กรุงเทพฯเป็นเมืองที่มีคนเล่น Facebook มากที่สุดในโลก ด้วยจำนวน 22 ล้านคน คิดเป็น 1% ของผู้ใช้ทั่วโลก
วันนี้ (21ก.พ.61) Hootsuite ได้เปิดเผยสถิติสื่อดิจิทัลประจำปี 2018 ซึ่งเป็นข้อมูลอัปเดตล่าสุดเมื่อเดือนมกราคม 2018 เป็นสถิติเกี่ยวกับคนใช้อุปกรณ์ สื่อดิจิทัล และโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ทั่วโลก โดยมีสถิติที่น่าสนใจก็คือ จำนวนผู้ใช้ Facebook ในแต่ละประเทศ ซึ่งเมื่อจัดอันดับแล้วประเทศไทยจัดว่าเป็นอันดับที่ 8 ประเทศที่มีคนใช้ Facebook มากที่สุดในโลก โดยมีจำนวนคนไทยที่ใช้ Facebook ทั้งหมด 51 ล้านคน คิดเป็น 2% ของผู้ใช้ Facebook ทั่วโลก และที่น่าสนใจยิ่งไปกว่านั้นคือ เมื่อแยกออกเป็นเมือง พบว่ากรุงเทพฯ เป็นเมืองที่มีคนใช้ Facebook มากที่สุดในโลก ด้วยจำนวน 22 ล้านคน คิดเป็น 1% ของผู้ใช้ Facebook ทั่วโลก
นอกจากนี้ก็ยังมีสถิติแอปฯ แชทที่แต่ละประเทศใช้งานกันมากที่สุด โดยรวมทั่วโลกถือว่า WhatsApp เป็นแอปฯ แชทที่มีคนใช้งานกันมากที่สุดรองลงมาเป็นFacebook Messenger ส่วนประเทศไทยนั้นคนนิยมใช้ LINE กันมากที่สุด แต่ประเทศที่คนนิยมใช้ LINE มากที่สุดมีเพียงไทย ญี่ปุ่น และไต้หวันเท่านั้น
ข่าวจาก : TNN NEWS
http://www.tnnthailand.com/news_detail.php?id=161655&t=news
กทม.ติดอันดับเล่นเฟซบุ๊กมากที่สุดในโลก
กรุงเทพฯเป็นเมืองที่มีคนเล่น Facebook มากที่สุดในโลก ด้วยจำนวน 22 ล้านคน คิดเป็น 1% ของผู้ใช้ทั่วโลก
วันนี้ (21ก.พ.61) Hootsuite ได้เปิดเผยสถิติสื่อดิจิทัลประจำปี 2018 ซึ่งเป็นข้อมูลอัปเดตล่าสุดเมื่อเดือนมกราคม 2018 เป็นสถิติเกี่ยวกับคนใช้อุปกรณ์ สื่อดิจิทัล และโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ทั่วโลก โดยมีสถิติที่น่าสนใจก็คือ จำนวนผู้ใช้ Facebook ในแต่ละประเทศ ซึ่งเมื่อจัดอันดับแล้วประเทศไทยจัดว่าเป็นอันดับที่ 8 ประเทศที่มีคนใช้ Facebook มากที่สุดในโลก โดยมีจำนวนคนไทยที่ใช้ Facebook ทั้งหมด 51 ล้านคน คิดเป็น 2% ของผู้ใช้ Facebook ทั่วโลก และที่น่าสนใจยิ่งไปกว่านั้นคือ เมื่อแยกออกเป็นเมือง พบว่ากรุงเทพฯ เป็นเมืองที่มีคนใช้ Facebook มากที่สุดในโลก ด้วยจำนวน 22 ล้านคน คิดเป็น 1% ของผู้ใช้ Facebook ทั่วโลก
นอกจากนี้ก็ยังมีสถิติแอปฯ แชทที่แต่ละประเทศใช้งานกันมากที่สุด โดยรวมทั่วโลกถือว่า WhatsApp เป็นแอปฯ แชทที่มีคนใช้งานกันมากที่สุดรองลงมาเป็นFacebook Messenger ส่วนประเทศไทยนั้นคนนิยมใช้ LINE กันมากที่สุด แต่ประเทศที่คนนิยมใช้ LINE มากที่สุดมีเพียงไทย ญี่ปุ่น และไต้หวันเท่านั้น
ข่าวจาก : TNN NEWS
http://www.tnnthailand.com/news_detail.php?id=161655&t=news