ไม่เคยคิดชั่วต่อบ้านเมือง 'ถวิล'ลั่นกปปส.ขอยืนหยัดแม้เจอข้อหากบฎ
วันเสาร์ ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2561, 18.10 น.
ถวิล เปลี่ยนศรี กปปส. ข้อหากบฎ
ติดตามแนวหน้า
27 ม.ค.61 นายถวิล เปลี่ยนศรี อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊คส่วนตัว ถวิล เปลี่ยนศรี กรณีที่อัยการได้ส่งฟ้องศาล คดี แกนนำ กปปส. ทั้ง 9 คนว่า กปปส.ยืนหยัดที่จะต่อสู้เพื่อความถูกต้องของบ้านเมือง และยินดีที่จะเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย
ซึ่งไม่เหมือน บางพวกบางฝ่าย ที่หลบหนีการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และยังให้ร้ายศาลต่างๆ นานา แต่ที่แกนนำ กปปส.ทั้ง 9 คนถูกตั้งข้อหา กบฎ นั้น มองว่า เป็นข้อหาที่รุนแรงเกินไป
ผมว่าจะไม่พูดอะไรเกี่ยวกับคดีของ กปปส. ซึ่งอัยการได้ส่งฟ้องศาลแกนนำ 9 คนไปแล้ว เมื่อ 24 ม.ค.ที่ผ่านมา เพราะผมมีรายชื่ออยู่ในกลุ่ม กปปส.อีก 49 คน ที่เหลือด้วย. ซึ่งอัยการจะพิจารณาสั่งฟ้องหรือไม่ต่อไป. ซึ่งก็ล้วนเป็นข้อหาที่หนักๆ ทั้งนั้น อยากปล่อยให้เป็นเรื่องของทางศาลดำเนินไป. และเดี๋ยวจะว่าเชียร์ หรือ ปกป้องกันเองครับ
อย่างไรก็ตาม มาถึงวันนี้ คงต้องพูดบ้างครับ.
ประการแรก จะเห็นได้ว่า กปปส.นั้นไม่ได้อิดเอื้อน งอแง หรือเกี่ยงที่จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม นะครับ. ทุกคนเดินเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมอย่างองอาจกล้าหาญ. ไม่มีใครหลบ ไม่มีใครหนี.
ตรงนี้ สะท้อนความแตกต่างกันกับคนบางกลุ่ม. ที่ขี้ขลาด ไม่กล้า และไม่ยอมเข้าสู่กระบวนการทางศาล เพราะบางส่วนแค่เห็นข้อหา ก็หนีแล้ว. บางส่วนทำท่าจะต่อสู้แต่พอเห็นว่าจะมีความผิดต้องรับโทษ . ก็หนีและหันมาด่าศาลด่ากระบวนการยุติธรรมเสียๆหายๆ ดังที่เห็นกันอยู่
ประการที่สอง. เราเชื่อตลอดมา และเชื่อตลอดไปว่า บ้านเมืองจะอยู่กันได้ ก็ต่อเมื่อบ้านเมืองนั้นปกครองกันด้วย "หลักนิติรัฐ นิติธรรม". กฎหมายต้องถูกนำมาใช้ และต้องบังคับใช้ได้ด้วย. ทุกคนต้องเคารพกฎหมาย
ประการสุดท้าย ต้องยอมรับว่า. ข้อหาที่แกนนำถูกสั่งฟ้อง. และที่เหลือที่อาจถูกฟ้องต่อไป นั้น เป็นข้อหาที่รุนแรง. และมีโทษทางอาญาหนักมากทั้งสิ้น. กระบวนการยุติธรรม ก็ได้ออกแบบมาเพื่อความเป็นธรรม. และให้การคุ้มครองแก่ทุกคน. จึงชอบธรรมเสมอทีผู้กระทำผิดต้องถูกลงโทษตามกฎหมาย . แต่การตั้งข้อหานั้น. เจ้าหน้าที่รัฐก็ต้องระมัดระวังด้วย. มิเช่นนั้น ก็อาจมีความผิดฐาน จงใจกลั่นแกล้งให้คนได้รับโทษทางอาญาได้ เช่นกัน
ผมเชื่อมั่นในความยุติธรรมของศาล. เช่นเดียวกับเชื่อมั่นในตัวเองว่า. การกระทำที่ผ่านมาของผมนั้น เป็นไปเพื่อความยุติธรรม เพื่อปกป้องผลประโยชน์ส่วนรวมของชาติบ้านเมือง ไม่เคยมีจิตคิดร้ายต่อชาติบ้านเมือง ถึงขั้น จะกบฏ คิดล้มล้างอำนาจรัฐแต่อย่างใด . และ ตลอดชีวิตการทำงานด้านความมั่นคงนั้น. ได้มุ่งมั่น ปกป้องและรักษาผลประโยชน์ และความมั่นคงของชาติมาตลอด หากสุดท้าย จะต้องมามีความผิดว่า ได้ปลุกปั่น ยุยง ให้เกิดความไม่สงบขึ้นในบ้านเมือง. หรือกบฏต่อราชอาณาจักร. ก็ให้มันรู้ไป. ครับ
http://www.naewna.com/politic/316947
"ถวิล เปลี่ยนศรี" ผู้โค่นยิ่งลักษณ์ จะโดนฟ้องคดีกบฎ? แต่ดันด่าเสื้อแดงเฉยเลย.. แล้วเสื้อแดงเขาไปเกี่ยวอะไรด้วยคับ
วันเสาร์ ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2561, 18.10 น.
ถวิล เปลี่ยนศรี กปปส. ข้อหากบฎ
ติดตามแนวหน้า
27 ม.ค.61 นายถวิล เปลี่ยนศรี อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊คส่วนตัว ถวิล เปลี่ยนศรี กรณีที่อัยการได้ส่งฟ้องศาล คดี แกนนำ กปปส. ทั้ง 9 คนว่า กปปส.ยืนหยัดที่จะต่อสู้เพื่อความถูกต้องของบ้านเมือง และยินดีที่จะเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย ซึ่งไม่เหมือน บางพวกบางฝ่าย ที่หลบหนีการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และยังให้ร้ายศาลต่างๆ นานา แต่ที่แกนนำ กปปส.ทั้ง 9 คนถูกตั้งข้อหา กบฎ นั้น มองว่า เป็นข้อหาที่รุนแรงเกินไป
ผมว่าจะไม่พูดอะไรเกี่ยวกับคดีของ กปปส. ซึ่งอัยการได้ส่งฟ้องศาลแกนนำ 9 คนไปแล้ว เมื่อ 24 ม.ค.ที่ผ่านมา เพราะผมมีรายชื่ออยู่ในกลุ่ม กปปส.อีก 49 คน ที่เหลือด้วย. ซึ่งอัยการจะพิจารณาสั่งฟ้องหรือไม่ต่อไป. ซึ่งก็ล้วนเป็นข้อหาที่หนักๆ ทั้งนั้น อยากปล่อยให้เป็นเรื่องของทางศาลดำเนินไป. และเดี๋ยวจะว่าเชียร์ หรือ ปกป้องกันเองครับ
อย่างไรก็ตาม มาถึงวันนี้ คงต้องพูดบ้างครับ.
ประการแรก จะเห็นได้ว่า กปปส.นั้นไม่ได้อิดเอื้อน งอแง หรือเกี่ยงที่จะเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม นะครับ. ทุกคนเดินเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมอย่างองอาจกล้าหาญ. ไม่มีใครหลบ ไม่มีใครหนี. ตรงนี้ สะท้อนความแตกต่างกันกับคนบางกลุ่ม. ที่ขี้ขลาด ไม่กล้า และไม่ยอมเข้าสู่กระบวนการทางศาล เพราะบางส่วนแค่เห็นข้อหา ก็หนีแล้ว. บางส่วนทำท่าจะต่อสู้แต่พอเห็นว่าจะมีความผิดต้องรับโทษ . ก็หนีและหันมาด่าศาลด่ากระบวนการยุติธรรมเสียๆหายๆ ดังที่เห็นกันอยู่
ประการที่สอง. เราเชื่อตลอดมา และเชื่อตลอดไปว่า บ้านเมืองจะอยู่กันได้ ก็ต่อเมื่อบ้านเมืองนั้นปกครองกันด้วย "หลักนิติรัฐ นิติธรรม". กฎหมายต้องถูกนำมาใช้ และต้องบังคับใช้ได้ด้วย. ทุกคนต้องเคารพกฎหมาย
ประการสุดท้าย ต้องยอมรับว่า. ข้อหาที่แกนนำถูกสั่งฟ้อง. และที่เหลือที่อาจถูกฟ้องต่อไป นั้น เป็นข้อหาที่รุนแรง. และมีโทษทางอาญาหนักมากทั้งสิ้น. กระบวนการยุติธรรม ก็ได้ออกแบบมาเพื่อความเป็นธรรม. และให้การคุ้มครองแก่ทุกคน. จึงชอบธรรมเสมอทีผู้กระทำผิดต้องถูกลงโทษตามกฎหมาย . แต่การตั้งข้อหานั้น. เจ้าหน้าที่รัฐก็ต้องระมัดระวังด้วย. มิเช่นนั้น ก็อาจมีความผิดฐาน จงใจกลั่นแกล้งให้คนได้รับโทษทางอาญาได้ เช่นกัน
ผมเชื่อมั่นในความยุติธรรมของศาล. เช่นเดียวกับเชื่อมั่นในตัวเองว่า. การกระทำที่ผ่านมาของผมนั้น เป็นไปเพื่อความยุติธรรม เพื่อปกป้องผลประโยชน์ส่วนรวมของชาติบ้านเมือง ไม่เคยมีจิตคิดร้ายต่อชาติบ้านเมือง ถึงขั้น จะกบฏ คิดล้มล้างอำนาจรัฐแต่อย่างใด . และ ตลอดชีวิตการทำงานด้านความมั่นคงนั้น. ได้มุ่งมั่น ปกป้องและรักษาผลประโยชน์ และความมั่นคงของชาติมาตลอด หากสุดท้าย จะต้องมามีความผิดว่า ได้ปลุกปั่น ยุยง ให้เกิดความไม่สงบขึ้นในบ้านเมือง. หรือกบฏต่อราชอาณาจักร. ก็ให้มันรู้ไป. ครับ
http://www.naewna.com/politic/316947