“โหดสัสรัสเซีย” มันยาก แต่มันเยี่ยม!   

“ไซบีเรีย” คือเพชรเม็ดงามของรัสเซีย กินพื้นที่กว่า 40% ของสหพันธรัฐรัสเซีย  ภูมิประเทศกว้างใหญ่ไพศาล  กินอาณาเขตเหยียดตรงจากเทือกเขาอูราล (Urals Mountain Range) ไปจรดมหาสมุทรแปซิฟิก (Pacific Ocean)   แต่ด้วยความหนาวเย็นและแห้งแล้งกันดารในอดีต  จึงไม่ค่อยมีประชากรอาศัยอยู่มากนัก  ทราบมาว่า สมัยก่อนถูกครอบครองด้วยชนเผ่าเร่ร่อนหลายกลุ่ม  กระจัดกระจายกันดำรงชีพ  ยุคหนึ่งเคยถูกชนเผ่ามองโกลเข้ายึดครอง ต่อมาเมื่อมองโกลอ่อนอำนาจลง กองทัพรัสเซียก็เริ่มเข้ามาสร้างป้อมปราการ  ตีอาณาเขตจักรวรรดิตัวเองชัดเจนขึ้น  เมืองหลายเมืองได้ถูกสร้างขึ้น  หลังจากนั้นความเจริญก็ค่อยๆแผ่ขยายไปจนถึงคาบสมุทรแปซิฟิก

จุดเปลี่ยนแปลงสำคัญของไซบีเรีย  คือการสร้างทางรถไฟสายทรานไซบีเรียขึ้น  ในสมัยพระเจ้าซาร์นิโคลัสที่สอง (ปีคศ 1891-1905)  ได้เชื่อมโยงดินแดนรัสเซียตะวันออกและรัสเซียตะวันตกเข้าด้วยกัน  พลเมืองเริ่มโยกย้ายเข้ามาตั้งถิ่นฐานกันหนาแน่นขึ้น  และด้วยความสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติในเขตนี้  ดินแดนไซบีเรียจึงได้รับการพัฒนาต่อเนื่อง  จนขึ้นแท่นเขตเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมสำคัญลำดับต้นๆของประเทศในปัจจุบัน

ความงดงามของภูมิทัศน์ไซบีเรียสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกได้ไม่น้อย   “ฤดูหนาวแห่งไซบีเรีย” คือหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ที่คุณควรหาโอกาสไปสัมผัส...สักครั้งในชีวิต  เพราะมันเป็นประสบการณ์ “ที่สุด_สัสๆ” จัดว่าเด็ด  ในหลายเรื่องหลายมุมมองที่ได้พบเจอ  

โดยเฉพาะที่นี่..จุดเซ็คอินที่ชื่อว่า “ทะเลสาบไบคาล” (Baikal Lake, หนึ่งในมรดกโลก) ....

  

....   ....  ....  .....  ....  .... .....

“หนาวสัสรัสเซีย”  ประโยคเผ็ดๆ ที่จะแล่นปร๊าดเข้ามาในหัว  ทันทีที่ฝ่าเท้าคุณย่ำลงบนพื้นน้ำแข็งหนาเกือบ1.5 เมตรของทะเลสาปไบคาล 

 เบื้องหน้าคือภาพแผ่นพื้นน้ำแข็งขนาดใหญ่ยักษ์  ปกคลุมไปด้วยหิมะขาวโพลน  กว้างไกลสุดลูกหูลูกตา  เหมือนแผ่นแป้งโรตีสีขาวบริสุทธิ์  ที่ธรรมชาติค่อยๆสะบัดตีวงให้แผ่ขยายใหญ่ขึ้น กว้างขึ้น ไกลขึ้น จนไปบรรจบกับขอบฟ้า ณ ที่ใดสักแห่ง  ยิ่งมีลมไซบีเรียตีปะทะใบหน้าด้วยแล้ว  อรรถรสความหนาวสัสรัสเซียยิ่งเข้มข้นในความรู้สึก  ติดลบเพิ่มขึ้นอีกหลายดีกรี ( ก็แค่ -40 องศาเอ๊งงง ) 

.....

ทะเลสาบไบคาล ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของไซบีเรีย  ใกล้กับประเทศมองโกเลีย  เป็นทะเลสาบน้ำจืดที่ลึกและเก่าแก่ที่สุดในโลก  จุดลึกสุดมีความลึกกว่า1,640 เมตร   ร่องทะเลสาบคือเปลือกโลกที่แตกออกจากกันเมื่อ 25 ล้านปีที่แล้ว  และมีน้ำไหลล้นเอ่อเข้ามาจนเต็ม  ทะเลสาบมีความยาวประมาณ 650 กิโลเมตร  กว้างโดยเฉลี่ย 50 กิโลเมตร  ผืนทะเลสาบจะเปลี่ยนเป็นผืนน้ำแข็งขนาดมหึมาเมื่อฤดูหนาวมาเยือน (ประมาณเดือนธันวาคมถึงมีนาคมของทุกปี)  แผ่นน้ำแข็งหนาหนักที่ปกคลุมทะเลสาบ  ทำหน้าที่เสมือนถนนคอนกรีตชั่วคราว  เชื่อมแผ่นดินใหญ่กับเมืองท่องเที่ยวเล็กๆบนเกาะโอคอล (Olkhon Island) เข้าด้วยกัน  ให้รถราได้สัญจรผ่านไปมา นับร้อยครั้งต่อวัน 

  ***** การเดินทางมาเยือนทะเลสาบไบคาลนั้นแสนง่าย  สามารถบินตรงจากสุวรรณภูมิ  มุ่งสู่เมืองอีร์คุต (Irkutsk)  โดยสายการบิน S7 (มีสายการบินเดียว)  สามารถติดต่อทัวร์เอเจนซี่ได้จากเมืองไทย   มีหลายรายให้เลือกผ่านโลกโซเซียล  มีทั้งทีมไทยและไกด์ท้องถิ่น  คุยตกลงซื้อเพจเกจได้ตามต้องการ  เพจเกจเที่ยวมีหลายโปรแกรม  ขึ้นอยู่กับเวลา และความตุงกระเป๋าตังค์

ค่าครองชีพที่นี่ก็ถูกสัสรัสเซีย  ส่วนใหญ่จะเกิดอาการหน้ามืด ตอนจ่ายค่าอุปกรณ์กันหนาว มากกว่าตอนจ่ายค่าทัวร์ 

.......

เมืองอีร์คุต  ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเกาะโอคอล  เดินทางจากเมืองไปเกาะ  ใช้เวลาขับรถประมาณ 4 ชั่วโมง และประมาณ 6 ชั่วโมงโดยรถบัสสาธารณะ  ตั้งชื่อเมืองตามแม่น้ำอีร์คุตที่ไหลผ่าน   ช่วงปีคศ 1825 ในสงครามกบฏ Decembrist กับพระเจ้าซาร์นิโคลัสที่1  นักคิดนักเขียนชาวรัสเซียหลายคนถูกเนรเทศมาที่นี่  จึงทำให้อีร์คุตกลายเป็นเมืองศูนย์กลางของอารยะธรรมที่หลากหลาย  สามารถเห็นได้จากสถาปัตยกรรมอันวิจิตรงดงามของมหาวิหาร โบสถ์ ตึกไม้เก่า และพิพิธภัณฑ์ที่กระจายตัวอยู่ทั่วเมือง 

อีร์คุตเป็นเมืองที่มีแม่น้ำไหลผ่านหลายสาย  ก่อนไปรวมตัวกันกับทะเลสาบไบคาล  “แม่น้ำแองการ่า” (Angara River) คือแม่น้ำสายหลักที่ตัดผ่านตัวเมือง  ทัศนีย์ภาพ และบรยากาศสองฝากสายน้ำในช่วงวินเตอร์  มีความสวยงามอย่างน่าอัศจจรย์  ประหนึ่งภาพวาดจากเทพนิยาย ทุกสิ่งฉ่ำไปด้วยปุยหิมะ  หมอกขาวคลุ้งปกคลุมป่าและสายน้ำ  ชวนให้เพ้อสัสรัสเซีย  จงต้องขอโหวตให้เป็นสายน้ำสุดโรแมติกสวีทหวาน  ที่คู่รักควรมายืนกุมมือ  ปล่อยใจละลายไปตามสายน้ำ  แต่ความขลังของบรรยากาศ  อยู่เพียงชั่วฤดูหนาวผ่านเท่านั้น  มันคือช่วงเวลาของความ “อัศจรรย์สัสรัสเซีย” อย่างแท้ทรู

อันที่จริง ฤดูท่องเที่ยวของไบคาลคือช่วงฤดูร้อน  นักท่องเที่ยวโดยทั่วไป  เลือกที่จะเพลิดเพลินกับสายลมแสงแดด  ล่องเรือตกปลาในทะเลสาบ  มากกว่าจะมาเดินเป็น 'เพนกวิน' แช่แข็ง ที่อุณหภูมิติดลบกว่าสามสิบองศา  คงเป็นเพราะเสียงล่ำเสียงลือในความ "สุดสัสรัสเซีย" กระมัง  ที่เรียกให้นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกมาเยือนที่นี่ ไม่ขาดสายในแต่ละปี

สำหรับพวกเรา... ในวันแรก..กับความรู้สึกแรก  ที่เท้าบรรจงเหยียบลงบนพื้นน้ำแข็งทะเลสาบ  เส้นเลือดจากปลายเท้ามันสูบฉีดย้อนศรไปถึงหัวใจ  ทั้งตื่นเต้น ทั้งประหม่า กล้าๆกลัวๆ เก้กังสองขาไปหมด  มารู้ตัวอีกที..ก็ทิ้งตัวไถลเล่นสนุกบนลานสเก๊คน้ำแข็งซะแล้ว  ไกด์บอกว่า.. นี่คืออาการปกติของทุกคน ที่มาเหยียบผืนทะเลสาบไบคาลเป็นครั้งแรก  จัดว่า 'ฟินสัสรัสเซีย' กันไป 

 

***

อารมณ์ฟินยังไม่ทันจางหาย  คนขับรถก็มีเซอร์ไพส์ตามมา  โชว์ความเก๋าด้วยการดริ๊ฟต์รถ UAZ (Russia Military Jeep) บนผืนน้ำแข็งซะหลายรอบ  รถลื่นไหลท้ายปัด  ตามแรงบังคับพวงมาลัยและความช่ำชอง  รู้สึกเหมือนมีผึ้งร้อยตัวบินหวี่อยู่ในท้อง  เสียงกรี๊ดร้องของทุกคนในรถ  สร้างความขบขันให้คนขับและไกด์ได้มากทีเดียว  โชว์สกิลแต่ไม่ปรึกษากันก่อนแบบนี้   อยากจะถามเป็นภาษารัสเซียกลับว่า.. จุดเกรงใจคืออะไร!

ทุกคนหัวเราะสนุกสนาน  แต่ก็แอบ.. มึนสัสรัสเซีย!!