ในละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส มีตัวละครอยู่ 1 คน ที่คนส่วนใหญ่ไม่ชอบ

เพราะเหมือนจะไม่ซื่อสัตย์กับพระเจ้าแผ่นดินคือ พระนารายณ์ ฯ และบั้นปลายคนผู้นี้ได้ทำรัฐประหาร

ล้มราชวงค์ปราสาททอง ก่อตั้งราชวงค์ใหม่คือ ราชวงค์บ้านพลูหลวง

สามัญชนที่มีวาสนาได้ครองแผ่นดินกรุงศรีอยุธยา ปราบดาภิเษกเป็นพระเจ้าแผ่นดินลำดับที่ ๒๘ ของกรุงศรีอยุธยา

และเป็นปฐมกษัตริย์ราชวงค์ บ้านพลูหลวง พระองค์นี้คือ  พระเพทราชา



หนังสือประวัติศาสตร์ในยุคสมัยก่อน มักจะประนาม พระเพทราชา ว่าเป็นกบฎแย่งชิงราชบัลลังก์

ทำการหยาบช้าต่อองค์พระมหากษัตริย์ หนำซ้ำยังเข่นฆ่าขุนนางฝ่ายตรงข้ามมากมาย

แถมยังทำเสน่ห์ให้พระธิดาของ พระนารายณ์ คือ กรมหลวงโยธาเทพ หลงไหลอีก เรียกว่า

เป็นกษัตริย์ที่มีภาพติดลบในสายตานักประวัติศาสตร์ไทย ทำให้คนรุ่นหลังพลอยเกลียด พระเพทราชา ไปด้วย




ในช่วงปลายสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช  ช้างเผือกในรัชกาลพระองค์คือ

เจ้าพระยาเศวตกุญชรบรมคเชนทรฉัททันต์ ล้มลง  พระนารายณ์ ฯ โทมนัสถึงกับล้มป่วย

พระเพทราชา ได้เป็นผู้สำเร็จราชการแทน สถานการณ์บ้านเมืองตอนนั้นแบ่งเป็นก๊กเป็นเหล่า

แต่คนที่เป็นก้างขวางคอ พระเพทราชา กลับเป็นสมุหนายกชาวกรีก คอนสแตนติน ฟอลคอล



ฟอลคอน คนนี้เป็นคนโปรดของ พระนารายณ์ ฯ เจริญในหน้าที่การงานจนเป็นถึงสมุหนายก

แต่เมื่อมีอำนาจกลับคบคิดกับคนต่างชาติอย่าง ฝรั่งเศส วางแผนที่จะกลืนกรุงศรีอยุธยา

โดยแนะนำให้พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ส่งทหารมาควบคุมกรุงศรี และกล่อมให้ พระนารายณ์ ฯ

ยกสงขลาให้ฝรั่งเศส ซึ่งพระนารายณ์ก็ยอม แต่ฝรั่งเศสกลับต้องการมากกว่านั้นคือ

เอาเมืองบางกอก กับ มะริด แทน ทำให้ไทยจำใจต้องยอมเสียเมืองท่าสำคัญ 2 เมืองนี้ให้ ฝรั่งเศส



นอกจากเสียเมืองแล้ว ในด้านศาสนา ฝรั่งเศส โดยการสนับสนุนของ ฟอลคอน ก็พยายามให้

ศาสนาคริสต์ เข้ามามีบทบาทเหนือ ศาสนาพุทธ การโน้มน้าวให้ พระนารายณ์ ฯ หันมาเข้ารีตก็ดี

หรือการชักชวน พระปีย์ คนโปรดของ พระนารายณ์ หันมานับถือศาสนาคริสต์ได้

อีกทั้งยังทำการล่วงเกินพระสงฆ์สามเณรของไทย โดยการจับสึกบังคับให้ใช้แรงงาน


เหตุการณ์ต่างๆข้างต้น ทำให้ขั้วของ พระเพทราชา ซึ่งประกอบด้วย หลวงสรศักดิ์

พระสงฆ์องค์เจ้า ขุนนางที่รักชาติ รวมทั้งประชาชนทั่วไป ต่างหวาดระแวงกลัวว่า ไทยเราจะถูกต่างชาติมายึดครอง




[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ภาพประวัติศาสตร์

พระนารายณ์ที่ประทับในช่องสีหบัญชร กำลัง “น้อมพระวรกาย” ลงมารับพระราชสาส์นจากพานที่ เดอ โชมองต์ ถืออยู่

คอนสแตนติน ฟอลคอน (ในเวลานั้นยังเป็น ออกพระฤทธิกำแหงภักดี )  หมอบอยู่กับพื้นท้องพระโรง

กำลังเงยหน้าแล้วชี้มือไปที่พานคล้ายกำลังพูดอะไรบางอย่าง

บาทหลวงยืนอยู่ด้านหลังท่านราชทูตคือ บาทหลวงอับเบ เดอ ชัวซีย์

ถัดมาด้านซ้ายมือของท่านราชทูตคือ สังฆราชเมเตลโลโปลิส (หลุยส์ ลาโน)

เจ้าคณะมิสซังต่างประเทศประจำกรุงศรีอยุธยาองค์แรก (คนสยามเรียก พระธรรมสาคร)

ซึ่งเป็นล่ามแปลภาษาฝรั่งเศสเป็นโปรตุเกส แล้วให้ฟอลคอนแปลจากโปรตุเกสเป็นภาษาไทยอีกที

เครดิตเนื้อความใน spoil ได้มาจาก เฟสคุณ เดวิด บุญทวี



เมื่อ พระเพทราชา ได้เป็นผู้สำเร็จราชการแล้ว อำนาจชอบธรรมก็มาอยู่ในมือ จึงวางแผนที่จะกำจัด ฟอลคอน

เพราะตระหนักถึงภัยที่จะมาคุกคามชาติบ้านเมือง


วันที่ ๑๘ พฤษภาคม พ.ศ ๒๒๓๑ พระเภทราชา ได้นัดรวมพลที่ ตึกพระเจ้าเหา เพื่อทำรัฐประหาร

และออกคำสั่งเรียก ฟอลคอน มาเข้าเฝ้า เมื่อ ฟอลคอน เข้ามาในเขตวัง ทหารฝ่าย พระเพทราชา ก็กรูกัน

เข้าไปจับตัว ฟอลคอน ไว้ หลังจากนั้น หลวงสรศักดิ์ บุตรเลี้ยงของ พระเพทราชา ก็ไปสังหาร พระปีย์ อย่างโหดเหี้ยม


ตึกพระเจ้าเหา ในพระนารายณ์ราชนิเวศน์ ลพบุรี



เมื่อพระนารายณ์ ทรงรู้ว่าสองพ่อลูกก่อการกบฎ ก็ทรงกริ้ว แต่ก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว

ได้แต่สาบแช่งสองพ่อลูก และในที่สุดพระองค์ก็สวรรคตในวันที่ ๑๑ กรกฎาคม พ.ศ ๒๒๓๑

พระเพทราชา  จึงปราบดาภิเษกเป็นกษัตริย์องค์ต่อมา


คำถามสำหรับเพื่อนๆที่อ่านมาถึงตรงนี้ ท่านคิดว่า


๑ ถ้าพระเพทราชา ไม่ทำรัฐประหารคราวนั้น บ้านเมืองเราจะตกเป็นของต่างชาติหรือไม่ ?

๒ คอลสแตนติน ฟอลคอน ถ้าไม่ถูกปราบ จะได้เป็นกษัตริย์หรือไม่ ?

๓ สรุปท่านคิดว่า พระเพทราชา เป็นกบฎ หรือ วีรบุรุษ ?


ป.ล  ประวัติศาสตร์ไทยส่วนใหญ่ไม่ค่อยเคลียร์ แล้วแต่ข้อสันนิษฐานของแต่ละคน

จะหาข้อสรุปที่เป็นเอกฉันท์ มีไม่มาก ต้องใช้วิธีเทียบเคียงหลายๆหลักฐาน

ป.ล 2 เดือนพฤษภาคม ในหน้าประวัติศาสตร์ไทย ก็มีเหตุการณ์รัฐประหารและนองเลือดหลายครั้ง

ไม่แพ้เดือนตุลาคม