ตอนที่ 5 ยอดนักรบแห่งทุ่งหญ้าสเตปป์
กระทู้ก่อนหน้านี้
https://ppantip.com/topic/37364297 การเตรียมตัว
https://ppantip.com/topic/37383467 ตอนที่ 1 จุดเริ่มต้น ณ หัวลำโพง
https://ppantip.com/topic/37391329 ตอนที่ 2 เมืองที่เต็มไปด้วยเสียงแตร
https://ppantip.com/topic/37404758 ตอนที่ 3 เข้าสู่จีนอย่างเป็นทางการ
https://ppantip.com/topic/37426327 ตอนที่ 4 หนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก
เรากำลังมุ่งหน้าสู่ อูลานบาตาร์ (Ulaanbaatar) เมืองหลวงของประเทศมองโกเลีย โดยรถไฟสาย Trans-Mongolian จากปักกิ่งไปยังอูลานบาตอร์
วิวระหว่างทางบนรถไฟ
คุณลุงผู้ร่วมห้องรถไฟกับพวกเรา แต่ลุงแกนั่งยาวไปลงมอสโคว
รถไฟเริ่มเข้าสู่เมืองอูลานบาตอร์ สังเกตุได้จากการที่เราเริ่มเห็นอาคารบ้านเรือนเยอะมากขึ้น
และแล้วเราก็มาถึง อูลานบาตอร์ (Ulaanbaatar) เมืองหลวงของประเทศมองโกเลีย
อูลานบาตอร์ (Ulaanbaatar) เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของมองโกเลีย ในอดีตมีการเปลี่ยนชื่อเมืองหลายครั้ง จนครั้งสุดท้ายเมื่อปีค.ศ.1924 ใช้ชื่อ อูลาน บาตอร์ ซึ่งมีความหมายว่า วีรบุรุษสีแดง ตั้งขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ ดัมดิน ซุคบาตาร์ (Damdin Sukhbaatar) ผู้นำการปฏิวัติการปกครองและการประกาศอิสระภาพของมองโกเลีย ปัจจุบันเมืองหลวงแห่งนี้เป็นศูนย์กลางของการคมนาคม ทั้งการเดินทางด้วยเครื่องบินที่มีเที่ยวบินภายในประเทศและระหว่างประเทศ
Cr.
https://travelblog.expedia.co.th/asia/bd05_december17/
รถไฟก็สิ้นสุดลงที่สถานี Ulaanbaatar ซึ่งเป็นสถานีรถไฟหลักเหมือนหัวลำโพงบ้านเราค่ะ
จากนั้นเราจึงไปซื้อตั๋วรถไฟที่จะไป Irkutsk ในอาคารข้างสถานีรถไฟอูลานบาตอร์ ที่เราซื้อไว้ก่อนเลยเพราะกันลืมและกลัวตั๋วจะเต็มด้วย
จุดซื้อตั๋วจะอยู่ในอาคารสีส้ม ตามรูปด้านล่างนี้ค่ะ
ชั้นล่างสุดจะมีที่แลกเงิน สำหรับใครที่ยังไม่ได้แลกเงิน ทุกรุกของมองโกเลีย สามารถมาแลกตรงจุดนี้ได้ และมีตู้ ATM ให้กดด้วย
ส่วนห้องจำหน่ายตั๋วเพื่อไป Irkutsk จะอยู่ที่ชั้นสองค่ะ
ด้านล่างนี้คือตารางการเดินรถไฟ จากอูลานบาตอร์-เอียร์คุส (Ulaanbaatar-Irkutsk)
ราคาตั๋วรถไฟอยู่ที่คนละ 157,000 ทุกรุก หรือประมาณคนละ 2,150 บาท หรือใครจะจองตั๋วทางออนไลน์ก็ได้ แต่ราคาจะสูงกว่ามาซื้อเองที่สถานีค่ะ
ทางไปจอง:
https://www.discovermongolia.mn/how-to-get-to-mongolia/trains-to-mongolia/?fromquery=ulaanbaatar%20mongolia&toquery=irkutsk%20russia
ซื้อตั๋วไป Irkutsk เสร็จเรียบร้อย เราก็หาทางไปยังที่พักของพวกเรากันค่ะ ซึ่ง ณ ตอนนั้นอากาศหนาวมากกก -20 องศาได้ เราเกรงว่าถ้าเดินไปอาจจะแข็งตายก่อน เลยหา Taxi ให้ไปส่งที่พักจะดีกว่า
เราพักกันที่ Gobi Attraction ซึ่งที่พักที่นี่จะเป็น Guest House ที่เจ้าของจะมาคอยดูแล ทำอาหารเช้าให้ทาน และบริการผู้เข้าพักด้วยตัวเอง และเรายังได้ซื้อทัวร์ไปนอนเกอร์ (Ger) กับชาวมองโกลแท้ๆ 2 วัน 1 คืน จากที่พักแห่งนี้ ในราคาคนละ 70 USD เป็น Private Tour เลยมีแค่เรา 2 คน แต่ถ้ามามากกว่า 2 คน ราคาต่อคนก็จะถูกลงเรื่อยๆตามจำนวนคน โปรแกรมทัวร์มีดังนี้:
- Zaisan Memory Hill อนุสรณ์สถานแห่งการต่อสู้ไซซาน
- Telejl National Park นอนเกอร์ที่อุทยานแห่งชาติเทอเรลจ์
- Aryabal Buddhist Meditation Center วัดเก่าแก่ที่อยู่ในอุทยานแห่งชาติเทอเรลจ์
- Genghis Khan Equestrian Statue อนุสาวรีย์และพิพิธภัณฑ์เจงกิสข่าน
ราคาข้างต้นนั้นจะรวมทุกอย่างแล้ว เราไม่ต้องจ่ายอะไรเพิ่มเติม
เว็บไซต์ที่พัก
http://www.greattours-mongolia.com/
เมื่อ check-in เก็บของ และทำธุระส่วนตัวเรียบร้อยแล้ว เราก็ออกไปเดินเล่นในเมืองกัน
บรรยากาศในเมืองอูลานบาตอร์ค่ะ
จากนั้นเราก็ไปเยี่ยมชมจัตุรัสซัคบาทาร์ (Sukhbaatar Square) ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมืองอูลานบาตอร์
เดินไม่ทันไร ฟ้าก็เริ่มมืด (ช่วงฤดูหนาวพระอาทิตย์ตกไวมากค่ะ บ่าย 4 ก็เริ่มมืดกันหมดแล้ว)
คุณพี่ตำรวจเท่มากค่ะ
เราเดินเล่นในเมืองอยู่พักนึง จากนั้นก็หาร้านอาหารทาน แล้วก็รีบกลับที่พัก เพื่อนอนพักผ่อนให้เต็มที่ สำหรับพร้อมไป Ger ในวันพรุ่งนี้
เช้าวันรุ่งขึ้น เราตื่นกันประมาณ 7 โมง เจ้าของที่พักทำอาหารเช้ารอเราไว้แล้ว แถมยังจัดเตรียมรองเท้าบู๊ท ถุงเท้าหนาๆมาให้พวกเราใส่ เพราะเขาบอกว่าที่พวกเรามีอาจจะกันหนาวไม่พอ (ดูแลเราดีมากเลยอะ) โดยทัวร์นี้จะมีคนพาเราไป 2 คน คือ คุณพี่สามีเจ้าของที่พัก รับหน้าที่เป็นคนขับรถและหลานสาวรับทำหน้าที่เป็นไกด์ ทั้งสองคนสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษกับพวกเราได้ค่ะ
พร้อมแล้ว ก็ไปกันเลย!
สถานที่แรกที่พวกเราไปคือ Zaisan Memorial Hill อนุสรณ์สถานแห่งการต่อสู้ไซซาน ตั้งอยู่เนินเขาทางตอนใต้ของเมืองอูลานบาตอร์ ซึ่งสหภาพโซเวียตสร้างให้มองโกเลีย โดยลงภาพวาดไว้บนอนุสรณ์แสดงถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างกัน ที่กองทัพแดง (Red Army) ช่วยมองโกเลียรบจากการรุกรานของญี่ปุ่น สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ทั้งยังรำลึกถึงทหารที่เสียชีวิตในสนามรบ, ฉลองชัยชนะเหนือกองทัพนาซี และนักบินอวกาศคนแรกของมองโกเลียที่ได้ร่วมโครงการบินไปบนอวกาศของสหภาพโซเวียตปี 1981 และที่นี่ยังเป็นจุดชมวิวที่ดีที่สุดของเมืองแบบ panorama สามารถมองไปได้ไกลสุดลูกหูลูกตาเลยทีเดียว
จากนั้นเราก็ออกจากอูลานบาร์ตอร์ เพื่อไปยัง Ger ที่ตั้งอยู่ใน Telejl National Park อุทยานแห่งชาติเทอเรลจ์ ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองอูลานบาตอร์ไปทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 80 กิโลเมตร
ระหว่างทาง ไกด์ของเราได้พาไปจอดที่จุดถ่ายรูปกับนกเหยี่ยวและขี่อูฐ ซึ่งเป็นนกเหยี่ยวและอูฐที่ชาวมองโกลเขาเลี้ยงไว้
ค่าถ่ายรูปกับนักเหยี่ยวคนละ 7000 ทุรุก (ประมาณ 2 USD) นกเหยี่ยวตัวที่เราถือหนักประมาณ 5 โล ถือว่าหนักมากสำหรับเรา ยกแทบไม่ไหว ส่วนตัวของแฟนหนัก 10 โล (หนักมากกก)
มีความเกร็งเล็กน้อย
เบื้องหลังการถ่ายทำค่ะ ตอนเจ้าของมาสยายปีกสวยมาก พอเราจะถ่ายหุบปีกทันที 555
และเราก็ได้ลองขี่อูฐ ให้อูฐพาเดินเล่นและถ่ายรูปกับน้องอูฐกันค่ะ ราคาคนละ 7,000 ทุกรุก (ประมาณ 2 USD)
ความรู้สึกตอนขี่หลังอูฐ สนุกดีค่ะ ขนอูฐนิ่มมาก นั่งแล้วไม่เจ็บ แถมดูมั่นคงมากกว่าตอนขี่ม้าอีกอะ เพราะเรานั่งตรงระหว่างหนอกอูฐมันเลยยึดตัวเราไว้ แต่สูงอยู่นะคะ ถ้าตกลงมานี่เจ็บอยู่
หลังจากสนุนสนานกับการถ่ายรูปแล้ว เราก็ออกเดินทางกันต่อค่ะ
และแล้วเราก็มาถึง Ger ที่พักของพวกเราในคืนนี้ ตั้งอยู่ใน Telejl National Park อุทยานแห่งชาติเทอเรล์ ซึ่งรายล้อมไปด้วยหุบเขาและธรรมชาติรอบตัว เราไปช่วงฤดูหนาวจึงเต็มไปด้วยหิมะสีขาวปกคลุมทุกพื้นที่ในอุทยานอย่างสวยงาม
ในภาพด้านล่างนี้ พี่คนซ้ายคือสามีเจ้าของที่พัก น้องคนกลางคือไกด์ของพวกเราค่ะ ชื่อ ทุกโซ่ะ เป็นหลานของเจ้าของที่พัก ส่วนป้าคนขวาคือคุณป้าชาวมองโกล เจ้าของเกอร์ค่ะ
ทุกโซ่ะ กำลังเตรียมทำอาหารกลางวันให้พวกเราทาน เป็นบะหมี่แห้งใส่เนื้อแพะและผักค่ะ
หน้าตาจะเป็นประมาณนี้ค่ะ รสชาติพอทานได้นะคะ แต่อาจจะไม่ถูกปากคนไทย เพราะรสชาติจะจืดและแห้งไปหน่อย
เราจะพาไปดูสัตว์เลี้ยงของคุณป้ากันค่ะ
อันนี้วัวที่คุณป้าเลี้ยงไว้ ตอนเช้าป้าจะพาวัวไปเดินเล่นในอุทยาน และตอนเย็นก็จะพามาเข้าคอก
และนี่ก็น้องแพะค่ะ น่ารักมากมีจุ๊บๆกัน 555 ตอนเช้าป้าจะพาน้องแพะไปเดินเล่นในอุทยาน และตอนเย็นก็จะพามาเข้าคอกเช่นกันค่ะ
ส่วนเจ้านี่ น้องหมาของคุณป้าค่ะ ขี้เล่นและเชื่อฟังเจ้าของมาก ชื่อเจ้า ประส่ะ (แฟนเราเรียกว่าประสาท 5555)
พาไปชมบรรยากาศรอบๆเกอร์ค่ะ
ตอนที่พวกเราไปอากาศหนาวมาก ตอนกลางวัน -20 องศา กลางคืนนี่ไม่ต้องพูดถึง เราถ่ายรูปได้แปปๆก็ต้องรีบกลับเข้าเกอร์ไปผิงไฟ ทุกโซ่ะบอกว่า นี่แค่เพิ่งเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาวนะคะ หน้าหนาวจริงๆของเขาหนักกว่านี้อีก เค้าก็อธิบายเพิ่มว่าอุณภูมิที่มองโกเลียเนี่ย กว้างมาก แบบหน้าร้อนก็ 30-40 องศา หน้าหนาวก็ติดลบไปจนถึง -40 กันไปเลย
และนี่คือห้องน้ำของเกอร์ที่เราพักค่ะ
แทนแท่นแท้นนน 5555
บันทึกการเดินทาง | 48 วันจากกรุงเทพ ถึง มิวนิค ตอนที่ 5 ยอดนักรบแห่งทุ่งหญ้าสเตปป์
กระทู้ก่อนหน้านี้
https://ppantip.com/topic/37364297 การเตรียมตัว
https://ppantip.com/topic/37383467 ตอนที่ 1 จุดเริ่มต้น ณ หัวลำโพง
https://ppantip.com/topic/37391329 ตอนที่ 2 เมืองที่เต็มไปด้วยเสียงแตร
https://ppantip.com/topic/37404758 ตอนที่ 3 เข้าสู่จีนอย่างเป็นทางการ
https://ppantip.com/topic/37426327 ตอนที่ 4 หนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลก
เรากำลังมุ่งหน้าสู่ อูลานบาตาร์ (Ulaanbaatar) เมืองหลวงของประเทศมองโกเลีย โดยรถไฟสาย Trans-Mongolian จากปักกิ่งไปยังอูลานบาตอร์
วิวระหว่างทางบนรถไฟ
คุณลุงผู้ร่วมห้องรถไฟกับพวกเรา แต่ลุงแกนั่งยาวไปลงมอสโคว
รถไฟเริ่มเข้าสู่เมืองอูลานบาตอร์ สังเกตุได้จากการที่เราเริ่มเห็นอาคารบ้านเรือนเยอะมากขึ้น
และแล้วเราก็มาถึง อูลานบาตอร์ (Ulaanbaatar) เมืองหลวงของประเทศมองโกเลีย
อูลานบาตอร์ (Ulaanbaatar) เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของมองโกเลีย ในอดีตมีการเปลี่ยนชื่อเมืองหลายครั้ง จนครั้งสุดท้ายเมื่อปีค.ศ.1924 ใช้ชื่อ อูลาน บาตอร์ ซึ่งมีความหมายว่า วีรบุรุษสีแดง ตั้งขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ ดัมดิน ซุคบาตาร์ (Damdin Sukhbaatar) ผู้นำการปฏิวัติการปกครองและการประกาศอิสระภาพของมองโกเลีย ปัจจุบันเมืองหลวงแห่งนี้เป็นศูนย์กลางของการคมนาคม ทั้งการเดินทางด้วยเครื่องบินที่มีเที่ยวบินภายในประเทศและระหว่างประเทศ
Cr. https://travelblog.expedia.co.th/asia/bd05_december17/
รถไฟก็สิ้นสุดลงที่สถานี Ulaanbaatar ซึ่งเป็นสถานีรถไฟหลักเหมือนหัวลำโพงบ้านเราค่ะ
จากนั้นเราจึงไปซื้อตั๋วรถไฟที่จะไป Irkutsk ในอาคารข้างสถานีรถไฟอูลานบาตอร์ ที่เราซื้อไว้ก่อนเลยเพราะกันลืมและกลัวตั๋วจะเต็มด้วย
จุดซื้อตั๋วจะอยู่ในอาคารสีส้ม ตามรูปด้านล่างนี้ค่ะ
ชั้นล่างสุดจะมีที่แลกเงิน สำหรับใครที่ยังไม่ได้แลกเงิน ทุกรุกของมองโกเลีย สามารถมาแลกตรงจุดนี้ได้ และมีตู้ ATM ให้กดด้วย
ส่วนห้องจำหน่ายตั๋วเพื่อไป Irkutsk จะอยู่ที่ชั้นสองค่ะ
ด้านล่างนี้คือตารางการเดินรถไฟ จากอูลานบาตอร์-เอียร์คุส (Ulaanbaatar-Irkutsk)
ราคาตั๋วรถไฟอยู่ที่คนละ 157,000 ทุกรุก หรือประมาณคนละ 2,150 บาท หรือใครจะจองตั๋วทางออนไลน์ก็ได้ แต่ราคาจะสูงกว่ามาซื้อเองที่สถานีค่ะ
ทางไปจอง: https://www.discovermongolia.mn/how-to-get-to-mongolia/trains-to-mongolia/?fromquery=ulaanbaatar%20mongolia&toquery=irkutsk%20russia
ซื้อตั๋วไป Irkutsk เสร็จเรียบร้อย เราก็หาทางไปยังที่พักของพวกเรากันค่ะ ซึ่ง ณ ตอนนั้นอากาศหนาวมากกก -20 องศาได้ เราเกรงว่าถ้าเดินไปอาจจะแข็งตายก่อน เลยหา Taxi ให้ไปส่งที่พักจะดีกว่า
เราพักกันที่ Gobi Attraction ซึ่งที่พักที่นี่จะเป็น Guest House ที่เจ้าของจะมาคอยดูแล ทำอาหารเช้าให้ทาน และบริการผู้เข้าพักด้วยตัวเอง และเรายังได้ซื้อทัวร์ไปนอนเกอร์ (Ger) กับชาวมองโกลแท้ๆ 2 วัน 1 คืน จากที่พักแห่งนี้ ในราคาคนละ 70 USD เป็น Private Tour เลยมีแค่เรา 2 คน แต่ถ้ามามากกว่า 2 คน ราคาต่อคนก็จะถูกลงเรื่อยๆตามจำนวนคน โปรแกรมทัวร์มีดังนี้:
- Zaisan Memory Hill อนุสรณ์สถานแห่งการต่อสู้ไซซาน
- Telejl National Park นอนเกอร์ที่อุทยานแห่งชาติเทอเรลจ์
- Aryabal Buddhist Meditation Center วัดเก่าแก่ที่อยู่ในอุทยานแห่งชาติเทอเรลจ์
- Genghis Khan Equestrian Statue อนุสาวรีย์และพิพิธภัณฑ์เจงกิสข่าน
ราคาข้างต้นนั้นจะรวมทุกอย่างแล้ว เราไม่ต้องจ่ายอะไรเพิ่มเติม
เว็บไซต์ที่พัก http://www.greattours-mongolia.com/
เมื่อ check-in เก็บของ และทำธุระส่วนตัวเรียบร้อยแล้ว เราก็ออกไปเดินเล่นในเมืองกัน
บรรยากาศในเมืองอูลานบาตอร์ค่ะ
จากนั้นเราก็ไปเยี่ยมชมจัตุรัสซัคบาทาร์ (Sukhbaatar Square) ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมืองอูลานบาตอร์
เดินไม่ทันไร ฟ้าก็เริ่มมืด (ช่วงฤดูหนาวพระอาทิตย์ตกไวมากค่ะ บ่าย 4 ก็เริ่มมืดกันหมดแล้ว)
คุณพี่ตำรวจเท่มากค่ะ
เราเดินเล่นในเมืองอยู่พักนึง จากนั้นก็หาร้านอาหารทาน แล้วก็รีบกลับที่พัก เพื่อนอนพักผ่อนให้เต็มที่ สำหรับพร้อมไป Ger ในวันพรุ่งนี้
เช้าวันรุ่งขึ้น เราตื่นกันประมาณ 7 โมง เจ้าของที่พักทำอาหารเช้ารอเราไว้แล้ว แถมยังจัดเตรียมรองเท้าบู๊ท ถุงเท้าหนาๆมาให้พวกเราใส่ เพราะเขาบอกว่าที่พวกเรามีอาจจะกันหนาวไม่พอ (ดูแลเราดีมากเลยอะ) โดยทัวร์นี้จะมีคนพาเราไป 2 คน คือ คุณพี่สามีเจ้าของที่พัก รับหน้าที่เป็นคนขับรถและหลานสาวรับทำหน้าที่เป็นไกด์ ทั้งสองคนสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษกับพวกเราได้ค่ะ
พร้อมแล้ว ก็ไปกันเลย!
สถานที่แรกที่พวกเราไปคือ Zaisan Memorial Hill อนุสรณ์สถานแห่งการต่อสู้ไซซาน ตั้งอยู่เนินเขาทางตอนใต้ของเมืองอูลานบาตอร์ ซึ่งสหภาพโซเวียตสร้างให้มองโกเลีย โดยลงภาพวาดไว้บนอนุสรณ์แสดงถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างกัน ที่กองทัพแดง (Red Army) ช่วยมองโกเลียรบจากการรุกรานของญี่ปุ่น สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ทั้งยังรำลึกถึงทหารที่เสียชีวิตในสนามรบ, ฉลองชัยชนะเหนือกองทัพนาซี และนักบินอวกาศคนแรกของมองโกเลียที่ได้ร่วมโครงการบินไปบนอวกาศของสหภาพโซเวียตปี 1981 และที่นี่ยังเป็นจุดชมวิวที่ดีที่สุดของเมืองแบบ panorama สามารถมองไปได้ไกลสุดลูกหูลูกตาเลยทีเดียว
จากนั้นเราก็ออกจากอูลานบาร์ตอร์ เพื่อไปยัง Ger ที่ตั้งอยู่ใน Telejl National Park อุทยานแห่งชาติเทอเรลจ์ ซึ่งอยู่ห่างจากตัวเมืองอูลานบาตอร์ไปทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 80 กิโลเมตร
ระหว่างทาง ไกด์ของเราได้พาไปจอดที่จุดถ่ายรูปกับนกเหยี่ยวและขี่อูฐ ซึ่งเป็นนกเหยี่ยวและอูฐที่ชาวมองโกลเขาเลี้ยงไว้
ค่าถ่ายรูปกับนักเหยี่ยวคนละ 7000 ทุรุก (ประมาณ 2 USD) นกเหยี่ยวตัวที่เราถือหนักประมาณ 5 โล ถือว่าหนักมากสำหรับเรา ยกแทบไม่ไหว ส่วนตัวของแฟนหนัก 10 โล (หนักมากกก)
มีความเกร็งเล็กน้อย
เบื้องหลังการถ่ายทำค่ะ ตอนเจ้าของมาสยายปีกสวยมาก พอเราจะถ่ายหุบปีกทันที 555
และเราก็ได้ลองขี่อูฐ ให้อูฐพาเดินเล่นและถ่ายรูปกับน้องอูฐกันค่ะ ราคาคนละ 7,000 ทุกรุก (ประมาณ 2 USD)
ความรู้สึกตอนขี่หลังอูฐ สนุกดีค่ะ ขนอูฐนิ่มมาก นั่งแล้วไม่เจ็บ แถมดูมั่นคงมากกว่าตอนขี่ม้าอีกอะ เพราะเรานั่งตรงระหว่างหนอกอูฐมันเลยยึดตัวเราไว้ แต่สูงอยู่นะคะ ถ้าตกลงมานี่เจ็บอยู่
หลังจากสนุนสนานกับการถ่ายรูปแล้ว เราก็ออกเดินทางกันต่อค่ะ
และแล้วเราก็มาถึง Ger ที่พักของพวกเราในคืนนี้ ตั้งอยู่ใน Telejl National Park อุทยานแห่งชาติเทอเรล์ ซึ่งรายล้อมไปด้วยหุบเขาและธรรมชาติรอบตัว เราไปช่วงฤดูหนาวจึงเต็มไปด้วยหิมะสีขาวปกคลุมทุกพื้นที่ในอุทยานอย่างสวยงาม
ในภาพด้านล่างนี้ พี่คนซ้ายคือสามีเจ้าของที่พัก น้องคนกลางคือไกด์ของพวกเราค่ะ ชื่อ ทุกโซ่ะ เป็นหลานของเจ้าของที่พัก ส่วนป้าคนขวาคือคุณป้าชาวมองโกล เจ้าของเกอร์ค่ะ
ทุกโซ่ะ กำลังเตรียมทำอาหารกลางวันให้พวกเราทาน เป็นบะหมี่แห้งใส่เนื้อแพะและผักค่ะ
หน้าตาจะเป็นประมาณนี้ค่ะ รสชาติพอทานได้นะคะ แต่อาจจะไม่ถูกปากคนไทย เพราะรสชาติจะจืดและแห้งไปหน่อย
เราจะพาไปดูสัตว์เลี้ยงของคุณป้ากันค่ะ
อันนี้วัวที่คุณป้าเลี้ยงไว้ ตอนเช้าป้าจะพาวัวไปเดินเล่นในอุทยาน และตอนเย็นก็จะพามาเข้าคอก
และนี่ก็น้องแพะค่ะ น่ารักมากมีจุ๊บๆกัน 555 ตอนเช้าป้าจะพาน้องแพะไปเดินเล่นในอุทยาน และตอนเย็นก็จะพามาเข้าคอกเช่นกันค่ะ
ส่วนเจ้านี่ น้องหมาของคุณป้าค่ะ ขี้เล่นและเชื่อฟังเจ้าของมาก ชื่อเจ้า ประส่ะ (แฟนเราเรียกว่าประสาท 5555)
พาไปชมบรรยากาศรอบๆเกอร์ค่ะ
ตอนที่พวกเราไปอากาศหนาวมาก ตอนกลางวัน -20 องศา กลางคืนนี่ไม่ต้องพูดถึง เราถ่ายรูปได้แปปๆก็ต้องรีบกลับเข้าเกอร์ไปผิงไฟ ทุกโซ่ะบอกว่า นี่แค่เพิ่งเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาวนะคะ หน้าหนาวจริงๆของเขาหนักกว่านี้อีก เค้าก็อธิบายเพิ่มว่าอุณภูมิที่มองโกเลียเนี่ย กว้างมาก แบบหน้าร้อนก็ 30-40 องศา หน้าหนาวก็ติดลบไปจนถึง -40 กันไปเลย
และนี่คือห้องน้ำของเกอร์ที่เราพักค่ะ
แทนแท่นแท้นนน 5555