กลับมาอีกครั้งกับการรีวิวในส่วนของการผ่าตัด ขำในโชคชะตาของตัวเอง ในเวลาไม่ถึง 1 ปี คือโดนผ่าตัด 2 รอบ เมื่อช่วงสงกรานต์ ปีที่แล้วโดนผ่าตัด หูรูดไป เคยเขียนรีวิวไว้ที่
https://ppantip.com/topic/36358019/comment3-1 ลองตามอ่านได้นะคะ มาเข้าเรื่องของปีนี้กันดีกว่า
เรื่องของเรื่องคือวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2561 ตื่นขึ้นมาเพราะความปวดท้องไม่ได้รุ่นแรงมาก แต่ปวดเหมือนเราออกกำลังกายมาหนักๆ แต่จะปวดรอบๆ สะดือ ไปถึงท้องช่วงล่างด้านขวา ตอนแรกเราก็ไม่ได้คิดมาก แต่ก็เอะไส้ติ่งหรือเปล่า เพราะเป็นคนสุขภาพไม่ค่อยจะดี ป่วยบ่อย คือบอกเลยว่าทุกวันนี้เป็น ภูมิแพ้ กระเพราะ และ ลำไส้อักเสบ เป็นปกติ ทำให้เข้าใจการปวดแบบกระเพราะ แบบลำไส้ดี เลยรู้สึกว่าปวดครั้งนี้มันไม่น่าจะปกติ แต่ก็พยายามคิดว่าไม่น่าจะมีอะไร เราเลยใช้ชีวิตปกติดูไปก่อน
11:00 เพื่อนที่ออฟฟิตเดินมาทักว่า ไหวไหมเป็นอะไรรึเปล่าหน้าซีดมากเลยนะ เราเลยแบบอืม เราปวดท้องแต่เช้าแล้ว แต่คิดว่าไม่น่าจะเป็นอะไรเยอะ เพื่อนบอกไปหาหมอเหอะดูไม่ไหว ลูกน้องที่ออฟฟิตหันมาเจอก็บอกเหมือนจะเป็นลม ปากซีดมาก เราเลยเก็บคอม ตัดสินใจไปหาหมอ
12:00 เจอคุณหมอท่านแรก ก็ตรวจแต่ยังไม่แน่ใจว่าเป็นหรือเปล่า ตอนแรกบอกจะให้ตรวจเลือกรอดู 6 ชม. ก่อน ค่อยส่งไปที่ศัลยแพทย์ แต่คุณพยาบาลท่านนึงแนะนำว่า ส่งไปหาศัลยแพทย์เลยดีกว่าแล้วให้ ศัลยแพทย์เป็นคนส่งตรวจเลือดและทำ CT Scan (ขอบอกว่า โชคดีมาก คุณหมอที่ผ่าเราน่ารักมาก เดียวจะเล่าความน่ารักให้ฟังต่อนะ ผ่าครั้งนี้ประทับใจคุณหมอมาก แต่บริการมีต้องปรับปรุงบ้าง)
เราก็ถูกส่งไปพบศัลยแพทย์ พอได้เข้าพบคุณหมอก็ตรวจอีกรอบ กดนั้นโน้นนี่ไปตามสเต็ป แล้วก็สรุปว่าน่าจะใช่แล้วละ คุณหมอก็ทำการอธิบายวาดรูปให้ดูว่าถ้าใช่ จะผ่าโดยการส่องกล้อง จะเจาะทั้งหมด 3 ที่ ตรงไหนบ้างเสร็จแล้วให้ไปตรวจเลือดเพื่อความชัวร์ และไปทำ CT Scan ขั้นตอน เจาะเลือด กับ CT Scan ผ่านไปได้ด้วยดี รอไม่นานมาก แต่แอบมีเสียความรู้สึกนิดนึง เพราะเราหาที่ รพ. นี้มาต้องแต่เด็ก แล้วอย่างที่เราทราบๆกันว่า ราคาที่นี่ไม่เบานะคะ ดังนั้นความคาดหวังในการบริการของข้างสูง ถ้าอ่านจากรีวิวคราวที่แล้ว บริการดีกว่าเยอะมาก มาครั้งนี้ คือพยาบาลไม่มีการพาเราเดินไปที่แผนก CT Scan ให้เราที่ปวดท้องเดินไปเองแบบงงๆ โชคดีที่เราไปเจอคุณพยาบาลท่านแรกที่บอกให้ส่งเราไปหาศัลยแพทย์เลย คุณพยาบาลเลยจัดการเรียกให้คนเอาเก้าอี้รถเข็นมาให้เรา เสร็จเราก็ไปรอทำ CT Scan ตอนแรกจะต้องฉีดสี แต่อันนี้ชื่นชมความระเอียดของแผนก CT Scan ที่เช็คว่าเราแพ้อะไรบ้าง เพราะมีประวัติภูมิแพ้ แล้วสรุปว่าเราฉีดสีไม่ได้ เนื่องจากเราแพ้อาหารทะเล สีที่ฉีดมีส่วนประกอบที่ไม่เหมาะกับคนแพ้อาหารทะเล คุณหมอเลยสรุปให้ทำแค่ CT ปกติพอ
จาก CT Scan ก็บอกให้เรากลับมารอผลที่เคาร์เตอร์ 5 อันนี้ขอบ่น จนท. เคาร์เตอร์ 5 หน่อย คือปล่อยเรานั้งรอนานมากไม่มีมาอธิบายอัพเดทใดใด รอไปแบบ เป็นชม. นั้งปวดยาวๆ ไป จนพี่สาวเราไม่ไหวเดินไปถาม ถึงได้คำตอบว่าต้องรอผล CT Scan เราก็รอกันต่อไปอีกเกิบ ชม. พี่สาวเริ่มทนไม่ไหว ไปถามอีกรอบว่าสรุปยังไง เพราะถ้าต้องผ่าจะได้ไปเอาเสื้อผ้าจึงได้คำตอบว่า สรุปต้อง admit ค่ะ คือเป็นไส้ติ่งอักเสบ ประเด็นคือถ้าไม่ไปถามก็จะให้เรานั้งรอไปเรื่อยๆเหรอ อันนี้ไม่โอเคอยากให้ปรับปรุงมากๆ เพราะเราเข้าที่นี่ต้องแต่เด็ก เรารัก รพ. นี้มากนะ ไม่อยากให้คุณภาพลดลงเลย เพราะคุณหมอน่ารักทุกท่านจริงๆ ตอนแรกพยาบาลมาแจ้งว่าจะผ่าตอน 6 โมงเย็น เพราะคุณหมอติดเครสอยู่เราก็ไม่อะไรเข้าใจ พยาบาลก็บอกเดียวจะมีแผนกห้องพักมาคุยเรื่องดีเทล และมีเอกสารต้องเซ็นไปตามระบบ แล้วแผนกห้องพักก็มาคุยอธิบายว่า เราจะไม่ได้นอนที่ ward เดิมที่เราเคยนอนนะ เพราะอยากให้นอน ward ชั้นห้องผ่าตัดเลยจะดูแลง่ายกว่า เราก็โอเค แล้วก็เลือกห้องไป ปกติเราจะนอนห้อง Superior Intelligent คือละ 9,000 บาท แต่ Ward นี้ไม่มีจะมี เป็น 7,800 แล้วก็ 10,400 บาทเลย เราก็เลยบอกงั้นนอน 7,800 และขอเตียงเสริมให้คนเฝ้าจ่ายเพิ่ม 200 บาท คือจากตอนนั้นที่แผนกห้องพักมาคุย ก็รอนานมาก เกิบ 3 ชม. ที่เรานั้งปวดอยู่บนเก้าอี้รถเข็นที่เดิม คุณพ่อเริ่มรอนานทนไม่ได้ ใกล้ 6 โมงละ จะผ่าแล้วยังไม่มีใครมา อัพเดทอะไรใดใดทั้งสิ้น คุณพ่อเลยไปถามอีก (คือต้องให้ไปถามตลอด) ถึงได้คำตอบว่าต้องเลื่อนผ่า เพราะเครสที่คุณหมอทำอยู่มีปัญหานิดหน่อยยังไม่เรียบร้อย คุณพ่อเลยถามว่าแล้วไปรอที่ห้องพักก่อนไม่ได้เหรอ ถึงได้คำตอบว่า ห้องพักราคาที่เลือกไม่ว่างเลย สุดท้ายเลยโชคดีได้อัพเกรด ไปนอนที่ห้อง 10,400 แทน ก็ยังแฮปปี้นิดนึงที่ อัพเกรดให้ แต่ควรจะตัดสินใจกันเร็วกว่านี้นะให้คนไข้คือนั้งปวดรอมันไม่ควร อวดภาพห้องนะคะ
พอขึ้นไปบนห้อง เราก็นอนพัก สักพักพยาบาลก็มาแจ้งว่าเลื่อนผ่าไปอีกเป็น 2 ทุ่ม เพราะเครสก่อนหน้ายังไม่เสร็จ แต่คุณหมอให้ยาฆ่าเชื้อ กับ มอร์ฟีนแก้ปวด เราก็หลับไปดีขึ้นปวดน้อยลง สุดท้ายแล้วได้ผ่าจริงๆ ตีห้า ฮ่าๆๆ อันนี้ไม่โทษ รพ. เข้าใจเพราะว่า เครสก่อนหน้าเป็นมะเร็งเลยต้องผ่านานกว่าที่คิดไว้
24 กุมภาพันธ์ 2561 ณ. เวลา 4:30
ก็มีทีมงานคุณภาพมาเข็นเตียงเราไปยังห้องผ่าตัด ตอนนั้นง่วงหลับๆไป ไปถึงห้องผ่าตัด ก็เหมือนการผ่าตัดครั้งอื่นๆ มีพยาบาลมาให้เราย้ายไปนอนบนเตียงผ่าตัด แล้วก็เอาสายต่างๆมาแปะ ที่เพิ่มเติมจากคราวที่แล้วคือ มีที่นวดขา อันนี้แอบชอบ ฮ่าๆ สบาย พยาบาลบอกช่วยให้เลือกหมุ่นเวียนตอนสลบ ไม่ติดค่ะ สบายดีเอาเลย แล้วคุณหมอของเราก็เดินเข้ามาทักทาย คือคุณหมอน่ารักสุภาพมาก แบบมี ขอโทษที่ให้รอนาน เพราะเครสก่อนหน้ามีปัญหา เราก็แบบไม่เป็นไรค่ะ แต่ในใจเป็นห่วงคุรหมอที่ว่าผ่ามาแล้วสิบกว่า ชม. หมอไม่ง่วงเหรอออ ฮ่าๆๆ เราก็เลยถามคุณหมอกลับไปว่า คุณหมอ โอเคใช่ไหมค่ะ แล้วก้คิดในใจรอนานไม่เป็นไรเลยคะ รอต่อก็ได้ถ้าหมอง่วงฮ่าๆ หมอบอกสบายมาก ผ่าไส้ติ่งนิดเดียว สบายๆ เอาตามนั้นหมอบอกไหว นู๋ก็ตามหมอจ้า
เสร็จแล้ววิสัญญีแพทย์ก็เข้ามาทักทาย หน้าแต่สดใสดูใจดี แล้วก็ถามว่าเคยว่างยาด้วยวิธีดมยาไหมคะ เราก็บอกเคยแล้วค่ะ คุณหมอเลยไม่ได้แนะนำอะไรมากแล้วก็เริ่มวิธีการ คือเอา mask มาใกล้ๆ แล้วฉีดยาสีขาวๆ ข้นๆ ไม่ถึง 3 วิเราก็หลับไป
ตัดภาพมาอีกที คือตื่น ก็รู้สึกปวด ปวดเหมือนโดนต่อยท้อง ก็รู้ตัวว่าผ่าเสร็จแล้วแหละ นอนอยู่ในห้องพักหลังผ่าตัด ความรู้สึกที่สองคือ ปวดฉี่ และเจ็บคอไม่มีเสียง ซึ่งระคายคอเป็นเรื่องปกติ เวลาว่างยาสลบมันจะต้องใส่ท่ออะไรสักอย่างคือ วิสัญญีแพทย์อธิบายไว้ก่อนแล้วว่าจะรู้สึกแบบนี้ 2-3 วัน เราก็พยายามบอกพยาบาลว่าปวดฉี่ (คือจำได้จากที่ผ่าคราวที่แล้วว่า ถ้าผ่าเสร็จออกมา ฉี่เองไม่ได้จะโดนสวน คือหลอนเลยคิดว่าปวดฉี่ต้องรีบฉี่!) เราเลยได้พบความจริงว่า เราโดนสวนไปเรียบร้อยแล้ว ฮ่าๆ คือต่อท่อปัสวะไว้เลยต้องแต่ตอนสลบ ผ่าตัดในช่องท้องคงต่างจาก ด้านนอกแบบคงต้องสวนทุกคน เราก็เลยแบบจบไปไม่ต้องหลอน เพราะโดนแล้ว ฮ่าๆ มาหลอนตอนถอดละกัน เสร็จก็ถูกย้ายกลับมาห้องพักตัวเอง
ขอบอกว่ามันไม่ได้เจ็บแบบที่คิดนะ ผ่าตัดไส้ติ่งเป็นเรื่องเล็กมาก ขอเครดิตคุณหมอเก่งด้วยแหละ (คือจังหวะที่รอผ่าจาก 6 โมงเนี่ย ที่บ้านมีความปรึกษากัน ระหว่างเราหลับว่าจะเปลี่ยนหมอดีไหม รอนานมาก พี่สาวเลยไป search สืบดูประวัติคุณหมอสิ พบว่าไม่ธรรมดา คุณหมอมีประวิติยาวมาก จบศิริราช ดูแล้วขั้นเทพ เลยตัดสินใจรอ ซึ่งเราว่าตัดสินใจถูกจริงๆ) พอประมาน 10:00 คือคุณหมอมาเยี่ยมแล้ว หน้าตาสดชื่นมาก แล้วเราก็คิดในใจหมอคนหรือ ซุปเปอร์แมนคะ หมอนอนไหม? นอนตอนไหน? หมอไหวได้ยังไง? คุณหมอก็มาตรวจแผล แล้วก็ดูความเรียบร้อยทุกอย่างเรียบร้อยดี คุณหมอก็จากไป หวังในใจว่าคุณหมอนอนนะคะ นอน ยาวไปแล้วว ฮ่าๆ คือที่ทรมานมากจริงๆ คือสายฉี่ แบบไม่ชิน สุดท้ายเย็นๆ พยาบาลก็มาถอดให้คะ ตอนถอดก็เจ็บๆ หน่อย ทนได้ แล้วหลังจากนั้นคุณหมอก็จะให้ตวงปัสวะทุกครั้งในขนานที่ให้น้ำเกลือ แต่แผลเล็กมากจริงๆ เพราะเราผ่าเช้า ตอนเย็นเราลุกเดินได้แล้ว ไปอาบน้ำเองได้เลย ที่เครียดคือหิว ฮ่าๆ เพราะอดข้าวมายาวนานมากเกิน 6 ชม. จากการเลื่อนผ่ามาเรื่อยๆ ร่วมๆ คือเราอดไป 42 ชม. มื้อแรกที่ได้กินคือ
เราก็ไม่ได้ทำอะไรมากได้ยาฆ่าเชื้อ แล้วก็นอนๆ ปวดไหมปวดบ้างแหละ เพราะมันเป็นแผลอะนะ แต่ก็ได้ยาแก้ปวดตลอด
25 กุมภาพันธ์ 2561
ได้กลับบ้านแล้วจ้า ผ่าไส้ติ่งนอนคืนเดียวเอง เห็นไหมเบาๆ คุณหมอมาเยี่ยมเช้า ดูทุกอย่างเรียบร้อยดีก็ให้กลับบ้านได้ สิ่งที่ประทับใจแล้วรู้ว่าคุณหมอตั้งใจรักษาจริงๆ คือก่อนกลับพยาบาลเอานามบัตรคุณหมอมาให้พร้อมเบอร์ แล้วคุณหมอก็บอกว่ากลับบ้านไปมีปัญหาอะไรติดต่อหมอได้ตลอด แบบคือเราประทับใจความตั้งใจรักษามากจริงๆ แล้วก็ได้ใบวิธีกินยาทุกสิ่งอันเหมือนเดิมที่อธิบายอย่างละเอียด
สรุปราคาค่ารักษา คือ 225,016.95 บาท แต่เรามีการทำประกันสุขภาพไว้กับ AIA ได้ส่วนลดประมาน 10% บวกกับประกันกลุ่มของ บริษัทที่ดูแลพนักงานเป็นอย่างดีอีก จ่ายส่วนต่างจริงๆ ไปแค่ 7,467.39 บาทถ้วน
แต่จะบอกว่าคืนวันนี้ ปวดหนักมากกว่าที่ รพ. คือระบมมั้ง แล้วเรากินยาแก้บวดตัวที่เป็น ibuprofen ไม่ได้ เลยได้ยาที่เบากว่ามาเลยไม่ค่อยช่วย ตอนแรกนอนไม่ได้เลย ก็เลยกินยานอนหลับบวกไป เลยหลับได้
26 กุมภาพันธ์ 2561
ช่วงเช้ายังปวดมากอยู่ เย็นๆเลยตัดสินใจ email ไปถามคุณหมอว่าเราทานยาแก้ปวดที่แรงขึ้นได้ไหม เป็นตัว Acoxia เราไม่ได้หวังว่าคุณหมอจะตอบทันที เพราะคุณหมอดูยุ่งมาก แต่เชื่อไหมว่าแปบเดียวคุณหมอก็ตอบแล้วว่าแบบ กินได้ และย้ำว่ามีปัญหาอะไรไม่ต้องเกรงใจนะ ติดต่อหมอได้เลย เราเลยสบายตัวขึ้น แล้วมานั้งเขียน รีวิวได้ ขอบคุณคุณหมอ และทีมพยาบาลที่ดูแลมากๆนะคะ
สุดท้ายนี้อยากบอกว่า เราประทับใจคุณหมอที่ สมิติเวช สุขุมวิท เสมอ และนี้คือเหตุผลที่ผ่านไป 30 ปี เราก็ไม่เคยไปรักษาที่อื่น แต่อยากให้ปรับปรุงเรื่องการบริการในช่วงตรวจรักษาที่เขียนด้านบน โดยรวมให้คะแนน 4 ดาวค่ะ หักคะแนนจาก จนท. ที่ปล่อยเรารอ แต่คุณภาพคุณหมอคราวนี้ให้เลย 10 ดาว!
การไม่โรคคือลาภอันประเสริฐค่ะ แต่ถ้าจำเป็นต้องผ่าแบบเราจริงๆ เราหวังว่าการ แชร์ ครั้งนี้มันจะเป็นประโยชน์ให้คนอื่นๆ หวังว่าเรื่องของเราจะเป็นกำลังใจให้คนที่จะผ่านะคะ =)
[CR] ผ่าตัดไส้ติ่ง แบบส่องกล้อง
เรื่องของเรื่องคือวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2561 ตื่นขึ้นมาเพราะความปวดท้องไม่ได้รุ่นแรงมาก แต่ปวดเหมือนเราออกกำลังกายมาหนักๆ แต่จะปวดรอบๆ สะดือ ไปถึงท้องช่วงล่างด้านขวา ตอนแรกเราก็ไม่ได้คิดมาก แต่ก็เอะไส้ติ่งหรือเปล่า เพราะเป็นคนสุขภาพไม่ค่อยจะดี ป่วยบ่อย คือบอกเลยว่าทุกวันนี้เป็น ภูมิแพ้ กระเพราะ และ ลำไส้อักเสบ เป็นปกติ ทำให้เข้าใจการปวดแบบกระเพราะ แบบลำไส้ดี เลยรู้สึกว่าปวดครั้งนี้มันไม่น่าจะปกติ แต่ก็พยายามคิดว่าไม่น่าจะมีอะไร เราเลยใช้ชีวิตปกติดูไปก่อน
11:00 เพื่อนที่ออฟฟิตเดินมาทักว่า ไหวไหมเป็นอะไรรึเปล่าหน้าซีดมากเลยนะ เราเลยแบบอืม เราปวดท้องแต่เช้าแล้ว แต่คิดว่าไม่น่าจะเป็นอะไรเยอะ เพื่อนบอกไปหาหมอเหอะดูไม่ไหว ลูกน้องที่ออฟฟิตหันมาเจอก็บอกเหมือนจะเป็นลม ปากซีดมาก เราเลยเก็บคอม ตัดสินใจไปหาหมอ
12:00 เจอคุณหมอท่านแรก ก็ตรวจแต่ยังไม่แน่ใจว่าเป็นหรือเปล่า ตอนแรกบอกจะให้ตรวจเลือกรอดู 6 ชม. ก่อน ค่อยส่งไปที่ศัลยแพทย์ แต่คุณพยาบาลท่านนึงแนะนำว่า ส่งไปหาศัลยแพทย์เลยดีกว่าแล้วให้ ศัลยแพทย์เป็นคนส่งตรวจเลือดและทำ CT Scan (ขอบอกว่า โชคดีมาก คุณหมอที่ผ่าเราน่ารักมาก เดียวจะเล่าความน่ารักให้ฟังต่อนะ ผ่าครั้งนี้ประทับใจคุณหมอมาก แต่บริการมีต้องปรับปรุงบ้าง)
เราก็ถูกส่งไปพบศัลยแพทย์ พอได้เข้าพบคุณหมอก็ตรวจอีกรอบ กดนั้นโน้นนี่ไปตามสเต็ป แล้วก็สรุปว่าน่าจะใช่แล้วละ คุณหมอก็ทำการอธิบายวาดรูปให้ดูว่าถ้าใช่ จะผ่าโดยการส่องกล้อง จะเจาะทั้งหมด 3 ที่ ตรงไหนบ้างเสร็จแล้วให้ไปตรวจเลือดเพื่อความชัวร์ และไปทำ CT Scan ขั้นตอน เจาะเลือด กับ CT Scan ผ่านไปได้ด้วยดี รอไม่นานมาก แต่แอบมีเสียความรู้สึกนิดนึง เพราะเราหาที่ รพ. นี้มาต้องแต่เด็ก แล้วอย่างที่เราทราบๆกันว่า ราคาที่นี่ไม่เบานะคะ ดังนั้นความคาดหวังในการบริการของข้างสูง ถ้าอ่านจากรีวิวคราวที่แล้ว บริการดีกว่าเยอะมาก มาครั้งนี้ คือพยาบาลไม่มีการพาเราเดินไปที่แผนก CT Scan ให้เราที่ปวดท้องเดินไปเองแบบงงๆ โชคดีที่เราไปเจอคุณพยาบาลท่านแรกที่บอกให้ส่งเราไปหาศัลยแพทย์เลย คุณพยาบาลเลยจัดการเรียกให้คนเอาเก้าอี้รถเข็นมาให้เรา เสร็จเราก็ไปรอทำ CT Scan ตอนแรกจะต้องฉีดสี แต่อันนี้ชื่นชมความระเอียดของแผนก CT Scan ที่เช็คว่าเราแพ้อะไรบ้าง เพราะมีประวัติภูมิแพ้ แล้วสรุปว่าเราฉีดสีไม่ได้ เนื่องจากเราแพ้อาหารทะเล สีที่ฉีดมีส่วนประกอบที่ไม่เหมาะกับคนแพ้อาหารทะเล คุณหมอเลยสรุปให้ทำแค่ CT ปกติพอ
จาก CT Scan ก็บอกให้เรากลับมารอผลที่เคาร์เตอร์ 5 อันนี้ขอบ่น จนท. เคาร์เตอร์ 5 หน่อย คือปล่อยเรานั้งรอนานมากไม่มีมาอธิบายอัพเดทใดใด รอไปแบบ เป็นชม. นั้งปวดยาวๆ ไป จนพี่สาวเราไม่ไหวเดินไปถาม ถึงได้คำตอบว่าต้องรอผล CT Scan เราก็รอกันต่อไปอีกเกิบ ชม. พี่สาวเริ่มทนไม่ไหว ไปถามอีกรอบว่าสรุปยังไง เพราะถ้าต้องผ่าจะได้ไปเอาเสื้อผ้าจึงได้คำตอบว่า สรุปต้อง admit ค่ะ คือเป็นไส้ติ่งอักเสบ ประเด็นคือถ้าไม่ไปถามก็จะให้เรานั้งรอไปเรื่อยๆเหรอ อันนี้ไม่โอเคอยากให้ปรับปรุงมากๆ เพราะเราเข้าที่นี่ต้องแต่เด็ก เรารัก รพ. นี้มากนะ ไม่อยากให้คุณภาพลดลงเลย เพราะคุณหมอน่ารักทุกท่านจริงๆ ตอนแรกพยาบาลมาแจ้งว่าจะผ่าตอน 6 โมงเย็น เพราะคุณหมอติดเครสอยู่เราก็ไม่อะไรเข้าใจ พยาบาลก็บอกเดียวจะมีแผนกห้องพักมาคุยเรื่องดีเทล และมีเอกสารต้องเซ็นไปตามระบบ แล้วแผนกห้องพักก็มาคุยอธิบายว่า เราจะไม่ได้นอนที่ ward เดิมที่เราเคยนอนนะ เพราะอยากให้นอน ward ชั้นห้องผ่าตัดเลยจะดูแลง่ายกว่า เราก็โอเค แล้วก็เลือกห้องไป ปกติเราจะนอนห้อง Superior Intelligent คือละ 9,000 บาท แต่ Ward นี้ไม่มีจะมี เป็น 7,800 แล้วก็ 10,400 บาทเลย เราก็เลยบอกงั้นนอน 7,800 และขอเตียงเสริมให้คนเฝ้าจ่ายเพิ่ม 200 บาท คือจากตอนนั้นที่แผนกห้องพักมาคุย ก็รอนานมาก เกิบ 3 ชม. ที่เรานั้งปวดอยู่บนเก้าอี้รถเข็นที่เดิม คุณพ่อเริ่มรอนานทนไม่ได้ ใกล้ 6 โมงละ จะผ่าแล้วยังไม่มีใครมา อัพเดทอะไรใดใดทั้งสิ้น คุณพ่อเลยไปถามอีก (คือต้องให้ไปถามตลอด) ถึงได้คำตอบว่าต้องเลื่อนผ่า เพราะเครสที่คุณหมอทำอยู่มีปัญหานิดหน่อยยังไม่เรียบร้อย คุณพ่อเลยถามว่าแล้วไปรอที่ห้องพักก่อนไม่ได้เหรอ ถึงได้คำตอบว่า ห้องพักราคาที่เลือกไม่ว่างเลย สุดท้ายเลยโชคดีได้อัพเกรด ไปนอนที่ห้อง 10,400 แทน ก็ยังแฮปปี้นิดนึงที่ อัพเกรดให้ แต่ควรจะตัดสินใจกันเร็วกว่านี้นะให้คนไข้คือนั้งปวดรอมันไม่ควร อวดภาพห้องนะคะ
พอขึ้นไปบนห้อง เราก็นอนพัก สักพักพยาบาลก็มาแจ้งว่าเลื่อนผ่าไปอีกเป็น 2 ทุ่ม เพราะเครสก่อนหน้ายังไม่เสร็จ แต่คุณหมอให้ยาฆ่าเชื้อ กับ มอร์ฟีนแก้ปวด เราก็หลับไปดีขึ้นปวดน้อยลง สุดท้ายแล้วได้ผ่าจริงๆ ตีห้า ฮ่าๆๆ อันนี้ไม่โทษ รพ. เข้าใจเพราะว่า เครสก่อนหน้าเป็นมะเร็งเลยต้องผ่านานกว่าที่คิดไว้
24 กุมภาพันธ์ 2561 ณ. เวลา 4:30
ก็มีทีมงานคุณภาพมาเข็นเตียงเราไปยังห้องผ่าตัด ตอนนั้นง่วงหลับๆไป ไปถึงห้องผ่าตัด ก็เหมือนการผ่าตัดครั้งอื่นๆ มีพยาบาลมาให้เราย้ายไปนอนบนเตียงผ่าตัด แล้วก็เอาสายต่างๆมาแปะ ที่เพิ่มเติมจากคราวที่แล้วคือ มีที่นวดขา อันนี้แอบชอบ ฮ่าๆ สบาย พยาบาลบอกช่วยให้เลือกหมุ่นเวียนตอนสลบ ไม่ติดค่ะ สบายดีเอาเลย แล้วคุณหมอของเราก็เดินเข้ามาทักทาย คือคุณหมอน่ารักสุภาพมาก แบบมี ขอโทษที่ให้รอนาน เพราะเครสก่อนหน้ามีปัญหา เราก็แบบไม่เป็นไรค่ะ แต่ในใจเป็นห่วงคุรหมอที่ว่าผ่ามาแล้วสิบกว่า ชม. หมอไม่ง่วงเหรอออ ฮ่าๆๆ เราก็เลยถามคุณหมอกลับไปว่า คุณหมอ โอเคใช่ไหมค่ะ แล้วก้คิดในใจรอนานไม่เป็นไรเลยคะ รอต่อก็ได้ถ้าหมอง่วงฮ่าๆ หมอบอกสบายมาก ผ่าไส้ติ่งนิดเดียว สบายๆ เอาตามนั้นหมอบอกไหว นู๋ก็ตามหมอจ้า
เสร็จแล้ววิสัญญีแพทย์ก็เข้ามาทักทาย หน้าแต่สดใสดูใจดี แล้วก็ถามว่าเคยว่างยาด้วยวิธีดมยาไหมคะ เราก็บอกเคยแล้วค่ะ คุณหมอเลยไม่ได้แนะนำอะไรมากแล้วก็เริ่มวิธีการ คือเอา mask มาใกล้ๆ แล้วฉีดยาสีขาวๆ ข้นๆ ไม่ถึง 3 วิเราก็หลับไป
ตัดภาพมาอีกที คือตื่น ก็รู้สึกปวด ปวดเหมือนโดนต่อยท้อง ก็รู้ตัวว่าผ่าเสร็จแล้วแหละ นอนอยู่ในห้องพักหลังผ่าตัด ความรู้สึกที่สองคือ ปวดฉี่ และเจ็บคอไม่มีเสียง ซึ่งระคายคอเป็นเรื่องปกติ เวลาว่างยาสลบมันจะต้องใส่ท่ออะไรสักอย่างคือ วิสัญญีแพทย์อธิบายไว้ก่อนแล้วว่าจะรู้สึกแบบนี้ 2-3 วัน เราก็พยายามบอกพยาบาลว่าปวดฉี่ (คือจำได้จากที่ผ่าคราวที่แล้วว่า ถ้าผ่าเสร็จออกมา ฉี่เองไม่ได้จะโดนสวน คือหลอนเลยคิดว่าปวดฉี่ต้องรีบฉี่!) เราเลยได้พบความจริงว่า เราโดนสวนไปเรียบร้อยแล้ว ฮ่าๆ คือต่อท่อปัสวะไว้เลยต้องแต่ตอนสลบ ผ่าตัดในช่องท้องคงต่างจาก ด้านนอกแบบคงต้องสวนทุกคน เราก็เลยแบบจบไปไม่ต้องหลอน เพราะโดนแล้ว ฮ่าๆ มาหลอนตอนถอดละกัน เสร็จก็ถูกย้ายกลับมาห้องพักตัวเอง
ขอบอกว่ามันไม่ได้เจ็บแบบที่คิดนะ ผ่าตัดไส้ติ่งเป็นเรื่องเล็กมาก ขอเครดิตคุณหมอเก่งด้วยแหละ (คือจังหวะที่รอผ่าจาก 6 โมงเนี่ย ที่บ้านมีความปรึกษากัน ระหว่างเราหลับว่าจะเปลี่ยนหมอดีไหม รอนานมาก พี่สาวเลยไป search สืบดูประวัติคุณหมอสิ พบว่าไม่ธรรมดา คุณหมอมีประวิติยาวมาก จบศิริราช ดูแล้วขั้นเทพ เลยตัดสินใจรอ ซึ่งเราว่าตัดสินใจถูกจริงๆ) พอประมาน 10:00 คือคุณหมอมาเยี่ยมแล้ว หน้าตาสดชื่นมาก แล้วเราก็คิดในใจหมอคนหรือ ซุปเปอร์แมนคะ หมอนอนไหม? นอนตอนไหน? หมอไหวได้ยังไง? คุณหมอก็มาตรวจแผล แล้วก็ดูความเรียบร้อยทุกอย่างเรียบร้อยดี คุณหมอก็จากไป หวังในใจว่าคุณหมอนอนนะคะ นอน ยาวไปแล้วว ฮ่าๆ คือที่ทรมานมากจริงๆ คือสายฉี่ แบบไม่ชิน สุดท้ายเย็นๆ พยาบาลก็มาถอดให้คะ ตอนถอดก็เจ็บๆ หน่อย ทนได้ แล้วหลังจากนั้นคุณหมอก็จะให้ตวงปัสวะทุกครั้งในขนานที่ให้น้ำเกลือ แต่แผลเล็กมากจริงๆ เพราะเราผ่าเช้า ตอนเย็นเราลุกเดินได้แล้ว ไปอาบน้ำเองได้เลย ที่เครียดคือหิว ฮ่าๆ เพราะอดข้าวมายาวนานมากเกิน 6 ชม. จากการเลื่อนผ่ามาเรื่อยๆ ร่วมๆ คือเราอดไป 42 ชม. มื้อแรกที่ได้กินคือ
เราก็ไม่ได้ทำอะไรมากได้ยาฆ่าเชื้อ แล้วก็นอนๆ ปวดไหมปวดบ้างแหละ เพราะมันเป็นแผลอะนะ แต่ก็ได้ยาแก้ปวดตลอด
25 กุมภาพันธ์ 2561
ได้กลับบ้านแล้วจ้า ผ่าไส้ติ่งนอนคืนเดียวเอง เห็นไหมเบาๆ คุณหมอมาเยี่ยมเช้า ดูทุกอย่างเรียบร้อยดีก็ให้กลับบ้านได้ สิ่งที่ประทับใจแล้วรู้ว่าคุณหมอตั้งใจรักษาจริงๆ คือก่อนกลับพยาบาลเอานามบัตรคุณหมอมาให้พร้อมเบอร์ แล้วคุณหมอก็บอกว่ากลับบ้านไปมีปัญหาอะไรติดต่อหมอได้ตลอด แบบคือเราประทับใจความตั้งใจรักษามากจริงๆ แล้วก็ได้ใบวิธีกินยาทุกสิ่งอันเหมือนเดิมที่อธิบายอย่างละเอียด
สรุปราคาค่ารักษา คือ 225,016.95 บาท แต่เรามีการทำประกันสุขภาพไว้กับ AIA ได้ส่วนลดประมาน 10% บวกกับประกันกลุ่มของ บริษัทที่ดูแลพนักงานเป็นอย่างดีอีก จ่ายส่วนต่างจริงๆ ไปแค่ 7,467.39 บาทถ้วน
แต่จะบอกว่าคืนวันนี้ ปวดหนักมากกว่าที่ รพ. คือระบมมั้ง แล้วเรากินยาแก้บวดตัวที่เป็น ibuprofen ไม่ได้ เลยได้ยาที่เบากว่ามาเลยไม่ค่อยช่วย ตอนแรกนอนไม่ได้เลย ก็เลยกินยานอนหลับบวกไป เลยหลับได้
26 กุมภาพันธ์ 2561
ช่วงเช้ายังปวดมากอยู่ เย็นๆเลยตัดสินใจ email ไปถามคุณหมอว่าเราทานยาแก้ปวดที่แรงขึ้นได้ไหม เป็นตัว Acoxia เราไม่ได้หวังว่าคุณหมอจะตอบทันที เพราะคุณหมอดูยุ่งมาก แต่เชื่อไหมว่าแปบเดียวคุณหมอก็ตอบแล้วว่าแบบ กินได้ และย้ำว่ามีปัญหาอะไรไม่ต้องเกรงใจนะ ติดต่อหมอได้เลย เราเลยสบายตัวขึ้น แล้วมานั้งเขียน รีวิวได้ ขอบคุณคุณหมอ และทีมพยาบาลที่ดูแลมากๆนะคะ
สุดท้ายนี้อยากบอกว่า เราประทับใจคุณหมอที่ สมิติเวช สุขุมวิท เสมอ และนี้คือเหตุผลที่ผ่านไป 30 ปี เราก็ไม่เคยไปรักษาที่อื่น แต่อยากให้ปรับปรุงเรื่องการบริการในช่วงตรวจรักษาที่เขียนด้านบน โดยรวมให้คะแนน 4 ดาวค่ะ หักคะแนนจาก จนท. ที่ปล่อยเรารอ แต่คุณภาพคุณหมอคราวนี้ให้เลย 10 ดาว!
การไม่โรคคือลาภอันประเสริฐค่ะ แต่ถ้าจำเป็นต้องผ่าแบบเราจริงๆ เราหวังว่าการ แชร์ ครั้งนี้มันจะเป็นประโยชน์ให้คนอื่นๆ หวังว่าเรื่องของเราจะเป็นกำลังใจให้คนที่จะผ่านะคะ =)
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น