
สวัสดีครับ
สมาชิกห้องเพลงทุกๆท่าน วันนี้วันจันทร์
MC แอ๊ด (WANG JIE หรือ ชื่อดั้งเดิม "พฤษภเสารี" สมาชิกเก่าห้อง รดน.ช่วงปี 2546-2550) ประจำการอีก 1 วันครับ ^^
ตอนนี้มีข่าวด่วนตั้งแต่เมื่อวาน คือ สถานีอวกาศของจีนซึ่งมีชื่อว่า "เทียนกง" (天宫) กำลังตกลงมาจากอวกาศ และหมุนวนรอบโลกอยู่ด้วยความเร็วสูงมาก จะร่วงลงที่ไหนยังไม่แน่ วันนี้จึงนำเรื่องสถานีอวกาศแห่งนี้มาฝากครับ
เทียนกง-1 (
天宫一号 ออกเสียงว่า "เทียนกง อีเฮ่า" แปลตามตัวอักษรว่า
วิมานลอยฟ้า 1 หรือ
ปราสาทลอยฟ้า 1) เป็นสถานีอวกาศแห่งแรกของจีน โดยตั้งใจจะใช้เป็นสถานที่ทดสอบพัฒนาขีดความสามารถการนัดพบและการเทียบท่าซึ่งจำเป็นสำหรับการสนับสนุนศูนย์อวกาศที่ใหญ่ขึ้น การปล่อยเทียนกง-1 ไปกับจรวดลองมาร์ช 2เอฟ/จี มีขึ้นเมื่อวันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2554 เป็นส่วนหนึ่งของโครงการสถานีอวกาศเทียนกง หรือที่รู้จักกันในชื่อโครงการ 921-2 ซึ่งมีเป้าหมายที่จะส่งสถานีอวกาศมีคนอยู่อาศัยขนาดเต็มกึ่งถาวรขึ้นสู่วงโคจรภายใน พ.ศ. 2563
ตามข้อมูลขององค์การบริหารอวกาศแห่งชาติจีน (CNSA) เทียนกง-1 เป็น "โมดุลห้องปฏิบัติการอวกาศ" หนัก 8.5 เมตริกตัน และสามารถเทียบกับอวกาศยานมีคนบังคับและอัตโนมัติได้ อวกาศยานเสินโจว 8, เสินโจว 9 และเสินโจว 10 คาดว่าจะเทียบกับเทียนกง 1 ระหว่างช่วงที่ยังปฏิบัติการได้อีก 2 ปีข้างหน้า
เมื่อวันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2551 จาง เจียนชี (张建启) รองผู้อำนวยการสำนักงานวิศวกรรมอวกาศมีคนบังคับของจีน (CMSEO) ประกาศในระหว่างการให้สัมภาษณ์แก่สถานีโทรทัศน์กลางของจีน (CCTV) ว่า เทียนกง-1 จะถูกปล่อยขึ้นสู่อวกาศใน พ.ศ. 2553 หรือ 2554 ภายหลังสำนักข่าวซินหัว แถลงว่า สถานีอวกาศไร้คนบังคับจะถูกปล่อยในปลาย พ.ศ. 2553 และประกาศว่า การปรับปรุงซ่อมแซมอุปกรณ์ภาคพื้นดินกำลังอยู่ในระหว่างดำเนินการ
ใน พ.ศ. 2551 เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ CMSEO โพสต์รายละเอียดคร่าว ๆ ของเทียนกง-1 ร่วมกับเทียนกง 2 และเทียนกง 3 ซึ่งเป็นห้องปฏิบัติการอวกาศอีกสองแห่งซึ่งมีแผนจะปล่อยขึ้นสู่อวกาศหลังเทียนกง-1 แบบจำลองของสถานีอวกาศถูกเปิดเผยในรายการโทรทัศน์เฉลิมฉลองตรุษจีน ทาง CCTV เมื่อวันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2552
เทียนกง-1 ประกอบด้วยอุปกรณ์ออกกำลังกายและสถานีนอนสองแห่ง กำแพงภายในโมดุลมีการแตกแต่งสีสองสี สีหนึ่งแทนพื้นดิน และอีกสีหนึ่งแทนท้องฟ้า ซึ่งตั้งใจจะช่วยให้นักบินอวกาศกำหนดทิศทางได้ถูกในสภาวะไร้น้ำหนัก
จนถึงกลาง พ.ศ. 2554 การก่อสร้างโมกุลเทียนกงเสร็จสิ้นแล้ว และกำลังมีการทดสอบคุณสมบัติด้านอิเล็กทรอนิกส์ กลไกและความร้อน นอกจากนี้ยังมีการทดสอบจรวดขนส่งลองมาร์ช 2 เอฟ ซึ่งเป็นตัวส่งเทียนกง-1 ขึ้นสู่อวกาศ นักบินอวกาศจีน ซึ่งเป็นหญิงสองคน กำลังอยู่ในระหว่างการฝึกภารกิจมีคนควบคุมไปยังสถานีอวกาศ
เทียนกง-1 เดิมมีกำหนดปล่อยขึ้นสู่อวกาศในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2554 และถูกส่งไปยังศูนย์ส่งดาวเทียมจิ่วเฉฺวียน เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม และผ่านการทดสอบส่งเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม อย่างไรก็ดี หลังการปล่อยจรวดลองมาร์ช 2 ซี ล้มเหลวในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2554 ทำให้การปล่อยสถานีอวกาศดังกล่าวต้องเลื่อนออกไป หลังการสืบสวนสาเหตุความล้มเหลวของการปล่อยครั้งนั้น ได้มีการกำหนดใหม่ให้ปล่อยเทียนกง-1 ในปลายเดือนกันยายน พ.ศ. 2554 ส่วนหนึ่งเพื่อให้เกิดพร้อมกับวันชาติจีน ซึ่งตรงกับวันที่ 1 ตุลาคม
เมื่อวันที่ 20 กันยายน พาหนะอวกาศถูกนำออกไปประจำฐานปล่อยที่ 1 แห่งจุดปล่อยใต้ที่จิ่วเฉฺวียน ในการเตรียมความพยายามปล่อยอีกครั้ง การปล่อยมีขึ้นเมื่อเวลา 13:16 UTC ของวันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2554 ประสบความสำเร็จด้วยดี และนำเทียนกง-1 ขึ้นสู่วงโคจรระดับต่ำของโลก โทรทัศน์จีนแพร่ภาพการปล่อยคลอไปกับเพลงทำนองปลุกใจรักชาติของสหรัฐ America the Beautiful ซึ่งเหตุผลที่เลือกเพลงดังกล่าวนั้นไม่มีคำอธิบายออกมา
ปีพ.ศ. 2554 สถานีอวกาศเทียนกง 1 ได้ทำให้จีนกลายเป็นชาติที่ 3 ในโลกที่มีสถานีอวกาศเป็นของตัวเองแต่เพียงผู้เดียว (ต่อจากสองมหาอำนาจอย่างสหรัฐและรัสเซีย) โดยมีเป้าหมายเพื่อเป็นการทดลองและเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ที่จำเป็นสำหรับการก่อสร้างสถานีอวกาศที่มีขนาดใหญ่กว่านี้ แต่ต่อมา สำนักงานวิศวกรรมอวกาศจีนยืนยันว่า พวกเขาสูญเสียการควบคุม “พระราชวังบนสวรรค์” ลำนี้มาเป็นเวลา 1 ปีเต็มแล้ว และผู้เชี่ยวชาญต่างคาดการณ์ว่ามันจะตกลงมาสู่ชั้นบรรยากาศโลกในช่วงสิ้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
แล้วก็เลยมาจนถึง 1 เมษายนจึงเริ่มตกลงมา
สถานีอวกาศเทียนกง 1 เป็นแล็บอวกาศขนาดกระทัดรัด น้ำหนักของมันนั้นอยู่ที่ประมาณ 8 ตัน อายุการใช้งานของมันนั้นถูกกำหนดไว้เพียงแค่ 2 ปีเท่านั้น และตลอดระยะเวลานั้นมันถูกใช้ในการทดสอบการเชื่อมต่อกับยานอวกาศเซินโจว (ยานเซินโจวนั้นมีความคล้ายคลึงกับยานโซยูสของรัสเซีย) และได้ทำการต้อนรับนักบินอวกาศชาวจีนมาแล้วทั้งสิ้น 6 คนด้วยกัน ซึ่งมีนักบินอวกาศหญิงรวมอยู่ในนั้นถึง 2 คนเลยทีเดียว และบนสถานีอวกาศเดียวกันนี้ก็ยังมีการทำการทดลองฟิสิกส์ในอวกาศและถ่ายทอดสดสัญญาณไปยังห้องเรียนทั่วประเทศในจีนอีกด้วย
สำนักงานวิศวกรรมอวกาศจีนเคยออกแถลงการ์ณในปี พ.ศ. 2557 ว่าการทดลองของเทียนกง 1 นั้นประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ข้อมูลที่ได้มาทำให้จีนสามารถใช้ประโยชน์ได้เป็นจำนวนมากในด้านต่าง ๆ ซึ่งรวมไปถึงการพัฒนาสถานีอวกาศรุ่นถัดไปอีกด้วย ทำให้หลังจากที่ลูกเรือกลุ่มสุดท้ายก้าวออกจากประตูของสถานีในปีพ.ศ. 2556 มันก็ถูกส่งเข้าสู่ Sleep Mode ในทันทีเพื่อให้มันได้ขยายเวลาการสำรวจโดยอุปกรณ์ที่มีอยู่บนสถานีออกไปอีก และถูกวางแผนไว้ว่าจะโดนบังคับเผาไหม้ลงในชั้นบรรยากาศในวันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2559
แต่ว่า พวกเขาไม่สามารถติดต่อกับสถานีได้อีกแล้ว แถมในปัจจุบัน ระยะความสูงของสถานีจากผิวโลกนั้นต่ำกว่า 300 กิโลเมตร และยังคงตกต่อไปเรื่อย ๆ ในขณะที่ความหนาแน่นของชั้นบรรยากาศก็เริ่มเพิ่มขึ้นอีกเช่นกัน โดย ด.ร. โจนาธาน แมคโนแวล (Jonathan McDowell) จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดกล่าวไว้ว่า มันน่าจะโหม่งโลกในปลายปีนี้ ไม่ก็ภายในต้นปีหน้า ซึ่งเหตุที่ทำให้การตกครั้งนี้น่ากลัวก็คือ บางชิ้นส่วนที่มีขนาดใหญ่เกิน 100 กิโลกรัม จะสามารถรอดพ้นการเผาไหม้ในชั้นบรรยากาศและตกลงมายังพื้นโลก และทางการจีนคาดการณ์ว่า
พวกเขาจะคำนวณตำแหน่งที่มันจะตกลงได้ก็ต่อเมื่อประมาณ 6 ชั่วโมงก่อนที่มันจะลงมายังโลกเท่านั้น และหากมันไปตกลงในเมืองใหญ่ ๆ ก็สามารถทำให้เกิดความเสียหายอย่างหนักได้เลยทีเดียว อย่างไรก็ตามโอกาสที่มันจะตกลงสู่ในเมืองใหญ่ หรือแม้แต่พื้นที่ ๆ มีมนุษย์อาศัยอยู่นั้นก็ค่อนข้างเป็นไปได้น้อย เมื่อเทียบระหว่างอัตราส่วนของพื้นน้ำกับพื้นดินของโลกเรา การติดตามตำแหน่งของยานนั้นจึงถูกเฝ้าดูอย่างใกล้ชิดมาเรื่อยๆ
อนึ่ง สถานีอวกาศเทียนกงนั้น มีเรื่องราวแปลก ๆ ที่น่าสนใจอยู่ ดังนี้
1. มันถูกทาสีไว้สองสี สีหนึ่งแทนพื้น อีกสีแทนท้องฟ้า เพื่อให้นักบินอวกาศสามารถกำหนดทิศทางของตัวเองในอวกาศได้
2. สถานีอวกาศไม่มีห้องน้ำและห้องครัว บรรดานักบินอวกาศต้องใช้ของบนยานเซินโจวเท่านั้น
3. จะมีเพียงแค่สองคนที่ได้นอนในสถานีอวกาศ อีกคนนึงจะต้องนอนในยานเซินโจว (อีกแล้ว) เพื่อป้องกันความหนาแน่นที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่ที่กว้างเพียงแค่ 3 เมตร และยาวแค่ 10 เมตรเท่านั้น
ในกรณีที่สถานีอวกาศเทียนกงยังถูกควบคุมได้จากภาคพื้นดิน นักดาราศาสตร์จะทำการบังคับให้มันไปลงที่บริเวณที่มีชื่อว่า
“สุสานยานอวกาศ” ซึ่งเป็นบริเวณที่ห่างไกลจากผู้คนในตอนใต้ของมหาสมุทรแปซิฟิค
โดยในปัจจุบันนั้นมียานอวกาศมากกว่า 250 ลำที่ได้ลงไปจบชีวิตของมันในสุสานแห่งนี้รวมถึงสถานีอวกาศเมียร์ของรัสเซียเช่นกัน เหตุผลที่ยานอวกาศพวกนี้ตกลงมาสู่โลกเป็นเพราะว่ามันมีขนาดที่ใหญ่เกินกว่าจะถูกเผาไหม้ได้หมดด้วยความร้อนในชั้นบรรยากาศ ในขณะที่ส่วนใหญ่ของมันนั้นถูกเผาไหม้ไปอย่างสมบูรณ์ก่อนที่จะตกถึงพื้นโลก
เมื่อวานนี้ (1 เมษายน) เทียนกง 1 ร่วงลงมา และมีการติดตามความเคลื่อนไหวกันมาตลอดทั้งคืนที่ผ่านมาจนถึงช่วงเช้าวันนี้ (2 เมษายน) มีการพูดคุยกันว่าอาจตกที่ญี่ปุ่นหรือรัสเซีย และคนญี่ปุ่นตื่นตระหนกกันมากทุกครั้งที่เทียนกง 1 เวียนไปป้วนเปี้ยนอยู่เหนือน่านฟ้า
และข่าวล่าสุด สุดท้าย ที่ได้เฝ้าติดตามคือ "วิมานลอยฟ้า 1" ตกลงไป ในมหาสมุทรแปซิฟิก เรียบร้อยแล้ว

ทางการจีนและสหรัฐฯ รายงานยืนยันว่า สถานีอวกาศเทียนกง-1 ที่สูญเสียการควบคุม ได้ตกกลับเข้าสู่ชั้นบรรยากาศโลกแล้ว เมื่อเวลา 00.16 น. ตามเวลามาตรฐานกรีนิช (07.16 น. ตามเวลาในประเทศไทย)
โดยชิ้นส่วนของสถานีอวกาศดังกล่าวถูกเผาไหม้ในชั้นบรรยากาศเป็นส่วนใหญ่ ก่อนส่วนที่เหลือจะตกลงสู่มหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้ ค่อนไปทางตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะตาฮีตี

ดร. โจนาธาน แม็กโดเวลล์ จากศูนย์ฟิสิกส์ดาราศาสตร์ฮาร์วาร์ด-สมิธโซเนียนของสหรัฐฯ ได้ระบุทางทวิตเตอร์ว่า ตำแหน่งที่ซากของสถานีอวกาศเทียนกง-1 ตกลงสู่มหาสมุทรในครั้งนี้ อยู่นอกน่านน้ำส่วนที่ได้ชื่อว่าเป็น "สุสานยานอวกาศ" ซึ่งอยู่ห่างออกไปทางตอนใต้ไม่ไกลมากนัก ซึ่งตามปกติแล้วดาวเทียมและสถานีอวกาศต่าง ๆ ที่สิ้นอายุการใช้งาน จะถูกบังคับให้ตกกลับสู่โลกในบริเวณนี้
ก่อนที่เทียนกง-1 จะตกกลับสู่โลกไม่กี่ชั่วโมง ผู้เชี่ยวชาญจาก 13 องค์กรอวกาศทั่วโลกได้ติดตามความเคลื่อนไหวของเทียนกง-1 ด้วยเรดาร์ และพยายามทำนายตำแหน่งที่จะตกให้ได้แม่นยำที่สุด แต่เกิดความผิดพลาดขึ้นเมื่อหน่วยงานด้านอวกาศของจีนชี้ว่าเทียนกง-1 จะตกลงในทะเลนอกชายฝั่งเมืองเซาเปาลูของบราซิล ก่อนสถานีอวกาศดังกล่าวตกลงในมหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้ในอีกไม่กี่นาทีต่อมา
ยังไม่ทราบว่ามีซากชิ้นส่วนของเทียนกง-1 ตกลงสู่มหาสมุทรมากเพียงใด แต่ก่อนหน้านี้ผู้เชี่ยวชาญบางรายคาดว่าอาจมีเศษชิ้นส่วนที่หลงเหลือจากการเผาไหม้ในชั้นบรรยากาศราว 20-40% หรือราว 1.5-3.5 ตัน
ปัจจุบันจีนมีสถานีอวกาศเทียนกง-2 ที่ยังใช้งานอยู่ และกำลังเตรียมสร้างสถานีอวกาศแห่งที่ 3 ซึ่งจะเป็นห้องปฏิบัติการอวกาศที่ใช้งานอย่างถาวร สถานีอวกาศแห่งใหม่นี้ประกอบด้วยโมดูลแกนกลางขนาดใหญ่เชื่อมต่อกับโมดูลย่อยอีกสองส่วน และคาดว่าจะปล่อยขึ้นสู่วงโคจรได้ในช่วงต้นทศวรรษหน้า โดยจีนได้พัฒนาจรวดขนส่งอวกาศลองมาร์ช 5 (Long March 5) ซึ่งสามารถบรรทุกน้ำหนักได้มากมาใช้กับภารกิจนี้โดยเฉพาะ
ขอบคุณข้อมูลจาก
http://www.springnews.co.th/view/223478,
spaceth.co/tiangong-1-crash-prediction/,
http://www.bbc.com/thai/international-43615534
พบกันใหม่โอกาสหน้าครับ 

ห้องเพลง**คนรากหญ้า**พักยกการเมือง มุมเสียงเพลง มุมนี้ไม่มีสีไม่มีกลุ่ม มีแต่เสียงเพลง 2/4/61- TIANGONG วิมานร่วงจากฟ้า
ตอนนี้มีข่าวด่วนตั้งแต่เมื่อวาน คือ สถานีอวกาศของจีนซึ่งมีชื่อว่า "เทียนกง" (天宫) กำลังตกลงมาจากอวกาศ และหมุนวนรอบโลกอยู่ด้วยความเร็วสูงมาก จะร่วงลงที่ไหนยังไม่แน่ วันนี้จึงนำเรื่องสถานีอวกาศแห่งนี้มาฝากครับ
เทียนกง-1 (天宫一号 ออกเสียงว่า "เทียนกง อีเฮ่า" แปลตามตัวอักษรว่า วิมานลอยฟ้า 1 หรือ ปราสาทลอยฟ้า 1) เป็นสถานีอวกาศแห่งแรกของจีน โดยตั้งใจจะใช้เป็นสถานที่ทดสอบพัฒนาขีดความสามารถการนัดพบและการเทียบท่าซึ่งจำเป็นสำหรับการสนับสนุนศูนย์อวกาศที่ใหญ่ขึ้น การปล่อยเทียนกง-1 ไปกับจรวดลองมาร์ช 2เอฟ/จี มีขึ้นเมื่อวันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2554 เป็นส่วนหนึ่งของโครงการสถานีอวกาศเทียนกง หรือที่รู้จักกันในชื่อโครงการ 921-2 ซึ่งมีเป้าหมายที่จะส่งสถานีอวกาศมีคนอยู่อาศัยขนาดเต็มกึ่งถาวรขึ้นสู่วงโคจรภายใน พ.ศ. 2563
ตามข้อมูลขององค์การบริหารอวกาศแห่งชาติจีน (CNSA) เทียนกง-1 เป็น "โมดุลห้องปฏิบัติการอวกาศ" หนัก 8.5 เมตริกตัน และสามารถเทียบกับอวกาศยานมีคนบังคับและอัตโนมัติได้ อวกาศยานเสินโจว 8, เสินโจว 9 และเสินโจว 10 คาดว่าจะเทียบกับเทียนกง 1 ระหว่างช่วงที่ยังปฏิบัติการได้อีก 2 ปีข้างหน้า
เมื่อวันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2551 จาง เจียนชี (张建启) รองผู้อำนวยการสำนักงานวิศวกรรมอวกาศมีคนบังคับของจีน (CMSEO) ประกาศในระหว่างการให้สัมภาษณ์แก่สถานีโทรทัศน์กลางของจีน (CCTV) ว่า เทียนกง-1 จะถูกปล่อยขึ้นสู่อวกาศใน พ.ศ. 2553 หรือ 2554 ภายหลังสำนักข่าวซินหัว แถลงว่า สถานีอวกาศไร้คนบังคับจะถูกปล่อยในปลาย พ.ศ. 2553 และประกาศว่า การปรับปรุงซ่อมแซมอุปกรณ์ภาคพื้นดินกำลังอยู่ในระหว่างดำเนินการ
ใน พ.ศ. 2551 เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ CMSEO โพสต์รายละเอียดคร่าว ๆ ของเทียนกง-1 ร่วมกับเทียนกง 2 และเทียนกง 3 ซึ่งเป็นห้องปฏิบัติการอวกาศอีกสองแห่งซึ่งมีแผนจะปล่อยขึ้นสู่อวกาศหลังเทียนกง-1 แบบจำลองของสถานีอวกาศถูกเปิดเผยในรายการโทรทัศน์เฉลิมฉลองตรุษจีน ทาง CCTV เมื่อวันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2552
เทียนกง-1 ประกอบด้วยอุปกรณ์ออกกำลังกายและสถานีนอนสองแห่ง กำแพงภายในโมดุลมีการแตกแต่งสีสองสี สีหนึ่งแทนพื้นดิน และอีกสีหนึ่งแทนท้องฟ้า ซึ่งตั้งใจจะช่วยให้นักบินอวกาศกำหนดทิศทางได้ถูกในสภาวะไร้น้ำหนัก
จนถึงกลาง พ.ศ. 2554 การก่อสร้างโมกุลเทียนกงเสร็จสิ้นแล้ว และกำลังมีการทดสอบคุณสมบัติด้านอิเล็กทรอนิกส์ กลไกและความร้อน นอกจากนี้ยังมีการทดสอบจรวดขนส่งลองมาร์ช 2 เอฟ ซึ่งเป็นตัวส่งเทียนกง-1 ขึ้นสู่อวกาศ นักบินอวกาศจีน ซึ่งเป็นหญิงสองคน กำลังอยู่ในระหว่างการฝึกภารกิจมีคนควบคุมไปยังสถานีอวกาศ
เทียนกง-1 เดิมมีกำหนดปล่อยขึ้นสู่อวกาศในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2554 และถูกส่งไปยังศูนย์ส่งดาวเทียมจิ่วเฉฺวียน เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม และผ่านการทดสอบส่งเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม อย่างไรก็ดี หลังการปล่อยจรวดลองมาร์ช 2 ซี ล้มเหลวในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2554 ทำให้การปล่อยสถานีอวกาศดังกล่าวต้องเลื่อนออกไป หลังการสืบสวนสาเหตุความล้มเหลวของการปล่อยครั้งนั้น ได้มีการกำหนดใหม่ให้ปล่อยเทียนกง-1 ในปลายเดือนกันยายน พ.ศ. 2554 ส่วนหนึ่งเพื่อให้เกิดพร้อมกับวันชาติจีน ซึ่งตรงกับวันที่ 1 ตุลาคม
เมื่อวันที่ 20 กันยายน พาหนะอวกาศถูกนำออกไปประจำฐานปล่อยที่ 1 แห่งจุดปล่อยใต้ที่จิ่วเฉฺวียน ในการเตรียมความพยายามปล่อยอีกครั้ง การปล่อยมีขึ้นเมื่อเวลา 13:16 UTC ของวันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2554 ประสบความสำเร็จด้วยดี และนำเทียนกง-1 ขึ้นสู่วงโคจรระดับต่ำของโลก โทรทัศน์จีนแพร่ภาพการปล่อยคลอไปกับเพลงทำนองปลุกใจรักชาติของสหรัฐ America the Beautiful ซึ่งเหตุผลที่เลือกเพลงดังกล่าวนั้นไม่มีคำอธิบายออกมา
ปีพ.ศ. 2554 สถานีอวกาศเทียนกง 1 ได้ทำให้จีนกลายเป็นชาติที่ 3 ในโลกที่มีสถานีอวกาศเป็นของตัวเองแต่เพียงผู้เดียว (ต่อจากสองมหาอำนาจอย่างสหรัฐและรัสเซีย) โดยมีเป้าหมายเพื่อเป็นการทดลองและเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ที่จำเป็นสำหรับการก่อสร้างสถานีอวกาศที่มีขนาดใหญ่กว่านี้ แต่ต่อมา สำนักงานวิศวกรรมอวกาศจีนยืนยันว่า พวกเขาสูญเสียการควบคุม “พระราชวังบนสวรรค์” ลำนี้มาเป็นเวลา 1 ปีเต็มแล้ว และผู้เชี่ยวชาญต่างคาดการณ์ว่ามันจะตกลงมาสู่ชั้นบรรยากาศโลกในช่วงสิ้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา แล้วก็เลยมาจนถึง 1 เมษายนจึงเริ่มตกลงมา
สถานีอวกาศเทียนกง 1 เป็นแล็บอวกาศขนาดกระทัดรัด น้ำหนักของมันนั้นอยู่ที่ประมาณ 8 ตัน อายุการใช้งานของมันนั้นถูกกำหนดไว้เพียงแค่ 2 ปีเท่านั้น และตลอดระยะเวลานั้นมันถูกใช้ในการทดสอบการเชื่อมต่อกับยานอวกาศเซินโจว (ยานเซินโจวนั้นมีความคล้ายคลึงกับยานโซยูสของรัสเซีย) และได้ทำการต้อนรับนักบินอวกาศชาวจีนมาแล้วทั้งสิ้น 6 คนด้วยกัน ซึ่งมีนักบินอวกาศหญิงรวมอยู่ในนั้นถึง 2 คนเลยทีเดียว และบนสถานีอวกาศเดียวกันนี้ก็ยังมีการทำการทดลองฟิสิกส์ในอวกาศและถ่ายทอดสดสัญญาณไปยังห้องเรียนทั่วประเทศในจีนอีกด้วย
สำนักงานวิศวกรรมอวกาศจีนเคยออกแถลงการ์ณในปี พ.ศ. 2557 ว่าการทดลองของเทียนกง 1 นั้นประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ข้อมูลที่ได้มาทำให้จีนสามารถใช้ประโยชน์ได้เป็นจำนวนมากในด้านต่าง ๆ ซึ่งรวมไปถึงการพัฒนาสถานีอวกาศรุ่นถัดไปอีกด้วย ทำให้หลังจากที่ลูกเรือกลุ่มสุดท้ายก้าวออกจากประตูของสถานีในปีพ.ศ. 2556 มันก็ถูกส่งเข้าสู่ Sleep Mode ในทันทีเพื่อให้มันได้ขยายเวลาการสำรวจโดยอุปกรณ์ที่มีอยู่บนสถานีออกไปอีก และถูกวางแผนไว้ว่าจะโดนบังคับเผาไหม้ลงในชั้นบรรยากาศในวันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2559
แต่ว่า พวกเขาไม่สามารถติดต่อกับสถานีได้อีกแล้ว แถมในปัจจุบัน ระยะความสูงของสถานีจากผิวโลกนั้นต่ำกว่า 300 กิโลเมตร และยังคงตกต่อไปเรื่อย ๆ ในขณะที่ความหนาแน่นของชั้นบรรยากาศก็เริ่มเพิ่มขึ้นอีกเช่นกัน โดย ด.ร. โจนาธาน แมคโนแวล (Jonathan McDowell) จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดกล่าวไว้ว่า มันน่าจะโหม่งโลกในปลายปีนี้ ไม่ก็ภายในต้นปีหน้า ซึ่งเหตุที่ทำให้การตกครั้งนี้น่ากลัวก็คือ บางชิ้นส่วนที่มีขนาดใหญ่เกิน 100 กิโลกรัม จะสามารถรอดพ้นการเผาไหม้ในชั้นบรรยากาศและตกลงมายังพื้นโลก และทางการจีนคาดการณ์ว่า พวกเขาจะคำนวณตำแหน่งที่มันจะตกลงได้ก็ต่อเมื่อประมาณ 6 ชั่วโมงก่อนที่มันจะลงมายังโลกเท่านั้น และหากมันไปตกลงในเมืองใหญ่ ๆ ก็สามารถทำให้เกิดความเสียหายอย่างหนักได้เลยทีเดียว อย่างไรก็ตามโอกาสที่มันจะตกลงสู่ในเมืองใหญ่ หรือแม้แต่พื้นที่ ๆ มีมนุษย์อาศัยอยู่นั้นก็ค่อนข้างเป็นไปได้น้อย เมื่อเทียบระหว่างอัตราส่วนของพื้นน้ำกับพื้นดินของโลกเรา การติดตามตำแหน่งของยานนั้นจึงถูกเฝ้าดูอย่างใกล้ชิดมาเรื่อยๆ
อนึ่ง สถานีอวกาศเทียนกงนั้น มีเรื่องราวแปลก ๆ ที่น่าสนใจอยู่ ดังนี้
1. มันถูกทาสีไว้สองสี สีหนึ่งแทนพื้น อีกสีแทนท้องฟ้า เพื่อให้นักบินอวกาศสามารถกำหนดทิศทางของตัวเองในอวกาศได้
2. สถานีอวกาศไม่มีห้องน้ำและห้องครัว บรรดานักบินอวกาศต้องใช้ของบนยานเซินโจวเท่านั้น
3. จะมีเพียงแค่สองคนที่ได้นอนในสถานีอวกาศ อีกคนนึงจะต้องนอนในยานเซินโจว (อีกแล้ว) เพื่อป้องกันความหนาแน่นที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่ที่กว้างเพียงแค่ 3 เมตร และยาวแค่ 10 เมตรเท่านั้น
เทียนกง 1 เมื่อร่วงลงสู่พื้นโลก จะผ่านความร้อนสูงประมาณ 1500 องศาเซลเซียส
ในกรณีที่สถานีอวกาศเทียนกงยังถูกควบคุมได้จากภาคพื้นดิน นักดาราศาสตร์จะทำการบังคับให้มันไปลงที่บริเวณที่มีชื่อว่า “สุสานยานอวกาศ” ซึ่งเป็นบริเวณที่ห่างไกลจากผู้คนในตอนใต้ของมหาสมุทรแปซิฟิค โดยในปัจจุบันนั้นมียานอวกาศมากกว่า 250 ลำที่ได้ลงไปจบชีวิตของมันในสุสานแห่งนี้รวมถึงสถานีอวกาศเมียร์ของรัสเซียเช่นกัน เหตุผลที่ยานอวกาศพวกนี้ตกลงมาสู่โลกเป็นเพราะว่ามันมีขนาดที่ใหญ่เกินกว่าจะถูกเผาไหม้ได้หมดด้วยความร้อนในชั้นบรรยากาศ ในขณะที่ส่วนใหญ่ของมันนั้นถูกเผาไหม้ไปอย่างสมบูรณ์ก่อนที่จะตกถึงพื้นโลก
เมื่อวานนี้ (1 เมษายน) เทียนกง 1 ร่วงลงมา และมีการติดตามความเคลื่อนไหวกันมาตลอดทั้งคืนที่ผ่านมาจนถึงช่วงเช้าวันนี้ (2 เมษายน) มีการพูดคุยกันว่าอาจตกที่ญี่ปุ่นหรือรัสเซีย และคนญี่ปุ่นตื่นตระหนกกันมากทุกครั้งที่เทียนกง 1 เวียนไปป้วนเปี้ยนอยู่เหนือน่านฟ้า
และข่าวล่าสุด สุดท้าย ที่ได้เฝ้าติดตามคือ "วิมานลอยฟ้า 1" ตกลงไป ในมหาสมุทรแปซิฟิก เรียบร้อยแล้ว
ทางการจีนและสหรัฐฯ รายงานยืนยันว่า สถานีอวกาศเทียนกง-1 ที่สูญเสียการควบคุม ได้ตกกลับเข้าสู่ชั้นบรรยากาศโลกแล้ว เมื่อเวลา 00.16 น. ตามเวลามาตรฐานกรีนิช (07.16 น. ตามเวลาในประเทศไทย)
โดยชิ้นส่วนของสถานีอวกาศดังกล่าวถูกเผาไหม้ในชั้นบรรยากาศเป็นส่วนใหญ่ ก่อนส่วนที่เหลือจะตกลงสู่มหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้ ค่อนไปทางตะวันตกเฉียงเหนือของเกาะตาฮีตี
ดร. โจนาธาน แม็กโดเวลล์ จากศูนย์ฟิสิกส์ดาราศาสตร์ฮาร์วาร์ด-สมิธโซเนียนของสหรัฐฯ ได้ระบุทางทวิตเตอร์ว่า ตำแหน่งที่ซากของสถานีอวกาศเทียนกง-1 ตกลงสู่มหาสมุทรในครั้งนี้ อยู่นอกน่านน้ำส่วนที่ได้ชื่อว่าเป็น "สุสานยานอวกาศ" ซึ่งอยู่ห่างออกไปทางตอนใต้ไม่ไกลมากนัก ซึ่งตามปกติแล้วดาวเทียมและสถานีอวกาศต่าง ๆ ที่สิ้นอายุการใช้งาน จะถูกบังคับให้ตกกลับสู่โลกในบริเวณนี้
ก่อนที่เทียนกง-1 จะตกกลับสู่โลกไม่กี่ชั่วโมง ผู้เชี่ยวชาญจาก 13 องค์กรอวกาศทั่วโลกได้ติดตามความเคลื่อนไหวของเทียนกง-1 ด้วยเรดาร์ และพยายามทำนายตำแหน่งที่จะตกให้ได้แม่นยำที่สุด แต่เกิดความผิดพลาดขึ้นเมื่อหน่วยงานด้านอวกาศของจีนชี้ว่าเทียนกง-1 จะตกลงในทะเลนอกชายฝั่งเมืองเซาเปาลูของบราซิล ก่อนสถานีอวกาศดังกล่าวตกลงในมหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้ในอีกไม่กี่นาทีต่อมา
ยังไม่ทราบว่ามีซากชิ้นส่วนของเทียนกง-1 ตกลงสู่มหาสมุทรมากเพียงใด แต่ก่อนหน้านี้ผู้เชี่ยวชาญบางรายคาดว่าอาจมีเศษชิ้นส่วนที่หลงเหลือจากการเผาไหม้ในชั้นบรรยากาศราว 20-40% หรือราว 1.5-3.5 ตัน
ปัจจุบันจีนมีสถานีอวกาศเทียนกง-2 ที่ยังใช้งานอยู่ และกำลังเตรียมสร้างสถานีอวกาศแห่งที่ 3 ซึ่งจะเป็นห้องปฏิบัติการอวกาศที่ใช้งานอย่างถาวร สถานีอวกาศแห่งใหม่นี้ประกอบด้วยโมดูลแกนกลางขนาดใหญ่เชื่อมต่อกับโมดูลย่อยอีกสองส่วน และคาดว่าจะปล่อยขึ้นสู่วงโคจรได้ในช่วงต้นทศวรรษหน้า โดยจีนได้พัฒนาจรวดขนส่งอวกาศลองมาร์ช 5 (Long March 5) ซึ่งสามารถบรรทุกน้ำหนักได้มากมาใช้กับภารกิจนี้โดยเฉพาะ
ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.springnews.co.th/view/223478, spaceth.co/tiangong-1-crash-prediction/, http://www.bbc.com/thai/international-43615534
พบกันใหม่โอกาสหน้าครับ