กองทัพรถม้าของอียิปต์ ทัพใหญ่สุด นำทัพโดยองค์ฟาโรห์รามิเซสเอง ไล่กวดตามหลังกองคาราวานชนอิสราเอล จนใกล้ระยะที่จะยิงลูกศรได้ถนัดถนี่แล้ว ในขณะที่กองคาราวานขบวนด้านหน้าไปประชิดริมเหวซึ่งเบื้องล่างคือสายน้ำเชี่ยวกว้างใหญ่แห่งทะเลแดงและไปไหนต่อไม่ได้แล้ว ขบวนหลังๆเริ่มแตกฮือและเร่งรีบหนีไปข้างหน้า มีบางส่วนแตกกระจายออกไปด้านข้าง แต่ก็เคลื่อนไปข้างหน้าต่อ

เบื้องบนอากาศ บริเวณจุดกึ่งกลางของสองกลุ่มชน ยาน "ผู้ลี้ภัย" หรือ THE FUGITIVE ของกัปตันวันชนะและคณะลอยตัวนิ่งอยู่ และทุกคนในยานสวมชุดขาวสะท้อนแสงมันวับ เตรียมพร้อมแล้ว ยกเว้นกัปตันซึ่งจะอยู่บังคับยาน

"พวกเราเตรียมลงไปช่วยสะกัดพวกอียิปต์ อย่าให้พวกเขาทำร้ายชาวอิสราเอลได้ พร้อมนะ ?"

"พร้อมครับ/ค่ะ กัปตัน" ทุกคนประสานเสียงพร้อมกัน ขณะที่ยืนอยู่ในวงกลมกึ่งกลางยาน เตรียมถูกปล่อยตัวลงไป

"แอนดี้ สื่อสารกับพวกอิสราเอลให้เข้าใจนะ"

"ไม่มีปัญหาครับผม เจ้านาย"

"โอเค ทุกคนเตรียมลงไปได้แล้ว ผมนับสามนะครับ หนึ่ง...สอง...สาม ไปได้!!"

สิ้นเสียงของกัปตัน วงกลมบนพื้นกลางยานก็เปิดออก ส่งทุกคนลอยตัวลงไปสู่พื้น และพวกเขาถูกพบเห็นทั้งโดยเหล่าชนอิสราเอลและเหล่าทหารอียิปต์

"ทูตสวรรค์!!" พวกอิสราเอลซึ่งอยู่ด้านหลังพากันร้องตะโกนอย่างลิงโลด "ทูตสวรรค์มาช่วยพวกเราแล้ว!!"

"นั่น เทพของพวกฮิบรูหรือ ?" รามิเซสอ้าปากค้างหลังจากตรัสถามและทรงดึงบังเหียนหยุดรถม้าไว้

"ทูตสวรรค์" ทั้ง 5 ลอยตัวลงมาสู่พื้นดิน หันหน้ามาทางกองทหารอียิปต์ ในมือของแต่ละคนถืออาวุธแปลกประหลาดในสายตาของผู้พบเห็น มีด้ามถือในมือ มีปลายแหลม เป็นโลหะสีเงินสะท้อนแสงวาววับ ทั้ง 5 คนยืนเรียงแถวหน้ากระดาน แล้วคนหนึ่งซึ่งเป็นชาย รูปร่างสมส่วนหน้าตาหล่อเหลาราวกับเทพบุตรกรีก ก็หันไปตะโกนบอกชาวอิสราเอลด้านหลังด้วยภาษาฮิบรู

"ชนอิสราเอลทั้งหลาย พวกท่านจงติดตามโมเสสไป อย่ากลัว อย่าได้สงสัยอันใด ไม่ต้องกลัวทหารอียิปต์ พวกเราจะช่วยพวกท่านสะกัดกั้นพวกเขาเอง!!"

เสียงเฮดังลั่นทันที หลังจากที่ทุกคนได้ยินคำประกาศนั้น ในขณะที่ทางฝั่งกองทัพอียิปต์ ทุกคนมีสีหน้าเครียดหนัก โดยเฉพาะองค์ฟาโรห์

"ให้มันรู้ไปสิวะ!" รามิเซสทรงคำราม แล้วทรงบัญชาด้วยพระสุรเสียงดังลั่น "ทหาร! บุกตะลุยเข้าไป !!"

กองทหารม้า ถูกกระตุ้น และเคลื่อนทัพวิ่งเข้าหา "ทูตสวรรค์" ทั้ง 5 ซึ่งยืนขวางหน้าอยู่ทันที!

"เทวทูต" ทั้ง 5 นั้น ยกอาวุธของตนขึ้นมา และยิงแสงประหลาดสีขาวเป็นลำออกจากปลายอาวุธเหล่านั้นเข้าใส่ทหารซึ่งเข้ามาใกล้ที่สุด

"ปืดดดดดดดด ปืดดดดดดดดด ปืดดดดดดดดดด ปืดดดดดดดดดด ปืดดดดดดดด......"

"โอ้ววว........อ๊าาาา  อ๊ากกกก.....อ๊าาา อ๊าาากกก"

ทหารผู้ขับรถม้ามาถึงก่อน ร่วงผลอยลงจากรถม้าไปตามๆกัน และม้าทั้งหลายก็ตื่นตระหนก ยกขาหน้าของมันขึ้นแล้วสะบัดเพื่อจะให้พ้นจากพาหนะซึ่งถูกผูกติดกับพวกมัน ร้องกันเสียงขรม

แต่กองทหารซึ่งตามมาข้างหลังก็ยังหนุนเนื่องกันเข้ามา และถูก "เทวทูตทั้ง 5" ยิงแสงมฤตยูสะกัดเป็นระยะๆ

ทว่า กองทหารมีมากเหลือเกิน....จน "เทวทูตทั้ง 5" ก็เริ่มถอยร่นไปข้างหลัง

"ท่าทางไม่ดีแล้ว แอนดี้!" เสียงตะโกนจาก "เทวทูตชาย" ผิวสีแทนคนหนึ่ง

"เทวทูต" แอนดี้ ใบหน้าเรียบเฉยไร้ความรู้สึก วินาทีนั้น เขากางแขนและขา ปล่อยพลังไอพ่นจากฝ่ามือฝ่าเท้า แล้วลอยตัวสูงขึ้นไปบนอากาศราวสิบเมตร แล้วแบฝ่ามือทั้งสองเล็งไปยังกองทหารอียิปต์ซึ่งอยู่ด้านหน้า แล้วปล่อยเลเซอร์จากกลางฝ่ามือเข้าใส่ กวาดจากซ้ายไปขวา แล้วก็ขวาไปซ้าย

"ปืดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด  ปืดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด"

เท่านั้นเอง กองทหารด้านหน้าก็กระเจิง ที่โดนเลเซอร์เข้าเต็มๆก็ถูกไฟลุกไหม้ร้องโอดโอย รถม้าล้มระเนระนาด ที่ไม่โดนก็พยายามยิงลูกศรใส่แอนดี้ ซึ่งก็ไร้ประโยชน์เพราะถึงมีศรลูกไหนโดน แอนดี้ก็ไม่เป็นอะไร แถมสวนกลับให้ด้วยเลเซอร์อีกต่างหาก

แม้กระนั้น กองทัพมากมายมหาศาลของฟาโรห์ก็ยังหนุนเนื่องไม่ยอมหยุด! จากทัศนียภาพกลางอากาศ ทั้งแอนดี้ และกัปตันวันชนะ มองเห็นทหารอียิปต์จำนวนมากมายเหลือเชื่อเต็มไปหมดในแนวหลังซึ่งเคลื่อนทัพหนุนเป็นระลอก

"เยอะเกินไปครับ เจ้านาย!" แอนดี้พูดกับกัปตัน

"เห็นแล้ว แอนดี้" เขาตอบ "ยังไงก็อดทนช่วยต่อต้านจนถึงที่สุด!"

"ครับ เจ้านาย"

แอนดี้เตรียมปล่อยเลเซอร์ใส่กองทหารด้านหน้าอีก

แต่ยังไม่ทันได้ลงมือ ก็ปรากฏมีลมหมุนปรากฏขึ้น ณ จุดกึ่งกลางระหว่างชนสองฝ่าย แล้วลมหมุนนั้นค่อยๆขยายตัวใหญ่ขึ้นๆจนกลายเป็นพายุหมุน พัดทั้งฝุ่นและทรายกระจายไปในอากาศอย่างรุนแรง!

"ฟิ้ววววว.....หวิววววว......."

ฝ่ายกองทหาร ถูกพายุทรายซัดกระหน่ำ รถม้าจำนวนมากเซไปตามแรงลมและล้มคว่ำ ส่วนทางฝั่ง "เทวทูต" และชาวอิสราเอล กลับไม่โดนลมพายุเลย มันพัดเทกระหน่ำเข้าใส่พวกทหารอียิปต์เท่านั้น!

พายุนั้น ในที่สุดกลายเป็นเพลิงพายุหมุน ไล่เผาผลาญกองทหารอียิปต์ด้านหน้าให้ถอยรุ่นไปแทบไม่เป็นขบวน ฟาโรห์เองก็แทบจะทรงร่วงลงจากราชรถ

ตอนนี้ ชาวอิสราเอลทั้งหมด ยืนอยู่บนหน้าผาริมทะเลแดงกันหมดแล้ว มีทางลาดลงไป ซึ่งถ้าทุกคนลงไป ก็จะเจอแต่น้ำทะเลเท่านั้น!

ทุกคนมองพวกทหารอียิปต์ซึ่งกำลังระส่ำระสายอยู่กับเพลิงพายุหมุน และหันมามองโมเสสซึ่งยืนอยู่บนก้อนหินใหญ่เป็นระยะๆ สลับกันไป

เวลาผ่านไปราวครึ่งชั่วโมง เพลิงพายุหมุนเริ่มค่อยๆสลายตัว เบาบางลง

กองทหารอียิปต์ เริ่มตั้งขบวนกันใหม่ เตรียมตัวบุกไปข้างหน้าอีกครั้ง!

"โมเสส! พวกทหารของฟาโรห์ กำลังจะมาแล้ว!!" เสียงของชนอิสราเอลร้องตะโกนบอก

อดีตเจ้าชายแห่งอียิปต์ หันหน้าเข้าหาทะเลแดง ชูไม้เท้าขึ้นด้วยสองมือ มองขึ้นไปบนฟ้า...

แล้วสิ่งมหัศจรรย์ที่สุดของที่สุดก็บังเกิด!

มีลมพายุหมุนวนเป็นวง ลอยจากฟากฟ้า ปักลงกลางสมุทร แล้วพายุหมุนนั้น ปั่นให้น้ำทะเลแหวกกระจายออก และพายุหมุนนั้นก็ขยายใหญ่ขึ้น และยาวไปเป็นทาง แหวกทะเลแดงแยกออกเป็นช่อง ทำให้น้ำในทะเลถูกแบ่งเป็นกำแพงสูงสองด้าน เหลือช่องว่างตรงกลางเป็นเส้นทางเดินยาวไปข้างหน้า!

"พระเจ้าทรงเปิดทางให้เรา!!" โมเสสตะโกนสุดเสียง "จงไปกันเถิด พี่น้องทั้งหลาย อย่าช้า!!"

กองคาราวานอิสราเอล ลงจากขอบเหวริมน้ำ ลงไปชายหาด แล้วพากันเดินไปตามทางซึ่งทอดไปในระหว่างกำแพงน้ำนั้นโดยไม่รอช้า!

ฝ่าย "เทวทูต" ทั้ง 5 มองดูเหตุอัศจรรย์นั้นอย่างตื่นตะลึง โดยเฉพาะสาวจอยถึงกับทรุดตัวลงนั่งกับพื้นและพนมมือมองฟ้า มีแต่แอนดี้เท่านั้นที่มองดูเฉยๆโดยปราศจากความรู้สึกใดๆบนใบหน้า

"คอยคุ้มกันชาวอิสราเอลต่อไป!"

เสียงจากกัปตันวันชนะดังเข้ามาทางวิทยุ ปลุกทุกคนให้ตื่นตัว และยืนขวางทางเดินมหัศจรรย์ไว้ ไม่ให้กองทหารฝ่าเข้าไป ใครเข้ามาถึงก่อนก็โดนยิงด้วยเลเซอร์ไปตามระเบียบ

แต่เพราะหนทางนั้นก็เปิดกว้างยิ่ง ดังนั้นเมื่อกองทหารหนุนเนื่องมาโดยไม่ขาด ทั้ง 5 คนก็ค่อยๆถอยร่น แต่ก็ยังอยู่รั้งหลังสุดของชาวอิสราเอล และทุกครั้งที่มองไปที่ "กำแพงน้ำ" ไม่ว่าจะเป็นทางซ้ายหรือทางขวา ก็ให้รู้สึกหวาดเสียว เพราะไม่รู้ว่ากำแพงทั้งสองด้าน จะบรรจบเข้าหากันในยามใด ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อใดที่กำแพงทั้งสองบรรจบเข้าหากัน ทุกคนก็จะต้องตายกันหมดเมื่อนั้น!

"นี่คือปาฏิหาริย์ของพระเจ้า!!" สาวจอยร้องตะโกน ขณะที่กำลังถอยร่นไปพร้อมกับทุกคนทีละน้อยๆ "ทุกคนไม่ต้องห่วงนะคะ พวกเราไม่เป็นไรแน่นอน รวมทั้งพวกอิสราเอลด้วย พวกเราจะเดินข้ามไปจนถึงอีกฝั่งหนึ่งข้างหน้า"

"ไม่เป็นไรคุณจอย" กัปตันตอบจากยาน "ต่อให้น้ำกลับมาท่วม พวกเราจะไม่เป็นไร ชุดที่ทุกคนใส่จะกลายเป็นชุดประดาน้ำได้ทันที แค่กดปุ่มที่ตรงท้ายทอยเท่านั้นเอง จะมีอุปกรณ์ดำน้ำโผล่ออกมาจากแผงที่หน้าอก และตีนกบจะถูกปล่อยออกจากบริเวนส้นเท้า ถังออกซิเจนแบนๆ มีอยู่แล้วที่ด้านหลังของทุกคน พวกคุณจะอยู่ในน้ำได้ประมาณหนึ่งชั่วโมง"

"โอเคค่ะ! ขอบคุณค่ะกัปตัน" หล่อนร้องตอบด้วยความอุ่นใจ

ขบวนคาราวานชาวอิสราเอล เคลื่อนไปข้างหน้าเรื่อยๆ และข้ามไปถึงอีกฝั่งหนึ่งทีละกลุ่มๆ ขณะที่กองทหารของฟาโรห์ก็พยายามไล่ติดตามมาด้วยความยากลำบากเพราะภูมิประเทศที่ไม่เอื้ออำนวยให้ไล่ตามไปได้เร็วนัก หลายครั้งที่ล้อรถม้าติดหล่ม ติดแง่งหิน โขดหิน ทหารจำนวนมากต้องลงจากรถม้า แล้วไล่ตามชาวอิสราเอลต่อไป ซึ่งก็ถูกสะกัดด้วย "เทวทูต" ทุกครั้งที่เข้าไปใกล้

ยกเว้น ฟาโรห์รามิเซส พระองค์เดียวเท่านั้น ที่คอยบัญชาการอยู่ด้านหลัง บนขอบเหว เพราะทรงหวาดกลัว ไม่กล้าเสด็จเข้าสู่หนทางมหัศจรรย์นั้น พระองค์ทรงหวาดผวาว่ากำแพงน้ำทะเลจะเคลื่อนเข้ามาบรรจบกันเมื่อไรก็ไม่อาจทรงทราบได้!

ในที่สุด ชนอิสราเอลกลุ่มสุดท้ายก็ข้ามไปถึงฝั่งตรงข้าม ขึ้นสู่ที่สูงพร้อมกับโมเสส ตามมาด้วย "เทวทูต" ทั้ง 5  และกองทหารของฟาโรห์ตามมาในระยะห่างราว 500 เมตร

"พวกท่าน ก็ขึ้นมาฝั่งนี้ได้แล้ว!!" โมเสสร้องบอกเหล่า "เทวทูต"

แอนดี้หันไปตอบ "ท่านไม่ต้องห่วงพวกเราดอก โมเสส!"

แล้วเขาก็เข้ามายืนแทรกกลางระหว่างสาวจอยและเล็ก สองมือซ้ายขวา โอบรอบเอวของพวกหล่อนไว้

"ผมจะพานายหญิงทั้งสอง ขึ้นไปบนฝั่งโน้นนะครับ"

"จ้ะ!!" สองสาวตอบพร้อมกัน แล้วสาวเล็กก็จุ๊บแก้มเขาทีหนึ่ง

แอนดี้ยิ้มเล็กน้อย แล้วจึงปล่อยพลังไอพ่นขับดันจากฝ่าเท้า ส่งตัวเขาและสองสาวขึ้นไปบนอากาศ พาทั้งสองไปไว้บนฝั่งโน้น แล้วเหาะกลับมาหาเอกกับแซม หอบเอาสองหนุ่มเหาะไปหาสองสาวซึ่งยืนรออยู่บนฝั่งโน้น

แล้วทุกคนก็มองเห็นโมเสส ชูไม้เท้าขึ้นเหนือศีรษะอีกครั้ง แล้วลดไม้เท้าลงอย่างรวดเร็ว!

บัดนั้น กำแพงน้ำทะเลทั้งสองด้าน ก็เคลื่อนเข้าหากันอย่างรวดเร็ว อัดกองทหารอียิปต์ซึ่งกำลังตามมาอย่างเร่งรีบ และกระชั้นชิดเข้ามา ห่างจากพวกอิสราเอลและผู้มาจากอนาคตทั้ง 5 ไม่ถึง 300 เมตร ในลักษณะประกบแซนด์วิชอย่างแรง !!!

ทหารอียิปต์หมดทั้งกองทัพ จมน้ำไปหมดไม่มีเหลือ !!

ฟาโรห์รามิเซส ซึ่งประทับยืนทอดพระเนตรอยู่บนรถม้าพระที่นั่ง ทรงเบิกพระเนตรกว้าง สีพระพักตรซีดเผือดด้วยทรงรู้สึกสยดสยองกับความตายของเหล่าทหารทั้งกองทัพ!!

ถึงเวลานี้ พระองค์ทรงประจักษ์ชัดแล้ว ว่าพระองค์ทรงพ่ายแพ้โดยสิ้นเชิง!

รามิเซส ทอดพระเนตรมองโมเสสพาชาวอิสราเอลเดินจากไป ห่างไกลออกไป ไกลออกไป จนลับสายพระเนตร ก่อนจะค่อยๆทรงบังคับราชรถเทียมม้าให้หันหลังกลับ และค่อยๆทรงขับราชรถกลับพระราชวัง อย่างซึมเซา...



"เป็นไงกันบ้าง เหนื่อยมากไหมพวกเรา ?" กัปตันวันชนะถาม หลังจากรับทุกคนกลับขึ้นยานกันหมดแล้ว

"นิดหน่อยครับผม" แซมตอบ หลังจากรับน้ำเย็นขวดหนึ่งจากจอยมาดื่ม

"ตื่นเต้นจังค่ะ โดยเฉพาะ ตอนโมเสสขอให้พระเจ้าเปิดทะเลแดง" จอยกล่าวต่อ "ไม่นึกเลยว่าจะได้มาเห็นเหตุการณ์ในพระคัมภีร์กับตา"

"อื้ม...ตกลง คุณจอยจะถือศาสนาไหนกันแน่เนี่ย ?" กัปตันถามยิ้มๆ

"ง่า...ก็คงเหมือนเดิมค่ะ เป็นทั้งพุทธทั้งคริสต์ ปาฏิหาริย์ของพระพุทธเจ้าก็เห็นมาแล้ว แล้วมาเห็นปาฏิหาริย์ของพระเจ้าอีก จะให้ทำไงอ่า"

"มันคนละแบบกันไม่ใช่เหรอตัว ?" สาวเล็กถามอย่างข้องใจ "ชาวคริสต์ ไม่มีชาติก่อนหรือชาติหน้า มีชาตินี้ชาติเดียว ใช่ไหม ? "

"อืม...ใช่จ้ะ!" หล่อยพยักหน้าตอบเพื่อน

"แล้วไม่รู้สึกขัดแย้งกันเหรอ ?"

"ไม่อ่ะ ไม่รู้คนอื่นเป็นไงนะ แต่เค้าเฉยๆอะ ไหว้พระทางพุทธเค้าก็ไหว้ได้"

"อ้าว ไหนว่าเป็นข้อห้ามในบัญญัติสิบประการไง ตัวก็ฝ่าฝืนน่ะสิ ?"

"นั่นมันศาสนาเก่าอะ ศาสนาความเชื่อก่อนยุคพระเยซู"

"แต่คนคริสต์ที่เคร่ง เค้าก็ถือ ก็ห้ามเหมือนกันนิ ?"

"ใช่จ้ะ แต่เค้าไม่เคร่งมากขนาดน้าน...เค้าอะแด๊ปได้ทั้งสองศาสนาแหละ"

"แล้ว ถ้าสมมติว่า ต้องเลือกเพียงศาสนาเดียวล่ะครับ คุณจอยจะเลือกอยู่ข้างไหน ?" กัปตันถาม

"ง่า...ตอบยากอะค่ะ กัปตัน" หล่อนกุมขมับ

(ต่อครับ)