาก "ไอ้โม่ง" ที่เซ็นให้สร้างบ้านพักเจ้าปัญหาให้สังคมได้รู้ดำรู้แดงกันไปเลย

แล้วเรื่องก็ไม่ได้ผิดคาดไปสักนิด เพราะผู้อนุมัติโครงการล้วนอยู่ในวังวน "เครือข่ายนายใหญ่แห่งสันกำแพง" ทั้งนั้น โดยเริ่มจากปี 2547 กองทัพบกยุค พล.อ.ชัยสิทธิ์ ชินวัตร  เป็น ผบ.ทบ. อนุมัติให้สำนักอธิบดีผู้พิพากษาภาค 5 ใช้พื้นที่กองทัพบกที่ทำเรื่องส่งคืนให้กรมธนารักษ์ 143 ไร่ใช้ที่ดินดังกล่าวตามที่ร้องขอ เพราะในปี 2548 สำนักอธิบดีผู้พิพากษาภาค 5 จะย้ายที่ทำการจากกรุงเทพฯ ไปอยู่ที่เชียงใหม่ จากนั้นช่วงระยะเวลากว่า 2 -3  ปี (จากปี 2547 ถึง 2549 ซึ่งอยู่ในยุครัฐบาลทักษิร 2) ที่ส่วนราชการผู้เกี่ยวข้องรวมทั้งผู้ว่าราชการเชียงใหม่ได้พิจารณาเห็นชอบให้สำนักงานศาลยุติธรรม ใช้พื้นที่ก่อสร้างที่ทำการศาลอุทธรณ์ภาค 5 บ้านพัก และอาคารชุดสำหรับข้าราชการตุลาการเจ้าปัญหาดังกล่าว




ต่อมาในปี 2556 อันเป็นยุครัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ นอมินีของพี่ชายศาลอุทธรณ์ภาค 5 ได้รับงบประมาณก่อสร้างโครงการนี้ 1 พันล้านบาท จึงเริ่มเปิดพื้นที่ ดำเนินการก่อสร้างที่ทำการศาลอุทธรณ์ภาค 5 รวมทั้งบ้านพักอันก่อให้เกิดกระแสต้านอย่างรุนแรงอยู่ด้วย

แต่ด้วยติดขัดทางด้านวิศวกรการก่อสร้าง ที่ต้องเจาะแนวภูเขา กำหนดการก่อสร้างจึงล่าช้าไปอีกกว่า 2 ปี และมาใกล้แล้วเสร็จในยุค คสช. จนทำให้ผู้จ้องตีรัฐบาล คสช. หยิบไปเป็นประเด็น กระทั่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องออกมาระบุว่า แม้ คสช. จะไม่ได้เป็นผู้อนุมัติโครงการนี้ แต่จะต้องเป็นผู้เร่งหาทางออกเรื่องนี้ โดยจะมีการหารือระหว่างศาลและฝ่ายกฎหมาย คสช. เพื่อหาทางออก และจะต้องปรับพื้นที่ให้กลับคืนสู่สภาพเดิมให้ได้


ว่าไปแล้ว ไทม์ไลน์ของ "เปรี้ยง" สอดคล้องกับสิ่งที่ "สุทิน วรรณบวร" อดีตนักข่าวชื่อดัง และเป็นแนวร่วมกลุ่ม กปปส. พูดไว้เป็นอย่างมาก โดยสุทินออกมาโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กถึงกรณีดังกล่าวแบบแฉให้เห็นเลยว่า...ใครอนุมัติ...และใครก่อหวดต้าน ดังรายละเอียดที่โพสต์ คือ  

“ตอนเริ่มโครงการสำรวจพื้นที่ เริ่มหักร้างถางพงทำไมไม่รณรงค์คัดค้านแต่ตอนนั้น โครงสร้างไป ๙๐ เปอร์เซ็นต์แล้ว ใช้เงินงบประมาณไปแล้วเป็นพันล้าน อนุมัติในรัฐยิ่งลักษณ์ที่พวกท่านชื่นชมแทบจะฉีก..ดม ท่านมานึกรณรงค์เอาเป็นเอาตายตอนนี้ ถ้าไปทุบอาคารซิเมนต์พวกนั้นทั้งหมดแล้วต้นไม้จะงออกเขียวชะอุ่มขึ้นมาทันที่หรือ สู้ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องรับผิดชอบปลูกตามแบบแผนที่เตรียมให้เป็นป่าเขียนชะอุ่มไม่ดีกว่าหรือท่าน”


นอกจากนี้ ล่าสุดสุทิน ยังย้ำเรื่องนี้อีกครั้งว่า “ที่ติดใจคือทำไมคัดค้านเอาเป็นเอาตายตอนสร้างใกล้เสร็จแล้วทำไมก่อนหน้านี้ไม่คัดค้าน ที่คัดค้านเพื่อต้องการตีวัวกระทบคราดใคร” (ความจริงเรื่องนี้มีผู้อธิบายถึงที่มาที่ไปโครงการอยู่หลายคน ซึ่งข้อมูลล้วนแต่ตรงกันว่า การอนุมัติล้วนอยู่ในวังวน "เครือข่ายนายใหญ่แห่งสันกำแพง" ทั้งสิ้น เพราะช่วงนั้นเป็นยุครัฐบาลทักษิณ หรือไม่ก็รัฐบาลนอมินีทักษิณ รวมทั้งยิ่งลักษณ์ แต่กระแสที่กลุ่มต้าน คสช.สร้างขึ้นกลับกลบข้อเท็จจริงนี้เสียสิ้น และต่อให้มีบางคนที่ต้านด้วยความบริสุทธิ์ใจ เพราะเห็นแก่ทรัพยากรธรรมชาติที่ถูกทำลาย แต่การถูกลากจูงให้กดดันไปที่ คสช. กลับกลายทำให้คนเหล่านั้นเป็นแนวร่วมมุมกลับของคนบางกลุ่มที่หวังผลทางการเมืองไปโดยปริยาย และทำให้ต้องตั้งคำถามเช่นเดียวกับที่ "สุทิน" ตั้งว่า หรือที่ค้านเพราะต้องการตีวัวกระทบคราดใคร-ผู้เขียน)


http://m.tnews.co.th/contents/437081

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่