The shape of water
เป็นหนังที่งดงามมากกก
-เข้าใจเลยว่าทำไมเข้าชิงออสการ์แถมคว้ารางวัลอื่นๆ ได้มากมายขนาดนั้น ของเค้าดีจริง! ตอนแรกที่ดูเทรลเลอร์ก็ไม่ได้รู้สึกอินขนาดนั้นนะ พอได้มาดูจริงๆ เรียกได้ว่าประทับใจมาก
-หนังเล่าถึงอิไลซ่า สาวใบ้ที่ทำงานอยู่ในศูนย์วิจัยแห่งหนึ่งทำให้เธอได้เจอกับสัตว์ประหลาดพรายน้ำ (ขอเรียกแบบนี้ทั้งบทความเลยละกัน) เริ่มจากแบ่งไข่ต้มให้กิน อิไลซ่ากับพรายน้ำเริ่มมีความผูกพันกัน จนวันนึงที่เธอได้ยินว่าเหล่านักวิทยาศาสตร์จะจับเพื่อนของเธอคนนี้ไปชำแหละ อิไลซ่าจึงต้องหาทางพาเจ้าพรายน้ำหนีออกมา
-พล็อตน่าสนใจ แปลกใหม่ แถมยังเล่าเรื่องเข้าใจง่าย เรียงลำดับจาก 1 ถึง 10 แต่กลับไม่น่าเบื่อเลยซักนิด เรามีความอยากรู้อยากเห็น กระตือรือร้นตลอดเวลาว่าอิไลซ่าจะทำยังไง? เกิดอะไรขึ้นกับพรายน้ำ? นักวิทยาศาสตร์สายโหดจะจับเธอได้เมื่อไหร่? สุดท้ายเธอกับพรายน้ำจะเป็นอย่างไร?
-จะบอกว่าเป็นหนังที่มาทุกสายเลยจริงๆ ไซไฟ โรแมนติก อิโรติก ผจญภัย ทริลเลอร์ สงคราม แอบแถมเป็นมิวสิคเคิลเบาๆ ด้วย มันเป็นการผสมผสานที่ไม่มากเกิน ไม่น้อยเกิน ออกมาแล้วมันลงตัว เนื้อเรื่อง บทพูด การนำเสนอ มันออกมาเพอร์เฟคมากๆ
-ความสัมพันของอิไลซ่าและเจ้าพรายน้ำเป็นสิ่งที่งดงามมากจริงๆ ชอบที่อิไลซ่าเป็นใบ้ ถึงแม้เธอจะมีเพื่อนข้างบ้านและเพื่อนแม่บ้านที่ทำให้เธอไม่โดดเดี่ยว แต่ลึกๆ เธอก็ต้องการใครซักคนที่ได้ยินเสียงข้างในของเธอจริงๆ ซึ่งเจ้าพรายน้ำคือสิ่งที่เธอตามหา มันพูดไม่ได้ มันใช้ภาษามือแบบที่เธอใช้ เหมือนกับเราเข้าใจว่าสองสิ่งมีชีวิตนี้คอนเนคกันได้ยังไง เราเอาใจช่วย เราสัมผัสได้ถึงความรู้สึกของทั้งคู่แม้จะไม่ต้องเอ่ยคำพูดใดๆ ออกมาซักคำ ความสวยงามมันอยู่ตรงนี้
-ซีนอีโรติก เห็นแบบเต็มๆ หลายฉากเหมือนกัน55555 หลายๆ คนน่าจะรอซีนอย่างว่าระหว่างอิไลซ่ากับพรายน้ำ สำหรับเรา เรามองไม่เห็นถึงความโป๊เปลือยเลย ไม่ใช่ซีนที่ใส่มาเรียกเรตติ้งให้หนังเฉยๆ ซีนตรงนั้นเป็นวิธีแสดงให้เห็นถึงความรักที่สวยงามมากอีกซีน เป็นความงดงามที่เราคงต้องนับถือผู้กำกับจริงๆ ที่ถ่ายทอดออกมาได้เจ๋งขนาดนี้
-อีกสิ่งที่ชอบคือการที่หนังใส่เรื่องของสงครามเข้ามาด้วย มันดูมีอะไร ดูยิ่งใหญ่ และหนังแทรกตรงนี้เข้ามาอย่างเข้าใจง่าย มีเหตุผล
-รวมถึงการที่หนังเลือกช่วงปี60เป็นช่วงเวลาในการถ่ายทอดเรื่องราว ด้วยความที่มันเก่า ย้อนยุค โทนสีค่อนข้างหม่นๆ ทุกอย่างมันดูขลัง ดูเหงา เข้ากับบรรยากาศมากๆ เพลงยุคนั้น เครื่องแต่งกายยุคนั้น ท่าทางของคนยุคนั้น มันเป็นเสน่ห์ของความโบราณจริงๆ
-เพลงเป็นอีกสิ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้ ในเรื่องเราจะแทบไม่ได้ยินเสียงนางเอกเลย บทเพลงต่างๆ ที่ดังขึ้นในเรื่องจึงเป็นเหมือนสิ่งที่ทำให้เราอินไปกับความรู้สึกของอิไลซ่าในขณะนั้นมากขึ้น บทเพลงตรงนั้นแสดงความคิดของอิไลซ่าออกมา มันเชื่อมเราไว้กับเธอ เสียงของเธอที่เราแทบไม่ได้ยินมันช่างไพเราะผ่านบทเพลงโบราณๆ เหล่านี้เอามากๆ
-ยกความดีความชอบให้กับนักแสดงอีกหนึ่งดอก ทั้งนักแสดงนำ อย่างอิไลซ่าที่รับบทโดยแซลลี่ ฮอว์กินส์คือเจ๋งมาก เหมือนเราได้ยินเสียงเธอทั้งเรื่องแม้ว่าเธอจะไม่ได้เอ่ยปากซักคำ ทุกท่าทาง สายตาที่เธอแสดงออกมามันเรียลมาก เชียร์ออสการ์รักแสดงนำหญิงสุดใจขาดดิ้น อีกคนที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือริชาร์ด นักวิทย์ฯ จอมโหดรับบทโดยไมเคิล แชนนอน โหดสะใจมากค่ะ555555 รวมถึงนักแสดงสมทบอย่างออคตาเวีย สเปนเซอร์ แม่ก็คือแม่! ชอบการแสดงของขุ่นแม่อยู่แล้ว เชียร์ออสการ์นักแสดงหญิงสมทบเช่นกันค่ะะะ
สรุปว่า เป็นหนังที่งดงามมากๆๆ ใช้คำว่างดงามแทบทุกย่อหน้าเลยเนี่ย55555 เป็นความผสมผสานที่สวยงามจริงๆ อยากให้ได้เข้าไปเสพความงดงามนี้ในโรงกัน ออกมาแล้วอิ่มอกอิ่มใจ เหมือนความสวยงามที่ได้ดูมันแทรกเข้ามาในใจ เข้าใจเลยว่าทำไมได้ชิงออสการ์เยอะเบอร์นั้น ก็มันเจ๋งแทบทุกสาขาจริงๆ!
PS. เด็กๆ อย่าย่างกรายเข้ามานะคะคุณพ่อคุณแม่ นี่ไม่ใช่หนังแฟนตาซีสวยใสนะเออ ฉากนิ้วขาด เลือดสาด คอแหกมาเต็มๆ ฉากโบ๊ะจ้ำบ๊ะ เห็นนู่น นี่ นั่นมาเต็มแน่นอน ไม่เหมาะกับเด็กๆ อย่างถึงที่สุด อย่าโดนหน้าหนังลวงเด็กแบบ pan's labyrinth นะคะ
9/10
แค่นักวิจารณ์หนังกากๆ คนหนึ่ง
------------------------------
ถ้าชอบการรีวิวครั้งนี้ สามารถเข้ามาพูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องหนังๆ พร้อมกับดูรีวิวอื่นๆ ได้ที่นี่เลย
เพจ แค่นักวิจารณ์หนังกากๆ คนหนึ่ง
https://m.facebook.com/justasuckreviewer/?locale2=th_TH
[SR] The shape of water : สมแล้วที่เข้าชิงออสการ์เยอะขนาดนี้
เป็นหนังที่งดงามมากกก
-เข้าใจเลยว่าทำไมเข้าชิงออสการ์แถมคว้ารางวัลอื่นๆ ได้มากมายขนาดนั้น ของเค้าดีจริง! ตอนแรกที่ดูเทรลเลอร์ก็ไม่ได้รู้สึกอินขนาดนั้นนะ พอได้มาดูจริงๆ เรียกได้ว่าประทับใจมาก
-หนังเล่าถึงอิไลซ่า สาวใบ้ที่ทำงานอยู่ในศูนย์วิจัยแห่งหนึ่งทำให้เธอได้เจอกับสัตว์ประหลาดพรายน้ำ (ขอเรียกแบบนี้ทั้งบทความเลยละกัน) เริ่มจากแบ่งไข่ต้มให้กิน อิไลซ่ากับพรายน้ำเริ่มมีความผูกพันกัน จนวันนึงที่เธอได้ยินว่าเหล่านักวิทยาศาสตร์จะจับเพื่อนของเธอคนนี้ไปชำแหละ อิไลซ่าจึงต้องหาทางพาเจ้าพรายน้ำหนีออกมา
-พล็อตน่าสนใจ แปลกใหม่ แถมยังเล่าเรื่องเข้าใจง่าย เรียงลำดับจาก 1 ถึง 10 แต่กลับไม่น่าเบื่อเลยซักนิด เรามีความอยากรู้อยากเห็น กระตือรือร้นตลอดเวลาว่าอิไลซ่าจะทำยังไง? เกิดอะไรขึ้นกับพรายน้ำ? นักวิทยาศาสตร์สายโหดจะจับเธอได้เมื่อไหร่? สุดท้ายเธอกับพรายน้ำจะเป็นอย่างไร?
-จะบอกว่าเป็นหนังที่มาทุกสายเลยจริงๆ ไซไฟ โรแมนติก อิโรติก ผจญภัย ทริลเลอร์ สงคราม แอบแถมเป็นมิวสิคเคิลเบาๆ ด้วย มันเป็นการผสมผสานที่ไม่มากเกิน ไม่น้อยเกิน ออกมาแล้วมันลงตัว เนื้อเรื่อง บทพูด การนำเสนอ มันออกมาเพอร์เฟคมากๆ
-ความสัมพันของอิไลซ่าและเจ้าพรายน้ำเป็นสิ่งที่งดงามมากจริงๆ ชอบที่อิไลซ่าเป็นใบ้ ถึงแม้เธอจะมีเพื่อนข้างบ้านและเพื่อนแม่บ้านที่ทำให้เธอไม่โดดเดี่ยว แต่ลึกๆ เธอก็ต้องการใครซักคนที่ได้ยินเสียงข้างในของเธอจริงๆ ซึ่งเจ้าพรายน้ำคือสิ่งที่เธอตามหา มันพูดไม่ได้ มันใช้ภาษามือแบบที่เธอใช้ เหมือนกับเราเข้าใจว่าสองสิ่งมีชีวิตนี้คอนเนคกันได้ยังไง เราเอาใจช่วย เราสัมผัสได้ถึงความรู้สึกของทั้งคู่แม้จะไม่ต้องเอ่ยคำพูดใดๆ ออกมาซักคำ ความสวยงามมันอยู่ตรงนี้
-ซีนอีโรติก เห็นแบบเต็มๆ หลายฉากเหมือนกัน55555 หลายๆ คนน่าจะรอซีนอย่างว่าระหว่างอิไลซ่ากับพรายน้ำ สำหรับเรา เรามองไม่เห็นถึงความโป๊เปลือยเลย ไม่ใช่ซีนที่ใส่มาเรียกเรตติ้งให้หนังเฉยๆ ซีนตรงนั้นเป็นวิธีแสดงให้เห็นถึงความรักที่สวยงามมากอีกซีน เป็นความงดงามที่เราคงต้องนับถือผู้กำกับจริงๆ ที่ถ่ายทอดออกมาได้เจ๋งขนาดนี้
-อีกสิ่งที่ชอบคือการที่หนังใส่เรื่องของสงครามเข้ามาด้วย มันดูมีอะไร ดูยิ่งใหญ่ และหนังแทรกตรงนี้เข้ามาอย่างเข้าใจง่าย มีเหตุผล
-รวมถึงการที่หนังเลือกช่วงปี60เป็นช่วงเวลาในการถ่ายทอดเรื่องราว ด้วยความที่มันเก่า ย้อนยุค โทนสีค่อนข้างหม่นๆ ทุกอย่างมันดูขลัง ดูเหงา เข้ากับบรรยากาศมากๆ เพลงยุคนั้น เครื่องแต่งกายยุคนั้น ท่าทางของคนยุคนั้น มันเป็นเสน่ห์ของความโบราณจริงๆ
-เพลงเป็นอีกสิ่งที่ไม่พูดถึงไม่ได้ ในเรื่องเราจะแทบไม่ได้ยินเสียงนางเอกเลย บทเพลงต่างๆ ที่ดังขึ้นในเรื่องจึงเป็นเหมือนสิ่งที่ทำให้เราอินไปกับความรู้สึกของอิไลซ่าในขณะนั้นมากขึ้น บทเพลงตรงนั้นแสดงความคิดของอิไลซ่าออกมา มันเชื่อมเราไว้กับเธอ เสียงของเธอที่เราแทบไม่ได้ยินมันช่างไพเราะผ่านบทเพลงโบราณๆ เหล่านี้เอามากๆ
-ยกความดีความชอบให้กับนักแสดงอีกหนึ่งดอก ทั้งนักแสดงนำ อย่างอิไลซ่าที่รับบทโดยแซลลี่ ฮอว์กินส์คือเจ๋งมาก เหมือนเราได้ยินเสียงเธอทั้งเรื่องแม้ว่าเธอจะไม่ได้เอ่ยปากซักคำ ทุกท่าทาง สายตาที่เธอแสดงออกมามันเรียลมาก เชียร์ออสการ์รักแสดงนำหญิงสุดใจขาดดิ้น อีกคนที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือริชาร์ด นักวิทย์ฯ จอมโหดรับบทโดยไมเคิล แชนนอน โหดสะใจมากค่ะ555555 รวมถึงนักแสดงสมทบอย่างออคตาเวีย สเปนเซอร์ แม่ก็คือแม่! ชอบการแสดงของขุ่นแม่อยู่แล้ว เชียร์ออสการ์นักแสดงหญิงสมทบเช่นกันค่ะะะ
สรุปว่า เป็นหนังที่งดงามมากๆๆ ใช้คำว่างดงามแทบทุกย่อหน้าเลยเนี่ย55555 เป็นความผสมผสานที่สวยงามจริงๆ อยากให้ได้เข้าไปเสพความงดงามนี้ในโรงกัน ออกมาแล้วอิ่มอกอิ่มใจ เหมือนความสวยงามที่ได้ดูมันแทรกเข้ามาในใจ เข้าใจเลยว่าทำไมได้ชิงออสการ์เยอะเบอร์นั้น ก็มันเจ๋งแทบทุกสาขาจริงๆ!
PS. เด็กๆ อย่าย่างกรายเข้ามานะคะคุณพ่อคุณแม่ นี่ไม่ใช่หนังแฟนตาซีสวยใสนะเออ ฉากนิ้วขาด เลือดสาด คอแหกมาเต็มๆ ฉากโบ๊ะจ้ำบ๊ะ เห็นนู่น นี่ นั่นมาเต็มแน่นอน ไม่เหมาะกับเด็กๆ อย่างถึงที่สุด อย่าโดนหน้าหนังลวงเด็กแบบ pan's labyrinth นะคะ
9/10
แค่นักวิจารณ์หนังกากๆ คนหนึ่ง
------------------------------
ถ้าชอบการรีวิวครั้งนี้ สามารถเข้ามาพูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องหนังๆ พร้อมกับดูรีวิวอื่นๆ ได้ที่นี่เลย
เพจ แค่นักวิจารณ์หนังกากๆ คนหนึ่ง
https://m.facebook.com/justasuckreviewer/?locale2=th_TH