8AR-FTS ตัวตายตัวแทนของ 3S-GTE

กระทู้สนทนา
8AR-FTS ตัวตายตัวแทนของ 3S-GTE

สวัสดีครับวันนี้ขอเขียนเรื่องสาระตามที่เพื่อนๆสมาชิกใน Facebook Page: 3S Society Thailand ได้เปรยไว้ว่าเบื่อเหลือเกินเรื่องรอบเครื่อง 8500 rpm ที่ต้องอาศัยทักษะของเครื่อง Beam แดง

การแปะ turbo จากโรงงานเป็นอะไรที่ on and off ลักปิดลักเปิดมาตลอดสำหรับค่ายรถต่างๆ สำหรับ Toyota มันเริ่มมาจากการทำรถลงแข่งในรายการ World Rally Championship (WRC) Group B ในเดือนกันยายน 1982 กับรถ Toyota Celica (TA64) มาพร้อมเครื่อง 4T-GTE สี่เม็ดพันแปดโบ (1791cc) (Production: 180PS./ HOMO 326PS) Toyota Celica (TA63) มาพร้อมเครื่อง 3T-GTE สี่เม็ดพันแปดโบ (1770cc) (Production: 160PS.) ซึ่งเครื่องสองตัวนี้ผลิตในปี 1982-1985

หลังจากนั้นก็เป็นยุคของ 3S-GTE ตั้งแต่ 1986-2007 มีทั้งหมด 5 Generations แต่จะว่าไปในอนุกรม "S" นั้นเริ่มมาตั้งแต่ 1980/1981 กับ 1S-U ที่มีวางใน Toyota Corona (ST140) แล้ว ส่วนการเริ่ม Fade ออกจากการผลิต เริ่มมาตั้งแต่ตัวสหกรณ์ 3S-FE (เช่น Corona ST191) และ 5S-FE (เช่น Camry XV20) ในปี 2000/2001 ในส่วนของ 3S-GE Gen5 ตัวจี๊ด Blacktop Dual VVTi ขับหลัง ใน Toyota Altezza RS200 (SXE10) ขายในปี 1998-2000 ส่วนพระเอกของเรา 3S-GTE ตัวสุดท้ายพบใน Toyota Caldina AWD (ST246) 256HP. 324NM. ขายสุดท้ายในปี 2007 เป็นการปิดตำนาน 3S-GTE และเพื่อนๆในอนุกรม 3S และ "S" อื่นๆ ด้วย

เราต้องมาดูตั้งแต่ต้นว่า มันเริ่มมาจากเครื่อง "R" (1953-1997/ เช่น 1971 Toyota Crown RS60/66V คราวน์ปลากระโห้) โดยมีตั้งแต่ (1)R-22R (อาจมีข้ามเลขบ้าง) แล้วมาต่อด้วย "T" (1970-1985) แล้วมาต่อกันที่ "S" (1980-2007) แล้วใครมาต่อล่ะ? ก็ต้อง "AZ" (2000-2012/ เช่น 2AZ-FE ใน 2002 Toyota Camry 2.4 ACV30) และมาที่ "AR" (2008-ปัจจุบัน/ เช่น 2015 Toyota Camry 2.0 G D4S Minorchange ACV50)

จะเห็นได้ว่าในยุคของ "AZ" ยังไม่มีการผูกโบ และด้วยปัญหาส่วนตัวเช่น น้ำมันเครื่องหาย และทานเชื้อเพลิงเยอะไปนิดทำให้ Toyota รีบเปิดตัว "AR" ออกมาในหกปีให้หลัง เพื่อแก้ปัญหาต่างๆ

แต่จะว่ากันจริงๆแล้ว ต้องถือว่า 3S-GTE จบไปตั้งแต่ปี 1999 พร้อมกับการเลิกขาย Toyota MR2 SW20 และ Toyota Celica ST205 ตัวสุดท้าย

Caldina ST215/246 ที่ขายถึงปี 2007 ต้องเรียกว่าลากขายมา ไม่ได้มีอะไรใหม่ๆมากมายนัก ตัวรถเองก็เป็นรถทรงพ่อบ้าน ถ้าไม่ได้มีมิตรรักแฟนเพลงที่ญี่ปุ่นประครองไว้อาจจะจบไปก่อนหน้านั้นแล้ว และใน Body เดียวกันก็มีการวาง 1ZZ และ 1AZ ด้วย นั่นหมายความว่าเราต้องรอกันมาถึง 16 ปี สำหรับ สี่เม็ดสองพันผูกโบตัวต่อมา นั่นคือ

ในปี 2015 toyota ก็พัฒนาอนุกรม "AR" ตัวกลั่นออกมาเป็น 8AR-FTS ความจุ 2.0L D4S ฉีดตรงพร้อม Turbo Charger ใส่ VVT-iW เข้าไปทำให้สามารถทำงานแบบ Atkinson Cycle ได้ในรอบต่ำจึงประหยัดน้ำมัน และแบบ Otto Cycle ในรอบสูงเพื่อความแรง ปั่นม้าได้ 242 HP. ตั้งแต่ 4,800-5,600 RPM./ 350NM. ที่ 1,650-4000 RPM. เรียกว่าเป็น Flat-Torque กันเลย สำหรับระบบฉีดตรงของ Toyota ตัวนี้ที่เรียกว่า ESTEC D-4ST (Economy with Superior Thermal Efficient Combustion Direct injection 4-Stoke with Turbo) ซึ่งมีหัวฉีดทั้งในท่อร่วมไอดีแบบดั้งเดิม และหัวฉีดตรงในห้องเผาไหม้ โดยเครื่องจะเลือกฉีดทั้งคู่ หรือเลือกฉีดตรงอย่างเดียว ตามแต่รอบเครื่องยนต์ เพิ่มให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด ตัวจี๊ดแถวหน้าที่ใส่เครื่องนี้มาแล้วคือ Lexus RC 200t, IS 200t, GS 200t, Toyota Crown ตัวอื่นๆได้แก่ Lexus NX 200t, RX 200t, Toyota Highlander, Harrier

ก็หวังว่าในอีกห้าปีสิบปี 8AR-FTS จะเข้ามาในตลาดเชียงกงบ้านเราให้เลือกวางกันเหมือนกับตระกูล 3S อย่างเช่นทุกวันนี้

07 MAR 2018
George

https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=263523300852792&id=260183984520057

========
Facebook Page: ทุกเรื่องที่มีล้อ และวิ่งได้

ขอบคุณทุก Follows และทุก Likes ครับ
========

เพจสอนภาษาอังกฤษ

https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=964273607053218&id=950904501723462

========
Facebook Page: GTG and Students
.
Thanks for all your Follows and Likes
.
Instagram: GTG and Students
Twitter: GTG and Students
========
Photos are courtesy of imgrum.com, enginelabs.com, youtube.com, celica.fr, toyotareales.com, j-spec.com.au, toyoland.com, wikipedia.org, engine-repairing.ru, toyota.co.jp,
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่