เรื่องราวตำนานของโมเสสที่นำชาวอิสราเอลอพยพจากอียิปต์
ถูกกล่าวขานในรูปแบบภาพยนตร์ หลายต่อหลายครั้ง
และในปีนี้ก็เช่นกัน ซึ่งเราต้องยอมรับว่า"การตีความหมาย"เป็นส่วนสำคัญ
ที่ทำให้ภาพยนตร์แต่เรื่องละเรื่อง แม้สร้างจากวรรณกรรมเรื่องเดียวกัน แต่ก็มี"แบบฉบับ"ของตนเอง
สิ่งทั่วไปในภาพยนตร์ฉบับนี้ที่ผมว่าหลายคนชอบ
ภัยพิบัติทั้ง10ประการในการตีความของริดลีย์ สร้างแบบสอดคล้องกับความเป็นไปได้ในปัจจุบันและดูเป็นเหตุการณ์ที่ยังยิ่งใหญ๋
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้โดยส่วนตัวผม ภัยพิบัติแรก ผมว่าออกจะเว่อร์ไปหน่อย
ที่จระเข้คลั่งแล้วกัดคนอียิปต์และกัดกันเองจนแม่น้ำไนล์ละเลงเลือด
จริงๆมีทฤษฎีหนึ่งว่าเป็นตะกรันแร่ธาตุบางอย่าง ไปตกในแม่น้ำ /แต่เอาเถอะฉากจระเข้คงปลุกเร้าได้ดีกว่า
อีกส่วนหนึ่งที่ผมชอบคือการปรากฎของพระเจ้า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ในรูปลักษณ์ของเด็ก
นั่นทำให้เรามีมุมมองต่อพระองค์อย่างนุ่มนวลยิ่งขึ้น และบทสนทนากับพระองค์ก็ทำให้เราเห็นถึงมุมมองที่เป็น"มนุษย์"มากยิ่งขึ้น
แต่ส่วนที่ผมไม่ค่อยพอใจ ก็คือ บทของ
โมเสส
(ไม่ใช่คริสเตียน เบล เล่นไม่ดีนะ )แต่ว่า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ในพระคัมภีร์ โมเสสเป็นคนนิ่งๆไม่ค่อยแสดงออกครับ(introvert)ครับ
ดูจากบทสนทนาระหว่างโมเสสกับพระเจ้า เมื่อพระเจ้ามอบหมายการเป็นผู้เผยพระวจนะให้โมเสส
"โมเสสทูลองค์พระผู้เป็นเจ้าว่า "โปรดเถิด พระเจ้าข้า โปรดอภัยให้ข้าพเจ้าเถิด
ข้าพเจ้าพูดไม่คล่องทั้งในอดีตและตั้งแต่พระองค์เริ่มตรัสกับข้าพเจ้าผู้รับใช้ของพระองค์แล้ว
ข้าพเจ้าก็ยังพูดไม่คล่อง ทั้งพูดช้าและตะกุกตะกัก"
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงถามว่า "ใครเล่าเป็นผู้ให้มนุษย์มีปาก ใครเป็นผู้ทำให้มนุษย์หูหนวกหรือเป็นใบ้
ทำให้มองเห็นหรือตาบอดเล่า
ไม่ใช่เรา องค์พระผู้เป็นเจ้าดอกหรือ บัดนี้ จงไปเถิด เราจะช่วยท่านพูด เราจะสอนท่านว่า จะต้องพูดอะไรบ้าง"
แต่โมเสสทูลแย้งว่า "ขอทรงอภัยข้าพเจ้าด้วยเถิด พระเจ้าข้า โปรดส่งผู้อื่นไปเถิด"
องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงพิโรธโมเสส ตรัสว่า "อาโรน ชนเผ่าเลวีเป็นพี่ชายของท่านไม่ใช่หรือ
เรารู้ว่าเขาพูดคล่อง และเขากำลังมาพบท่านอยู่แล้ว เขาจะดีใจมากที่พบท่าน
ท่านจะพูดกับเขา และบอกเขาว่า เขาจะต้องพูดอะไรบ้าง เราจะอยู่กับท่านและกับเขาเมื่อท่านทั้งสองจะพูดและเราจะบอกให้รู้ว่า
ท่านจะต้องทำอะไรบ้าง อาโรนจะพูดกับประชาชนแทนท่าน เขาจะเป็นปากของท่าน ท่านจะเป็นเหมือนพระเจ้าที่บอกเขาว่าต้องพูดอะไรบ้าง
จงถือไม้เท้านี้ไว้ ท่านจะได้ใช้ทำเครื่องหมายอัศจรรย์"
(อพยพ 4:10-17)
_____________
ดังนั้นผมว่า การที่ให้โมเสสมีการฝึกคนเพื่อทำสงคราม เลยเป็นไปไม่ได้ (และอาจรวมไปถึงการสนทนากับพระเจ้าที่ดูhardcoreไป)
"ไม้เท้า"ที่ถูกกล่าวถึงในเอกสารปฐมภูมิ และฉบับอื่นๆ ถูกแทนที่ด้วย "ดาบ"
ผมมองว่าบทที่คริสเตียนเบลแสดง น่าจะเป็นบทบาทของอาโรน พี่ชายของโมเสสมากกว่า
แต่ก็เอาเถิด การสร้างภาพยนตร์ก็เป็นเสรีของผู้สร้าง
และการดูภาพยนตร์ที่สร้างจากพระคัมภีร์ เราต้องตระหนักเสมอว่า แทนการอ่านพระคัมภีร์มิได้
ศาสนิกควรแยะแยะระหว่าง หนังสือคำสอนศาสนา และภาพยนตร์
[CR] ดาบ2คมของริดลีย์: ข้อดีและข้อเสียของExodus 2014 (8/10)
เรื่องราวตำนานของโมเสสที่นำชาวอิสราเอลอพยพจากอียิปต์
ถูกกล่าวขานในรูปแบบภาพยนตร์ หลายต่อหลายครั้ง
และในปีนี้ก็เช่นกัน ซึ่งเราต้องยอมรับว่า"การตีความหมาย"เป็นส่วนสำคัญ
ที่ทำให้ภาพยนตร์แต่เรื่องละเรื่อง แม้สร้างจากวรรณกรรมเรื่องเดียวกัน แต่ก็มี"แบบฉบับ"ของตนเอง
สิ่งทั่วไปในภาพยนตร์ฉบับนี้ที่ผมว่าหลายคนชอบ
ภัยพิบัติทั้ง10ประการในการตีความของริดลีย์ สร้างแบบสอดคล้องกับความเป็นไปได้ในปัจจุบันและดูเป็นเหตุการณ์ที่ยังยิ่งใหญ๋
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
อีกส่วนหนึ่งที่ผมชอบคือการปรากฎของพระเจ้า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แต่ส่วนที่ผมไม่ค่อยพอใจ ก็คือ บทของโมเสส
(ไม่ใช่คริสเตียน เบล เล่นไม่ดีนะ )แต่ว่า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
"ไม้เท้า"ที่ถูกกล่าวถึงในเอกสารปฐมภูมิ และฉบับอื่นๆ ถูกแทนที่ด้วย "ดาบ"
ผมมองว่าบทที่คริสเตียนเบลแสดง น่าจะเป็นบทบาทของอาโรน พี่ชายของโมเสสมากกว่า
แต่ก็เอาเถิด การสร้างภาพยนตร์ก็เป็นเสรีของผู้สร้าง
และการดูภาพยนตร์ที่สร้างจากพระคัมภีร์ เราต้องตระหนักเสมอว่า แทนการอ่านพระคัมภีร์มิได้
ศาสนิกควรแยะแยะระหว่าง หนังสือคำสอนศาสนา และภาพยนตร์