ขนมเข่ง “สูตรขนมเข่งภูเก็ต”
สูตรขนมเข่งภูเก็ต
1.แป้งข้าวเหนียว 500กรัม
2.แป้งข้าวเจ้า 20กรัม (ไม่ใส่ก็ได้) ถ้าใส่จะเพิ่มความนุ่มเด้ง ของขนม
3. น้ำตาลมะพร้าว 50กรัม (ใส่น้ำตาลปี๊บ น้ำตาลทรายแดง ไม่มีไม่ใส่ก็ได้คะ) เพิ่มความหอมอร่อย
4.น้ำตาลปี๊บ 450 กรัม
5. น้ำเปล่า 2แก้วพอให้เวลาผสมแป้ง ให้แป้งมีความเหลวกว่านมข้นหวานนะคะ
วิธีขั้นตอนการทำ
- เราผสมระหว่างแป้งข้าวเหนียวกับแป้งข้าวเจ้า คนให้เข้ากันแล้วอันดับแรงใส่น้ำเปล่าคะ ถ้าใส่กะทิ ขนมเข่งจะหอมแต่เก็บไว้ได้ไม่นานเลยใช้น้ำเปล่าแทนคะ อย่าพึ่งใส่น้ำตาลนะ เราต้องนวดแป้งก่อนให้แป้งขนมเข่ง ไม่แข็งคะ
นวดไปสักพัก
เราจะใช้น้ำตาลมะพร้าวละลายและนำมาปสมกับแป้งคะ หากใครไม่มีน้ำตาลมะพร้าวสามารถใช้น้ำตาลปี๊บน้ำตาลทรายแดง รึน้ำตาลทรายคะแต่สีขนมเข่งจะเป็นสีขาว
ละลายให้น้ำตาลในหม้อไฟกลางคะ
เราผสมน้ำตาลกะแป้งให้เข้ากัน
(เคยผสมน้ำตาลกับแป้งแล้วติดมือแป้งแข็งไปเลยใช้วิธีนวดแป้งก่อนใส่น้ำตาลคะ )
จากนั้นเราก็พักแป้งไว้สักคืนรึ 1-8 ชม. ตามสูตร1คืนคะ
เช้ามาก็เตรียมกระทงเลย
ใบตองข้างบ้าน
ไส้เค็ม ขนมเข่ง
ประกอบด้วย
1. ถั่วเขียวเลาะเปลือก ครึ่งโล
2.น้ำตาลปี๊บ ครึ่งโล (น้ำตาลมะพร้าวก็จะหอมมะพร้าว)
3.หอม2-3หัว บดรึสับละเอียด
4.กระเทียม 1หัว บดรึสับละเอียด
5. พริกไทย ป่น 1ช้อนโต๊ะ
6.กะทิ 3ช้อนโต๊ะ (ไม่มีใส่น้ำเปล่า การใส่กะทิทำให้หอม แต่ขนมเข่งจะมีอายุ3-4วันนะแนะนำใช้นำ้เปล่า)
หรือน้ำเปล่า 3 ช้อนโต๊ะ
วิธีการทำไส้เค็ม ขนมเข่ง
- นำถั่วเขียวเลาะเปลือก มาแช่น้ำไว้ 1 คืน หรือถ้ารีบๆหน่อย...ก็ 1-8 ช.ม.
ถ้าเราแช่ไว้1 ชั่วโมง เราต้องนำถั่วไปนึ่งละอบ ให้ถั่วแห้ง
- นำหอมกับกระเทียมปั่น หรือจะสับละเอียดก็ได้คะ
ถั่วที่ผ่านการนึ่งมาแล้ว เราจะนำไปปั่นให้เป็นเนื้อละเอียดเช่นกัน (ถ้าไม่ปั่นถั่วเขียวเลาะเปลือก จะเป็นเม็ดปั่นไม่ได้ดีเท่าที่ควร)
จากนั้นเราจะทำการผัด หอมกับกระเทียมสับรึปั่นลงในกระทะ
ใส่น้ำตาลมะพร้าวลงไปผัดจนถั่วเขียวเราสามารถนำไปปั้นได้
พักไว้จนสามารถปั้นไส้เค็มใส่ลงในขนมเข่งได้ เราก็จะเตรียมใบตอง ใส่แป้งขนมเข่งในกระทง
จากนั้นปั้นไส้เค็มเป็นลูกกลมๆใส่ตรงกลาง เตรียมนึ่ง
นวัตกรรมการนึ่งสมัยใหม่
แป้งขนมเข่งสูตรภูเก็ตจะไม่แข็ง มีความนุ่มนิ่ม และหอม
เก็บไว้ได้หลายวัน ไหว้ตรุษจี รึทำทานจะอร่อยมาก
[CR] ขนมเข่ง
สูตรขนมเข่งภูเก็ต
1.แป้งข้าวเหนียว 500กรัม
2.แป้งข้าวเจ้า 20กรัม (ไม่ใส่ก็ได้) ถ้าใส่จะเพิ่มความนุ่มเด้ง ของขนม
3. น้ำตาลมะพร้าว 50กรัม (ใส่น้ำตาลปี๊บ น้ำตาลทรายแดง ไม่มีไม่ใส่ก็ได้คะ) เพิ่มความหอมอร่อย
4.น้ำตาลปี๊บ 450 กรัม
5. น้ำเปล่า 2แก้วพอให้เวลาผสมแป้ง ให้แป้งมีความเหลวกว่านมข้นหวานนะคะ
วิธีขั้นตอนการทำ
- เราผสมระหว่างแป้งข้าวเหนียวกับแป้งข้าวเจ้า คนให้เข้ากันแล้วอันดับแรงใส่น้ำเปล่าคะ ถ้าใส่กะทิ ขนมเข่งจะหอมแต่เก็บไว้ได้ไม่นานเลยใช้น้ำเปล่าแทนคะ อย่าพึ่งใส่น้ำตาลนะ เราต้องนวดแป้งก่อนให้แป้งขนมเข่ง ไม่แข็งคะ
นวดไปสักพัก
เราจะใช้น้ำตาลมะพร้าวละลายและนำมาปสมกับแป้งคะ หากใครไม่มีน้ำตาลมะพร้าวสามารถใช้น้ำตาลปี๊บน้ำตาลทรายแดง รึน้ำตาลทรายคะแต่สีขนมเข่งจะเป็นสีขาว
ละลายให้น้ำตาลในหม้อไฟกลางคะ
เราผสมน้ำตาลกะแป้งให้เข้ากัน
(เคยผสมน้ำตาลกับแป้งแล้วติดมือแป้งแข็งไปเลยใช้วิธีนวดแป้งก่อนใส่น้ำตาลคะ )
จากนั้นเราก็พักแป้งไว้สักคืนรึ 1-8 ชม. ตามสูตร1คืนคะ
เช้ามาก็เตรียมกระทงเลย
ใบตองข้างบ้าน
ไส้เค็ม ขนมเข่ง
ประกอบด้วย
1. ถั่วเขียวเลาะเปลือก ครึ่งโล
2.น้ำตาลปี๊บ ครึ่งโล (น้ำตาลมะพร้าวก็จะหอมมะพร้าว)
3.หอม2-3หัว บดรึสับละเอียด
4.กระเทียม 1หัว บดรึสับละเอียด
5. พริกไทย ป่น 1ช้อนโต๊ะ
6.กะทิ 3ช้อนโต๊ะ (ไม่มีใส่น้ำเปล่า การใส่กะทิทำให้หอม แต่ขนมเข่งจะมีอายุ3-4วันนะแนะนำใช้นำ้เปล่า)
หรือน้ำเปล่า 3 ช้อนโต๊ะ
วิธีการทำไส้เค็ม ขนมเข่ง
- นำถั่วเขียวเลาะเปลือก มาแช่น้ำไว้ 1 คืน หรือถ้ารีบๆหน่อย...ก็ 1-8 ช.ม.
ถ้าเราแช่ไว้1 ชั่วโมง เราต้องนำถั่วไปนึ่งละอบ ให้ถั่วแห้ง
- นำหอมกับกระเทียมปั่น หรือจะสับละเอียดก็ได้คะ
ถั่วที่ผ่านการนึ่งมาแล้ว เราจะนำไปปั่นให้เป็นเนื้อละเอียดเช่นกัน (ถ้าไม่ปั่นถั่วเขียวเลาะเปลือก จะเป็นเม็ดปั่นไม่ได้ดีเท่าที่ควร)
จากนั้นเราจะทำการผัด หอมกับกระเทียมสับรึปั่นลงในกระทะ
ใส่น้ำตาลมะพร้าวลงไปผัดจนถั่วเขียวเราสามารถนำไปปั้นได้
พักไว้จนสามารถปั้นไส้เค็มใส่ลงในขนมเข่งได้ เราก็จะเตรียมใบตอง ใส่แป้งขนมเข่งในกระทง
จากนั้นปั้นไส้เค็มเป็นลูกกลมๆใส่ตรงกลาง เตรียมนึ่ง
นวัตกรรมการนึ่งสมัยใหม่
แป้งขนมเข่งสูตรภูเก็ตจะไม่แข็ง มีความนุ่มนิ่ม และหอม
เก็บไว้ได้หลายวัน ไหว้ตรุษจี รึทำทานจะอร่อยมาก