ฟ้าลิขิต...(Intern แห่งสยามประเทศ)...Ep.2 โดเรม่อน ช่วยด้วย!

ฟ้าลิขิต (Intern แห่งสยามประเทศ)…นามปากกา "บุญรอด”

บทที่ 2 โดเรมอน ช่วยด้วย!

พอได้ยินเสียงของพ่อเฒ่าเหม ชายหนุ่มก็ตกตื่นตะลึงงึงงันรีบกระดกเด้งตัวลุกนั่งเหลียวมองไปรอบๆ จากนั้นก็หยุดสายตาอยู่ที่เสื้อ ผ้า หน้า ผม ของเหล่าชายหญิงที่กำลังห้อมล้อมตัวเขาอยู่ สีหน้าแสดงความงงงวยยิ่งขึ้นกว่าเดิม พูดตะกุกตะกักออกมาว่า “พวกคุณ…พวกคุณ? ผม…ผม…”

เพราะเหตุใดเขาถึงมีสีหน้าเช่นนั้นหรือ แท้ที่จริงแล้วพ่อนายแสนฤทธิ์คนนี้ไม่ใช่แสนฤทธิ์คนเดิมคนนั้น คนผู้นี้แต่เดิมทีเขามีชื่อว่า ฤทธิกร นักเรียนแพทย์ชั้นปีสุดท้ายหรือที่เรียกว่า Extern  ที่คณะแพทย์ศาสตร์ของมหาวิทยาลัยมีชื่อเสียงแห่งหนึ่งในยุคปัคปัจจุบัน วันนี้เป็นวันประกาศผลสอบประมวลความรู้ทั้งหมด (Comprehensive test) ของชีวิตการเป็นนักเรียนแพทย์แห่งนี้ เพราะหลังจากวันนี้เป้นต้นไปเขาก็จะจบการศึกษาและกำลังจะออกไปรับใช้สังคมในสถานะแพทย์เวชปฏิบัติ หรือที่พวกเราเรียกกันง่ายๆคือ แพทย์ใช้ทุน หรือศัพท์ทางเทคนิคเรียกว่า Intern

หลังจากฟังประกาศผลสอบ Compre. ที่คณะเสร็จพร้อมกับข่าวดีของเขา คือ เขาสามารถสอบผ่านฉลุย เตรียมพร้อมสำหรับจะสร้างความฝันที่จะได้ไปรับใช้สังคมในฐานะ นายแพทย์ ในอีกไม่กี่เดือน ช่วงนี้ก็คงรอเพียงเรื่องอนุมัติจบการศึกษาจากทางคณะแพทย์ศาสตร์ และรออนุมัติใบประกอบวิชาศิลปะ และรอไปรายงานตัวจับฉลากเลือกลงพื้นที่สำหรับการไปใช้ทุนเป็น Intern ในต่างจังหวัดซึ่งคาดว่าคงรอไม่นานเกิน 2 เดือน เขาดีใจเป็นลิงโลดรีบโทรกลับไปแจ้งข่าวดีให้กับทุกคนทางบ้านได้ร่วมยินดี

เขาขับมอเตอร์ไซด์หมายมุ่งจะกลับหอพัก ซึ่งระยะทางจากคณะไปยังหอพักก็ห่างไกลกันประมาณกิโลเมตรเศษ แต่ระหว่างทางก็เกิดเหตุไม่คาดฝัน ที่จู่ๆก็มีเมฒดำทะมึนก้อนไม่ใหญ่มากทอดตัวปกคลุมบนท้องฟ้าตลอดระยะทางที่เขาขับรถผ่าน ชั่วขณะเดียวไม่คาดคิดว่ามีแสงสว่างวาบหนึ่งพวยพุ่งลงมาจากท้องฟ้า ไร้สุ้มเสียง ใดๆ แสงวาบนั้นฟาดลงมายังที่เขาจนเป็นเหตุให้เขาหมดสติล้มลงทันที

พอตื่นขึ้นมาก็พบว่าตัวเองนอนอยู่ในสวนดอกไม้ ถูกรายล้อมด้วยเหล่าชายหญิงที่สวมเสื้อผ้าสมัยโบราณกลุ่มหนึ่งที่จ้องมองเขาเสมือนเขาทำอะไรผิดหรือเป็นตัวประหลาดอะไรสักอย่าง ในสมองของเขาพลันปรากฏบรรดาคำศัพท์ต่างๆที่เขยาขวัญทั้งน่าตื่นเต้นอัศจรรย์ใจขึ้นมาทันที

ย้อนยุค? อุโมงค์เวลา? ไทม์แมชชีน? ทฤษฎีสัมพันธภาพ ของไอน์สไตน์? เอกภพคู่ขนาน? หรือเดินผ่านกาลเวลา? หรือกำลังตื่นขึ้นมาท่ามกลางกองถ่ายทำละครพีเรียตอย่างเรื่อง นางทาส? สายโลหิต? บุพเพสันนิวาส? อย่างนั้นหรือ ช่างน่าประหลาดจริงๆ

ถ้าเขาทะลุทะลวงผ่านประตูหรืออุโมงค์แห่งกาลเวลามาได้จริงๆ อย่างนั้นเขาก็ควรจะมาในสภาพที่ยังคงสวมใส่ชุดเสื้อกราวน์สั้น ยูนิฟอร์มของ Extern ของยุคปัจจุบันซึ่งเป้นชุดล่าสุดที่เขาสวมใส่อยู่นี่นา แล้วทำไมถึงกลายมาเป้นเสื้อผ้าชุกโบราณ เสื้อแขนกระบอกยาวและผ้านุ่งโจงกระเบนในสภาพที่หลุดหลุ่ยได้ล่ะ?

ดูตามรูปการแล้วคนพวกนี้ต่างก็รู้จักเขาเป้นอย่างดี อีกทั้งความสัมพันธ์ก็ดูเหมือนจะไม่เลว ชายชราที่คุกเข่าอยู่ด้านข้างเขายังเรียกขานสรรพนามของเขาว่า พ่อนายอะไรนั่นอีก นี่เขาถึงกลับเป้นคนในตระกูลร่ำรวยเชียวหรือนี่? มันช่างเป็นห้วงความคิดที่แสนจะสับสนว่าควรจะดีใจหรือเสียใจดี

ผู้คนเหล่านี้รู้จักเขาได้อย่างไรกัน หน้าตาของเขาคงจะเหมือนพ่อนายของพวกเขามากขนาดนั้นเชียวหรือ ถ้าไม่ใช่ขนาดนั้นก็อาจจะเป็นไปได้ว่าเขาอาจจะวิญญาณออกจากร่างเดิมแล้วมาสิงร่างใหม่คืนชีพขึ้นมาอีกครั้ง อย่างนั้นหรือนี่?
สิงร่าง? เมื่อครู่นี้ชายชราบอกว่านึกว่าเขาได้ตายไปแล้ว อย่างนั้นก็เป้นไปได้มากว่าที่แท้จริงแล้วเขาได้ตายไปแล้ว ต่อมาวิญญาณหลุดลอยมาอาศัยสิงร่างพ่อนายคนนี้ฟื้นคินชีพขึ้นมาอีก…อา! นี่เขาจะกลายเป็นผีดิบหรือซอมบี้?

ห้วงความคิดของเขาในตอนนั้นล้วนคิดไปต่างๆนานา แต่ว่าในดลกนี้จะมีผีสางที่ไหนกันเหล่า? ถ้ามีจริงป่านนี้เขาจะได้เห็นหรือสัมผัสได้แล้ว เพราะตลอดชีวิตของการเป็นนักเรียนแพทย์ของเขาล้วนใช้ชีวิตอยู่ในโรงพยาบาลที่มีทั้งการเกิด แก่ เจ็บ ตาย ตลอดทุกวัน เขาจึงไม่ค่อยที่จะเชื่อเรืองนี้เท่าไร

ในเมื่อไม่มีภูตผีวิญญาณในความเชื่อของเขา แล้วอย่างนั้นเรื่องเขามันหมายความว่าอย่างไร? ข้ามมิติแห่งกาลเวลา? นี่เป้นเรื่องแปลกพิลึกน่าเหลือเชื่อจริงๆ! ใช่แล้วดูเหมือนเขาจะนึกได้ว่าเขาเคยดูหนังไซไฟ ฮอลลีวู๊ดเรื่อง Back to the future ที่พูดถึงการเดินทางโดยไทม์แมชชีนผ่านกาลเวลามายังช่วงเวลาใดเวลาหนึ่งในอดีต หรือว่าตัวเขากำลังเป้นเช่นนั้นหรือนี่?

ห้วงความคิดของเขาคิดไปเรื่อยไม่มีหยุดนิ่ง จนมาฉุกคิดถึงการ์ตูนญี่ปุ่นยอดฮิตเรื่อง โดเรมอน เขานึกถึงไทม์แมชชีนของโดเรมอนขึ้นมาทันที หรือว่าโดเรมอน พาเขามานั่งไทม์แมชชีนแทน สลับผิดตัวกับโนบิตะกันนะ? นึกไปเรื่อยเปื่อยเช่นนี้แล้ว เขาอยากให้โดเรมอนตัวตัวตนจริงๆเสียแล้วซิ เผื่อโดเรมอนจะใจดีพาเขานั่งไทม์แมชชีกลับไปยังโลกปัจจุบันของเขา…นึกอะไรไม่ออกบอกอะไรไม่ถูก เขาถึงกับอุทานออกมาว่า “โดเรมอน ช่วยด้วย!” ที่เขาร้องอุทานออกมาเช่นนั้นเพื่อต้องการระบายความอัดอั้น สับสนในใจขณะออกมานั่นเอง

ทุกคนในที่เกิดเหตุนั้นล้วนหันขวับมามองเขาด้วยความประหลาดใจ “หา! พ่อนายว่ากระไร? พ่อนายอยากได้หมอนหรือขอรับ? พ่อเฒ่าเหมทำหน้างุนงง ที่จู่ๆก็ได้ยินเขาเรียกอะไร ม่อนๆหมอนๆ แบบไม่ชัดและไม่เคยได้ยินมาก่อน
เขารีบดึงสติกลับมาทันที แล้วตอบกลับชายชราไปว่า “เปล่าๆครับ แค่ผมมึนๆหัวนิดหน่อย”

“หรือว่าพ่อนายจะรับชาใบหม่อนอุ่นๆมาจิบให้กระชุ่มกระชวย ให้คลายอาการมึนหัว ดีไหมขอรับ เดี่ยวบ่าวจะได้รีบแจ้งให้พวกบ่าวคนใช้ไปนำมา”เขาโบ้ยมือเชิงปฏิเสธบอกว่า ไม่เป็นไร ไม่อยากรับอะไรใดๆในตอนนี้จะทั้งหมอน หรือ ชาใบหม่อน ก็ตาม

คนผู้นี้คาดเดาได้ถูกต้องเกือบทั้งหมด ที่แท้ตอนที่เกิดเหตุช่วงที่เขาขับมอเตอร์ไซด์อยู่นั้น ก็มีกลุ่มเมฆประหลาดก่อตัวขึ้นมา กลุ่มเมฆที่ดำทะมึนมีแสงสว่างวาบหนึ่งไร้สุ้มเสียง แล้วปลดปล่อยพลังงานสายหนึ่งพุ่งชนประทะเขาจนกระเด้งกระดอนตกจากรถมอเตอร์ไซด์ ร่างของเขากระแทกพื้นหมดสติไป ณ ใจกลางพลังงานสายนั้น ที่อุบัติเป็นอุโมงค์แห่งกาลเวลา ดูดเอาคลื่นสมองของเขาให่มาสถิตแทนร่างของพ่อนายแสนฤทธิ์ ที่มีตัวตนอยู่ในอดีต ซึ่งจะเสียชีวิตอย่างกะทันหันจากการเล่นจ้ำจี้จู๋จี๋กันจนเกินขนาดกำลัง

พูดได้ว่าร่างกายภายนอกของ แสนฤทธิ์ ที่มีตัวตนอยูในอดีตผู้นี้ยังคงปกติเช่นเดิม แต่คลื่นสมองได้ถูกสับเปลี่ยนกับคลื่นสมองของเขาแล้ว นี่จึงไม่ใช่การเดินทางผ่านมิติกาลเวลาที่ครบถ้วนสมบูรณ์ ถ้าจะกล่าวให้ถูกต้องเหมาะสมก็ควรจะบอกว่า คลื่นสมองของเขาได้เดินทางผ่านกาลเวลามาถึงอดีตจากนั้นก็แลกเปลี่ยนกับคลื่นสมองของพ่อนายแสนฤทธิ์ ที่เกิดเหตุประหลาดนี้ในช่วงเวลาพร้อมๆกันนั่นเอง

ต่อให้เขาขบคิดจนศีรษะแทบจะระเบิดก็ไม่มีทางคิดออกว่าที่แท้จริงแล้วมันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับเขากันแน่ เขาคงได้แต่คิดว่าไหนๆก็ไหนๆแล้ว ตกกะรไดพลอยโจนไปเลย

ท่านขุนเรืองทรัพย์มองดูเขยของตัวเองอย่างแปลกใจ แล้วถามว่า “พ่อแสน เจ้าไม่เป็นอะไรจริงๆแล้วใช่ไหม? ต้องให้บ่าวไพร่ไปตามหมอยามาตรวจดูหน่อยไหม?”

แสนฤทธิ์ ยังอยู่ในภวังค์มึนงงไม่รู้ว่าควรจะทำอะไรอย่างไรดี รีบตัดสินใจกระดกตัวลุกขึ้นยืน พอมองเห็นเสื้อผ้าที่ไม่เรียบร้อยบนร่าง ใบหน้าก็ได้แต่ยิ้มแหยะๆด้วยความประหลาดใจ

สภาพจิตใจของเขายังคงถูกความตื่นตระหนกครอบงำจนตั้งตัวไม่ติด ในเวลาเช่นนี้เขาต้องรีบตั้งสติให้ได้เป้นลำดับแรก่กอน และคิดในใจว่าก่อนที่เรื่องราวยังไม่กระจ่างชัด เขาไม่ควรพูดสะเปะสะปะให้ผู้อื่นได้ยินได้ฟังถึงเรื่องที่เรื่องที่น่าอัศจรรย์อย่างน่าเหลือเชื่อนี้ได้ ไม่เช่นนั้นผู้คนคงเข้าใจผิดคิดว่าเขาคงเป้นเทวดาตกลงมาจากฟากฟ้า หรือเป็นพญานาคจำแลงแปลงมาจากป่าคำชะโนด หรือที่แย่ไปกว่านั้นคือคิดว่าเขาคงเป็นบ้า เสียสติเป็นแน่ๆ

เขาลุกยืนสลัดแขนขา ยืดเส้นยืดสานทีหนึ่ง สะบัดคอสองสามที แล้วเปรยยิ้มพูดออกมาว่า “ผม…เอ่อ…กระผมไม่เป็นไร” ถึงแม้จะกำลังยิ้มแต่ก็เป้นรอยยิ้มที่ดูเฝื่อนๆแห้งๆแฝงความวิตกกังวลต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเขาแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว
ท่านขุนเรืองทรัพย์ เห้นสีหน้าผิดปกติของแสนฤทธิ์ ยังเข้าใจไปว่าเป้นเหตุมาจากเรื่องฉาวโฉ่ คาวโลกีย์ บัดสีของเขาที่ได้ทำก่อนหน้านี้ คงยากที่จะแบกรับความอับอายเอาไว้ได้ พอเห็นเขาลุกขึ้นหันมองซ้ายมองขวา ร่างกายภายนอกไม่มีปัญหาอะไร ก็ยิ้มเล็กน้อยแล้วกล่าวอย่างโล่งใจว่า

“ไม่เป้นไรก็ดีแล้ว! พ่อเฒ่าเหม ลำดวน พวกเอ็งรีบพาพ่อนายกลับไปยังเรือน คอยดูแลรับใช้ให้จงดี ถ้าเกิดเรื่องขึ้นอีกครา ข้าจะลงโทษโบยหวายพวกแกให้หนัก!” ท่านขุนก็รู้ดีว่าเขยขวัญของตนชอชอบก่อเรื่องที่ไม่ถูกทำนองคลองธรรมอยู่บ้าง ในใจคิดว่าว่ากล่าวสั่งสอนสักสองสามประโยค แต่วันนี้เป้นวันสิริมงคล พูดมากไปคงจะไม่ดี หวังเพียงแต่ว่าภายหลังเขาตบแต่งมีเหย้ามีเรือนแล้วคงจะเป็นใหญ่และรู้จักทำนองคลองธรรมมากขึ้น จากนั้นก็ได้แต่ร้อง “เฮอะ!” ออกมาพร้อมถอนหายใจเบาๆ จากนั้นค่อยหันร่างเดินจากไปพร้อมแม่นายหญิง
ลำดวนเปรยตามองแสนฤทธิ์อย่างไม่สบอารมณ์ กล่าวน้ำเสียงเย็นเยียบเรียบเฉยว่า “พ่อนาย กลับเข้าห้องหอเถอะเจ้าค่ะ” เขายังคงมองดูสรรพสิ่งต่างๆรอบๆ ไม่ได้ใส่ใจต่อคำพูดของนาง ลำดวนจึงตะเบ็งเสียงให้ดังชัดเจนขึ้นว่า “นี่! พ่อนายแสนฤทธิ์ ตกลงท่านจะไปห้องหอหรือไม่?”

แสนฤทธิ์? ตกลงเขาชื่อแสนฤทธิ์หรือนี่? อย่างนั้นชื่อเดิม ฤทธิกร ก็ใช้ไม่ได้ในยุคนี้ละสิ? ชื่อแสนฤทธิ์ นี้ก็ไม่เลวนะ ยังพอกล้อมแกล้มแถมยังคงมีคำว่า ฤทธิ์ ที่แม่ตั้งให้มาอยู่เช่นเดิม ในเมื่ออยู่ในร่างของคนผู้นี้ แถมอยู่ในบ้านของเขาอีก หลังจากนี้เขาก็บอกตัวเองว่าจะใช้ชื่อนี้ไปเลยแล้วกัน

แสนฤทธิ์ ถามลำดวนอย่างไม่รู้เหนือรู้ใต้ว่า “ไป…ไปที่หนล่ะ?” ลำดวนตวัดตามองค้อนมาทีหนึ่ง “ห้องหอ สิเจ้าค่ รู้อยู่แก่ใจยังจะมาแกล้งถามอีก!”
“ห้องหอ?” แสนฤทธิ์ทั้งประหลาดใจระคนดีใจที่จู่ๆฟื้นขึ้นมาก็มีข่าวดี เหมือนคำกล่าวที่ว่าในวิกฤติย่อมมีโอกาส ในคราวเคราะห์ยังมีบุญพาวาสนาส่ง พอย้อนอดีตมาได้ก็ได้เข้าห้องหอพอดี

ฮ่าๆ สะใจดีแท้ เขาเพ่งมองบ่าวหญิงสวยสะคราญ ผิวผ่องนวล เอวบางอรชรอ้อนแอ้นนางนี้ แล้วรีบถามนางว่า “เข้าร่วมห้องหอกับใคร? ใช่เราสองคนไหม?”
ลำดวนถลึงตามองแรงอย่างเขม๊งดุดัน “ฝันไปเถอะ! ปากไม่มีหูรูด! ยังจะมาคิดแต่เรื่องบัดสีอีก ถ้ายังไม่ไป ข้าจะไปก่อนนะ”

“ไป ไป!” แสนฤทธิ์รับรับคำแล้วเดินตามนางไป จนมาถึงธรณีประตูทางเข้าห้องหอ แสนฤทธิ์รู้สึกเต้มไปด้วยความตื่นเต้นและแปลกใจ ในใจครุ่นคิดว่า นี่คงจะเป็นเรือนหอที่หลายคนพูดถึงสินะ…แล้วเจ้าสาวของเขาคือใคร?
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่