ทุกวันนี้
นายกฯยิ่งลักษณ์ อยู่ในระหว่างประกันตัวสู้คดีจำนำข้าว ค่าประกัน 30 ล้านบาท
และยังมีคดีอื่น ๆ ที่รอเล่นงานอยู่อีกเพียบ
นายกฯสมชาย อยู่ในระหว่างประกันตัวสู้คดีสลายพันธมิตร ค่าประกัน 9.5 ล้านบาท
พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ก็เช่นเดียวกัน คดีเดียวกัน ค่าประกัน 8 ล้านบาท
พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ์ คดีเดียวกัน ค่าประกัน 6 ล้านบาท
พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ก็คดีเดียวกัน ค่าประกัน 6 ล้านบาท
โล้นอิสระ จำลองศรีเมือง (ไม่แน่ใจว่าโพธิรักษ์มีคดีไหม อยู่ในระหว่างประกันตัวไหม)
แกนนำพันธมิตร แกนนำ นปช. แกนนำ กปปส.
ล้วนอยู่ในระหว่างประกันตัวสู้คดีทั้งนั้น
ล้วนมีคดีความติดตัวกันทั้งนั้น ล้วนคดีหนัก ๆ ทั้งนั้น ไม่ว่าข้อหาก่อการร้าย ข้อหากบฏ ฯลฯ
อภิสิทธิ์ - สุเทพ ก็อยู่ในระหว่างประกันตัวสู้คดี 99 ศพ (ที่ศาลอาญาไม่ยอมรับฟ้อง ขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างฎีกาฟ้อง)
และอีกหลายคนในประเทศนี้ ทั้งนักการเมือง นักวิชาการ นักศึกษา ประชาชน
ล้วนอยู่ในระหว่างประกันตัวสู้คดีกันทั้งนั้น
แล้วธัมมชโยเป็นใคร พระอินทร์เขียว ๆ มาจากไหน ถึงไม่ยอมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
ถามว่า กระบวนการยุติธรรมน่าเชื่อถือหรือไม่
คำตอบนี้ ทุกคนคงทราบกันดีว่าเป็นอย่างไร
บางคน บางพวก ดีใจที่ได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เพราะรู้ตัวดีว่ารอดแน่
เป็นการฟอกตัวให้ขาวสะอาด อย่างเช่นคดี 99 ศพ ที่ ป.ป.ช. ให้ของขวัญปีใหม่ 2559 แก่อภิสิทธิ์และสุเทพ
บางคน บางพวก แม้ไม่ยอมรับ ไม่เชื่อถือ แต่ก็ยังเข้าสู่กระบวนการ
ไม่มีความเป็นธรรมในวันนี้ ก็หวังความเป็นธรรมในวันหน้า แม้ไม่หวังว่าจะรอดพ้น แต่ก็จำต้องสู้ เพราะไม่มีทางอื่น
นอกจากหนี
เรื่องบางเรื่อง แม้ไม่เชื่อถือ ไม่ได้รับความเป็นธรรม ไม่ยอมรับ
แต่ก็ต้องยอมรับ ต้องยอมปฏิบัติ
พอทีเถอะ เลิกอ้างนั่นอ้างนี่ซะที
สวรรค์ยังจะไปได้ แค่รับทราบข้อกล่าวหา สู้คดีบนโลกมนุษย์ทำไมจะทำไม่ได้
ไอ้การอ้างว่า จะโดนล็อค ไม่ให้ประกัน โดนจับสึก
มโนทั้งนั้น เพราะเป็นไปไม่ได้ ทั้งทางพระวินัยและทางกฎหมายบ้านเมือง
ข้อกล่าวหา ไม่ใช่คำพิพากษาว่าผิด
แค่รับทราบข้อกล่าวหา ปฏิเสธ ประกันตัว และสู้คดีในชั้นศาลต่อไป
หรือหากอัยการสั่งไม่ฟ้อง คดีก็ไม่ถึงศาล จบ
คดีแค่ชั้นพนักงานสอบสวน ไม่ใช่รับทราบข้อกล่าวหาแล้วจะแปลว่าผิดติดคุกทันที
จากพนักงานสอบสวน สู่อัยการ สู่ศาล อีกไม่รู้กี่ปี
การอ้างว่าเจ็บป่วยหนัก ก็ต้องมีหลักฐานทางการแพทย์ยืนยัน
ไม่ใช่แค่คำกล่าวอ้าง ไม่ใช่แค่เอารูปถ่ายมาอ้าง
หลักฐานทางการแพทย์ก็ต้องน่าเชื่อถือ ไม่ใช่มั่วมายืนยัน
หากมีหลักฐานทางการแพทย์ที่ชัดเจน มีที่มาที่ไปถูกต้อง ไม่คลุมเครือ
ใครจะว่าอะไรให้ได้
พอทีเหอะ
ความน่าเชื่อถือมีไหม ตอบได้ว่าไม่มี แต่ทุกคนก็ยอมเข้าสู่กระบวนการ แล้วธัมมีเป็นใคร พระอินทร์เขียว ๆ มาจากไหน ?
นายกฯยิ่งลักษณ์ อยู่ในระหว่างประกันตัวสู้คดีจำนำข้าว ค่าประกัน 30 ล้านบาท
และยังมีคดีอื่น ๆ ที่รอเล่นงานอยู่อีกเพียบ
นายกฯสมชาย อยู่ในระหว่างประกันตัวสู้คดีสลายพันธมิตร ค่าประกัน 9.5 ล้านบาท
พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ก็เช่นเดียวกัน คดีเดียวกัน ค่าประกัน 8 ล้านบาท
พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ์ คดีเดียวกัน ค่าประกัน 6 ล้านบาท
พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ก็คดีเดียวกัน ค่าประกัน 6 ล้านบาท
โล้นอิสระ จำลองศรีเมือง (ไม่แน่ใจว่าโพธิรักษ์มีคดีไหม อยู่ในระหว่างประกันตัวไหม)
แกนนำพันธมิตร แกนนำ นปช. แกนนำ กปปส.
ล้วนอยู่ในระหว่างประกันตัวสู้คดีทั้งนั้น
ล้วนมีคดีความติดตัวกันทั้งนั้น ล้วนคดีหนัก ๆ ทั้งนั้น ไม่ว่าข้อหาก่อการร้าย ข้อหากบฏ ฯลฯ
อภิสิทธิ์ - สุเทพ ก็อยู่ในระหว่างประกันตัวสู้คดี 99 ศพ (ที่ศาลอาญาไม่ยอมรับฟ้อง ขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างฎีกาฟ้อง)
และอีกหลายคนในประเทศนี้ ทั้งนักการเมือง นักวิชาการ นักศึกษา ประชาชน
ล้วนอยู่ในระหว่างประกันตัวสู้คดีกันทั้งนั้น
แล้วธัมมชโยเป็นใคร พระอินทร์เขียว ๆ มาจากไหน ถึงไม่ยอมเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
ถามว่า กระบวนการยุติธรรมน่าเชื่อถือหรือไม่
คำตอบนี้ ทุกคนคงทราบกันดีว่าเป็นอย่างไร
บางคน บางพวก ดีใจที่ได้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม เพราะรู้ตัวดีว่ารอดแน่
เป็นการฟอกตัวให้ขาวสะอาด อย่างเช่นคดี 99 ศพ ที่ ป.ป.ช. ให้ของขวัญปีใหม่ 2559 แก่อภิสิทธิ์และสุเทพ
บางคน บางพวก แม้ไม่ยอมรับ ไม่เชื่อถือ แต่ก็ยังเข้าสู่กระบวนการ
ไม่มีความเป็นธรรมในวันนี้ ก็หวังความเป็นธรรมในวันหน้า แม้ไม่หวังว่าจะรอดพ้น แต่ก็จำต้องสู้ เพราะไม่มีทางอื่น
นอกจากหนี
เรื่องบางเรื่อง แม้ไม่เชื่อถือ ไม่ได้รับความเป็นธรรม ไม่ยอมรับ
แต่ก็ต้องยอมรับ ต้องยอมปฏิบัติ
พอทีเถอะ เลิกอ้างนั่นอ้างนี่ซะที
สวรรค์ยังจะไปได้ แค่รับทราบข้อกล่าวหา สู้คดีบนโลกมนุษย์ทำไมจะทำไม่ได้
ไอ้การอ้างว่า จะโดนล็อค ไม่ให้ประกัน โดนจับสึก
มโนทั้งนั้น เพราะเป็นไปไม่ได้ ทั้งทางพระวินัยและทางกฎหมายบ้านเมือง
ข้อกล่าวหา ไม่ใช่คำพิพากษาว่าผิด
แค่รับทราบข้อกล่าวหา ปฏิเสธ ประกันตัว และสู้คดีในชั้นศาลต่อไป
หรือหากอัยการสั่งไม่ฟ้อง คดีก็ไม่ถึงศาล จบ
คดีแค่ชั้นพนักงานสอบสวน ไม่ใช่รับทราบข้อกล่าวหาแล้วจะแปลว่าผิดติดคุกทันที
จากพนักงานสอบสวน สู่อัยการ สู่ศาล อีกไม่รู้กี่ปี
การอ้างว่าเจ็บป่วยหนัก ก็ต้องมีหลักฐานทางการแพทย์ยืนยัน
ไม่ใช่แค่คำกล่าวอ้าง ไม่ใช่แค่เอารูปถ่ายมาอ้าง
หลักฐานทางการแพทย์ก็ต้องน่าเชื่อถือ ไม่ใช่มั่วมายืนยัน
หากมีหลักฐานทางการแพทย์ที่ชัดเจน มีที่มาที่ไปถูกต้อง ไม่คลุมเครือ
ใครจะว่าอะไรให้ได้
พอทีเหอะ