อาการทุกๆ วันของผมจะเป็นแบบนี้ครับ
-เวลาคนเรียกชื่อต้องเรียกสองครั้งขึ้นไปถึงจะได้ยิน
-ทำอะไรเชื่องช้าอยู่ทุกขณะ จนคนอื่นต้องมาเร่งว่า "เร็วๆ สิ"
-ง่วงนอนตลอดเวลา นอนเท่าไหร่ก็ไม่เคยพอ ตาจะปิดอยู่ทุกเมื่อ
-ก่อนจะพูดอะไรคำนึงไปต้องใช้เวลาคิดเยอะ
-แล้วเวลาพูดออกมาแต่ละคำ ก็ไม่เคยพูดแบบเป็นธรรมชาติสักครั้งเดียว
-เข้าใจคำพูดคนอื่นยาก ต้องถามอะไรนะอีกรอบบ่อยมาก
-เหม่อลอย คิดฟุ้งซ่านไปเรื่อยบ่อยมาก
-ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อตลอดเวลา
-เป็นคนไม่ค่อยมีความขี้สงสัย ไม่ชอบเรียนรู้อะไรใหม่
-แล้วถ้าได้ทำอะไรใหม่ๆ กับเค้า
-เช่น ได้มีโอกาศไปเที่ยวต่างประเทศครั้งแรก กลับไม่รู้สึกตื่นเต้น รู้สึกเฉยๆ มากกว่า
-ทั้งที่ควรจะน่าตื่นเต้นมากกว่านี้ กลับไม่รู้สึกรู้สา ต้องกระตุ้นให้ตัวเองตื่นเต้นตลอดเวลา เพราะเกรงใจคนที่ชวนมาเที่ยว
-ชวนคุยไม่เป็น ส่วนมากต้องให้คนอื่นเปิดคำถามก่อน ตัวเองถึงจะไหลไปต่อได้
-ชอบการอยู่บ้าน นอนเล่นเขี่ยโทรศัพท์บนเตียงมากๆ (ส่วนตัวรู้ว่ามันไม่ดี แต่ใจยังเสพติดสิ่งนี้อยู่)
-รวมถึงการช่วยตัวเอง ก็เคยเสพติด (ตอนนี้เลิกได้แล้ว)
-ในห้องเรียนจะฟังครูไม่รู้เรื่อง แม้จะพยายามฟังก็สมาธิหลุดบ่อยสักสองสามครั้งต่อชั่วโมงได้
-เข้าสังคมกับเค้าไม่เป็น ไม่ค่อยอยากคุยกับคนแปลกหน้า
-บางครั้งเดินไปหยิบของห้องครัว แต่รู้สึกตัวอีกทีก็เดินเข้าห้องนํ้าซะงั้น เหม่อจนเดินมั่ว
-ทำอะไรจะไม่นึกถึงคนอื่น แต่นึกถึงต้องเองก่อน เช่น กินข้าวกัน 5-6 คน ผมก็มองชามของผม แล้วก็กินๆ ไปคนเดียว ไม่พูดไม่คุย เพราะไม่รู้จะคุยอะไร
นี่ก็เป็นอาการคร่าวๆ ของผมครับ ไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร ส่วนตัวเดาๆ ว่า
-เป็นปัญหาที่สมอง (หัวช้า คิดเลขช้า อิริยาบถช้ากว่าเพื่อนเค้าตั้งแต่อนุบาลแล้ว)
-พันธุกรรม (คุณแม่ที่สมาธิสั้นเหมือนผม แต่พ่อไม่เป็น)
-พักผ่อนไม่เพียงพอ (อันนี้พยายามปรับพฤติกรรมการนอนอยู่)
-ไม่ชอบเล่นกีฬาเลย (ไม่สนุกกับการเล่นกีฬา ไม่ใช่ว่าเพราะมันเหนื่อย แต่หลายครั้งไปโชว์เหวอ โชว์โง่ให้เค้าดู จนไม่ค่อยอยากเล่นเท่าไร แต่ก็มาออกกำลังกายแบบเดี่ยวๆ คนเดียวแทน
อีกอย่างนะครับ ผมพยายามแก้ไขปรับเปลี่ยนเรื่องความเหวอนี่หลายครั้งล่ะ เพราะมันน่าอายชาวบ้านเค้า ไปตรงไหน ทำอะไรก็จะโดนด่าตลอดเวลา เพราะตัวเราเชื่องช้า ไม่มีสมาธิ ทำอะไรไม่ค่อยเต็มที่กับมัน เพราะมันเต็มที่ไม่ไหว เพราะเหนื่อยที่ต้องให้คนอื่นบอกแบบนี่ 1 นะ นี่ 2 นะ นี่ 3 นะ เพราะผมไม่สามารถทำงานด้วยการตัดสินเองได้ เพราะเหมือนตัดสินใจเองทีไรต้องพลาดตลอด
ผมเคยพยายามแก้ปัญหาความเหวอด้วยการไปบวชเนกขัมมะ (ชุดขาว) ที่วัดมเหยงค์ จ.อยุธยา 3วัน 2 คืน ปฏิบัติกรรมฐานมาแล้ว พอจะรู้วิธีทำสมาธิแล้ว เหมือจะหายเหวอไปนิดนึง แต่กลับบ้านมาไม่ถึงอาทิตย์ก็กลับมาเป็นอีก มึนๆ งงๆ กลับมาเหมือนเดิม ที่นั่งสมาธิไปตั้งนานก็หายไปเลย หลังจากนั้นก็พยายามสวดมนต์นั่งสมาธิให้ได้ทุกวัน นั่งวันละ 30 นาที เป็นเดือนๆ ก็ยังไม่หายครับ จนเดี่ยวนี้ทำบ้างไม่ทำบ้างแล้ว
คือเรื่องนี้ผมจะไปปรึกษาใครก็ไม่รู้เรื่อง เพราะไม่มีใครเป็นเหมือนกันกับผม เค้าก็พอเข้าใจอยู่ว่าเราไม่มีสมาธิเวลาจะทำอะไร ต้องให้ได้บ่นได้กระตุ้นตลอดถึงจะทำงานได้ แต่กลับกระตุ้นตัวเองให้มีสติทุกขณะไม่ได้เลย
สิ่งที่แย่ที่สุดคือเรื่องของความสัมพันธ์ ไม่ชอบสุงสิงกับใครเลย ไม่ใช่ไม่อยากเข้าสังคม แต่เดข้าไปคุยไม่ไหว รู้สึกกระดากใจที่จะพูด เพราะมันไม่เป็นธรรมชาติเลยครับ เวลาจะพูดแต่ละคำต้องคิดแล้วคิดอีก จนตอบช้าบ้าง ตอบผิดบ้าง โดนด่าบ้าง ไม่ตอบก็โดนด่าอีก ไม่พูดต่อก็โดนด่าอีก เหนื่อยสุดๆ
เอาจริงกดดันมั้ย? ก็กดดันอยู่นะเวลาใครมาสะกิดว่า "พูดอะไรบ้างซิ อย่านั่งซื่อบื้อ" มันก็รู้สึกเจ็บนะ แต่มันเป็นเรื่องจริง ที่ใครเค้าพูดมาก็หวังดีทั้งนั้น แค่ผมต้องการพัฒนาตัวเองให้มีทักษะเรื่อง
-การเข้าสังคม
-การพูดอย่างไหลลื่น อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ฝืนใจที่จะพูด
-การมีสมาธิกับการทำงานทุกๆ วัน
-การมีสติ หูไวตาไวตลอดเวลา
-การเป็นตัวของตัวเอง
ผมไม่ได้เครียดถึงขั้นจะเป็นโรคซึมเศร้า แต่การใช้ชีวิตแต่ละวันมันต้องฝืนๆ เกร็งๆ จนไม่เป็นตัวของตัวเองเลย จนบางทีรู้สึกไม่มีจึดยืน แล้วไม่รู้จะยืนจุดไหนด้วย มันมึนงง สับสัน ไม่มีเป้าหมาย ไม่มีความใฝ่ฝันบ้าบออะไรทั้งสิ้น มีแต่แบบเหนื่อยจนท้อใจ อยากล้มตัวลงนอนบนเตียงแล้วทิ้งทุกอย่างไปเลย แต่มันทำไม่ได้ เพราะผมคิดว่า เห้ย! ถ้าเกิดมามันมีปัญหาการใช้ชีวิตขนาดนี้ แล้วเราจะนั่งบ่นเพื่ออะไร ออกไปแก้ปัญหา ออกไปเผชิญหน้าสู้ความจริงไม่ดีกว่าหรอ? ความคิดแบบนี้แหละครับที่ยังฉุดรั้งผมไม่ให้ยอมแพ้มัน คนเราเกิดมามีปัญหากันหมดนั้นแหละ แต่จะเลือกเดินต่อมั้ยอีกเรื่อง
ที่ผมอยากจะถามพวกคุณคือ ผมต้องทำยังไง ให้ได้ใช้ชีวิตแบบปกติสุข ไม่ต้องเหวอ ไม่ต้องทำอะไรเปิ่นๆ ไม่ต้องเป็นที่หน้าอาย หรือเป็นตลกของใครให้เค้าขำแต่เรากับมาร้องไห้อยู่คนเดียว ผมพยายามทำเท่าที่บอกมาแล้ว แต่ก็ยังไม่ช่วยแก้อาการเปิ่นๆ พวกนี้ได้สักเท่าไหร่เลย ถ้าพวกคุณพอรู้วิธี ช่วยผมหน่อยนะครับ ผมแค่เด็กอายุ 16 คนนึง ต้องออกไปเจอสิ่งเลวร้ายอะไรอีกเยอะ แต่ถ้าผมยังเป็นผมตอนนี้ ผมว่าไม่ทันกินเค้าแน่ รู้แค่ว่าตอนนี้ต้องเปลี่ยนตัวเองใหม่แค่นั้น แค่อยากเป็นคนๆ นึงที่มีอยากมีสมองกับจิตใจที่เป็นมนุษย์มนากว่านี้
เป็นคนมึนๆ เหวอๆ เปิ่น จะเปลี่ยนแปลงตัวเองยังไงดีครับ?
-เวลาคนเรียกชื่อต้องเรียกสองครั้งขึ้นไปถึงจะได้ยิน
-ทำอะไรเชื่องช้าอยู่ทุกขณะ จนคนอื่นต้องมาเร่งว่า "เร็วๆ สิ"
-ง่วงนอนตลอดเวลา นอนเท่าไหร่ก็ไม่เคยพอ ตาจะปิดอยู่ทุกเมื่อ
-ก่อนจะพูดอะไรคำนึงไปต้องใช้เวลาคิดเยอะ
-แล้วเวลาพูดออกมาแต่ละคำ ก็ไม่เคยพูดแบบเป็นธรรมชาติสักครั้งเดียว
-เข้าใจคำพูดคนอื่นยาก ต้องถามอะไรนะอีกรอบบ่อยมาก
-เหม่อลอย คิดฟุ้งซ่านไปเรื่อยบ่อยมาก
-ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อตลอดเวลา
-เป็นคนไม่ค่อยมีความขี้สงสัย ไม่ชอบเรียนรู้อะไรใหม่
-แล้วถ้าได้ทำอะไรใหม่ๆ กับเค้า
-เช่น ได้มีโอกาศไปเที่ยวต่างประเทศครั้งแรก กลับไม่รู้สึกตื่นเต้น รู้สึกเฉยๆ มากกว่า
-ทั้งที่ควรจะน่าตื่นเต้นมากกว่านี้ กลับไม่รู้สึกรู้สา ต้องกระตุ้นให้ตัวเองตื่นเต้นตลอดเวลา เพราะเกรงใจคนที่ชวนมาเที่ยว
-ชวนคุยไม่เป็น ส่วนมากต้องให้คนอื่นเปิดคำถามก่อน ตัวเองถึงจะไหลไปต่อได้
-ชอบการอยู่บ้าน นอนเล่นเขี่ยโทรศัพท์บนเตียงมากๆ (ส่วนตัวรู้ว่ามันไม่ดี แต่ใจยังเสพติดสิ่งนี้อยู่)
-รวมถึงการช่วยตัวเอง ก็เคยเสพติด (ตอนนี้เลิกได้แล้ว)
-ในห้องเรียนจะฟังครูไม่รู้เรื่อง แม้จะพยายามฟังก็สมาธิหลุดบ่อยสักสองสามครั้งต่อชั่วโมงได้
-เข้าสังคมกับเค้าไม่เป็น ไม่ค่อยอยากคุยกับคนแปลกหน้า
-บางครั้งเดินไปหยิบของห้องครัว แต่รู้สึกตัวอีกทีก็เดินเข้าห้องนํ้าซะงั้น เหม่อจนเดินมั่ว
-ทำอะไรจะไม่นึกถึงคนอื่น แต่นึกถึงต้องเองก่อน เช่น กินข้าวกัน 5-6 คน ผมก็มองชามของผม แล้วก็กินๆ ไปคนเดียว ไม่พูดไม่คุย เพราะไม่รู้จะคุยอะไร
นี่ก็เป็นอาการคร่าวๆ ของผมครับ ไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร ส่วนตัวเดาๆ ว่า
-เป็นปัญหาที่สมอง (หัวช้า คิดเลขช้า อิริยาบถช้ากว่าเพื่อนเค้าตั้งแต่อนุบาลแล้ว)
-พันธุกรรม (คุณแม่ที่สมาธิสั้นเหมือนผม แต่พ่อไม่เป็น)
-พักผ่อนไม่เพียงพอ (อันนี้พยายามปรับพฤติกรรมการนอนอยู่)
-ไม่ชอบเล่นกีฬาเลย (ไม่สนุกกับการเล่นกีฬา ไม่ใช่ว่าเพราะมันเหนื่อย แต่หลายครั้งไปโชว์เหวอ โชว์โง่ให้เค้าดู จนไม่ค่อยอยากเล่นเท่าไร แต่ก็มาออกกำลังกายแบบเดี่ยวๆ คนเดียวแทน
อีกอย่างนะครับ ผมพยายามแก้ไขปรับเปลี่ยนเรื่องความเหวอนี่หลายครั้งล่ะ เพราะมันน่าอายชาวบ้านเค้า ไปตรงไหน ทำอะไรก็จะโดนด่าตลอดเวลา เพราะตัวเราเชื่องช้า ไม่มีสมาธิ ทำอะไรไม่ค่อยเต็มที่กับมัน เพราะมันเต็มที่ไม่ไหว เพราะเหนื่อยที่ต้องให้คนอื่นบอกแบบนี่ 1 นะ นี่ 2 นะ นี่ 3 นะ เพราะผมไม่สามารถทำงานด้วยการตัดสินเองได้ เพราะเหมือนตัดสินใจเองทีไรต้องพลาดตลอด
ผมเคยพยายามแก้ปัญหาความเหวอด้วยการไปบวชเนกขัมมะ (ชุดขาว) ที่วัดมเหยงค์ จ.อยุธยา 3วัน 2 คืน ปฏิบัติกรรมฐานมาแล้ว พอจะรู้วิธีทำสมาธิแล้ว เหมือจะหายเหวอไปนิดนึง แต่กลับบ้านมาไม่ถึงอาทิตย์ก็กลับมาเป็นอีก มึนๆ งงๆ กลับมาเหมือนเดิม ที่นั่งสมาธิไปตั้งนานก็หายไปเลย หลังจากนั้นก็พยายามสวดมนต์นั่งสมาธิให้ได้ทุกวัน นั่งวันละ 30 นาที เป็นเดือนๆ ก็ยังไม่หายครับ จนเดี่ยวนี้ทำบ้างไม่ทำบ้างแล้ว
คือเรื่องนี้ผมจะไปปรึกษาใครก็ไม่รู้เรื่อง เพราะไม่มีใครเป็นเหมือนกันกับผม เค้าก็พอเข้าใจอยู่ว่าเราไม่มีสมาธิเวลาจะทำอะไร ต้องให้ได้บ่นได้กระตุ้นตลอดถึงจะทำงานได้ แต่กลับกระตุ้นตัวเองให้มีสติทุกขณะไม่ได้เลย
สิ่งที่แย่ที่สุดคือเรื่องของความสัมพันธ์ ไม่ชอบสุงสิงกับใครเลย ไม่ใช่ไม่อยากเข้าสังคม แต่เดข้าไปคุยไม่ไหว รู้สึกกระดากใจที่จะพูด เพราะมันไม่เป็นธรรมชาติเลยครับ เวลาจะพูดแต่ละคำต้องคิดแล้วคิดอีก จนตอบช้าบ้าง ตอบผิดบ้าง โดนด่าบ้าง ไม่ตอบก็โดนด่าอีก ไม่พูดต่อก็โดนด่าอีก เหนื่อยสุดๆ
เอาจริงกดดันมั้ย? ก็กดดันอยู่นะเวลาใครมาสะกิดว่า "พูดอะไรบ้างซิ อย่านั่งซื่อบื้อ" มันก็รู้สึกเจ็บนะ แต่มันเป็นเรื่องจริง ที่ใครเค้าพูดมาก็หวังดีทั้งนั้น แค่ผมต้องการพัฒนาตัวเองให้มีทักษะเรื่อง
-การเข้าสังคม
-การพูดอย่างไหลลื่น อย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ฝืนใจที่จะพูด
-การมีสมาธิกับการทำงานทุกๆ วัน
-การมีสติ หูไวตาไวตลอดเวลา
-การเป็นตัวของตัวเอง
ผมไม่ได้เครียดถึงขั้นจะเป็นโรคซึมเศร้า แต่การใช้ชีวิตแต่ละวันมันต้องฝืนๆ เกร็งๆ จนไม่เป็นตัวของตัวเองเลย จนบางทีรู้สึกไม่มีจึดยืน แล้วไม่รู้จะยืนจุดไหนด้วย มันมึนงง สับสัน ไม่มีเป้าหมาย ไม่มีความใฝ่ฝันบ้าบออะไรทั้งสิ้น มีแต่แบบเหนื่อยจนท้อใจ อยากล้มตัวลงนอนบนเตียงแล้วทิ้งทุกอย่างไปเลย แต่มันทำไม่ได้ เพราะผมคิดว่า เห้ย! ถ้าเกิดมามันมีปัญหาการใช้ชีวิตขนาดนี้ แล้วเราจะนั่งบ่นเพื่ออะไร ออกไปแก้ปัญหา ออกไปเผชิญหน้าสู้ความจริงไม่ดีกว่าหรอ? ความคิดแบบนี้แหละครับที่ยังฉุดรั้งผมไม่ให้ยอมแพ้มัน คนเราเกิดมามีปัญหากันหมดนั้นแหละ แต่จะเลือกเดินต่อมั้ยอีกเรื่อง
ที่ผมอยากจะถามพวกคุณคือ ผมต้องทำยังไง ให้ได้ใช้ชีวิตแบบปกติสุข ไม่ต้องเหวอ ไม่ต้องทำอะไรเปิ่นๆ ไม่ต้องเป็นที่หน้าอาย หรือเป็นตลกของใครให้เค้าขำแต่เรากับมาร้องไห้อยู่คนเดียว ผมพยายามทำเท่าที่บอกมาแล้ว แต่ก็ยังไม่ช่วยแก้อาการเปิ่นๆ พวกนี้ได้สักเท่าไหร่เลย ถ้าพวกคุณพอรู้วิธี ช่วยผมหน่อยนะครับ ผมแค่เด็กอายุ 16 คนนึง ต้องออกไปเจอสิ่งเลวร้ายอะไรอีกเยอะ แต่ถ้าผมยังเป็นผมตอนนี้ ผมว่าไม่ทันกินเค้าแน่ รู้แค่ว่าตอนนี้ต้องเปลี่ยนตัวเองใหม่แค่นั้น แค่อยากเป็นคนๆ นึงที่มีอยากมีสมองกับจิตใจที่เป็นมนุษย์มนากว่านี้