สวัสดีค่ะ
วันนี้จะมาเล่าถึงความประทับใจโรงแรมที่ไปที่กระบี่พักมาค่ะ
ทริปนี้ไปกัน 4 คน จัดว่าเป็นทริปครอบครัวเพราะมีหลานชายวัย 3 ขวบไปด้วย
หลังจากที่เราลงเครื่องตอนสายๆ ของวันเสาร์ที่ 27 ม.ค.
และได้ไปทัวร์สระมรกต,น้ำตกร้อน,วัดถ้ำเสือ,ลานปูดำกันมาทั้งวันแล้ว
เราจึงมาถึงที่พักช่วงเย็นเลยค่ะ ประมาณ 4 โมงกว่าๆ
แผนที่โรงแรม
โรงแรม Kokotel หลายท่านอาจจะเคยได้ยินมาบ้าง เพราะเป็นโรงแรมที่มีสาขาอยู่ในหลายๆ จังหวัด
โดยมีคอนเซ็ปต์คือ Friend and Family จึงเหมาะสำหรับนักเดินทางที่มากันแบบครอบครัวมากๆ ค่ะ
พูดถึงความงงของตัวเอง ความจริงคือตั๊กตั้งใจจะจอง Kokotel อีกสาขานึง คือสาขาอ่าวนาง
เช็คราคาอยู่หลายเว็บไซต์ พอเปิดมาเจอที่ Booking เห็นราคาถูกกว่าชาวบ้านเขามาก
รีบกดจองอย่างไว โดยที่หารู้ไม่ว่าจองผิดสาขา
มารู้ตัวอีกทีก่อนวันเดินทางเพียงแค่วันเดียวเท่านั้น
ตอนแรกก็ค่อนข้างซีเรียสเพราะเข้าไปเช็คดูหน้าเว็บของโรงแรมแล้วเห็นว่าพวก Facility ยังไม่เสร็จ
แต่ ณ ตอนนั้นก็ไม่อยากเปลี่ยนแปลงอะไรแล้ว จึงปล่อยเลยตามเลย
กลับเข้าเรื่องกันต่อค่ะ
เมื่อรถตู้ของเรามาจอดด้านหน้าโรงแรม
พนักงานก็เดินมารอต้อนรับด้วยหน้าตาและท่าทางที่เป็นมิตร พร้อมทั้งช่วยยกกระเป๋าลงจากรถตู้
เข้ามาในส่วนของล็อบบี้ จะเห็นได้ว่ากว้างขวาง
ตกแต่งด้วยโทนสีและเฟอร์นิเจอร์ที่ให้ความรู้สึกสบายตาและอบอุ่น
ที่นี่จะมีคาเฟ่ บาร์จะเปิดกัน 24 ชั่วโมง
สามารถนั่งได้ทั้งในส่วนของล็อบบี้และ Out door เลยค่ะ
เราจองโรงแรมนี้ผ่าน Booking.Com ยืนยันด้วยบัตรเครดิตและสามารถมาจ่ายเงินที่โรงแรมวันเข้าพักได้เลย
การเช็คอินผ่านไปอย่างรวดเร็ว โรงแรมเพียงแค่ให้กรอกข้อมูลส่วนตัวเล็กน้อย
และขอบัตรประชาชนของแขกทุกท่าน copy ไว้ แล้วก็จ่ายเงิน ก็เรียบร้อย
เนื่องจากลิฟต์ของโรงแรมยังไม่เสร็จ เราจึงต้องเดินขึ้นบันไดกันค่ะ
ยังดีที่เราได้ห้องพักที่ชั้น 3 ซึ่งก็ยังขึ้นสบายๆ ไม่เหนื่อย
พนักงานก็มาช่วยยกกระเป๋าขึ้นไปเก็บบนห้อง
มีโลโก้และภาพแกะสีน้ำเงินแต็มโรงแรมไปหมด น่ารักมากกก
เปิดเข้ามาห้องพักคือทุกคนในทริปพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าห้องน่ารัก
การตกแต่ง เฟอร์นิเจอร์ การจัดแสงไฟในห้อง ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย น่านอนมากๆ
ได้ Keys Card 2 ใบค่า
มาดูสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ภายในห้อง
ปลั๊กไฟหัวเตียง มีรูเสียบ USB
สิ่งที่เราให้ความสำคัญของการเข้าพักโรงแรมทุกโรงแรมคือเตียงนอน
เตียงนอนที่นี่นุ่มและดูดวิญญาณมากๆ
อยากจะขนฟูก ขนหมอนกลับบ้านด้วยจริงๆ มันนุ่มม๊ากกกกกก
มาดูห้องน้ำกันบ้าง ขนาดความกว้างใช้ได้ ไม่รู้สึกอึดอัด
เครื่องใช้ในห้องน้ำถือว่าครบ
แต่เรื่องที่อยากให้ปรับปรุงคือมีน้ำรั่วออกจากห้องชาวเวอร์
และตอนเปิดน้ำอุ่น อาบอยู่ดีๆ น้ำมันจะปรับเป็นร้อนมากขึ้นมาซะงั้น
เราพักห้องด้านหลังของโรงแรม วิวด้านหลังจะเห้นทะเลอยู่ไกลๆ ด้วย
จะเห็นว่ากำลังมีการก่อสร้างอีกตึก
อาหารเช้าจะให้บริการตั้งแต่ 7.00-10.00 น.
เรานั่งทานกันตรงส่วนของล็อบบี้ได้เลยค่ะ
สำหรับรสชาต ถือว่าทำได้ดีกว่าที่คิดไว้สำหรับโรงแรมขนาดเล็ก
และรสชาตก็จัดว่าอร่อยเกือบทุกเลยค่ะ
ชา กาแฟ ชงได้ตรงบาร์ หรือให้พนักงานชงให้ก็ได้ค่ะ
พนักงานช่วยเหลือดีม๊ากกก
วันที่สอง มีการปรับเปลี่ยนอาหารในไลน์ แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมาค่ะ
ส่วนตัวชอบการทอดเบคอนของเชฟมาก ทอดกำลังดีเลยค่ะ
สำหรับมื้อกลางวันทางโรงแรมจะมีอาหารบริการวันละ 1 เมนู
แต่ละวันก็จะไม่ซ้ำกัน สามารถโทรสอบถามรายการอาหารได้
พี่สาวสั่งสปาเกตตี้มากิน ถือว่าพอใช้ได้ค่ะ
ตอนเย็นก็จะมีชาบูให้บริการตั้งแต่ 17.00-22.00 น.
มีให้เลือกเป็นเซ็ต เราเลือกเซ็ตหมู ราคา 399 บาท
เหมาะสำหรับลูกค้า 2 ท่านค่ะ
และสายชาบูอย่างเราจะพลาดที่จะชิมฝีมือของเชฟไม่ได้เด็ดขาด!!
น้ำซุปของที่นี่เป็นซุปใส กลมกล่อม มีความคล้ายน้ำซุปของ MK
หมูสไลด์ไม่ได้บาง แต่ก็ไม่หนาเกิน พวกผักสดก็สดดีเลยค่ะ
ในส่วนของน้ำจิ้ม เสิร์ฟกันมา 4 แบบ เลยจ้า มีน้ำจิ้มซีฟู้ด 2 แบบ
น้ำจิ้มงา(ที่มันเหมือนน้ำสลัดงามากกว่า แต่ก็อร่อยไปอีกแบบ)
และน้ำจิ้มพอนสึ เสิร์ฟมาพร้อมกระเทียมและต้นหอม
ภาพรวมของรสชาติชาบูแล้ว ถือว่าทำได้ดี
พี่สาวเราชอบมาก แต่เราของให้คะแนนกลางๆ ซัก 3 เต็ม 5 คะแนน
Facility ของโรงแรมเมื่อเสร็จเรียบร้อย
จะมีห้องสำหรับเด็กหรือ Kids Room มีสระว่ายน้ำ และตุ๊กตุ๊กรับส่ง
เห็นในเว็บไซต์ของ Kokotel แจ้งไว้ว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยภายในเดือนกรกฎาคมปีนี้ค่ะ
พูดถึงปัญหาอีกอย่างนึงของโรงแรมคือช่วงสายของทุกวันไฟจะตกค่อนข้างถี่
เป็นอยู่ 5-6 ครั้ง แต่หลังจากนั้นก็ไม่มีปัญหานี้อีก
เราได้แจ้งปัญหานี้กับทางโรงแรมไปแล้ว น่าจะได้รับการแก้ไขในเร็ววัน
การเช็คเอ้าท์ก็ไม่มีอะไรมาก แค่คืน Keys Card
พนักงานโทรแจ้งแม่บ้านประจำชั้นเช็ค รอไม่นานก็เรียบร้อยค่ะ
เราและพี่สาวรู้สึกประทับใจโรงแรม รูปแบบการให้บริการ
สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ภายในห้องพัก โดยเฉพาะที่นอน
และพนักงาน ที่มีความเป็นกันเอง น่ารัก และรับรู้ได้ถึงการบริการที่จริงใจ
หากมีโอกาสก็อยากกลับมาพักที่นี่อีกครั้งตอนที่ทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้ว
หรือถ้าใครไป ก็เอารูปมาฝากกันบ้างนะคะ
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่าน
และคิดว่าน่าจะมีประโยชน์กับท่านที่กำลังหาที่พักในโซนอ่าวนางนะคะ
ปล.ไม่ได้รับสินน้ำใจใดๆ จากโรงแรมนะคะ ทุกอย่างจ่ายเองทั้งหมด
ปล.2 อาจจะเก็บรูปไม่ได้ทุกมุม และอาจจะถ่ายรูปไม่เก่ง ต้องขออภัยด้วยนะคะ ฮ่าๆๆ
ปล.สุดท้าย เข้าพักวันที่ 27-29 ม.ค. 2 คืน ได้ราคา 3,480 บาท รวมอาหารเช้าค่ะ
[CR] Kokotel Krabi Oasis โรงแรมน่ารัก เปิดใหม่ในอ่าวนาง
วันนี้จะมาเล่าถึงความประทับใจโรงแรมที่ไปที่กระบี่พักมาค่ะ
ทริปนี้ไปกัน 4 คน จัดว่าเป็นทริปครอบครัวเพราะมีหลานชายวัย 3 ขวบไปด้วย
หลังจากที่เราลงเครื่องตอนสายๆ ของวันเสาร์ที่ 27 ม.ค.
และได้ไปทัวร์สระมรกต,น้ำตกร้อน,วัดถ้ำเสือ,ลานปูดำกันมาทั้งวันแล้ว
เราจึงมาถึงที่พักช่วงเย็นเลยค่ะ ประมาณ 4 โมงกว่าๆ
แผนที่โรงแรม
โรงแรม Kokotel หลายท่านอาจจะเคยได้ยินมาบ้าง เพราะเป็นโรงแรมที่มีสาขาอยู่ในหลายๆ จังหวัด
โดยมีคอนเซ็ปต์คือ Friend and Family จึงเหมาะสำหรับนักเดินทางที่มากันแบบครอบครัวมากๆ ค่ะ
พูดถึงความงงของตัวเอง ความจริงคือตั๊กตั้งใจจะจอง Kokotel อีกสาขานึง คือสาขาอ่าวนาง
เช็คราคาอยู่หลายเว็บไซต์ พอเปิดมาเจอที่ Booking เห็นราคาถูกกว่าชาวบ้านเขามาก
รีบกดจองอย่างไว โดยที่หารู้ไม่ว่าจองผิดสาขา
มารู้ตัวอีกทีก่อนวันเดินทางเพียงแค่วันเดียวเท่านั้น
ตอนแรกก็ค่อนข้างซีเรียสเพราะเข้าไปเช็คดูหน้าเว็บของโรงแรมแล้วเห็นว่าพวก Facility ยังไม่เสร็จ
แต่ ณ ตอนนั้นก็ไม่อยากเปลี่ยนแปลงอะไรแล้ว จึงปล่อยเลยตามเลย
กลับเข้าเรื่องกันต่อค่ะ
เมื่อรถตู้ของเรามาจอดด้านหน้าโรงแรม
พนักงานก็เดินมารอต้อนรับด้วยหน้าตาและท่าทางที่เป็นมิตร พร้อมทั้งช่วยยกกระเป๋าลงจากรถตู้
เข้ามาในส่วนของล็อบบี้ จะเห็นได้ว่ากว้างขวาง
ตกแต่งด้วยโทนสีและเฟอร์นิเจอร์ที่ให้ความรู้สึกสบายตาและอบอุ่น
ที่นี่จะมีคาเฟ่ บาร์จะเปิดกัน 24 ชั่วโมง
สามารถนั่งได้ทั้งในส่วนของล็อบบี้และ Out door เลยค่ะ
เราจองโรงแรมนี้ผ่าน Booking.Com ยืนยันด้วยบัตรเครดิตและสามารถมาจ่ายเงินที่โรงแรมวันเข้าพักได้เลย
การเช็คอินผ่านไปอย่างรวดเร็ว โรงแรมเพียงแค่ให้กรอกข้อมูลส่วนตัวเล็กน้อย
และขอบัตรประชาชนของแขกทุกท่าน copy ไว้ แล้วก็จ่ายเงิน ก็เรียบร้อย
เนื่องจากลิฟต์ของโรงแรมยังไม่เสร็จ เราจึงต้องเดินขึ้นบันไดกันค่ะ
ยังดีที่เราได้ห้องพักที่ชั้น 3 ซึ่งก็ยังขึ้นสบายๆ ไม่เหนื่อย
พนักงานก็มาช่วยยกกระเป๋าขึ้นไปเก็บบนห้อง
มีโลโก้และภาพแกะสีน้ำเงินแต็มโรงแรมไปหมด น่ารักมากกก
เปิดเข้ามาห้องพักคือทุกคนในทริปพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าห้องน่ารัก
การตกแต่ง เฟอร์นิเจอร์ การจัดแสงไฟในห้อง ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย น่านอนมากๆ
ได้ Keys Card 2 ใบค่า
มาดูสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ภายในห้อง
ปลั๊กไฟหัวเตียง มีรูเสียบ USB
สิ่งที่เราให้ความสำคัญของการเข้าพักโรงแรมทุกโรงแรมคือเตียงนอน
เตียงนอนที่นี่นุ่มและดูดวิญญาณมากๆ
อยากจะขนฟูก ขนหมอนกลับบ้านด้วยจริงๆ มันนุ่มม๊ากกกกกก
มาดูห้องน้ำกันบ้าง ขนาดความกว้างใช้ได้ ไม่รู้สึกอึดอัด
เครื่องใช้ในห้องน้ำถือว่าครบ
แต่เรื่องที่อยากให้ปรับปรุงคือมีน้ำรั่วออกจากห้องชาวเวอร์
และตอนเปิดน้ำอุ่น อาบอยู่ดีๆ น้ำมันจะปรับเป็นร้อนมากขึ้นมาซะงั้น
เราพักห้องด้านหลังของโรงแรม วิวด้านหลังจะเห้นทะเลอยู่ไกลๆ ด้วย
จะเห็นว่ากำลังมีการก่อสร้างอีกตึก
อาหารเช้าจะให้บริการตั้งแต่ 7.00-10.00 น.
เรานั่งทานกันตรงส่วนของล็อบบี้ได้เลยค่ะ
สำหรับรสชาต ถือว่าทำได้ดีกว่าที่คิดไว้สำหรับโรงแรมขนาดเล็ก
และรสชาตก็จัดว่าอร่อยเกือบทุกเลยค่ะ
ชา กาแฟ ชงได้ตรงบาร์ หรือให้พนักงานชงให้ก็ได้ค่ะ
พนักงานช่วยเหลือดีม๊ากกก
วันที่สอง มีการปรับเปลี่ยนอาหารในไลน์ แต่ไม่ได้ถ่ายรูปมาค่ะ
ส่วนตัวชอบการทอดเบคอนของเชฟมาก ทอดกำลังดีเลยค่ะ
สำหรับมื้อกลางวันทางโรงแรมจะมีอาหารบริการวันละ 1 เมนู
แต่ละวันก็จะไม่ซ้ำกัน สามารถโทรสอบถามรายการอาหารได้
พี่สาวสั่งสปาเกตตี้มากิน ถือว่าพอใช้ได้ค่ะ
ตอนเย็นก็จะมีชาบูให้บริการตั้งแต่ 17.00-22.00 น.
มีให้เลือกเป็นเซ็ต เราเลือกเซ็ตหมู ราคา 399 บาท
เหมาะสำหรับลูกค้า 2 ท่านค่ะ
และสายชาบูอย่างเราจะพลาดที่จะชิมฝีมือของเชฟไม่ได้เด็ดขาด!!
น้ำซุปของที่นี่เป็นซุปใส กลมกล่อม มีความคล้ายน้ำซุปของ MK
หมูสไลด์ไม่ได้บาง แต่ก็ไม่หนาเกิน พวกผักสดก็สดดีเลยค่ะ
ในส่วนของน้ำจิ้ม เสิร์ฟกันมา 4 แบบ เลยจ้า มีน้ำจิ้มซีฟู้ด 2 แบบ
น้ำจิ้มงา(ที่มันเหมือนน้ำสลัดงามากกว่า แต่ก็อร่อยไปอีกแบบ)
และน้ำจิ้มพอนสึ เสิร์ฟมาพร้อมกระเทียมและต้นหอม
ภาพรวมของรสชาติชาบูแล้ว ถือว่าทำได้ดี
พี่สาวเราชอบมาก แต่เราของให้คะแนนกลางๆ ซัก 3 เต็ม 5 คะแนน
Facility ของโรงแรมเมื่อเสร็จเรียบร้อย
จะมีห้องสำหรับเด็กหรือ Kids Room มีสระว่ายน้ำ และตุ๊กตุ๊กรับส่ง
เห็นในเว็บไซต์ของ Kokotel แจ้งไว้ว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยภายในเดือนกรกฎาคมปีนี้ค่ะ
พูดถึงปัญหาอีกอย่างนึงของโรงแรมคือช่วงสายของทุกวันไฟจะตกค่อนข้างถี่
เป็นอยู่ 5-6 ครั้ง แต่หลังจากนั้นก็ไม่มีปัญหานี้อีก
เราได้แจ้งปัญหานี้กับทางโรงแรมไปแล้ว น่าจะได้รับการแก้ไขในเร็ววัน
การเช็คเอ้าท์ก็ไม่มีอะไรมาก แค่คืน Keys Card
พนักงานโทรแจ้งแม่บ้านประจำชั้นเช็ค รอไม่นานก็เรียบร้อยค่ะ
เราและพี่สาวรู้สึกประทับใจโรงแรม รูปแบบการให้บริการ
สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ภายในห้องพัก โดยเฉพาะที่นอน
และพนักงาน ที่มีความเป็นกันเอง น่ารัก และรับรู้ได้ถึงการบริการที่จริงใจ
หากมีโอกาสก็อยากกลับมาพักที่นี่อีกครั้งตอนที่ทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้ว
หรือถ้าใครไป ก็เอารูปมาฝากกันบ้างนะคะ
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่าน
และคิดว่าน่าจะมีประโยชน์กับท่านที่กำลังหาที่พักในโซนอ่าวนางนะคะ
ปล.ไม่ได้รับสินน้ำใจใดๆ จากโรงแรมนะคะ ทุกอย่างจ่ายเองทั้งหมด
ปล.2 อาจจะเก็บรูปไม่ได้ทุกมุม และอาจจะถ่ายรูปไม่เก่ง ต้องขออภัยด้วยนะคะ ฮ่าๆๆ
ปล.สุดท้าย เข้าพักวันที่ 27-29 ม.ค. 2 คืน ได้ราคา 3,480 บาท รวมอาหารเช้าค่ะ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น