จากเส้นทางสายทรานส์มองโกเลีย ที่เราเดินทางจากประเทศมองโกเลีย มาจนถึงรัสเซีย
เข้าเมือง Irkutsk แวะเที่ยว Listvyanka หนึ่งวัน
ก่อนจะเดินทางไปเกาะ Olkhon เพื่อมุ่งหน้าไปยังทะเลสาบไบคาล ทะเลสาบที่มีความลึกที่สุดในโลก
ที่ขณะนี้กลายเป็นน้ำแข็งทั้งหมดแล้ว
สำหรับคนที่ยังไม่ได้อ่านเรื่องราวก่อนหน้านี้ สามารถตามไปอ่านได้
ตอนที่ 1 เดินทางสู่ความเวิ้งว้างอันไกลโพ้น แห่งอาณาจักรมองโกเลีย
https://ppantip.com/topic/37439759
ตอนที่ 2 จากความเวิ้งว้างแห่งอาณาจักรมองโกเลีย สู่ขบวนรถไฟแห่งความฝัน
https://ppantip.com/topic/37451826
ตอนที่ 3 (ฉบับย่อ) เมือง Irkutsk
https://www.facebook.com/parttimetravellers/posts/2165372650147093
ตอนที่ 4 (ฉบับย่อ) เมือง Listvyanka ไปขี่หมาลากเลื่อน
https://www.facebook.com/parttimetravellers/posts/2178958268788531
ก่อนอื่นต้องขอแนะนำเกี่ยวกับข้อมูลพื้นฐาน สำหรับคนที่อยากมาเที่ยว Baikal เอง
วิธีการเดินทาง
สามารถเดินทางได้ 2 วิธี (เท่าที่ทราบ)
1. หากคุณจองที่พักในตัวเมือง Irkutsk คุณสามารถแจ้งพนักงานของทางโรงแรม หรือโฮสเทล ว่าจะไปที่เกาะ Olkhon ซึ่งทางที่พักส่วนใหญ่จะมีบริการเรียกรถบัสให้มารับ
เพื่อพาคุณไปยังเกาะ Olkhon ซึ่งราคาก็ไม่แพงอยู่ราวๆ 500 - 1000 RB
2. อีกวิธีหนึ่งที่จะไม่โดนชาร์จเพิ่มจากทางโรงแรม คือ ไปขึ้นที่ท่ารถ ที่ตั้งอยู่หลัง Central Market ตรงนั้นเป็นท่ารถบัสที่จะออกเดินทางไปเมืองต่างๆ
ซึ่งก็จะมีรถบัสความจุประมาณ 15 - 18 คน ออกอยู่ตลอด (เท่าที่ทราบ จะมีรถออกตั้งแต่ประมาณ 8 โมงเช้า)
ทั้งสองวิธีนี้จะพาคุณไปที่เกาะ Olkhon พร้อมส่งคุณถึงหน้าที่พัก (แจ้งที่พักที่คุณพักให้คนขับรถทราบ)
ส่วนวิธีเดินทางกลับ คุณสามารถขอเบอร์โทรติดต่อ หรือจองรถได้ทันทีกับพนักงานที่ขับรถมาส่งคุณ เขาจะมารับคุณถึงที่พัก
วิธีการหาทัวร์ 1 day trip
สำหรับคนที่ไม่ได้ติดต่อ Agency ไว้ตั้งแต่อยู่เมืองไทย เพื่อพาเที่ยวไบคาล หรือสำหรับนักท่องเที่ยวสายประหยัด ที่ไม่อยากจ่ายแพง
เราสามารถหาทัวร์ 1 day trip ได้จากที่พักในเกาะ Olkhon ได้เลย
++ไม่ต้องจอง+++ไม่ต้องมัดจำ+++ไม่ต้องติดต่อล่วงหน้า+++ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่ได้เที่ยว++
เพราะจากที่สังเกต การท่องเที่ยวถือเป็นเศรษฐกิจหลักของที่นี่ ในช่วงฤดูหนาว
รถแวน UAZ เป็นรถ 4WD ที่ใช้พานักท่องเที่ยวตะลุยทะเลสาบไบคาล มีอยู่ที่นี่เพียบ ย้ำว่าเยอะมาก!!!!
วิธีการติดต่อ เพียงคุณเดินเข้าไปใน Reception ของโรงแรม และติดต่อขอซื้อทัวร์ 1 day trip
ซึ่งที่นิยมกัน ก็จะเป็น North Olkhon กับ South Olkhon แต่ละด้านจะใช้เวลา 1 วัน ตั้งแต่ 10:00 ถึงประมาณ 14 - 15 น.
ถ้าใครต้องการไปเที่ยวที่จุดอื่น ลองสอบถามกับทางเจ้าหน้าที่โรงแรมได้
เพราะจากที่ดูแผนที่เที่ยว เห็นว่ามี Route เที่ยวอื่นๆอีก
ราคา 1 day trip มีอยู่ 2 เรทด้วยกัน
ถ้าต้องการ Join trip ราคาตกหัวละ 1000 RB (ไม่รวมค่าเข้าอุทยาน 100 RB)
แต่ถ้าต้องการ Private trip ราคา 12000 - 14000 RB
โดยรถคันนึง จะนั่งอยู่ประมาณ 5 - 8 คน
ซึ่งพวกเราไปกัน 5 คน ซื้อ Join trip ในวันแรก แต่ก็ไม่มีใครไปกับพวกเราด้วย กลายเป็นวันนั้นเราได้ Private trip ในราคาเพียง 5000 RB
ราคานี้ มีเพียงคนขับรถ (ซึ่งพูดอังกฤษไม่ค่อยได้ เน้นภาษามือเป็นหลัก) ไม่มีไกด์ รวมอาหารเที่ยงทานบนรถ
สำหรับการเที่ยวแบบ 1 day trip อาจจะเทียบกับการมากับทัวร์ หรือ Agency ที่หลายๆคนรู้จักไม่ได้
ถ้าให้เปรียบเทียบ เท่าที่พอทราบคือ จุดที่แวะน้อยกว่า, เวลาในการเที่ยวแต่ละวันน้อยกว่า, กิจกรรมที่ให้ทำน้อยกว่า
แต่เมื่อเปรียบเทียบกับราคาและความพึงพอใจสำหรับนักท่องเที่ยว ที่มีเวลาจำกัดอย่างพวกเรา
ถือว่าดีทีเดียว เพราะได้ไปในจุดท่องเที่ยว Hilight ทุกจุด ในราคาที่ประหยัดสุดๆ (1000 - 1500 บาท กับทัวร์เกาะ Olkhon)
ที่พัก
ที่พักส่วนใหญ่บนเกาะ Olkhon จะเป็นสไตล์ Homestay บ้านเป็นไม้ มากกว่าเป็นปูน
เราพักด้วยกัน 2 คืน 2 ที่ ที่แรกคือ Nikita Homestead จากที่เราคาดคะเน ที่พักที่นี่น่าจะเป็นที่พักที่ใหญ่ที่สุดบนเกาะ
เรียกได้ว่าเป็นอาณาจักร Nikita เลยก็ว่าได้ คนไทยหลายคนก็มาพักที่นี่
และที่นี่ก็ยังมีบริการ 1 day trip ที่สามารถติดต่อรถต่างๆ และอธิบายพวกเราได้ชัดเจนอีกด้วย
ที่พักที่ 2 คือ Camping Usadba Nabaimar
ที่พักที่นี่ดูจะ Modern ขึ้นมาหน่อย อยู่ใกล้ๆ กับ Nikita
มี 1 day trip ขายเช่นกัน ส่วนใหญ่คนที่มาพักจะเป็นคนจีน
สำหรับที่พักอื่นๆ สามารถจองได้ไม่ยาก เว็บ Booking, Agoda สามารถจองได้หมด
-------------------------------
ไปเที่ยว Baikal กันเลยดีกว่า
รูปนี้เป็นตอนที่เรากำลังนั่งรถบัสจากเมือง Irkutsk ไปยังเกาะ Olkhon
รถบัสเป็นรถคันใหญ่ แต่ก็เบียดไม่ต่างจากรถตู้บ้านเรา
สังเกตจากผู้ชายคนที่ชัดที่สุดในภาพ ตรงนั้นเป็นทางเดินระหว่างเบาะ แต่เจ้าของรถบัสได้ต่อเติมเบาะเสริมขึ้นมา
ใครที่นั่งตรงเบาะเสริมก็จะเมื่อยหน่อย เพราะพนักพิง พิงได้แค่ครึ่งหลังเท่านั้น และต้องนั่งแบบนี้ไป 5 ชั่วโมง
ความพีคของการนั่งรถนี้ก็คือ คนจีนที่เป็นนักท่องเที่ยวหลักของที่นี่
จะมาพร้อมกับขนมนมเนย น้ำดื่มต่างๆ และพอกินเสร็จ ก็ทิ้งที่พื้น บางอย่างกินไม่หมดก็ทิ้งลงไปพร้อมกับน้ำดื่ม
คิดสภาพพื้นที่เละ กับ 5 ชั่วโมงที่ต้องเดินทางต่อไปด้วยรถคันนี้
ความฮาของนั่งท่องเที่ยวจีนยังไม่หมด เนื่องจากวันที่เดินทางมีหมอกและหิมะลงตลอดทาง
ทำให้กระจกรอบรถมัวไปด้วยฝ้า มองไม่เห็นวิวทิวทัศน์นอกหน้าต่าง
สิ่งที่นักท่องเที่ยวจีนทำคือ แกะฟิล์ม!!!!!! ที่กระจกออก เป็นรูใหญ่พอที่จะมองเห็นข้างนอกได้
ไม่ใช่แค่หน้าต่างด้านเดียว แต่ทุกด้านที่มีคนจีนนั่งอยู่ เรียกได้ว่า รอบคัน
รู้สึกสงสารเจ้าของรถขึ้นมาจับใจ ไม่รู้ว่าเขาจะรับรู้ชะตากรรมของรถเขาแล้วหรือยัง
คนขับรถใจดี จอดแวะข้างทางให้เราลงไปถ่ายรูปกับทะเลสาบไบคาล
และนักท่องเที่ยวที่ตื่นเต้นกับการเห็นทะเลสาบผืนใหญ่แข็งตัว รวมถึงพวกเราก็รีบวิ่งแจ้นฝ่าความหนาว -28 องศาไปถ่ายรูปกัน
พอถึงที่พัก Nikita เราก็จัดแจงวางของไว้ในห้อง แล้วออกสำรวจเมืองที่นี่กัน
จุดหมายของเราคือ โบสถ์ของเมืองนี้ และหาซื้อของใน Supermarket เพื่อตุนเป็นเสบียงคืนนี้และวันพรุ่งนี้
ดูเหมือนว่า เมืองนี้จะกลายเป็นเมืองร้างไปทันที
เคยดูตามสารคดีว่า คนที่นี่แทบจะหยุดงานในช่วงฤดูหนาว เนื่องจากอากาศที่นี่หนาวทรมานมาก เกินกว่าจะออกไปทำงานใดๆ
ร้างจริงๆ
วันต่อมา เราออกเดินทางไปยังส่วนเหนือของเกาะ Olkhon ก่อน
เนื่องจากเรามีเวลาเที่ยวที่เกาะนี้เพียง 2 วัน และวันที่สอง เราต้องกลับเมือง Irkutsk ทันที
เราจึงวางแผนว่า เราจะเที่ยวส่วนใต้ในวันที่สอง และเมื่อเที่ยวเสร็จ เราจะนั่งรถกลับทันที ไม่กลับเข้ามาใน khuzhir แล้ว
สำหรับใครที่มีเวลาเที่ยวสองวันแบบพวกเรา สามารถทำได้ดังนี้
วันที่ 1 เที่ยว North Olkhon ก่อน
วันที่ 2 แพคกระเป๋าสัมภาระทั้งหมด ขึ้นรถที่จะพาเราไปเที่ยว South Olkhon เมื่อเที่ยวเสร็จก็ให้ต่อรถที่จะกลับ Irkutsk ตรง Pier เลย (ติดต่อรถไว้ก่อน)
ทำแบบนี้จะสามารถเที่ยวเกาะได้ทั่วในเวลาสองวัน และค่าใช้จ่ายก็จะถูกลงด้วย
ตอนนี้กำลังออกจากเมือง
สองข้างทางเต็มไปด้วยหิมะและหญ้าสีเหลือง
สำหรับวิวในฝั่ง North นั้น เส้นทางจะปกคลุมด้วยหิมะ คนขับของเราพาลุยเข้าไปในอุทยานที่เต็มไปด้วยต้นสนมากมาย
และจะแวะให้เราประมาณ 4 - 5 จุด ตามจุดสำคัญๆ
จุดแรกที่เราแวะ ไม่รู้เรียกว่าอะไร (เพราะไม่มีไกด์เลยไม่รู้อะไรสักอย่าง ฮาาา)
เป็นเหมือนบ้านเก่าที่พังลง เหลือเพียงประตูกับเศษไม้
ไม่แน่ใจว่าคนขับต้องการให้เรามาเที่ยวอะไร แต่เราก็เดินลงทะเลสาบ และเดินไปอย่างไกล
สิ่งที่เราคาดหวังคือ น้ำแข็งใสๆ ที่สะท้อนกับแสงแดด
แต่ความเป็นจริงคือ
เป็นเพียงน้ำแข็งที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ ที่เราพยายามปัดหิมะออก เพื่อลองมองลงไปด้านล่าง
แต่ก็ไม่เห็นอะไร วันนี้ก็เลยรู้สึกว่า เราถูกรูปในรีวิวต่างๆ หลอกลวงหรือเปล่านะ
จุดต่อไปที่เราจะไปคือ Khoboy cape ไฮไลท์ของเกาะเหนือ
เป็นแหลมที่ยื่นออกไปในทะเลสาบไบคาล สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของทะเลสาบได้ 360 องศา
แต่ผมว่า สองข้างทางของเกาะเหนือ มันก็สวยงามเช่นกัน
ข้างทางจะเปลี่ยนไปตลอดเวลา จากต้นสนมากมาย กลายเป็นหิมะ
จากหิมะกลายเป็นหญ้าสีเหลือง เต็มภูเขา ให้ความรู้สึกว่าเราจะได้เจอสิ่งแปลกใหม่อยู่ตลอดเวลา
รถ UAZ มาจอดตรง Khoboy cape (จอดซะไกลเลย)
ให้เราเดินไปที่ cape เกือบ 1 กิโลเมตร
แหลม Khoboy อยู่ตรงนั้น
ต้องค่อยๆ บุกป่าฝ่าดงเข้าไป (ถ้าช่วงไม่มีหิมะ มีทางเดินที่ง่ายกว่านี้)
อยู่ลิบๆนู่น ระหว่างทางจะมีแผ่นไม้ปูเป็นจุดชมวิว ทีละขั้นๆ ทำให้เดินง่ายขึ้นในช่วงที่มีหิมะปกคลุมหนาอย่างนี้
ในที่สุดก็ไปถึงจุดปลายสุดของ Khaboy cape
เก็บภาพประทับใจกันนิดนึง
ภาพ Panorama ของ Khaboy cape
หลังจากนั้นคนขับก็พาเราไปเที่ยวอีก 2 - 3 จุด บรรยากาศส่วนใหญ่ก็คล้ายๆ กัน
ก่อนที่จะพาเรากลับไปยัง Khuzhir
เส้นทางก็ยังคงสวยงามเหมือนเดิม
พอกลับมาถึงประมาณบ่าย 3 กว่าๆ ก็นั่งพักเอาแรง ก่อนจะออกไปที่ Shaman Rock กัน
จุดนี้ถือเป็นที่เที่ยวที่ห้ามพลาด เมื่อมาเที่ยวที่เกาะ Olkhon
นักท่องเที่ยวหลายคนเตรียมกล้องและขาตั้งมากันเพียบ เพื่อรอเก็บแสง Twilight ตั้งแต่ 3-4 โมง
ส่วนพวกเราก็ถ่ายรูปเล่นกันไป
ตอนเย็นของวันนี้ ฟ้าเปิด ทำให้เห็นท้องฟ้าตอนพระอาทิตย์กำลังตก สีสันสวยงาม
เห็นคู่รักกำลังยืนคุยกันบนเขา เลยไม่พลาดที่จะเก็บภาพนี้มาฝาก
การเที่ยว North Olkhon วันนี้ก็หมดลง
เดี๋ยวมาต่อตอนที่ 2 เที่ยวฝั่ง South Olkhon กัน ในกระทู้หน้า
[CR] F r o z e n B a i k a l สู่ความเวิ้งว้างอีกครั้ง (ฉบับเที่ยวเอง)
เข้าเมือง Irkutsk แวะเที่ยว Listvyanka หนึ่งวัน
ก่อนจะเดินทางไปเกาะ Olkhon เพื่อมุ่งหน้าไปยังทะเลสาบไบคาล ทะเลสาบที่มีความลึกที่สุดในโลก
ที่ขณะนี้กลายเป็นน้ำแข็งทั้งหมดแล้ว
สำหรับคนที่ยังไม่ได้อ่านเรื่องราวก่อนหน้านี้ สามารถตามไปอ่านได้
ตอนที่ 1 เดินทางสู่ความเวิ้งว้างอันไกลโพ้น แห่งอาณาจักรมองโกเลีย
https://ppantip.com/topic/37439759
ตอนที่ 2 จากความเวิ้งว้างแห่งอาณาจักรมองโกเลีย สู่ขบวนรถไฟแห่งความฝัน
https://ppantip.com/topic/37451826
ตอนที่ 3 (ฉบับย่อ) เมือง Irkutsk
https://www.facebook.com/parttimetravellers/posts/2165372650147093
ตอนที่ 4 (ฉบับย่อ) เมือง Listvyanka ไปขี่หมาลากเลื่อน
https://www.facebook.com/parttimetravellers/posts/2178958268788531
ก่อนอื่นต้องขอแนะนำเกี่ยวกับข้อมูลพื้นฐาน สำหรับคนที่อยากมาเที่ยว Baikal เอง
วิธีการเดินทาง
สามารถเดินทางได้ 2 วิธี (เท่าที่ทราบ)
1. หากคุณจองที่พักในตัวเมือง Irkutsk คุณสามารถแจ้งพนักงานของทางโรงแรม หรือโฮสเทล ว่าจะไปที่เกาะ Olkhon ซึ่งทางที่พักส่วนใหญ่จะมีบริการเรียกรถบัสให้มารับ
เพื่อพาคุณไปยังเกาะ Olkhon ซึ่งราคาก็ไม่แพงอยู่ราวๆ 500 - 1000 RB
2. อีกวิธีหนึ่งที่จะไม่โดนชาร์จเพิ่มจากทางโรงแรม คือ ไปขึ้นที่ท่ารถ ที่ตั้งอยู่หลัง Central Market ตรงนั้นเป็นท่ารถบัสที่จะออกเดินทางไปเมืองต่างๆ
ซึ่งก็จะมีรถบัสความจุประมาณ 15 - 18 คน ออกอยู่ตลอด (เท่าที่ทราบ จะมีรถออกตั้งแต่ประมาณ 8 โมงเช้า)
ทั้งสองวิธีนี้จะพาคุณไปที่เกาะ Olkhon พร้อมส่งคุณถึงหน้าที่พัก (แจ้งที่พักที่คุณพักให้คนขับรถทราบ)
ส่วนวิธีเดินทางกลับ คุณสามารถขอเบอร์โทรติดต่อ หรือจองรถได้ทันทีกับพนักงานที่ขับรถมาส่งคุณ เขาจะมารับคุณถึงที่พัก
วิธีการหาทัวร์ 1 day trip
สำหรับคนที่ไม่ได้ติดต่อ Agency ไว้ตั้งแต่อยู่เมืองไทย เพื่อพาเที่ยวไบคาล หรือสำหรับนักท่องเที่ยวสายประหยัด ที่ไม่อยากจ่ายแพง
เราสามารถหาทัวร์ 1 day trip ได้จากที่พักในเกาะ Olkhon ได้เลย
เพราะจากที่สังเกต การท่องเที่ยวถือเป็นเศรษฐกิจหลักของที่นี่ ในช่วงฤดูหนาว
รถแวน UAZ เป็นรถ 4WD ที่ใช้พานักท่องเที่ยวตะลุยทะเลสาบไบคาล มีอยู่ที่นี่เพียบ ย้ำว่าเยอะมาก!!!!
วิธีการติดต่อ เพียงคุณเดินเข้าไปใน Reception ของโรงแรม และติดต่อขอซื้อทัวร์ 1 day trip
ซึ่งที่นิยมกัน ก็จะเป็น North Olkhon กับ South Olkhon แต่ละด้านจะใช้เวลา 1 วัน ตั้งแต่ 10:00 ถึงประมาณ 14 - 15 น.
ถ้าใครต้องการไปเที่ยวที่จุดอื่น ลองสอบถามกับทางเจ้าหน้าที่โรงแรมได้
เพราะจากที่ดูแผนที่เที่ยว เห็นว่ามี Route เที่ยวอื่นๆอีก
ราคา 1 day trip มีอยู่ 2 เรทด้วยกัน
ถ้าต้องการ Join trip ราคาตกหัวละ 1000 RB (ไม่รวมค่าเข้าอุทยาน 100 RB)
แต่ถ้าต้องการ Private trip ราคา 12000 - 14000 RB
โดยรถคันนึง จะนั่งอยู่ประมาณ 5 - 8 คน
ซึ่งพวกเราไปกัน 5 คน ซื้อ Join trip ในวันแรก แต่ก็ไม่มีใครไปกับพวกเราด้วย กลายเป็นวันนั้นเราได้ Private trip ในราคาเพียง 5000 RB
ราคานี้ มีเพียงคนขับรถ (ซึ่งพูดอังกฤษไม่ค่อยได้ เน้นภาษามือเป็นหลัก) ไม่มีไกด์ รวมอาหารเที่ยงทานบนรถ
สำหรับการเที่ยวแบบ 1 day trip อาจจะเทียบกับการมากับทัวร์ หรือ Agency ที่หลายๆคนรู้จักไม่ได้
ถ้าให้เปรียบเทียบ เท่าที่พอทราบคือ จุดที่แวะน้อยกว่า, เวลาในการเที่ยวแต่ละวันน้อยกว่า, กิจกรรมที่ให้ทำน้อยกว่า
แต่เมื่อเปรียบเทียบกับราคาและความพึงพอใจสำหรับนักท่องเที่ยว ที่มีเวลาจำกัดอย่างพวกเรา
ถือว่าดีทีเดียว เพราะได้ไปในจุดท่องเที่ยว Hilight ทุกจุด ในราคาที่ประหยัดสุดๆ (1000 - 1500 บาท กับทัวร์เกาะ Olkhon)
ที่พัก
ที่พักส่วนใหญ่บนเกาะ Olkhon จะเป็นสไตล์ Homestay บ้านเป็นไม้ มากกว่าเป็นปูน
เราพักด้วยกัน 2 คืน 2 ที่ ที่แรกคือ Nikita Homestead จากที่เราคาดคะเน ที่พักที่นี่น่าจะเป็นที่พักที่ใหญ่ที่สุดบนเกาะ
เรียกได้ว่าเป็นอาณาจักร Nikita เลยก็ว่าได้ คนไทยหลายคนก็มาพักที่นี่
และที่นี่ก็ยังมีบริการ 1 day trip ที่สามารถติดต่อรถต่างๆ และอธิบายพวกเราได้ชัดเจนอีกด้วย
ที่พักที่ 2 คือ Camping Usadba Nabaimar
ที่พักที่นี่ดูจะ Modern ขึ้นมาหน่อย อยู่ใกล้ๆ กับ Nikita
มี 1 day trip ขายเช่นกัน ส่วนใหญ่คนที่มาพักจะเป็นคนจีน
สำหรับที่พักอื่นๆ สามารถจองได้ไม่ยาก เว็บ Booking, Agoda สามารถจองได้หมด
-------------------------------
รูปนี้เป็นตอนที่เรากำลังนั่งรถบัสจากเมือง Irkutsk ไปยังเกาะ Olkhon
รถบัสเป็นรถคันใหญ่ แต่ก็เบียดไม่ต่างจากรถตู้บ้านเรา
สังเกตจากผู้ชายคนที่ชัดที่สุดในภาพ ตรงนั้นเป็นทางเดินระหว่างเบาะ แต่เจ้าของรถบัสได้ต่อเติมเบาะเสริมขึ้นมา
ใครที่นั่งตรงเบาะเสริมก็จะเมื่อยหน่อย เพราะพนักพิง พิงได้แค่ครึ่งหลังเท่านั้น และต้องนั่งแบบนี้ไป 5 ชั่วโมง
ความพีคของการนั่งรถนี้ก็คือ คนจีนที่เป็นนักท่องเที่ยวหลักของที่นี่
จะมาพร้อมกับขนมนมเนย น้ำดื่มต่างๆ และพอกินเสร็จ ก็ทิ้งที่พื้น บางอย่างกินไม่หมดก็ทิ้งลงไปพร้อมกับน้ำดื่ม
คิดสภาพพื้นที่เละ กับ 5 ชั่วโมงที่ต้องเดินทางต่อไปด้วยรถคันนี้
ความฮาของนั่งท่องเที่ยวจีนยังไม่หมด เนื่องจากวันที่เดินทางมีหมอกและหิมะลงตลอดทาง
ทำให้กระจกรอบรถมัวไปด้วยฝ้า มองไม่เห็นวิวทิวทัศน์นอกหน้าต่าง
สิ่งที่นักท่องเที่ยวจีนทำคือ แกะฟิล์ม!!!!!! ที่กระจกออก เป็นรูใหญ่พอที่จะมองเห็นข้างนอกได้
ไม่ใช่แค่หน้าต่างด้านเดียว แต่ทุกด้านที่มีคนจีนนั่งอยู่ เรียกได้ว่า รอบคัน
รู้สึกสงสารเจ้าของรถขึ้นมาจับใจ ไม่รู้ว่าเขาจะรับรู้ชะตากรรมของรถเขาแล้วหรือยัง
คนขับรถใจดี จอดแวะข้างทางให้เราลงไปถ่ายรูปกับทะเลสาบไบคาล
และนักท่องเที่ยวที่ตื่นเต้นกับการเห็นทะเลสาบผืนใหญ่แข็งตัว รวมถึงพวกเราก็รีบวิ่งแจ้นฝ่าความหนาว -28 องศาไปถ่ายรูปกัน
พอถึงที่พัก Nikita เราก็จัดแจงวางของไว้ในห้อง แล้วออกสำรวจเมืองที่นี่กัน
จุดหมายของเราคือ โบสถ์ของเมืองนี้ และหาซื้อของใน Supermarket เพื่อตุนเป็นเสบียงคืนนี้และวันพรุ่งนี้
ดูเหมือนว่า เมืองนี้จะกลายเป็นเมืองร้างไปทันที
เคยดูตามสารคดีว่า คนที่นี่แทบจะหยุดงานในช่วงฤดูหนาว เนื่องจากอากาศที่นี่หนาวทรมานมาก เกินกว่าจะออกไปทำงานใดๆ
ร้างจริงๆ
วันต่อมา เราออกเดินทางไปยังส่วนเหนือของเกาะ Olkhon ก่อน
เนื่องจากเรามีเวลาเที่ยวที่เกาะนี้เพียง 2 วัน และวันที่สอง เราต้องกลับเมือง Irkutsk ทันที
เราจึงวางแผนว่า เราจะเที่ยวส่วนใต้ในวันที่สอง และเมื่อเที่ยวเสร็จ เราจะนั่งรถกลับทันที ไม่กลับเข้ามาใน khuzhir แล้ว
สำหรับใครที่มีเวลาเที่ยวสองวันแบบพวกเรา สามารถทำได้ดังนี้
วันที่ 1 เที่ยว North Olkhon ก่อน
วันที่ 2 แพคกระเป๋าสัมภาระทั้งหมด ขึ้นรถที่จะพาเราไปเที่ยว South Olkhon เมื่อเที่ยวเสร็จก็ให้ต่อรถที่จะกลับ Irkutsk ตรง Pier เลย (ติดต่อรถไว้ก่อน)
ทำแบบนี้จะสามารถเที่ยวเกาะได้ทั่วในเวลาสองวัน และค่าใช้จ่ายก็จะถูกลงด้วย
ตอนนี้กำลังออกจากเมือง
สองข้างทางเต็มไปด้วยหิมะและหญ้าสีเหลือง
สำหรับวิวในฝั่ง North นั้น เส้นทางจะปกคลุมด้วยหิมะ คนขับของเราพาลุยเข้าไปในอุทยานที่เต็มไปด้วยต้นสนมากมาย
และจะแวะให้เราประมาณ 4 - 5 จุด ตามจุดสำคัญๆ
จุดแรกที่เราแวะ ไม่รู้เรียกว่าอะไร (เพราะไม่มีไกด์เลยไม่รู้อะไรสักอย่าง ฮาาา)
เป็นเหมือนบ้านเก่าที่พังลง เหลือเพียงประตูกับเศษไม้
ไม่แน่ใจว่าคนขับต้องการให้เรามาเที่ยวอะไร แต่เราก็เดินลงทะเลสาบ และเดินไปอย่างไกล
สิ่งที่เราคาดหวังคือ น้ำแข็งใสๆ ที่สะท้อนกับแสงแดด
แต่ความเป็นจริงคือ
เป็นเพียงน้ำแข็งที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ ที่เราพยายามปัดหิมะออก เพื่อลองมองลงไปด้านล่าง
แต่ก็ไม่เห็นอะไร วันนี้ก็เลยรู้สึกว่า เราถูกรูปในรีวิวต่างๆ หลอกลวงหรือเปล่านะ
จุดต่อไปที่เราจะไปคือ Khoboy cape ไฮไลท์ของเกาะเหนือ
เป็นแหลมที่ยื่นออกไปในทะเลสาบไบคาล สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของทะเลสาบได้ 360 องศา
แต่ผมว่า สองข้างทางของเกาะเหนือ มันก็สวยงามเช่นกัน
ข้างทางจะเปลี่ยนไปตลอดเวลา จากต้นสนมากมาย กลายเป็นหิมะ
จากหิมะกลายเป็นหญ้าสีเหลือง เต็มภูเขา ให้ความรู้สึกว่าเราจะได้เจอสิ่งแปลกใหม่อยู่ตลอดเวลา
รถ UAZ มาจอดตรง Khoboy cape (จอดซะไกลเลย)
ให้เราเดินไปที่ cape เกือบ 1 กิโลเมตร
แหลม Khoboy อยู่ตรงนั้น
ต้องค่อยๆ บุกป่าฝ่าดงเข้าไป (ถ้าช่วงไม่มีหิมะ มีทางเดินที่ง่ายกว่านี้)
อยู่ลิบๆนู่น ระหว่างทางจะมีแผ่นไม้ปูเป็นจุดชมวิว ทีละขั้นๆ ทำให้เดินง่ายขึ้นในช่วงที่มีหิมะปกคลุมหนาอย่างนี้
ในที่สุดก็ไปถึงจุดปลายสุดของ Khaboy cape
เก็บภาพประทับใจกันนิดนึง
ภาพ Panorama ของ Khaboy cape
หลังจากนั้นคนขับก็พาเราไปเที่ยวอีก 2 - 3 จุด บรรยากาศส่วนใหญ่ก็คล้ายๆ กัน
ก่อนที่จะพาเรากลับไปยัง Khuzhir
เส้นทางก็ยังคงสวยงามเหมือนเดิม
พอกลับมาถึงประมาณบ่าย 3 กว่าๆ ก็นั่งพักเอาแรง ก่อนจะออกไปที่ Shaman Rock กัน
จุดนี้ถือเป็นที่เที่ยวที่ห้ามพลาด เมื่อมาเที่ยวที่เกาะ Olkhon
นักท่องเที่ยวหลายคนเตรียมกล้องและขาตั้งมากันเพียบ เพื่อรอเก็บแสง Twilight ตั้งแต่ 3-4 โมง
ส่วนพวกเราก็ถ่ายรูปเล่นกันไป
ตอนเย็นของวันนี้ ฟ้าเปิด ทำให้เห็นท้องฟ้าตอนพระอาทิตย์กำลังตก สีสันสวยงาม
เห็นคู่รักกำลังยืนคุยกันบนเขา เลยไม่พลาดที่จะเก็บภาพนี้มาฝาก
การเที่ยว North Olkhon วันนี้ก็หมดลง
เดี๋ยวมาต่อตอนที่ 2 เที่ยวฝั่ง South Olkhon กัน ในกระทู้หน้า
ติดตามเราไปเที่ยว หรือข้อมูลท่องเที่ยวสถานที่ต่างๆ ได้เลย
https://www.facebook.com/parttimetravellers