*** สามีใครกรนบ้าง ยกมือขึ้น ***

ขอแท็กปัญหาครอบครัว ปัญหาความรักด้วยเลยนะคะ เพราะดิฉันได้ยินมาเยอะมากว่า หลายคู่แยกห้องนอนกันเพราะทนฟังเสียงกรนกันไม่ไหว

อมยิ้ม14อมยิ้ม20

คิดว่าไม่ต่ำกว่า 5 คู่ที่ดิฉันได้รับรู้ รับฟังมาว่า หงุดหงิดใส่กันถึงกับต้องแยกห้องนอนกันเพราะสามีนอนกรนเสียงดัง
บางบ้านภรรยาหงุดหงิดมาก ทั้งบ่น ก่นว่า สะกิด ผลักสามีให้นอนตะแคงด้วยหวังว่าเสียงกรนจะเบาลงบ้าง
ฝ่ายคุณสามีบางทีก็หมดความมั่นใจ รู้สึกว่าตัวเองกำลังรบกวนภรรยา เกรงใจ จนหลายคู่ต้องขอแยกไปนอนอีกห้องหนึ่ง

ต้องบอกก่อนว่า ส่วนตัวดิฉันไม่ได้ถือเอาสามีเป็นหมอนข้างที่ต้องนอนกอดก่ายกันทุกวันนะคะ
แยกห้อง แยกบ้าน กันบ้างก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไร ครอบครัวยังเป็นครอบครัวรักกันตามปกติ
แต่ก็ไม่เคยคิดจะแยกห้องเพราะเสียงกรนสามีด้วย รู้สึกว่านอนอยู่ข้าง ๆ คอยดูแลกันไปแบบนี้ดีกว่า

การหลับไม่สนิท มันมีหลายอาการนะคะ นอนกรนบ้าง หรือบางทีนอนแล้วเกิดอาการคล้าย ๆ ขากระตุก ตัวกระตุกบ้างก็มี
บางครั้ง สามีนอนแล้วเกิดอาการกระตุก ดิฉันต้องไปกอดไว้เบา ๆ เพราะคิดว่าฝันร้าย

แต่ ... วันหนึ่งก็มาได้อ่านเรื่องภาวะการนอนกรนกับการหยุดหายใจขณะหลับ
เอาละสิ  เริ่มกังวลแล้วว่า จะมีผลอะไรกับสุขภาพรึเปล่า
ถามคุณพี่ คำถามเบสิคประมาณว่า "เหนื่อยไหม ?" "เพลียไหม ?" "ตื่นมาไม่สดชื่นรึเปล่า ?"
คำตอบก็สไตล์ผู้ชายที่ไม่ชอบไปหาหมอ  "เปล่า ไม่เป็นไร" และก็หลบซ้ายเลี่ยงขวาที่จะไปหาหมอตลอด ตลอด

จนวันหนึ่ง ดิฉันยืนกรานเลยว่าจะต้องไปหาหมอให้ได้ ก็นัดพบคุณหมอที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งเพื่อทำ Sleep Test
พอดีช่วงนั้น มีโปรโมชั่น ค่าใช้จ่าย Sleep Test อยู่ที่ประมาณ 12,000 บาท
ก็จัดการส่งพ่อทูนหัวไปโรงพยาบาลเพื่อทำ Sleep Test

ค่าใช้จ่ายที่โรงพยาบาลเอกชนสูงกว่า โรงพยาบาลรัฐค่ะ แต่คิวสั้นกว่า ผลก็อ่านเร็วกว่า
เช่น เข้า Sleep Test คืนนี้ พรุ่งนี้ฟังผลได้เลย

ผลที่ได้น่าตกใจกว่าที่คิดไว้
เพราะคุณสามีมีค่า index ของการหยุดหายใจและหายใจแผ่วสูงถึง 64.2
คุณหมอบอกดิฉันว่า คนปกติ จะน้อยกว่า 5
มากกว่า 30 นี่ถือว่ารุนแรง
แต่นี่ขุ่นพี่ของอิชั้นฟาดไป 64.2
แรงไปหน่อยละม้างงงง

เพี้ยนรมเสีย

และภาวะหยุดหายใจนานสุดคือ 80.9 วินาที หรือประมาณ นาทีครึ่ง
เม่าตกใจ
ช็อคครับท่านผู้ชม
นี่แปลว่า คุณสามีหยุดหายใจขณะหลับนานสุดถึงนาทึครึ่ง (โอ้ว...พ่อยอดมนุษย์ นี่กำลังจำศีลอยู่หรือกระไร)

วิธีการรักษา ก็ง่าย ๆ เลยใช้เครื่อง CPAP ช่วย
หน้าตาที่ใช้จะเป็นแบบนี้ค่ะ เครื่องเล็ก ๆ พกพาใส่กระเป๋าได้

ตอนนี้ สามียังไม่คุ้นกับเครื่องเท่าไรนัก แต่ก็ค่อย ๆ ปรับตัวเพื่อให้ใช้เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนทางร่างกายอื่น ๆ


ตอนไปทำ Sleep Test
วิธีการก็ไม่ยากเย็นอะไร  เราอาบน้ำแต่งตัว ไม่ทาครีม ไม่ใส่น้ำมันใส่ผมหรืออะไรทั้งนั้น เข้าไปนอนโรงพยาบาลตอนประมาณหัวค่ำ
จากนั้น ทางเจ้าหน้าที่จะมาแปะ ๆ ๆ สายสัญญาณต่าง ๆ รอบศีรษะคุณ และให้ทานยานอนหลับอ่อน ๆ
แล้วก็เข้านอน

ระหว่างเข้านอนนี่ล่ะค่ะ  อารมณ์ประมาณเหมือนเข้าบ้าน AF คือ เจ้าหน้าที่จะคอยมองเราจากกล้องวงจรปิด และอ่านค่าสัญญาณต่าง ๆ จาก
เจ้าสายสัญญาณเล็ก ๆ ที่แปะรอบหัว แล้วอ่านผลออกมาได้แบบนี้


จะ report ออกมาอย่างละเอียดเลยว่าตั้งแต่กี่โมงถึงกี่โมง เราหลับไปอย่างไรมีอาการอย่างไรบ้าง
จากนั้น ก็จะทำการเข้ามาปรับเครื่อง CPAP เพื่อให้ได้ค่าที่ดีที่สุดที่จะทำให้เราหยุดกรน และอยู่ในภาวะหลับได้อย่างไม่มีอาการหายใจผิดปกติรบกวน
และบันทึกผลเอาไว้


วิธีการรักษาคือ การใส่เครื่องและตั้งค่าตามที่บันทึกไว้ว่าเป็นค่าที่เหมาะกับเราที่สุดตอนทำ Sleep Test

ดิฉันคิดว่าสาเหตุที่คนส่วนใหญ่ ไม่ค่อยไปหาหมอเพราะอาการกรนเพราะ

1. ไม่เห็นความสำคัญ คิดว่ากรนเป็นเรื่องธรรมดา --- ก็อาจจะธรรมดาค่ะ แต่ถ้ามากไปนัก จะทำให้เราไม่สดชื่น ออกซิเจนไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ
เราจะเพลียตลอดเวลา และเปราะบางต่อโรคภัยแทรกซ้อน

2. บางทีเราอาจอายที่จะยอมรับว่ากรน หรือ คิดว่า เฉพาะคนอ้วนเท่านั้นที่กรน --- ในความเป็นจริงเท่าที่ดิฉันรู้มา บางคนผอมก็ยังกรน สามีดิฉันค่า BMI ก็ปกติ    มันขึ้นกับองค์ประกอบหลายอย่างในร่างกาย (ทางเดินหายใจ สภาพลิ้นไก่ กระบังลม และอื่น ๆ ที่รอคุณหมอมาตอบจะละเอียดกว่า)

พอดิฉันมา serach หาข้อมูลเพิ่มเติม เฉพาะในพันทิป ลองหาคำว่า Sleep Test นี่ก็ขึ้นผลลัพธ์มามากมายแล้ว

ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ และสิทธิประกันสังคม
https://ppantip.com/topic/37062555

แชร์ประสบการณ์คนนอนกรน และการเข้าทำ Sleep Test
https://ppantip.com/topic/37028337

ตรวจร่างกายมาสารพัด กินยาสารพัด เพิ่งรู้ว่ามีปัญหาการนอน
https://ppantip.com/topic/36490282

    เพราะงั้น ถ้าสามีใครกรน หรือกระทั่งคุณภรรยาเอง พอแก่ตัวลงไป หรือกระทั่งยังไม่แก่ สภาพร่างกายก็อาจทำให้มีอาการแบบนี้โดยไม่รู้ตัว
การไปพบแพทย์ ลองทำ sleep test และหาวิธีการรักษาดู  น่าจะเป็นทางเลือกที่ดี และช่วยรักษาสัมพันธภาพในครอบครัวให้แน่นแฟ้นขึ้นด้วย
เพราะจะได้ไม่ต้องแยกห้องนอน หรือก่อความรำคาญรบกวนคู่ของตัวเองให้เกิดข้อทะเลาะเบาะแว้งโดยไม่จำเป็น

    สุขภาพดีทุกคนนะคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่