เก่งอีกระดับ ! 3ิ วิธีเข้าใจฝรั่งมากขึ้น

เก่งอีกระดับ  ! 3 วิธีทำอย่างไรให้เข้าใจฝรั่ง


คนที่เข้ามาอ่านบทความนี้มีหลากหลาย ผมเชื่อว่าคุณก็เป็นคนหนึ่งที่ใช้ภาษาอังกฤษได้ดี แต่เชื่อไหมครับว่าในสังคมไทย มีคนเยอะเหลือเกินที่ยังใช้ภาษาอังกฤษได้ไม่คล่อง ทั้งๆที่ในประเทศไทยเราเรียนภาษาอังกฤษตั้งแต่อนุบาลถึงระดับอุดมศึกษา

ดังนั้นปัญหาที่ว่าทำไมคนไทยพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ คุยกับฝรั่งไม่รุ้เรื่องจึงอาจไม่ได้อยู่ที่เราขาดแคลนหนังสือภาษาอังกฤษหรือจำนวนครูสอนภาษาอังกฤษแต่เป็น เรื่องของแนวคิดในการเรียน

มีเหตุผลมากมายที่คุณอาจพูดขึ้นมาว่าทำไมคนไทยไม่เก่งภาษาอังกฤษ เช่นเพราะเราไม่ได้ใช้งานเป็นประจำ ไม่ได้ไปเมืองนอก ไม่มีสิ่งย้ำเตือนถึงความสำคัญ ... แต่ผมก็อยู่ในสังคมเช่นนี้เหมือนกัน และผมก็เป็นคนที่ไม่เก่งมาก่อนในตอนแรก

ผมบอกได้เลยว่าผมอยู่ข้างเดียวกันคนหลายๆคน แต่ก่อนที่ผมจะเรียนผมเลือกที่จะเปลี่ยนแนวคิดแบบท่องจำตัวอักษร เพราะผมเข้าใจว่าภาษาไม่ใช่เรื่องของการบวกลบแต่เป็นเรื่องของความรู้สึก

จากที่เข้าใจว่าแค่ท่องจำหนังสือเยอะๆก็ทำได้ เป็นเราพูดอย่างไรให้ฝรั่งเข้าใจ
หรือมีคำศัพท์เยอะๆก็กลายเป็นใช้ศัพท์คำนี้บ่งบอกความรู้สึกอย่างไร

ผมว่านอกจากจะทำให้เข้าใจง่ายกว่าการท่องจำ vocabulary และ grammar ยังทำให้เราสื่อสารกับฝรั่งตรงกันง่ายอีกด้วย ผมจึงอยากจะมาแนะนำครับ เทคนิคที่ไม่ต้องใช้เวลามาก ไม่ซับซ้อน ไม่ปวดหัวเวลาอ่าน

1 เรียนภาษาอังกฤษแบบเข้าใจเจ้าของภาษา

ขึ้นมาข้อแรกก็งงเลย เฮ้ย การเรียนภาษาอังกฤษที่ไหนเราต้องไปเข้าใจคนสอน
แต่ผมพบว่าคนไทยส่วนใหญ่เวลาเรียนภาษาอังกฤษ จะอิงกับหลัก grammar มากเกินไป ซึ่งเป็นข้อผิดพลาดที่คนทั่วไปไม่ทราบ
หากเรารู้ที่มา ภาษาเป็นเครื่องมือของมนุษย์ที่เกิดมาเพื่อสื่อความหมาย เราพูดโดยรู้ว่าเราต้องการสื่ออะไร แต่การพูดเพียงฝ่ายเดียวเข้าใจคนเดียวก็คงไม่ดีเท่าเราเข้าใจว่าผู้ฟังเข้าใจอะไรด้วย

เช่นตัวอย่างนี้

“ It’s getting difficult”
แปลเป็นไทยว่ามันกำลังลำบากขึ้น

กว่าจะได้เรียนประโยคแบบนี้บางคนต้องรอจนมัธยมหรือเรียนกวดวิชาเลเวลสูงๆเพราะตากหลัก grammar มันเป็นเรื่องของ Verb พิเศษที่ตามหลังด้วย Adjective ได้เลย เช่น get, let, seem ,feel ,…

แต่ทุกคนคิดเหมือนกันไหมว่าประโยคนี้ไม่ใช่ประโยคที่ยากและสื่อความหมายได้ดีมากกว่าบอกแค่ว่ามันกำลังลำบากขึ้น ประโยคนี้ให้ความรู้สึกว่าเป็น บางสิ่งบางอย่างที่กำลังดูไม่ดี อาจจะคนคุยกันมีเส้นเลือดปูดสักสองสามเส้น บรรยากาศกำลังตึงเครียด ดูไม่ค่อยดี แบบนี้เป็นต้น

ผมไม่ได้ชี้ให้เห็นว่าสถานการณ์ของคนพูดคืออะไร แต่ชี้การใช้ประโยคควบคู่กับบริบท กับความรู้สึกของคนพูดเหมือนกับเด็กวันเตาะแตะที่เริ่มหัดพูด เด็กน้อยก็คงไม่ได้ซึมซับที่คำหรือ grammar แต่ดูความหมายจากบริบทและสถานการณ์

ดังนั้นนอกจากเรียนกับตำรามาแล้ว ลองประยุกต์ใช้บริบทคู่ไปกับการเรียน เช่นการดูหนังหรือ series จะทำให้คุรเข้าใจการใช้งานคำต่างๆได้ดีมากขึ้น
ในประโยคที่ยากกว่านี้ถ้าเราเข้าใจการใช้ภาษาอังกฤษ จะทำให้เราเข้าใจการใช้ภาษาอังกฤษได้ดีขึ้น และใช้ได้ไวขึ้น
ดังนั้นเรามาเรียนภาษาอังกฤษด้วยความเข้าใจกันดีกว่า

2. ไทยคำอังกฤษคำ ไม่ได้ไม่สุภาพแต่ช่วยเรียนภาษาได้ด้วย

คำและภาษาเกิดมาเพื่อสื่อความหมาย ศัพท์ภาษาอังกฤษก็เช่นกัน  
เวลาที่เราท่องศัพท์ ใหม่ๆเรามักท่องว่าแปลว่าอะไรเสียงดังๆ ดูคำที่มีความหมายใกล้เคียงเช่น

Retaliation แปลว่า การตอบโต้ syn. Revenge, reciprocate

ผมพบว่าการท่องแบบนี้เราจะนำเอาไปใช้จริงยาก สักวันสองวันถ้าไม่ได้ใช้กลับมาถามใหม่ก็ลืม
ดังนั้นลองเปลี่ยนใหม่ ใส่บริบทเข้าไปด้วย เช่นถ้าผมลองบอกแบบนี้

ผมเป็นคนชอบแกล้งน้อง วันหนึ่งน้องจึงคิดเรื่อง retaliation โดยเอาเสื้อผ้าผมไปซ่อน
ซึ่งการท่องจำแบบไทยคำอังกฤษคำ นี้อาจไม่ได้ช่วยให้จำได้ซะทีเดียวและไม่ได้บอกถึงว่ามันคือการตอบโต้ แต่จะช่วยให้คุณจำ”วิธีการใช้คำ” ได้ดีกว่าความหมายซะอีก

ซึ่งคำในภาษาอังกฤษแตกต่างกับภาษาไทยมาก บางความหมายใช้ได้หลายคำ บางคำใช้ได้หลายความหมาย ถ้าไม่มีหลักหรือเสาให้เกาะ หลายคนอาจจะงงและใช้สลับกันจนฝรั่งทำหน้าเหวอใส่ ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ถ้าเราอิงความหมายจากพจนานุกรมอย่างเดียว

3.อ่าน textbook อาจไม่ได้ช่วยให้เก่งอังกฤษ เสมอไป

ตอนนี้ผมเรียนคณะแพทย์ อ่าน textbook เยอะมาก อยู่กับภาษาอังกฤษเยอะมาก ผมเข้าใจว่าถ้ามาพุดภาษาอังกฤษต้องพูดได้แน่นอน 555 แต่ไม่เป็นเช่นนั้น พอมาพูดจริงๆก็พูดติดๆขัดๆเลย
เหมือนกับคนหลายๆคน เรียนภาษาอังกฤษได้ A บ้าง B+ บ้างก็คิดว่าตัวเองเก่งภาษาอังกฤษแล้ว แต่จะมาใช้จริงๆผมว่าหลายคนก็อาจจะไม่คล่องเพราะ ภาษาเป็นเรื่องของความรู้สึกมากกว่าทฤษฎี
ถ้าเราอยากเก่งภาษาอังกฤษให้ได้ไวๆ นำมาใช้ได้เลยไม่ต้องกรองให้หัวก่อน เราอาจต้องเน้นที่การสื่อความหมายของมันมากกว่าข้อสอบเติมคำที่เรียนในห้อง

--------------------------------------------------------------

ผมเป็นคนที่ไม่เก่งภาษาอังกฤษมากๆมาก่อน บอกได้เลยว่าหัวไม่ค่อยไป หลายคนที่ใช้คำๆเดียวกับผมก็พูดภาษาอังกฤษได้ดีกว่า แต่ผมเป็นคนที่ชอบเรียนรู้จากหลักการ มิฉะนั้นจะช้าและไม่ตอบโจทย์ ผมจึงค่อยๆพัฒนาเทคนิคการเรียน จนเข้าใจว่าคนเรียนภาษาอังกฤษเขาทำกันแบบนี้นี่เอง

ภาษาอังกฤษไม่ใช่ภาษาไฮโซไม่ต้องไปเมืองนอก หรือจ่ายค่าคอร์สหลักแสน หรือเรียนกวดวิชาคอร์สปิรามิดก็เก่งได้เหมือนกัน
ไม่เชื่อลองตามมาผมจะค่อยๆอธิบายให้ฟังว่าเก่งภาษาอังกฤษแล้วเป็นอย่างไร

อย่าช้า !!! 7 เรื่องที่ทำผมเรียนอังกฤษช้าไป 7 ปี
https://ppantip.com/topic/37208651
ทำแบบนี้จะเก่งอังกฤษไหม มาเรียนรู้วิธีเรียนภาษาอังกฤษด้วยตนเอง 7 รูปแบบ
https://ppantip.com/topic/37129774
https://www.facebook.com/EnglishKNOWNOW/

อย่ารอช้า... จะรุ้ภาษาอังกฤษ

English KNOW NOW by Time
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่