ผมได้พยายามศึกษาน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น จากหลายๆสื่อ ทั้งในกูเกิล ยูทูป และในพันทิปเอง สรุป
- มีกองเชียร์ที่ว่า ดี และ ไม่ดี และ ทั้งสองส่วนมีงานวิจัยรองรับ จนไม่รู้จะเชื่อใครดี
- จุดแข็งของฝ่ายเชียร์ที่เป็นตัวชูโรงคือ น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น เป็นไขมันอิ่มตัวชนิดสายปานกลาง
- ทีค้นพบฝ้ายค้านและเปิดเผยตัวเป็นคุณหมอท่านนึง และได้เผยแพร่ข้อมูลอีกด้านนึง โดยยืนยันว่า ไม่ได้เป็นสายกลางอย่างที่หลายคนเข้าใจ ขออณุญาตยกข้อความประกอบบางส่วน จากลิ้งนี้
https://ppantip.com/topic/32132613 (ตั้งแต่ความเห็นที่7)
"จากการวิจัยทางการแพทย์ เนื่องจากกรดไขมันอิ่มตัวที่มีคุณสมบัติพิเศษซึ่งเป็นประโยชน์มากกว่าโทษดังกล่าวข้างต้น มีเพียง Caprylic acid (C8:0) และ Capric acid (C10:0) เท่านั้น ส่วน Lauric acid (C12:0) และ Myristic acid (C14:0) จากการวิจัยพบว่า มีคุณสมบัติเหมือนไขมันอิ่มตัวชนิดสายยาว (LCT) ซื่งดูดซึมช้า ย่อยช้า และเพิ่มไขมันในเลือดชนิดร้ายได้แก่ LDL และ Triglyceride ดังนั้นขั้นตอนการผลิตอาหารทางการแพทย์ MCT oil จึงต้องทำในห้องปฏิบัติการเพื่อสกัด Lauric acid (C12:0) และ Myristic acid (C14:0) ในน้ำมันมะพร้าวและน้ำมันปาล์มเคอร์เนลทิ้งไปให้มากที่สุด ให้คงเหลือเฉพาะ Caprylic acid (C8:0) และ Capric acid (C10:0) เท่านั้น ดังนั้น MCT oil ซึ่งงานวิจัยทางการแพทย์พบข้อดีต่างๆนานาและผู้สนับสนุนน้ำมันมะพร้าวเอาไปอ้างนั้น จึงไม่เหมือนกับน้ำมันมะพร้าวเลยอย่างสิ้นเชิง
MCT oil เป็นอาหารทางการแพทย์ซึ่งผลิตขึ้นในห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ ประกอบด้วย Caprylic acid (C8:0) และ Capric acid (C10:0) ถึง 99.9 % ซึ่งไม่มีในอาหารธรรมชาติจริง ส่วนน้ำมันมะพร้าวมีส่วนที่เป็น caproic acid (C6:0) , Caprylic acid (C8:0) และ Capric acid (C10:0) รวมกันเพียง 10 – 15 % เท่านั้น ส่วนใหญ่เป็น Lauric acid (C12:0) ถึง 50 % นอกนั้นเป็น Myristic acid (C14:0) , palmitic acid (C16:0) และ stearic acid (C18:0) ซึ่ง 4 ตัวหลังพบจากการวิจัยว่าเพิ่ม LDL มากกว่า Caprylic acid (C8:0) และ Capric acid (C10:0) และเพิ่มอัตราป่วยเป็นโรคหลอดเลือดอุดตันมากกว่าอย่างชัดเจน"
จึงอยากเรียนสนทนาท่านที่ศึกษามาเยอะ หรือมีข้อมูล โปรดช่วยให้ความกระจ่าง เพื่อเป็นประโยชน์กับท่านที่สนใจต่อไปครับ
น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น ดีไหม
- มีกองเชียร์ที่ว่า ดี และ ไม่ดี และ ทั้งสองส่วนมีงานวิจัยรองรับ จนไม่รู้จะเชื่อใครดี
- จุดแข็งของฝ่ายเชียร์ที่เป็นตัวชูโรงคือ น้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น เป็นไขมันอิ่มตัวชนิดสายปานกลาง
- ทีค้นพบฝ้ายค้านและเปิดเผยตัวเป็นคุณหมอท่านนึง และได้เผยแพร่ข้อมูลอีกด้านนึง โดยยืนยันว่า ไม่ได้เป็นสายกลางอย่างที่หลายคนเข้าใจ ขออณุญาตยกข้อความประกอบบางส่วน จากลิ้งนี้ https://ppantip.com/topic/32132613 (ตั้งแต่ความเห็นที่7)
"จากการวิจัยทางการแพทย์ เนื่องจากกรดไขมันอิ่มตัวที่มีคุณสมบัติพิเศษซึ่งเป็นประโยชน์มากกว่าโทษดังกล่าวข้างต้น มีเพียง Caprylic acid (C8:0) และ Capric acid (C10:0) เท่านั้น ส่วน Lauric acid (C12:0) และ Myristic acid (C14:0) จากการวิจัยพบว่า มีคุณสมบัติเหมือนไขมันอิ่มตัวชนิดสายยาว (LCT) ซื่งดูดซึมช้า ย่อยช้า และเพิ่มไขมันในเลือดชนิดร้ายได้แก่ LDL และ Triglyceride ดังนั้นขั้นตอนการผลิตอาหารทางการแพทย์ MCT oil จึงต้องทำในห้องปฏิบัติการเพื่อสกัด Lauric acid (C12:0) และ Myristic acid (C14:0) ในน้ำมันมะพร้าวและน้ำมันปาล์มเคอร์เนลทิ้งไปให้มากที่สุด ให้คงเหลือเฉพาะ Caprylic acid (C8:0) และ Capric acid (C10:0) เท่านั้น ดังนั้น MCT oil ซึ่งงานวิจัยทางการแพทย์พบข้อดีต่างๆนานาและผู้สนับสนุนน้ำมันมะพร้าวเอาไปอ้างนั้น จึงไม่เหมือนกับน้ำมันมะพร้าวเลยอย่างสิ้นเชิง
MCT oil เป็นอาหารทางการแพทย์ซึ่งผลิตขึ้นในห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ ประกอบด้วย Caprylic acid (C8:0) และ Capric acid (C10:0) ถึง 99.9 % ซึ่งไม่มีในอาหารธรรมชาติจริง ส่วนน้ำมันมะพร้าวมีส่วนที่เป็น caproic acid (C6:0) , Caprylic acid (C8:0) และ Capric acid (C10:0) รวมกันเพียง 10 – 15 % เท่านั้น ส่วนใหญ่เป็น Lauric acid (C12:0) ถึง 50 % นอกนั้นเป็น Myristic acid (C14:0) , palmitic acid (C16:0) และ stearic acid (C18:0) ซึ่ง 4 ตัวหลังพบจากการวิจัยว่าเพิ่ม LDL มากกว่า Caprylic acid (C8:0) และ Capric acid (C10:0) และเพิ่มอัตราป่วยเป็นโรคหลอดเลือดอุดตันมากกว่าอย่างชัดเจน"
จึงอยากเรียนสนทนาท่านที่ศึกษามาเยอะ หรือมีข้อมูล โปรดช่วยให้ความกระจ่าง เพื่อเป็นประโยชน์กับท่านที่สนใจต่อไปครับ