ตอนนี้ทาง Google ได้เริ่มทำการปิดกั้นโฆษณาที่ก่อความรำคาญให้กับผู้ใช้แบบ AutoBlock เป็นที่เรียบร้อย โดยกูเกิ้ลมีความต้องการให้ผู้ใช้เข้าถึงเว็บไซต์ได้อย่างรวดเร็วและถูกต้อง รวมไปถึงประสบการณ์ที่ดีของผู้ใช้ในการใช้งานเว็บไซต์อย่างราบรื่น
โดยการบล็อกโฆษณาครั้งนี้ เป็นผลมาจากการเข้าร่วมกลุ่ม Coalition for Better Ads ที่เป็นมาตรฐานโฆษณาออนไลน์ที่ได้รับการยอมรับ ซึ่ง Google Chrome จะทำการคัดกรองโฆษณา ถ้าหากพบว่าโฆษณาในเว็บไซต์นั้นเข้าข่ายตามที่ระบบกำหนดว่าเป็นโฆษณาที่น่ารำคาญ โฆษณานั้นจะถูกระงับการแสดงผลทันที และผู้ลงโฆษณานั้นจะต้องแก้ไข และส่งรายงานเพื่อให้ตรวจสอบต่อไปเพื่อจะทำการปลดบล็อกโฆษณาของเว็บไซต์นั้น
โดย 8 มาตรการโฆษณาออนไลน์ของ The Coalition for Better Ads มีดังนี้
1 ห้ามใส่โฆษณาแบบ “Pop-up Ads” โฆษณาที่เด้งขึ้นมาจากหน้าเว็บไซต์
2 ห้ามทำโฆษณาแบบเต็มหน้าจอ “Prestitial Ads”
3 อย่าใช้โฆษณาแบบที่ขึ้นมาเต็มหน้าจอและมีตัวเลขนับถอยหลัง “Countdown Screens Ads”
4 อย่าใช้วิดีโอแบบเล่นพร้อมเสียงอัตโนมัติ “Start Playing Ads”
5 ห้ามทำโฆษณาที่ติดตามการกระทำของผู้ใช้ในเว็บไซต์ “Large Sticky Ads”
6 อย่าใส่โฆษณาที่กินพื้นที่หน้าจอมากกว่า 30% “Density Higher Than 30% Ads”
7 ห้ามใช้โฆษณาที่มีภาพเคลื่อนไหวแบบกระพริบ “Flashing Animated Ads”
8 ห้ามทำโฆษณาเต็มหน้าจอแบบเลื่อนตาม “Full-screen scroll over Ads”
ถึงแม้ฟังก์ชั่น AutoBlock จะส่งผลกระทบต่อโฆษณาบนแพลตฟอร์มของ Google แต่ประสบการณ์ของผู้ใช้งานเป็นสิ่งสำคัญกว่าเมื่อเทียบกับค่าโฆษณาที่กูเกิ้ลอาจต้องยอมสูญเสีย ซึ่งผู้ลงโฆษณากับกูเกิ้ลในรูปแบบอย่าง AdSense, DoubleClick และ Remarketing ก็คงต้องยิ้มต้องสู้กันไป
ที่มา:
http://www.atimedesign.com/webdesign/chrome-run-adsblocked/
Google ออก 8 มาตราการที่แบรนด์ห้ามทำในการโฆษณา ไม่งั้นโดนบล็อก!
โดยการบล็อกโฆษณาครั้งนี้ เป็นผลมาจากการเข้าร่วมกลุ่ม Coalition for Better Ads ที่เป็นมาตรฐานโฆษณาออนไลน์ที่ได้รับการยอมรับ ซึ่ง Google Chrome จะทำการคัดกรองโฆษณา ถ้าหากพบว่าโฆษณาในเว็บไซต์นั้นเข้าข่ายตามที่ระบบกำหนดว่าเป็นโฆษณาที่น่ารำคาญ โฆษณานั้นจะถูกระงับการแสดงผลทันที และผู้ลงโฆษณานั้นจะต้องแก้ไข และส่งรายงานเพื่อให้ตรวจสอบต่อไปเพื่อจะทำการปลดบล็อกโฆษณาของเว็บไซต์นั้น
โดย 8 มาตรการโฆษณาออนไลน์ของ The Coalition for Better Ads มีดังนี้
1 ห้ามใส่โฆษณาแบบ “Pop-up Ads” โฆษณาที่เด้งขึ้นมาจากหน้าเว็บไซต์
2 ห้ามทำโฆษณาแบบเต็มหน้าจอ “Prestitial Ads”
3 อย่าใช้โฆษณาแบบที่ขึ้นมาเต็มหน้าจอและมีตัวเลขนับถอยหลัง “Countdown Screens Ads”
4 อย่าใช้วิดีโอแบบเล่นพร้อมเสียงอัตโนมัติ “Start Playing Ads”
5 ห้ามทำโฆษณาที่ติดตามการกระทำของผู้ใช้ในเว็บไซต์ “Large Sticky Ads”
6 อย่าใส่โฆษณาที่กินพื้นที่หน้าจอมากกว่า 30% “Density Higher Than 30% Ads”
7 ห้ามใช้โฆษณาที่มีภาพเคลื่อนไหวแบบกระพริบ “Flashing Animated Ads”
8 ห้ามทำโฆษณาเต็มหน้าจอแบบเลื่อนตาม “Full-screen scroll over Ads”
ถึงแม้ฟังก์ชั่น AutoBlock จะส่งผลกระทบต่อโฆษณาบนแพลตฟอร์มของ Google แต่ประสบการณ์ของผู้ใช้งานเป็นสิ่งสำคัญกว่าเมื่อเทียบกับค่าโฆษณาที่กูเกิ้ลอาจต้องยอมสูญเสีย ซึ่งผู้ลงโฆษณากับกูเกิ้ลในรูปแบบอย่าง AdSense, DoubleClick และ Remarketing ก็คงต้องยิ้มต้องสู้กันไป
ที่มา: http://www.atimedesign.com/webdesign/chrome-run-adsblocked/